ส่วนที่ 4 ตอนที่ 218 จุดธูปบูชา

ความลับแห่งจินเหลียน

ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วถอนหายใจพูดออกมา “ที่แท้ก็มีเรื่องใหญ่ขนาดนี้ด้วย?” เธอมีบริษัทอัญมณีเสียเปล่าจริงๆ เพราะประสบการณ์ของเธอก็ตื้นเขินเกินไป เรื่องส่วนใหญ่เลยไม่ค่อยรู้

 

“ดังนั้นอาจารย์เลยอยากให้ผมพาคุณไปดูด้วยน่ะครับ” เจียหยวนฮวาพูด

 

“ขอบคุณผู้อาวุโสเจียมากค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนกล่าวขอบคุณ

 

“คุณจะอยู่ที่เจียหยางอีกนานเท่าไหร่หรือ” เจียหยวนฮวาถาม

 

“น่าจะสักสองสามวันค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้ว เธอก็เป็นห่วงลุงงูมากจริงๆ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้เช้าเธอเตรียมตัวจะโทรไปหาสวี่อี้หราน ถามเขาพอมีเวลาว่างมาดูลุงงูหรือไม่ พิษของเขาหมอทั่วไปคงหมดปัญญาที่จะรักษา แต่สำหรับหมอมองโกลคนนั้นก็ไม่แน่ ถ้าหากเป็นไปได้ ให้เขามาดูสักหน่อยก็น่าจะดีกว่า…

 

ทำให้ดีที่สุด ผลจะเป็นอย่างไรก็ให้โชคชะตาเป็นผู้กำหนดเถอะ!

 

“ผมก็มีเรื่องที่ต้องจัดการที่เจียหยางอีกวันสองวัน เวลาเหมาะเจาะพอดี ถึงเวลานั้นพวกเราค่อยไปพม่าด้วยกัน” เจียหยวนฮวาพูดขึ้นยิ้มๆ

 

“จริงสิ!” ซีเหมินจินเหลียนฉุกคิดถึงแผนที่แผ่นนั้นของลุงงูขึ้นมาได้จึงรีบถามว่า “ผู้อาวุโสเจีย คุณถนัดเรื่องที่ดินไหมคะ”

 

“ไม่ถึงขั้นเก่งกาจ ทำไมเหรอ” เจียหยวนฮวาพูด “จินเหลียน คุณไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ คุณเป็นหลานสาวคนเดียวของอาจารย์ คิดดูแล้วก็ถือว่าเป็นลูกศิษย์ลูกหาเหมือนกัน เรื่องของคุณก็คือเรื่องของผม”

 

ซีเหมินจินเหลียนอมยิ้ม “คืออย่างนี้ค่ะ ฉันมีญาติผู้อาวุโสคนหนึ่งหายตัวไปหลายปีแล้ว ช่วงนี้มีคนเห็นเขาปรากฏตัวอยู่ที่พม่า…ครั้งนี้ที่ฉันจะไปพม่าอย่างแรกก็เพราะซื้อหินหยก คำนึงถึงอนาคตของบริษัท อย่างที่สองเพื่อตามหาญาติผู้อาวุโสท่านนี้ ดังนั้นเลยอยากขอความช่วยเหลือคุณเจียสักหน่อยค่ะ”

 

“แล้วพอจะทราบไหมว่าอยู่ที่ไหน?” เจียหยวนฮวาถาม

 

“ได้ยินว่าอยู่ใกล้กับพะกัน!” ซีเหมินจินเหลียนพูดพลางหยิบแผนที่แผ่นนั้นออกมาและยื่นไปให้พร้อมอมยิ้ม “รบกวนคุณช่วยดูหน่อยนะคะ” ส่วนแผนที่ที่เกี่ยวข้องกับหินปิดฟ้าเธอไม่เอาออกมาอยู่แล้ว ถึงเจียหยวนฮวาจะดูเป็นผู้อาวุโสมีเมตตา แต่ระวังไว้ก่อนจะดีที่สุด

 

เจียหยวนฮวานำแผนที่นั่นกางไว้บนโต๊ะและดูอยู่นานสองนานถึงพูดออกมาว่า “ชื่อสถานที่พวกนี้เหมือนจะคุ้นเคยอยู่บ้าง นี่น่าจะใกล้ๆ กับเหมืองหยกแถวเพะกัน! จินเหลียน ญาติผู้อาวุโสของคุณท่านนี้ทำธุรกิจหินหยกเหรอ?”

 

“ค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า พ่อของเธอทำธุรกิจอะไรเธอยังไม่รู้ แต่เขาปรากฏตัวที่พะกัน ดูแล้วน่าจะอยู่ในแวดวงนี้ แถมลุงงูยังบอกว่าเขามีชีวิตที่ดี แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่รู้จักลุงงู…จากที่ฟังลุงงูพูด    พ่อของเธอเติบโตมาพร้อมกันกับเขา

 

เพราะว่าเหตุผลนี้ ซีเหมินจินเหลียนจึงไม่ฉงนใจว่าลุงงูอาจจะจำคนผิด

 

“เอาอย่างนี้ครับ” เจียหยวนฮวาพูด “รอให้ไปถึงพม่าแล้ว ผมพอมีเพื่อนที่สนิทอยู่แถวนั้นบ้าง ขอช่วยให้พวกเขาตามหาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เจอ ยิ่งไปกว่านั้นในเมื่อเขาทำธุรกิจหยก…งานประมูลหินหยกใต้ดินครั้งนี้ที่พม่า เขาอาจจะไปเข้าร่วมก็ได้ พวกคุณอาจจะมีโอกาสได้เจอ ไม่ต้องรีบร้อน”

 

“ที่คุณพูดมาก็มีเหตุผลค่ะ ขอบคุณนะคะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด ในใจก็ถอนหายใจออกมาไม่หยุด แม้ว่าลุงงูจะพูดง่ายๆ แค่ประโยคสองประโยค แต่จากที่ได้ยินว่าพ่อของเขาปรากฏตัวในพม่าบริเวณใกล้ๆ พะกัน ในเวลาเดียวกันก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เกรงว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แล้ว

 

อีกทั้งลุงงูยังมีสภาพเช่นนั้นอีก ซีเหมินจินเหลียนดูออกว่าลุงงูคงต้องมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเธอไว้อยู่

 

เธอคิดไม่ออกว่าลุงงูกำลังปิดบังอะไรเธอ หากหาหมอฝีมือดีไม่ได้ ลุงงูคงอยู่ให้รอดพ้นไปวันๆ แค่นั้น ถึงขั้นนี้แล้วยังมีอะไรต้องปิดบังอีก? ยิ่งไปกว่านั้นเขายังบอกเบาะแสเรื่องหินปิดฟ้าที่ตามหามาทั้งชีวิตแก่เธอ แล้วมันยังมีอะไรที่สำคัญกว่านี้อีกหรือ?

 

“นี่ก็ดึกมากแล้ว ร่างกายคนแก่อย่างผมเทียบไม่ได้กับหนุ่มสาวอย่างพวกคุณ…ทนไม่ได้นานหรอก” เจียหยวนฮวายืนขึ้นเผยยิ้มพูด “จินเหลียน คุณจ่าน พวกคุณก็รีบพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ส่วนเรื่องที่ไปพม่าผมจะเตรียมจัดการให้พร้อม”

 

“รบกวนคุณแล้วค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนกล่าวขอบคุณ

 

“ไม่ต้องเกรงใจ!” เจียหยวนฮวายิ้ม หลังจากที่จ่านป๋ายเดินไปส่งเขาก็หันตัวเข้ามาถามซีเหมินจินเหลียน “แผนที่นี้?”

 

“ลุงงูให้ฉันมา” ซีเหมินจินเหลียนนั่งพิงโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง ใช้มือนวดขมับที่ปวดตุบตับ

 

จ่านป๋ายมองดูบนโต๊ะพร้อมขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “เกี่ยวกับหินปิดฟ้าหรือครับ?”

 

“ไม่ใช่หรอก” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าพูด “ฉันเป็นเด็กกำพร้ามาหลายปี ตอนนี้ได้ยินจากปากญาติสนิทว่าพ่อของฉันยังมีตัวตนอยู่บนโลกนี้” ตอนที่พูดประโยคนี้จบ เธอรู้สึกปวดใจเล็กน้อยอย่างไม่ทราบสาเหตุ

 

จ่านป๋ายรีบพูด “จินเหลียน นี่ก็เป็นข่าวดี ทำไมคุณถึงเสียใจล่ะครับ?”

 

ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจแผ่วเบาแล้วพูดขึ้นว่า “เสี่ยวป๋าย ถ้าคุณยังไม่ง่วงก็นั่งลงก่อนเถอะ พวกเรามาคุยกัน ฉันยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่เลย”

 

“ผมยังไม่ง่วงอยู่แล้ว!” จ่านป๋ายนั่งลงข้างเธอและพูดว่า “คุณอยากจะพูดอะไร คุณลุงซีเหมินยังมีชีวิตอยู่ นี่เป็นข่าวดี ครั้งนี้พวกเราไปหาเขาที่พม่า เขาได้เจอคุณแล้วต้องดีใจมากๆ”

 

“คุณผิดแล้วล่ะ” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าพูด “พ่อฉันไม่ได้แซ่ซีเหมิน”

 

“หา?” จ่านป๋ายสับสน พ่อของซีเหมินจินเหลียนไม่ได้แซ่ซีเหมิน? หรือว่าเธอจะได้แซ่มาจากแม่?

 

“แม่ของฉันก็ไม่ใช่แซ่ซีเหมิน” ซีเหมินจินเหลียนพูดยิ้มฝืน “คุณไม่นับเป็นคนนอกแล้ว หากฉันบอกคุณไปก็คงไม่เป็นไร แม่ของฉันแซ่สุ่ย”

 

“นี่ไม่ใช่แซ่ที่พบได้ทั่วไป” จ่านป๋ายพูด “ในเมื่อคุณลุงไม่ได้แซ่ซีเหมิน แล้วเขาแซ่อะไรกัน?” ปากถามไปอย่างนั้น แต่ในใจกลับรู้สึกค้างคา ชื่อของซีเหมินจินเหลียนก็ทำให้คนลำบากใจมากพอแล้ว เดิมทีเขาคิดว่าเธอแซ่ซีเหมินจริงๆ ตอนนี้ดูแล้ว…จะไม่ใช่อย่างนั้น

 

“อาจารย์ของฉันแซ่ซีเหมินน่ะ” ซีเหมินยิ้มขมขื่น “พ่อของฉันเหมือนจะแซ่…แซ่…” เธอนิ่งไปนานแต่ก็ยังไม่พูดแซ่นั้นออกมา

 

“พ่อของคุณ…แซ่อวิ๋นเหรอ?” จ่านป๋ายถามขึ้นทันใด “จินเหลียน คุณย่าของคุณเป็นพี่สาวของอวิ๋นอวิ้น…เธอคืออวิ๋นอวิ๋นหรือครับ? พ่อของคุณได้แซ่มาจากแม่?”

 

ซีเหมินจินเหลียนเอนกายพิงโซฟาอย่างอิดโรย ไม่นานก็พูดขึ้น “ฉันคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น”

 

“จินเหลียน ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว อาจารย์ของคุณคนนั้น ก็น่าจะเป็นปู่ของคุณใช่ไหมครับ?” จ่านป๋ายพูด “เขาก็คือคนในตอนนั้นที่ทำให้คุณยายของคุณกับอวิ๋นอวิ๋นทะเลาะกัน”

 

ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วใบหน้าเต็มไปด้วยสงสัย จ่านป๋ายพูดสมเหตุสมผล ในเวลานั้นก็อธิบายว่าทำไมเธอถึงแซ่ซีเหมิน แต่ไม่ได้ใช้แซ่ตามพ่อ แต่ไม่มีทางจะเป็นแบบนี้แน่ ถ้าบอกว่าคุณย่าของตัวเองตอนนั้นกับอาจารย์มีความสัมพันธ์กัน ซ่อนตัวหลบอยู่ที่ภูเขาลึกอยากจะเป็นคู่รักชั่วนิรันดร์ อาจารย์กับคุณย่าคงไม่ระทมหม่นหมองจนชีวิตสุดท้ายหรอก

 

“จินเหลียน คุณเป็นอะไรไป” จ่านป๋ายถาม “หรือผมเดาผิด?”

 

“แม้ว่าฉันไม่มีหลักฐาน เพราะตอนนั้นยังเด็ก แต่ฉันยืนยันได้ว่าความสัมพันธ์ของคุณย่าฉันกับอาจารย์เป็นได้แค่เพื่อนทั่วไป ไม่ใช่เป็นคนไม่เห็นค่าแก่ความรู้สึกจึงเห็นแก่ตัว” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าพูด

 

ในสมองของจ่านป๋ายแวบคิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง จึงพูดขึ้น “จินเหลียน พวกเราลืมคนสำคัญไปอีกคน”

 

“หืม ใครกัน?” ซีเหมินจินเหลียนนิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “คุณหมายถึงผู้อาวุโสหู?”

 

“ใช่ เขานั่นล่ะ” จ่านป๋ายพูด “ตอนนั้นเขาตามพวกเราจากเจียหยางมาจนถึงบ้านของคุณ ผมรู้สึกว่ามีอะไรไม่ถูกต้อง และหลังจากที่พวกเราไป เขาก็ไปเซ่นไหวคุณย่าและอาจารย์ของคุณ เห็นได้ชัดว่าเขาต้องรู้จักคุณย่าและอาจารย์ของคุณแน่”

 

“ใช่แล้ว เขาก็ประหลาดมาก ไม่มีลูกไม่มีหลาน แถมความสามารถในการเดิมพันหินของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าอวิ๋นอวิ้น ฉันเคยสงสัยว่ามีเขาอยู่ ทำไมอวิ๋นอวิ้นถึงยังมีฉายาเป็นตำนานเทพที่ไม่เคยพ่ายแพ้ใคร” ซีเหมินจินเหลียนสูดลมหายใจเข้าลึก “เห็นได้ชัดทั้งคู่น่าจะไม่เคยเจอกันซึ่งๆ หน้ามาก่อน นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ นอกเสียจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตั้งใจที่จะหลบหลีก”

 

“ดังนั้นผมคิดว่าถึงเขาไม่ใช่คุณปู่ของคุณ แต่ก็น่าจะเป็นคนที่รับรู้เรื่องราวในตอนนั้น ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่ต้องไปค้นหาอะไรแล้ว ไปถามเขาตรงๆ ก็ได้แล้ว” จ่านป๋ายพูด

 

“ฉันจะถามอย่างไรล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนเงยหน้าถาม “ให้ฉันไปถามเขาเหรอว่า…สวัสดีค่ะ ผู้อาวุโสหู ท่านเป็นปู่ของฉันจริงๆ ใช่ไหมคะ?”

 

จ่านป๋ายได้ยินจึงยิ้มออกมา จากนั้นพูดขึ้น “ไปหาเขาที่พม่าครั้งนี้ คุณบอกกับเขาว่ามีเบาะแสเรื่องพ่อของคุณ จากนั้นลองดูว่าเขามีปฏิกิริยายังไง คุณอย่าลืมล่ะว่าเขาไม่มีลูกไม่มีหลาน หากคุณเป็นหลานสาวของเขาจริงๆ ถ้าอย่างนั้นพ่อของคุณก็คือลูกชายที่สืบเชื้อสกุลของเขาแท้ๆ ในเมื่อเป็นอย่างนี้เขาคงไม่มีทางทำตัวเมินเฉยไม่ถามข่าวคราว เกรงว่าถึงเวลานั้นเขาคงเดือดเนื้อร้อนใจแทนคุณแน่ เส้นสายของเขาในพม่าย่อมมากกว่าพวกเราอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เจอใคร”

 

“ปัญหาก็คือ ฉันกลัวว่าไปพม่าครั้งนี้จะไม่เจอเขา!” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้วพูดขึ้น

 

“วางใจได้ พม่าครั้งนี้มีงานใหญ่ เขาเองก็อยู่ที่นั่น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปร่วมอยู่แล้ว ถึงจะไม่ลงมือทำอะไรก็เถอะ” จ่านป๋ายยิ้ม “เขาไม่เจอคุณก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขาเจอกับลูกศิษย์ของเขา พวกเราก็ไม่ต้องกลัวที่จะไม่เจอเขาหรอก หรือคุณลืมไปแล้วว่าในอดีตผมเคยทำอะไร?”

 

“คุณเป็นขโมย หรือว่าคุณยังถนัดตามหาคนเป็นด้วยอย่างนั้นเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มบางเบา ทันใดนั้นก็คิดถึงลุงงูพลองถอนหายใจพูด “ลุงงูน่าสงสาร! พรุ่งนี้ฉันจะลองโทรไปหาสวี่อี้หราน หมอมองโกลคนนั้น เขาช่ำชองทางการแพทย์ เรียกให้เขามาอย่างน้อยอาจจะรักษาอะไรได้”

 

จ่านป๋ายห้ามใจไม่ได้ ในใจแอบพูดว่า สภาพแบบนั้นของลุงงู เกรงว่าเชิญเง็กเซียนลงมาก็ช่วยเขาไม่ได้หรอก

 

“เสี่ยวป๋าย…” ซีเหมินจินเหลียนนั่งพิงหมอนบนโซฟาพูด “ลุงงูหาหินปิดฟ้าเจอแล้ว”

 

“อะไรนะครับ?” จ่านป๋ายได้ยินเช่นนั้นก็เกือบจะลุกขึ้นยืนพรวด ไม่คิดเลยว่าจะมีของในตำนานแบบนั้นอยู่จริงๆ “หรือจะเป็นหินใหญ่ก้อนนั้นที่เขากราบไหว้บูชา?” สัญชาตญาณของเขาคิดถึงหินหยกใหญ่ในโกดัง ตอนนั้นข้างหน้าหินหยกก้อนใหญ่นั้น จุดกำยานหอมไว้อยู่ เขาเคยสงสัยมาก่อน

 

“แน่นอนว่าไม่ใช่” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าพูด นั่นเป็นหยกชั้นดีงดงามที่สุดตั้งแต่เธอเดิมพันหินมา แต่นั่นไม่ใช่หินปิดฟ้าแน่