หลิงหยุนกับเย่ซิงเฉินเดินออกมาถึงหน้าผาไป่จ้างหากมองจากหน้าผาแห่งนี้ไป จะพบกับเนินเข้าสีเขียวลุ่มๆดอนๆ ดูคล้ายกับมังกรสีเขียวสง่างามที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านหน้า..
ช่างเป็นทัศนียภาพที่งดงามและวิเศษยิ่งนัก!
หลิงหยุนล้มตัวลงนอนที่ขอบหน้าผามือทั้งสองข้างรองหนุนศรีษะไว้ และขาทั้งสองข้างชี้ขึ้นฟ้าอย่างสบายอกสบายใจ..
“หากเจ้าไม่ลุกขึ้นนั่งดีๆข้าจะเตะเจ้าตกหน้าผาเดี๋ยวนี้เลย!”
เย่ซิงเฉินกระโดดไปยืนข้างกายหลิงหยุนพร้อมกับร้องตะโกนบอกอย่างอารมณ์ดี..
“หากเจ้าทำเช่นนั้นจริงๆข้าก็จะดึงเจ้าให้ตกลงไปพร้อมกับข้าด้วย พวกเราจะได้ตายพร้อมกัน สำหรับข้านับว่าคุ้มค่านัก!”
หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าอันงดงามของเย่ซิงเฉินพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ใครอยากจะตายพร้อมกับเจ้ากัน!”
เย่ซิงเฉินเม้มริมฝีปากแน่นและรู้ดีว่าตนเองไม่กล้าเตะหลิงหยุนตกเขาอย่างที่พูดแน่ จึงได้แต่ยืนชื่นชมภาพทิวทัศน์ที่สวยงามตรงหน้าแทน..
หลิงหยุนนอนแผ่อย่างขี้เกียจอยู่ครุ่หนึ่งจึงถามขึ้นว่า“ซิงเฉิน.. เจ้าจะไปตระกูลหลิงพร้อมกับข้าหรือไม่”
เย่ซิงเฉินส่ายหน้าพร้อมกับตอบไปว่า“ไม่หรอก.. เพราะในเวลานี้ข้ายังไม่สามารถเข้าตระกูลหลิงได้!”
หลิงหยุนยิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์พร้อมกับถามขึ้นว่า“ท่านป้าจินเหยียวยังกล้าไปเลย เจ้ากลัวอะไรกัน”
เย่ซิงเฉินจึงได้อธิบายกลับไป“ท่านป้าจินเหยียวหายตัวไปจากยุทธภพนานถึงสิบแปดปี จึงไม่มีผู้ใดจดจำนางได้ นางตามเจ้าไปตระกูลหลิงก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ข้าทำเช่นเดียวกับนางไม่ได้..”
“ทั่วทั้งยุทธภพไม่ว่าจะเป็นตระกูลใหญ่หรือสำนักใหนๆ ต่างก็รู้ว่าข้าคือธิดาพรรคมาร และการเคลื่อนไหวของข้าทุกย่างก้าว ก็ล้วนแล้วแต่เป็นที่จับตามมองของทุกคน!”
“อีกอย่าง..เพียงแค่เรื่องที่เจ้ากลับเข้าตระกูลหลิง ก็คงจะทำให้ยุทธภพสั่นคลอนมากแล้ว ข้าเชื่อว่าตระกูลใหญ่ทั้งหมดในปักกิ่ง คงต้องคิดวางแผนต่อจากนี้กันอย่างแน่นอน! ”
“หากข้าไปปรากฏตัวพร้อมกับเจ้าที่ตระกูลหลิงผู้คนในยุทธภพย่อมต้องพากันร่ำลือว่าตระกูลหลิงสมคบกับพรรคมารอีกครั้ง แล้วคนพวกนั้นก็จะรวมตัวกันบีบคั้นตระกูลหลิงดังเช่นแต่ก่อน เมื่อถึงเวลานั้น.. เจ้าก็จะมีศัตรูไปทั่วทุกมุมเมือง และไม่ว่าเจ้าจะอธิบายเช่นใด คนพวกนั้นก็จะไม่ยอมฟังเจ้าแน่!”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า“ข้ามีทั้งกระบี่โลหิตแดนใต้อยู่ในมือ หนำซ้ำยังมีวิชาดูดลมปราณ เรื่องนี้ผู้คนต่างก็ล่วงรู้ดี และข้าเองก็ไม่คิดที่จะปิดบัง แต่ข้าเองก็ไม่เคยยอมรับว่าตนเองเป็นเทพแห่งมาร แล้วก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เปลืองน้ำลายด้วย..”
“และหากผู้ใดกล้าที่จะยุ่งเกี่ยวกับข้าข้าก็จะจัดการกับมันทันที!”
“ขืนเจ้ายังบ้าระห่ำเช่นนี้จุดจบของเจ้าคงไม่สวยแน่!”
เย่ซิงเฉินเหลือบมองหลิงหยุนพร้อมกับก้าวเท้าไปด้านหน้าและพูดกับหลิงหยุนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“หลิงหยุน..ข้าขอเตือนเจ้าจากใจจริง! เจ้าอย่าได้ประเมินตระกูลหลงกับตระกูลเย่ต่ำไปนัก ทั้งสองตระกูลนี้เป็นตระกูลที่สืบทอดมานานนับพันปี ต้องมียอดฝีมือที่สามารถเอาชนะเจ้าได้อย่างแน่นอน!”
“เมื่อเจ้ากลับเข้าตระกูลหลิงและสามารถนำพาตรกูลของเจ้าให้กับมาผงาดได้อีกครั้ง สถานะของตระกูลหลงกับตระกูลเย่ย่อมสั่นคลอน พวกเขาจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้าทำเช่นนั้นได้แน่!”
“ท่านอาจารย์เองก็เคยบอกกับข้าว่า..เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างนางกับลุงหลิงในอดีตนั้น นางสงสัยว่าจะมีสองตระกูลใหญ่นี้อยู่เบื้องหลังอย่างลับๆ!”
หลิงหยุนยิ้มเย็นพร้อมกับพูดขึ้นว่า“ตระกูลหลงกับตระกูลเย่งั้นรึ”
“ใช่แล้ว!ครั้งนั้นมีเพียงตระกูลหลงกับตระกูลเย่เท่านั้นที่เป็นคู่แข่งกับตระกูลหลิง และในครั้งนั้นคนของพรรคมารเองก็เข้ามาปลุกปั่นอยู่ในปักกิ่ง แต่ทั้งสองตระกูลกลับหลับหูหลับตา อีกทั้งหน่วยนภายังแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น..”
“ส่วนในพรรคมานั้น..ผู้ที่ทำตัวเป็นคลื่นใต้น้ำคอยปลุกปั่นคนในพรรค ก็คือซือกงถู!”
ภายในพรรคมารนั้นผู้ที่ทำตัวเป็นคลื่นใต้น้ำก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นซือกงถูอย่างแน่นอน! แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะมีคนผลักดันอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด..”
“ด้วยเหตุนี้..หลังจากที่เจ้าประกาศฐานะที่แท้จริงของตนเอง ผู้ที่เจ้าจะต้องเผชิญหน้าด้วยนั้นจะไม่ใช่ตระกูลซันกับตระกูลเฉิน แต่จะเป็นตระกูลหลงกับตระกูลเย่!”
สีหน้าของเย่ซิงเฉินเปลี่ยนเป็นจริงจังมากยิ่งขึ้นนางบอกหลิงหยุนทุกอย่างที่ตนเองได้รู้มา ราวกับภรรยาที่กำลังเป็นห่วงสามีซึ่งกำลังจะออกไปนอกบ้าน..
หลิงหยุนได้แต่คิดในใจว่าต่อให้ตระกูลหลงไม่ยุ่งกับตนเอง ถึงอย่างไรเขาก็ต้องเข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลหลงอยู่ดี เพราะเวลานี้หลงคุนกับหลงหวู่ล้วนอยู่ในเงื้อมือของตระกูลหลง และถูกนำตัวไปขังไว้ที่ใหนสักแห่ง!
ส่วนตระกูลเย่นั้น..หลายปีมานี้เอาแต่เก็บตัวเงียบ และไม่ข้องแวะทั้งกับหลิงหยุน และตระกูลหลิง พวกเขาทำตัวเหมือนไม่ใส่ใจ..
หลิงหยุนถอนหายใจออกมาและวางปัญหาต่างๆไว้ก่อน เขาหันไปยิ้มให้กับเย่ซิงเฉินพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ข้าเข้าใจ..รอให้ข้าสามารถยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งในปักกิ่งได้ก่อน จากนั้นเจ้าก็สามารถเข้าออกตระกูลหลิงได้ตามใจชอบ ดูว่าใครจะกล้าพูดอะไรอีก!”เป็นตระกูลหลงกับตระกูลเย่!”
สีหน้าของเย่ซิงเฉินเปลี่ยนเป็นจริงจังมากยิ่งขึ้นนางบอกหลิงหยุนทุกอย่างที่ตนเองได้รู้มา ราวกับภรรยาที่กำลังเป็นห่วงสามีซึ่งกำลังจะออกไปนอกบ้าน..
หลิงหยุนได้แต่คิดในใจว่าต่อให้ตระกูลหลงไม่ยุ่งกับตนเอง ถึงอย่างไรเขาก็ต้องเข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลหลงอยู่ดี เพราะเวลานี้หลงคุนกับหลงหวู่ล้วนอยู่ในเงื้อมือของตระกูลหลง และถูกนำตัวไปขังไว้ที่ใหนสักแห่ง!
ส่วนตระกูลเย่นั้น..หลายปีมานี้เอาแต่เก็บตัวเงียบ และไม่ข้องแวะทั้งกับหลิงหยุน และตระกูลหลิง พวกเขาทำตัวเหมือนไม่ใส่ใจ..
หลิงหยุนถอนหายใจออกมาและวางปัญหาต่างๆไว้ก่อน เขาหันไปยิ้มให้กับเย่ซิงเฉินพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ข้าเข้าใจ..รอให้ข้าสามารถยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งในปักกิ่งได้ก่อน จากนั้นเจ้าก็สามารถเข้าออกตระกูลหลิงได้ตามใจชอบ ดูว่าใครจะกล้าพูดอะไรอีก!” เย่ซิงเฉินชื่นชอบในจิตใจที่กล้าหาญไม่เกรงกลัวใครของหลิงหยุนนางพยักหน้าพร้อมกับตอบไปว่า
“ได้สิ!วันนั้นจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน! เพียงแต่เจ้าเพิ่งจะกลับเข้าตระกูลหลิง ยังต้องมีหลายสิ่งหลายอย่างรอให้จัดการ เจ้าอยู่ในที่แจ้ง คนที่ต้องการกำจัดเจ้ายังคงอยู่ในที่มืด เจ้าต้องระมัดระวังตัวให้มากล่ะ!”
หลิงหยุนพยักหน้าด้วยความซาบซึ้งใจจากนั้นจึงก้มลงมองฝ่าเท้าของย่ซิงเฉินพร้อมกับถามขึ้นว่า
“เหตุใดเจ้าจึงชอบเดินเท้าเปล่าหากไม่มีเงินซื้อรองเท้าก็บอกมา ข้าจะซื้อให้เจ้าเอง..”
เย่ซิงเฉินได้ฟังคำพูดของหลิงหยุนก็ถึงกับหัวเราะจนตัวงอก่อนจะตอบกลับไปว่า “เหตุที่ข้าไม่ใส่รองเท้าเพราะมันไม่เป็นประโยชน์ต่อการฝึกวิชาของข้า..”
“……” novel-lucky
หลิงหยุนถึงกับพูดไม่ออกในที่สุดก็ถามออกไปว่า “วิชาอะไรกัน! ไว้วันหน้าข้าจะถ่ายทอดวิชาให้กับเจ้า!”
เย่ซิงเฉินกัดริมฝีปากแน่นก่อนจะถามขึ้นว่า“ข้าอยากเรียนวิชาดูดลมปราณ เจ้าสอนให้ข้าจะได้หรือไม่”
หลิงหยุนส่ายหน้าพร้อมตอบกลับไปทันที“วิชานี้เจ้าไม่อาจฝึกได้! ที่ข้าสามารถดูดลมปราณผู้อื่นได้ เพราะข้ามีจุดตันเถียนที่แปลกประหลาด ซึ่งแม้แต่ข้าเองก็ยังไม่เข้าใจ และหลังจากทีดูดลมปราณผู้อื่นเข้าไป ร่างกายของข้าก็จะสามารถเปลี่ยนพลังปราณของผู้อื่น ให้เป็นพลังปราณที่ร่างกายของข้าสามารถดูดซับได้โดยไม่เกิดผลข้างเคียง แต่หากเป็นผู้อื่น ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสามารถทำได้เช่นข้าหรือไม่ รวมทั้งตัวเจ้าด้วย!”
วิชาดูดลมปราณของหลิงหยุนนั้นอาจเรียกได้ว่ามีเพียงหลิงหยุนผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนได้!
หลิงหยุนไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรเย่ซิงเฉินอีกต่อไปเว้นเพียงแค่เรื่องพู่กันจักรพรรดิ และสมุดจักรพรรดิเท่านั้น ที่เขาไม่สามารถเปิดเผยให้นางรู้ได้!
เพราะนี่คือตำนานของจักรพรรดิแห่งมนุษย์และจักรพรรดิแห่งผืนแผ่นดิน!
“ในวันข้างหน้า..ต่อให้เจ้าได้เคล็ดวิชาดูดลมปราณมา เจ้าก็ไม่ควรฝึกฝน เพราะนั่นเป็นวิชามารที่แท้จริง หากเจ้าดูดซับลมปราณผู้อื่นเข้าไป แต่กลับไม่สามารถควบคุมมันได้ ก็คงต้องเกิดการขัดแย้งกันเองในร่างกาย และคงต้องกลายเป็นมาไปอย่างแท้จริง!”
แม้ว่าเย่ซิงเฉินจะเป็นคนของพรรคมารแต่นางก็ไม่ได้มีจิตใจที่ชั่วช้า นางก็เพียงแค่ฝึกวิชาของฝ่ายมาเท่านั้น..
และหลิงหยุนในฐานะที่เป็นถึงปรมาจารย์การบ่มเพาะที่แท้จริงและมีดวงจิตในขั้นอมตะ มีหรือที่เขาจะปล่อยให้เย่ซิงเฉินต้องเดินเข้าสู่เส้นทางมารอย่างแท้จริง!
หลิงหยุนเคยพบเห็นมารจริงๆมาแล้วพวกมันล้วนใช้ชีวิตด้วยการกินเนื้อ และดื่มเลือดมนุษย์! เย่ซิงเฉินพยักหน้า“ ข้าจะเชื่อคำพูดของเจ้า!”
หลิงหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดขึ้นว่า“ข้าจะสอนวิชาอื่นให้กับเจ้า แต่ขอข้าคิดดูก่อนว่าวิชาใดที่จะเหมาะกับเจ้า..”
หลิงหยุนต้องการให้เย่ซิงเฉินเดินเข้าสู่เส้นทางบ่มเพาะตามแนวทางเต๋า..
จากนั้น..ต่างฝ่ายต่างก็นิ่งเงียบไปนาน และในที่สุดเย่ซิงเฉินก็ร้องตะโกนออกมา พร้อมกับชี้ไปทางทิศตะวันออก
“ดูนั่นสิ!พระอาทิตย์กำลังขึ้นแล้ว..”
ทั้งสองคนยืนเคียงข้างกันจ้องมองดวงอาทิตย์สีแดงที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า และทอประกายแสงสว่างผ่านม่านเมฆมาอย่างสวยงาม!
หลิงหยุนนึกอยากจะอยู่ฝึกวิชาดาราคุ้มกายที่นี่ต่อแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะเกรงว่าอาการของจินเหยียวจะกำเริบ และหากนางเสียสติขึ้นมาแล้วต้องการหนีไปอีก คนในตระกูลหลิงคงยากที่จะต้านทานไว้ได้.. “ซิงเฉิน..ข้าต้องกลับแล้ว! เกรงว่าอาการของท่านป้าจินเหยียวจะกำเริบ ข้าต้องรีบกลับไปรักษานาง!”
“อืมม..เจ้ารีบไปเถิด ไม่ต้องห่วงข้า ข้าอยู่ชมทิวทัศน์ที่นี่เพียงผู้เดียวได้!”
เย่ซิงเฉินร้องบอกหลิงหยุนในขณะที่ดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่ภาพของดวงอาทิตย์ซึ่งกำลังโผล่พ้นขอบฟ้าโดยไม่หันไปมองหลิงหยุนที่กำลังจะจากไป..
“ซิงเฉิน..เจ้ามีที่พักในปักกิ่งแล้วหรือยัง หากไม่มีข้าจะได้จัดการให้!” หลิงหยุนเอ่ยถามก่อนที่จะจากไปจริงๆ
“ข้ามีที่อยู่มากมายในปักกิ่ง..เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวลใจไป แต่หลักๆแล้วข้าจะอาศัยอยู่แถบชานเมืองทางด้านทิศตระวันออก ส่วนที่ใหนนั้นเจ้าถามเสี่ยวเม่ยเม่ยได้เลย นางรู้ที่อยู่ของข้าดี!”
ในตัวเมืองปักกิ่งนั้นมียอดฝีมือเก่งกาจอยู่มากมายหากไม่จำเป็น หรือมีธุระสำคัญจริงๆ เย่ซิงเฉินจะเลี่ยงที่จะไม่ปรากฏตัวในใจกลางเมืองอย่างแน่นอน.. “เอาล่ะ..ข้าต้องไปจริงๆแล้ว เจ้าดูแลตัวเองด้วย!”
เย่ซิงเฉินได้แต่มองตามหลังหลิงหยุนที่กระโดดลงจากหน้าผาไป่จ้างไปราวกับนกก่อนจะร่อนลงสู่พื้นดินด้านล่าง..