TB:บทที่ 217 สนามพลังเวท

 

“นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะให้ร่วมมือกับผมรึป่าว ถ้าคุณบอกผมมาว่าแก๊งซากุระอยู่ที่ไหน ผมก็จะปล่อยพวกเธอไป แต่ถ้าคุณไม่บอก ขู่ผมไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะครับ ผมไม่ได้กลัวคุณเลยสักนิด” เฉินหลงตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา

คำขู่ของสุดยอดปรมจารย์ท่านนี้ก็เหมือนกับมดตัวน้อยที่กำลังขู่ช้างให้เหยียบมันจนตายนั่นแหละ แล้วแบบนี้ใครเขาจะไปกลัวกันล่ะ?

“ผมออกจากแก๊งซากุระแล้ว ผมแค่อยากใช้ชีวิตแบบธรรมดาๆ ผมไม่อยากพูดถึงที่นั่นอีกแล้ว กรุณากลับไปเถอะครับ” โยชิดะตอบ

ทันทีที่โยชิดะพูดจบ เฉินหลงก็รู้สึกถูกใจอีกฝ่ายเข้าแล้ว ไม่ว่าเขาจะเป็นคนแบบไหน เฉินหลงก็ไม่ได้อยากจะทำให้เขาต้องรู้สึกอับอายเพราะเขาก็เป็นถึงปรมจารย์ระดับสูงสุดที่ยินดีจะใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา แถมเขายังรักภรรยาและลูกสาวของเขามากด้วย

เฉินหลงแค่ต้องการให้อีกฝ่ายตอบเขามาว่า แก๊งซากุระที่เขากำลังตามหาอยู่ อยู่ที่ไหนก็พอแล้ว

 

“บอกผมว่าแก๊งซากุระอยู่ที่ไหน แล้วคุณก็จะใช้ชีวิตธรรมดาๆของคุณต่อไป เหมือนก่อนหน้าที่ผมจะมาที่นี่” เฉินหลงจ้องมองโยชิดะด้วยความจริงจัง

“ถ้าอย่างงั้น คุณช่วยบอกผมมาก่อนได้ไหมครับว่าทำไมคุณถึงต้องตามหาแก๊งซากุระ” โยชิดะถามหาความจริงจากเฉินหลง

“ก็ต้อง… มาหาเรื่องอยู่แล้ว!” เฉินหลงยิ้ม

ถึงแม้ว่าแก๊งซากุระจะเป็นแค่มือเท้าให้มัตสึชิตะ เพราะพวกมันทำให้เขาโมโห พวกมันก็ต้องชดใช้  แถมเฉินหลงก็อยากเพิ่มพลังความความแข็งแกร่ง การสู้กับแก๊งซากุระจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้

“กับแก๊งซากุระเนี่ยนะ? นี่คุณรู้รึป่าวว่าแก๊งซากุระเป็นองค์กรแบบไหน? แล้วคุณรู้ไหมครับว่าพวกเขามีอิทพลมากขนาดไหน? ถ้าคุณอยากจะหาเรื่องพวกเขา ผมก็ขออวยพรให้คุณรอดตายมาได้นะ” ได้ยินว่าเฉินหลงต้องการตามหาแก๊งซากุระเพราะอยากจะมีเรื่องด้วยแล้ว โยชิดะ มัตสึอิจิคิดว่าอีกฝ่ายกำลังรนที่ตาย

 

“ถ้าคุณไม่อยากให้พวกเราตาย คุณช่วยบอกผมมาได้ไหมครับว่า แก๊งซากุระมีระดับกำเนิดอยู่กี่คน? ระดับพลังลมปราณกี่คน? ระดับหลอมรวมกับธรรมชาติกี่คนล่ะครับ?(ครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพ)” เฉินหลงจ้องมองที่โยชิดะ

ในเมื่อปีศาจตนนี้กล้าดูถูกเขาว่ากำลังรนหาที่ตายแล้ว เฉินหลงก็อยากรู้จริงๆว่ามีคนที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในแก๊งดอกซากุระกี่คน

ทันทีที่ได้ยินคำถามพวกนั้นออกมาจากปากของเฉินหลง โยชิดะถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว เขานึกไม่ถึงเลยจริงๆว่าเขาจะได้ยินอีกฝ่ายโหยหาพวกที่มีขอบเขตพลังจากปากคนธรรมดาเช่นนี้ ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขา ยกเว้นชาวญี่ปุ่นที่ดูเหมือนลูกน้องคนนี้ ต่างมีระดับกำเนิดด้วยกันทั้งหมด เอาเถอะ อีกฝ่ายก็พูดถูกนั่นแหละ คนพวกนี้แข็งแกร่งกันตั้งขนาดนี้ ก็คงจะมีเรื่องกับแก๊งซากุระได้จริงๆนั่นแหละ

 

“พวกคุณมีระดับกำเนิดทุกคนเลยใช่ไหมครับ?” หลังจากที่เดาว่าเฉินหลงน่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด น้ำเสียงของโยชิดะจึงอ่อนลง

“ลองทายดูสิครับ?” บนใบหน้าของเฉินหลงมีรอยยิ้มที่มั่นใจประดับอยู่

โยชิดะลอบกลืนน้ำลายลงคอ “ถ้าพวกคุณมีระดับกำเนิดจริงๆ ผมจะบอกพวกคุณว่าแก๊งซากุระอยู่ที่ไหน ถ้าเป็นไปได้ ผมหวังว่าพวกคุณจะสามารถจัดการองกรณ์นั้นได้นะครับ”

จากนั้น โยชิดะ มัตสึอิจิก็ได้บอกในสิ่งที่เฉินหลงตามหาอยู่

 

ปรากฎว่าแก๊งซากุระตั้งอยู่ในหมู่บ้านที่ซ่อนอยู่ในเชิงภูเขาไฟฟูจิ ในแก๊งซากุระได้แบ่งออกเป็นสองสาขา สาขาแรกคือพวกซามูไร โดยมีหน้าที่พิเศษในการรับงานต่างๆเช่นการลอบสังหาร และอีกสาขาหนึ่งคือพวกนินจาซึ่งเชี่ยวชาญในการจัดการงานต่างๆเช่นการโจรกรรมและการลักพาตัว

 

แต่ละสาขาจะมีทูตสองคน หัวหน้าหนึ่งคนและรองหนึ่งคน และความแข็งแกร่งของพวกเขาจะต้องเป็นระดับกำเนิดเท่านั้น

หัวหน้าแก๊งซากุระชื่อ เสิ่นเฟิง อี้เต๋า ว่ากันว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นสุดยอดกว่าระดับกำเนิด และวิชาดาบของเขาก็ทรงพลังมากเช่นกัน เขาสามารถฟันจอมยุทธ์ที่มีระดับกำเนิดให้แยกร่างออกเป็นสองส่วนได้ภายในดาบเดียว!

 

หลังจากที่ทราบที่อยู่ของแก๊งซากุระแล้ว เฉินหลงก็จากเขาไปพร้อมกับดาบาร์

ส่วนมัตสึชิตะ เขาไม่จำเป็นต้องพาไปด้วย แต่ถ้าเขากล้าเรียกตำรวจ เขาจะถูกสังหารในทันทีที่เขาสะสางเรื่องกับแก๊งซากุระเสร็จแล้ว

อย่างไรก็ตาม มัตสึชิตะไม่ได้ขอร้องเฉินหลงเหมือนก่อนหน้านี้ ในตอนที่เขารู้ว่าเฉินหลงกำลังจะไปสู้กับแก๊งซากุระที่เป็นอมตะแล้ว มัตสึชิตะ สึชิทำได้เพียงกลืนความผิดพลาดที่โง่เง่าของตัวเองและกลับไป อย่างกับว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

เฉินหลงและคนอื่นๆเดินทางไปยังสถานที่ที่โยชิดะ มัตสิอิจิได้บอกไว้ แต่เมื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง กลับไม่มีบ้านเลยสักหลัง ตรงหน้าพวกเขามีแค่ดอกไม้เล็กๆ หญ้าแล้วก็ต้นไม้เท่านั้น

“นายท่าน พวกเราถูกโยชิดะ มัตสึอิจิหลอกเข้าแล้ว ที่นี่ไม่มีบ้านเลยสักหลังนึง!” ดาบาร์กล่าวด้วยน้ำเสียงอาฆาต

ดาบาร์ไม่ใช่คนดีขนาดนั้น ในเมื่ออีกฝ่ายกล้ามาหลอกเขาในเรื่องสำคัญแบบนี้ เห็นทีเขาคงต้องชดใช้ให้สาสมแล้ว!

“ดาบาร์ อย่าใจร้อนสิ เขาไม่ได้โกหกพวกเรา ทางเข้าหมู่บ้านจะต้องอยู่ที่นี่แน่ๆ” เฉินหลงตอบเสียงเบา

ในสายตาเขา คนอย่างโยชิดะ มัตสึอิจิไม่มีทางโกหกเขาได้ ถึงตอนนี้ตรงหน้าพวกเขาจะไม่มีสิ่งใดปรากฏอยู่ แต่ในสายตาของเฉินหลงกลับมีอะไรอยู่ในนั้น มีสนามพลังปกคลุมที่นี่อยู่ ทำให้คนอื่นเห็นว่าที่นี่ไม่มีอะไรไปมากกว่าพื้นที่ว่าง

 

“ที่นี่เหรอครับ?” ดาบาร์หันไปถามเฉินหลงด้วยความประหลาดใจ

ตรงหน้าเขาไม่เห็นจะมีอะไรเลย คนสักคน บ้านสักหลังก็ไม่มี ทำไมเฉินหลงถึงบอกว่าทางเข้าหมู่บ้านอยู่ตรงหน้าเขาได้นะ แต่เฉินหลงเป็นเจ้านาย ถึงเขาจะไม่เข้าใจมันเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่กล้าถามเฉินหลงอยู่ดี

“ใช่ ทางนี้”

จากนั้นเฉินหลงก็ยืดมือขวาออกไปข้างหน้า

นิ้วทั้งห้าแผ่พลังห้าสายออกไป กลายเป็นอักขระโบราณที่เรียกว่า ‘ไค’ ในที่ว่าง หลังจากนั้นคำว่า ‘เปิด’ ก็เปล่งแสงออกมา เหมือนกับการเปิดประตูกระจก จู่ๆพื้นที่ว่างตรงหน้าก็กลายเป็นทิวทัศน์ที่ต่างออกไปจากตอนแรก

“เข้าไปกันเถอะ” เฉินหลงว่า จากนั้นก็เดินเข้าไปข้างในเป็นคนแรก

ดาบาร์ที่ตกตะลึงไปชั่วขณะ รีบเดินตามเขาไปเข้าไปในทันที

 

“นายท่าน เมื่อกี้..มันคืออะไรเหรอครับ?” หลังจากที่เฉินหลงเดินเข้าไป ดาบาร์ที่จู่ๆก็กลายมาเป็นคนป่าจึงหันไปถามเขาถามด้วยความตกใจ

“ที่นายเห็นเมื่อกี้คือสนามพลังเวทย์ คนที่ไม่เข้าใจโครงสร้างของมัน จะคิดว่ามันไม่มีอะไร” เฉินหลงตอบด้วยรอยยิ้ม “ไปกันเถอะ สนามพลังเวทย์จะถูกทำลายแล้ว เตรียมตัวดีๆ พวกคุณควรระวังตัวให้มากๆนะครับ”

“ทราบแล้วครับ/ค่ะ นายท่าน!”

คนทั้งห้ารวมทั้งดาบาร์ตอบแบบพร้อมเพรียงกัน

 

ค่อยเดินช้าๆไปตามทางในป่า นิ้วของเฉินหลงได้ปั่นใบไม้และกิ่งไม้ที่อยู่ทั้งสองข้างทางเป็นระยะๆในตอนที่กำลังเดินเข้าไปในป่า หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของที่มีน้ำหนักตกลงมาที่พื้น

เมื่อผ่านทางป่าไปแล้ว เฉินหลงเห็นหมู่บ้านเล็กๆที่ประกอบด้วยบ้านไม้หลังเล็กๆ

ในตอนนี้ ในพื้นที่โล่งของหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ มีคนยืนอยู่อย่างน้อย 100 คน หนึ่งในนั้นเป็นนินจาในชุดนินจา อีกคนเป็นนักรบญี่ปุ่นในชุดซามูไร ที่นี่น่าจะเป็นสาขาซามูไรกับนินจาที่โยชิดะพูดถึงก่อนหน้านี้

 

ที่ด้านหน้าของสาขาทั้งสอง มีนินจาสองคนสวมชุดดำพร้อมมีดนินจา และนักดาบสองคนในชุดขาวถือดาบซามูไรอยู่ พวกเขาน่าจะเป็นทูตทั้ง 4 คนแห่งสภาพธรรมชาติ

มีนักรบคนหนึ่งพูดขึ้นมาเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “อาเร๊ะ*!? พวกแกคือใคร? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไงกันแน่? พวกแกต้องการอะไร!?”

“ก็ไม่มีอะไรมาก ผมแค่อยากจะสั่งสอนคุณ แล้วก็ลักพาตัวคนของคุณไปสักสองสามคน” เฉินหลงตอบกลับเป็นภาษาจีน “แต่ผมเกลียดคนหน้าตาแบบคุณอ่ะ ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ อืม… เอาเป็นว่า คุณสมบัติมากพอที่จะได้มาเป็นลูกน้องของผม!”

 

 

 

*あれ อาเระ = เอ๊ะ!?