ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

**บทที่****246:**ดึงดูด

ในตอนแรกนั้นซ่งจงยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่เขายกแขนขึ้นเขาได้พบกับสิ่งที่น่าอัศจรรย์ จึงทำให้เขาเข้าใจทุกอย่างได้ทันที

ปรากฏว่าทุกสิ่งนั้นเกิดเพราะเส้นสายธารโลหิต! มันถูกปรับแต่งมาจากเต่าดำ โดยปกติแล้วเมื่อมันหลอมรวมกับมนุษย์ มันจะรวมได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ซ่งจงนั้นใช้ไฟต้นกำเนิดในการหลอมรวมจึงทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าซ่งจงนั้นมีโลหิตของเต่าดำไหลเวียนอยู่ในร่างกายด้วย นอกจากนี้เต่าดำยังไม่ใช่อสูรกายทั่วไป ตำนานเล่าว่ามันเป็นทายาทของอสูรกายชั้นสูงที่เป็นบรรพบุรุษของอสูรกายธาตุน้ำทุกชนิดหรือเรียกว่าผู้นำแห่งท้องทะเล!

ดังนั้นหลังจากที่ซ่งจงกระโดดลงมาในน้ำ เขารู้สึกราวกับปลา แสงศักดิ์สิทธิ์สีเขียวที่ห่อหุ้มเขาไว้ทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่ออยู่ในน้ำ รวมกับดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งวารีทำให้ซ่งจงนั้นมีความเร็วเสียยิ่งกว่าตอนอยู่ในอากาศ ซึ่งตอนนี้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นถึงห้าพันหน่วย

แน่นอนว่าความเร็วเช่นนี้ยังห่างไกลจากตาเฒ่าเฟิง แต่มันสามารถถ่วงเวลาไม่ให้เขาถูกจับตัวได้นานขึ้น สิ่งสำคัญคือตาเฒ่าเฟิงนั้นกลัวน้ำ เขาสาปแช่งซ่งจงอยู่บนท้องฟ้าแต่กลับไม่กล้าลงมาไล่ล่า

จากตอนแรกซ่งจงคิดว่าตาเฒ่าเฟิงต้องการเพียงเล่นกับเขาให้นานที่สุด แต่หลังจากรับรู้ได้ว่าตาเฒ่าเฟิงนั้นกังวลอย่างมาก ซ่งจงจึงเข้าใจทุกอย่างทันที ตาเฒ่าเฟิงนั้นเป็นผู้ฝึกตนธาตุลมประกอบกับที่เขาดูดกลืนพายุอสรพิษเข้าไป ร่างกายเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยปราณจิตวิญญาณธาตุลม โดยธรรมชาติแล้วจะสามารถวิ่งบนท้องฟ้าได้อย่างสะดวกสบาย ดังนั้นความเร็วของเขาจึงมากถึงแปดพันหน่วย

ถ้าหากตอนนี้เขาพุ่งลงน้ำไป ทุกอย่างจะยังคงอิสระเหมือนเดิมหรือไม่? ช่วงเวลาที่ตาเฒ่าเฟิงลงสู่ทะเล ความเร็วของเขาจะลดลงอย่างมาก และไม่สามารถจับซ่งจงได้ ดังนั้นเขาจึงกังวลไม่น้อยเมื่อคิดถึงเหตุผลเหล่านี้ ซ่งจงรู้ได้ทันทีว่านี่คือโอกาสที่ดีที่สุดในการหลบหนี เขาไม่คิดที่จะขึ้นไปด้านบนอีก พร้อมทั้งดำดิ่งลึกลงไปเรื่อย ๆ ซ่งจงไม่เกรงกลัวถ้าหากต้องเผชิญหน้ากับอสูรกายใต้มหาสมุทรที่ดุร้าย เขาต้องการกำจัดปัญหาด้านหลังทิ้งให้เร็วที่สุด ในเวลานี้คงไม่มีสิ่งใดน่าเกรงกลัวไปกว่าผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินขั้นสมบูรณ์อีกแล้ว

สำหรับตาเฒ่าเฟิงในตอนนี้เขากำลังไล่ล่าเจ้าอ้วนอยู่ด้านบนของทะเล เมื่อเขามองเห็นความเร็วของซ่งจงที่อยู่ใต้ทะเลยิ่งทำให้เขากังวลมากขึ้นไปอีก ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าทะเลตะวันออกนั้นไม่ใช่สถานที่ที่ดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนลึกของทะเล เหล่าอสูรกายขั้นหกหรือเจ็ดมักจะฝึกฝนอยู่ตรงนั้น แม้ว่าเขาจะใช้เวทมนตร์ปีศาจเข้าสู่ร่างกายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่อาจคงสภาพมันไว้ได้นาน หากลากนานเกินไปพายุอสรพิษจะถูกเผาไหม้จนหมด ความแข็งแกร่งของเขาจะหายไป ถ้าหากเขาได้พบกับอสูรกายขั้นหกหรือเจ็ดในเวลานั้น เขาคงไม่มีเวลาแม้แต่จะร่ำไห้!

ด้วยความกังวลใจ ตาเฒ่าเฟิงไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป เขาเคลื่อนไหวเข้าใกล้ผิวน้ำพร้อมกดฝ่ามือลงบนผิวน้ำสร้างลูกบอลขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วพื้นที่ ฝ่ามือของตาเฒ่าเฟิงสามารถเปิดปล่องภูเขาไฟลึกหนึ่งหมื่นฟุตได้อย่างง่ายดาย ลูกบอลนั้นพุ่งตรงไปที่ซ่งจงอย่างตั้งใจ

แม้ว่าจะมีแรงกระแทกที่รุนแรง แต่ว่ายังมีน้ำเป็นตัวคั่นกลางระหว่างเขากับซ่งจง กว่าที่ลูกบอลจะไปถึงที่หมาย ซ่งจงก็สามารถหลบหลีกมันได้อย่างง่ายดายราวกับมัจฉา อีกทั้งแรงดันของน้ำยังกีดขวางเส้นทางของลูกบอลอีกด้วย แต่แรงดันน้ำเหล่านั้นไม่สามารถทำลายสายเส้นธารโลหิตได้และแน่นอนว่าแรงดันเหล่านี้ไม่มีผลอะไรกับซ่งจงแม้แต่น้อย

เมื่อซ่งจงสามารถหลบฝ่ามือของตาเฒ่าเฟิงได้อย่างง่ายดาย เขามีความสุขอย่างมาก จากนั้นเขาจึงหัวเราะเยาะเย้ยตาเฒ่าเฟิง “ฮ่าฮ่า ตาเฒ่าบัดซบ เจ้าไม่สามารถตีก้นข้าได้! แน่นอนว่าวันนี้ข้าจะหลบหนีให้พ้นมือของเจ้าอย่างแน่นอน! เพียงแค่รอข้าก่อนเถอะ ข้าจะกลับมาเพื่อทวงค่าใช้จ่ายทุกอย่างแน่นอน!” เมื่อตาเฒ่าเฟิงได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกราวกับถูกโยนลงไปในกระทะร้อน ในตอนนี้เขารู้สึกอยากอ้วกออกมาเพราะปวดหัวกับการถูกเยาะเย้ย

ถ้าหากซ่งจงหลบหนีไปได้และเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเทพธิดาชิงหยุน ชื่อเสียงของนางจะถูกทำลายอย่างแน่นอน และในเวลานั้นนางจะปล่อยให้ตาเฒ่าเฟิงอยู่อย่างสุขสบายได้อย่างไร? นางอยู่ในระดับหยวนหยินขั้นสมบูรณ์ ซึ่งแตกต่างจากเขาที่อยู่ในขั้นกลางและใช้เวทมนตร์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งเท่านั้น ถ้าหากว่าเทพธิดาชิงหยุนโกรธจริง แน่นอนว่านางสามารถทำให้ตาเฒ่าเฟิงตายตกไปเพียงเพราะการง้างมือเพียงครั้งเดียว แม้แต่จ้าวสำนักพันปีศาจก็ไม่อาจปกป้องเขาได้ถ้าหากเวลานั้นมาถึง

เมื่อเขาคิดถึงผลกระทบที่จะตามมา ตาเฒ่าเฟิงหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบทั่วทั้งร่างกาย ในตอนนี้เขาจะลังเลได้อย่างไร? เขาเริ่มใช้ฝ่ามือเพื่อปล่อยลูกบอลออกไปอย่างบ้าคลั่งทันที ในขณะนี้เขาคิดที่จะสังหารซ่งจงอย่างแท้จริงแล้ว

หลังจากที่ตาเฒ่าเฟิงปล่อยพลังอย่างบ้าคลั่ง ทำให้เกิดหลุมลึกขนาดหนึ่งหมื่นฟุตใต้ทะเลมากมาย

ภายในน้ำซ่งจงรู้สึกกดดันอย่างมากและเริ่มเพิ่มความเร็วในการหลบหนี ในเวลานั้นเขาไม่สามารถหลบลูกบอลได้จึงทำให้ถูกกระแทกเข้าอย่างรุนแรง ส่งผลให้เขากระเด็นออกไปอย่างน่าสมเพช

สองถึงสามครั้งที่ซ่งจงไม่สามารถขยับร่างกายได้ดั่งใจต้องการและเกือบจะถูกโจมตี ขอบคุณเส้นสายธารโลหิตที่ช่วยชีวิตของเขาไว้ในขณะนั้น ในตอนนี้ซ่งจงนั้นใช้เวทมนตร์ประเภทน้ำอยู่ และร่างกายของเขาค่อย ๆ ดูดซับปราณจิตวิญญาณธาตุน้ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้เส้นสายธารโลหิตเริ่มแสดงผลของมันอย่างช้า ๆ ร่างกายของเขาเริ่มมีเกล็ดขึ้นและที่หลังมีกระดองเต่าปรากฏออกมา สิ่งเหล่านี้ช่วยลดแรงดันของน้ำและทำให้เขาเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้มันยังช่วยให้ดูดซับปราณจิตวิญญาณได้เร็วขึ้นอีกด้วย ส่งผลให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มมากขึ้นอีก กระดองเต่าดำนั้นแสดงพลังการป้องกันที่น่ากลัว มันไม่เพียงแต่ป้องกันลูกบอลของตาเฒ่าเฟิงได้ แต่มันยังไปเสริมพลังของลำแสงศักดิ์สิทธิ์สีเขียวอีกด้วย ซ่งจงคิดว่าเมื่อมันถูกลูกบอลกระทบ ไม่นานมันจะหายไป แต่ความจริงคือมันเกิดการสั่นสะเทือนอยู่ชั่วขณะจากนั้นจะกลับสู่สภาพเดิม ดังนั้นซ่งจงจึงสามารถรับการโจมตีที่บ้าคลั่งของตาเฒ่าเฟิงได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม สภาพร่างกายของซ่งจงในตอนนี้นั้นน่าเกลียดอย่างมาก นอกเหนือจากเส้นผมของเขา ทุกพื้นที่บนร่างกายเต็มไปด้วยเกล็ด เมื่อรวมกับกระดองบนหลังเขาแล้ว เขาดูเหมือนเต่าดำโดยสมบูรณ์!

ในขณะที่ซ่งจงหลบหนี เขาก็อดไม่ได้ที่จะบ่นกับภาพลักษณ์ของตนเอง ในตอนนี้เขาทำได้เพียงหัวเราะอย่างขื่นขม “แม้ว่ามู่ซื่อหรงจะไม่ทำให้ข้าขายหน้า แต่ในตอนนี้ข้าก็ยังคงเป็นสามีที่ถูกนอกใจ อีกทั้งยังกลายเป็นเต่า!”

แม้ว่าเขาจะทุกข์ใจมากเพียงใด เขาก็ยังคงต้องหลบหนีต่อไปเพื่อชีวิตของตนเอง ในตอนนี้เขาใช้พลังทั้งหมดเพื่อหลบหนีจากความตาย สำหรับตาเฒ่าเฟิงนั้นต้องการฆ่าซ่งจงด้วยทุกสิ่งที่เขามี ทั้งสองคนนั้นมีจุดมุ่งหมายที่แรงกล้า หนึ่งคนหนี หนึ่งคนไล่ล่า!

บนพื้นผิวของทะเลตะวันออก นานครั้งจะมีผู้ฝึกตนที่โชคร้ายและพบกับเหตุการณ์ที่น่ากลัว ในตอนนี้มีร่างสีดำกำลังไล่ล่าอยู่บนผิวน้ำ และร่างสีเขียวกำลังหลบหนีอยู่ใต้น้ำ ทุกครั้งที่มีการส่งลูกบอลออกไปเกิดเป็นหลุมขนาดหมื่นฟุตทิ้งไว้พร้อมทั้งมีกำแพงน้ำพุ่งขึ้นมาสูงราวหนึ่งพันฟุตเช่นกัน ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มองจากระยะไกลราวกับว่าปลาวาฬกำลังพ่นน้ำอย่างสนุกสนาน เมื่อผู้ฝึกตนรอบ ๆ ได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ พวกเขาได้แต่เดาไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

ซ่งจงและตาเฒ่าเฟิงนั้นไม่ได้ให้ความสนใจกับผู้อื่นที่เข้ามารับชมเหตุการณ์ เพราะคนหนึ่งกำลังใจจดใจจ่อกับการหลบหนี อีกคนหนึ่งกำลังไล่ล่าโดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน ด้วยความเร็วที่ผิดปกติของทั้งคู่ ทั้งสองเดินทางหลายพันลี้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และในตอนนี้ทั้งสองได้เข้าสู่ดินแดนของอสูรกายขั้นสูงเรียบร้อยแล้ว

ในขณะนั้น ซ่งจงเริ่มมีอาการเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด จากการที่เขาหลบลูกบอลมาตลอดเวลาทำให้พลังของเขาเหลือน้อยเต็มที นอกจากนั้นเขายังได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของตาเฒ่าเฟิง ซึ่งต้องอดทนไว้เพื่อที่จะหลบหนี ในตอนนี้ความเจ็บปวดเริ่มครอบงำเขาแล้ว คงเป็นเรื่องมหัศจรรย์ถ้าหากเขาทนต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ตาเฒ่าเฟิงนั้นยังไม่หยุดมือ และเพื่อความอยู่รอดของตนเองซ่งจงนั้นไม่มีทางเลือกนอกจากอดทน!

ในตอนนี้ตาเฒ่าเฟิงเริ่มอ่อนล้าแล้วเช่นกัน หลังจากที่ไล่ล่าซ่งจงมานาน เขาส่งลูกบอลออกไปจำนวนมากอีกทั้งพายุอสรพิษของเขากำลังจะหมดแรงแล้ว อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะปกป้องความลับในชีวิตของตนเอง เขาถูกบีบให้อดทนและใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพื่อที่จะสังหารซ่งจงให้ได้

ในตอนนี้กล่าวได้ว่าผู้ใดที่สามารถอดทนได้มากกว่าจะสามารถเป็นผู้ชนะ เห็นได้ชัดว่าตาเฒ่าเฟิงนั้นมีพื้นฐานการฝึกฝนที่ลึกซึ้ง เขาได้เปรียบซ่งจงที่อยู่ในอาการบาดเจ็บ ถ้าหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ เป็นไปได้สูงมากว่าตาเฒ่าเฟิงจะได้รับชัยชนะ!

แต่เมื่อถึงช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ เกิดเสียงกรีดร้องของนกดังไปทั่วบริเวณ ซ่งจงที่อ่อนล้าเต็มทีและตาเฒ่าเฟิงนั้นยังอดไม่ได้ที่จะหยุดฟังด้วยความตกใจ ทั้งคู่เงยหน้าขึ้นมา ทั้งคู่เห็นอินทรีย์สายฟ้าฝูงใหญ่ปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า ทั้งคู่ขยี้ตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกมันก็ยังคงบินอยู่ที่เดิม อีกทั้งพวกมันกำลังส่งข้อมูลกลับไปยังผู้นำของตนเอง เมื่อซ่งจงเห็นอินทรีย์สายฟ้า เขานึกถึงหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความงดงามแต่ซ่อนอันตรายไว้มากมาย ราชันเหยี่ยวฟ้า เหลยซานเอ๋อ! ในขณะนั้นซ่งจงคิดกับตนเอง ‘ถ้าหากเรื่องนี้ดำเนินต่อไป แน่นอนว่าข้าจะต้องพ่ายแพ้ต่อตาเฒ่าเฟิง ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจุดจบของข้าคือตาย! ทำไมข้าจึงไม่เอาตาเฒ่าเฟิงนี้มอบให้กับเหลยซานเอ๋อไปล่ะ แน่นอนว่าเหลยซานเอ๋อพร้อมลูกน้องของนางอีกหมื่นตัวจะต้องดูแลตาเฒ่าเฟิงได้อย่างยอดเยี่ยมจนเขาจากไปอย่างสงบ! เหอะเหอะ ข้าจะมอบสิ่งนี้ให้กับเหลยซานเอ๋อ ถือว่าเป็นการชดใช้ในเรื่องที่ข้าก่อเอาไว้!’

เมื่อคิดเช่นนี้ ซ่งจงหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็นพร้อมทั้งวิ่งไปตามทิศทางของอินทรีย์สายฟ้า เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการพูดคุยกับเหลยซานเอ๋อ!