เพราะเสียงร้องของเจียงเทียนชิงทุกคนที่กำลังตกใจในตอนแรกก็พลันได้สติกลับมากันหมด
หลิวยู่ติงเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยาเขารีบดึงตัวหวังเฉินออกมาและตะโกนเสียงดังตามระดับอารมณ์ “คุณหวังเฉิน ผมได้บอกว่าคุณแล้วว่าท่านพลเอกชูฮันกำลังพักผ่อนอยู่ กรุณาดูเวลาด้วยว่านี่มันกี่โมง ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีด้วยซ้ำ การกระทำของคุณมันไร้ซึ่งมารยาทและความเคารพอย่างสิ้นเชิง แล้วกฏระเบียบทางทหารที่คุณอ้างก่อนหน้านี้มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่?!”
”อ่า—?ท่าน?” หวังเฉินอ้ำอึ้ง การตอบสนองของเขาได้รวนไปหมดแล้ว
หวังเฉินยังช็อคไม่เลิกเขาถูกหลิวยู่ติงลากออกมาง่ายๆและถูกตะคอกใส่อย่างแรง “ผมบอกให้คุณรอตอน 6 โมง และคุณก็น่าจะรู้อารมณ์ของท่านพลเอกดี ตอนนี้คุณก็ได้เห็นสิ่งที่คุณไม่ควรเห็นแล้ว หลังจากนี้ถ้าท่านพลเอกมีบทลงโทษให้คุณ พวกเราคงช่วยอะไรไม่ได้”
”นี้มัน…”หวังเฉินที่ถูกหลิวยู่ติงลากออกมาตลอดทางยังคงตะลึงค้างอยู่ แววตาเต็มไปด้วยความสับสน คำพูดของหลิวยู่ติงนั้นแทบไม่เข้าหัวเขาเลยสักนิด ดังนั้นหวังเฉินจึงไม่ได้แสดงอาการอะไรต่อคำพูดของหลิวยู่ติง
หลิวยู่ติงไม่สนใจว่าหวังเฉินจะคิดหรือรู้สึกอย่างไรไม่ว่าหวังเฉินจะใหญ่โตมาจากไหนหรือมีอำนาจอะไรคอยหนุนหลังอยู่ แต่อีกฝ่ายทำผิดกฏทหาร หลิวยู่ติงคงลากตัวหวังเฉินออกมาไกลจากเต้นท์ของชูฮัน จากนั้นก็ผลักร่างของหวังเฉินเข้าไปอยู่ในเต้นท์หนึ่งและให้คนคอยเฝ้าล้อมรอบเอาไว้อย่างเข้มงวด
เหล่าทหารทั้งหลายที่อยู่ภายนอกของเต้นท์ชูฮันที่ได้เห็นภาพนี้ต่างมองหน้ากันและไปมาอย่างไม่เข้าใจ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทหารกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็จริง แต่คนที่สามารถเข้าออกเต้นท์ของหัวหน้าได้มีแค่สมาชิกหลักเท่านั้น เดิมทีพวกเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหัวหน้าได้ไปค่ายจินหยางหรือเปล่า แต่จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่และข่าวที่กำลังกระจายไปทั่วในเวลานี้ มันก็ทำให้พวกเขาพอจะเดาได้ว่าไม่แน่หัวหน้าอาจจะไม่ได้อยู่ในเต้นท์ตั้งแต่แรก?
ดังนั้นเมื่อมีเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นทุกคนจึงไม่ได้มึนงงหรือมีท่าทางตกใจเมื่อเห็นทุกอย่างพัฒนาไปในทิศทางแปลกๆเช่นนี้ หากแต่สาเหตุที่ทุกคนมองหน้ากันไปมาด้วยความไม่เข้าใจในตอนนี้ก็คือ…
หวังเฉินเห็นอะไรในนั้นกันแน่?
เหอเฟิงที่ซ่อนอยู่ตัวอยู่ในเต้นท์ใกล้ๆเองก็มีสีหน้างุนงงไม่ต่างแต่เมื่อตอนที่เขาได้ยินคำพูดของหลิวยู่ติงมันก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว…
เป็นไปได้มั้ยว่าชูฮันกลับมาพอดี?
ไม่จริงน่า! แต่ถ้าชูฮันกลับมาแล้วจริงๆก็ไม่แปลกใจที่หวังเฉินจะตกใจเหมือนกับเห็นผีแบบนี้?
อีกอย่าง…
เหอเฟิงเหลือบมองเจียงเทียนชิงที่ยืนอยู่ด้านนอกเต้นท์ของชูฮันไอ้เด็กนั่นยังยืนนิ่งค้างอยู่ที่เดิมไม่ขยับ ท่าทางกระวนกระวาย ยืนกัดนิ้วตัวเองไปมากอย่างสิ้นหวัง
มีอะไรเกิดขึ้นในนั้นกันแน่?!
เหอเฟิงรู้สึกประหลาดใจคราวนี้เขาจึงตัดสินใจเดินออกมาจากเต้นท์ที่ซ่อนตัวอยู่ มุ่งหน้าไปยังเต้นท์ของชูฮันทันที ตั้งใจจะเปิดเข้าไปดูข้างในให้เห็นด้วยตาตัวเอง
ในจังหวะที่กำลังเอื้อมมือไปเพื่อจะเลิกผ้าใบขึ้นเจียงเทียนชินก็เอื้อมมือขึ้นมากันเหอเฟิงไว้อย่างรวดเร็ว วางมือลงบนมือเหอเฟิงด้วยท่าทางกังวล ก่อนจะส่ายหัวเป็นการห้าม
ห้ามเปิดเด็ดขาด!
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เหอเฟิงยิ่งอึดอัดเขาคาดการณ์ว่าคนที่อยู่ในเต้นท์อาจจะไม่ใช่ชูฮันจริงๆแต่เป็นเกาช้าวฮุ่ยในชุดเครื่องแบบทหาร เพราะถึงอย่างไรตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา เกาช้าวฮุ่ยก็อยู่ภายในเต้นท์แทนชูฮันมาตลอดโดยไม่เคยออกมาข้างนอกเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เกาช้าวฮุ่ยทำอะไรลงไปรึเปล่า…อาจจะเล่นละครหลอกแต่เล่นอะไรถึงทำให้ทั้งหวังเฉิน หลิวยู่ติงและเจียงเทียนชิงตะลึงได้กันขนาดนี้?
ด้วยความคิดเช่นนั้นความสงสัยในใจของเหอเฟิงก็ระเบิดลุกโชนเหมือนโดนน้ำมันราด โดยไม่สนใจการห้ามปรามของเจียงเทียนเชิง เหอเฟิงปัดมือออกและเปิดผ้าใบเข้าไปในเต้นท์ทันที
ครั้งนี้แม้แต่เหอเฟิงเองก็ต้องตะลึงค้างกับฉากที่ได้เห็น!
เหอเฟิงเห็นภาพกลางห้องจากนั้นก็ตะโกนออกมาดังลั่น “ไอ้เ*ย!”
”ผมบอกแล้วว่าอย่าเข้าไป!”เจียงเทียนชิงกระซิบอยู่ข้างหูเหอเฟิงด้วยน้ำเสียงวิตก”มองในแง่ดี ไม่มีใครเห็นนอกจากเรา”
”ใช่พวกผมไม่เห็น!” เหล่าเจ้าหน้าที่ที่ยืนเฝ้าเวรอยู่ตอบเสียง แม้ในใจจะสงสัยอย่างหนักก็ตาม
มีอะไรในเต้นท์กัน?
เหอเฟิงกลัวอะไรถึงร้องเสียงดังแบบนั้น?
ขณะนั้นเองภายในเต้นท์ของชูฮันถัดมาจากเตียงนอนขนาดใหญ่มันมีเสื้อเครื่องแบบทหารที่ดูเหมือนถูกถอดทิ้งไว้อย่างเร่งรีบกระจายตามพื้น รองเท้าบู้ททหารกองระเกะระกะอยู่ตามมุมห้อง
และภาพที่ทำให้ทุกคนตกใจจนทำตัวไม่ถูกคือ…ภาพที่มีสองคนอยู่บนเตียง
ผู้ชายและผู้หญิง…
ฝ่ายชายนอกนั้นเหนือจากกางเกงก็ไม่มีอะไรบนตัวอีกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อเป็นชั้นๆแสดงถึงความแข็งแกร่งของฝ่ายชาย
ส่วนผู้หญิงในชุดสีแดงสดที่ตอนนี้ถูกถอดหล่นออกมากองอยู่ที่หน้าอกตัวชายกระโปรงที่ถกล่นขึ้นสูงจนเกือบจะเห็นกางเกงชั้นในดูล่อแหลมอย่างมาก
ท่าทางของทั้งคู่นั้นค่อนข้างแสดงความหมายออกมาได้ชัดเจนฝ่ายหญิงที่เกือบเปลือยกำลังนั่งอยู่บนหน้าขาของชายหนุ่ม ผมเผ้าของฝ่ายหญิงยุ่งเหยิง แม้จะเห็นเพียงแค่แวบเดียวแต่ก็สามารถบอกได้เลยว่าเป็นคนสวยมาก ใบหน้าที่แดงก่ำและมีเสียงหอบหายใจแรงดังให้ได้ยิน
กลิ่นน้ำหอมที่อบอวลไปทั้งห้องท่ามกลางฉากที่น่าดึงดูดทว่านั้นไม่ใช่สาเหตุที่เหอเฟิงร้องตกใจเสียงดัง สาเหตุนั่นมาจากชายที่อยู่ด้านในต่างหาก…
เป็นเพราะผู้ชายคนนั้นคือชูฮัน!
เกาช้าวฮุ่ยที่ควรจะอยู่ในเต้นท์ได้หายไปแล้วด้านในมีเพียงแค่ชูฮันกับหญิงสาวผู้มีเสน่ห์เท่านั้น
ที่จริงมันเป็นเรื่องบังเอิญสุดที่ชูฮันกลับมาพร้อมกับหวังเฉินที่มาถึง แต่เฮลิคอปเตอร์ของชูฮันที่มาจากค่ายจินหยางนั้นลงจอดในที่ลับ หลังจากนั้นชูฮันก็นำทีมความลับของพระเจ้าลอบเข้ามาในค่ายตั้งรบอย่างเงียบๆโดยไม่มีใครรู้ตัว ส่วนหน่วยข่าวกรองลับนั้นชูฮันได้สั่งให้เดินเท้ากลับไปยังค่ายเขี้ยวหมาป่าทันที
ดังนั้นเมื่อชูฮันกลับมาถึงค่ายตั้งรบและยังไม่ทันได้รับการรายงานจากใครเลยซึ่งมันเป็นเวลาพอดีกับที่หวังเฉินเดินทางมาถึงค่ายตั้งรบ
ส่วนวิธีที่เขาเข้ามาภายในเต้นท์โดยไม่มีใครรู้ในฐานะวิวัฒนาการระยะ 6 ที่อยู่จุดสูงสุดอย่างชูฮันมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา แต่เมื่อตอนที่ชูฮันกลับมาเข้ามาในเต้นท์ เขาก็ไม่เห็นเกาช้าวฮุ่ย เห็นเพียงแค่เครื่องแบบทหารที่พื้นพร้อมกับมีผู้หญิงคนหนึ่งในเต้นท์ ที่ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนหน้าขาเขา
บูชา!
ผู้หญิงคนนี้คือบูชาที่ครั้งล่าสุดที่เจอกันต้องการจะฆ่าเขาแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นจะมีชูฮันเป็นฝ่ายมีอำนาจเหนือกว่าจนบูชาต้องยอมลามือไป แต่ระยะเวลาที่ห่างกันกว่าครึ่งปีที่บูชาอยู่ตัวคนเดียว มีเรื่องราวและเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น
ภายนอกของบูชาดูเป็นหญิงสาวที่สวยงามเย้ายวนใจชายทว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นคนดุร้าย มีพรสวรรค์ในการสื่อสารและออกคำสั่งกับงูและชูฮันอิจฉาเธอมาเสมอกับความสามารถที่มี แม้ว่าในชาตินี้บูชาในตอนนี้จะยังไม่ได้เข้าสู่พรสวรรค์ที่แท้จริงอย่างท่องแท้เหมือนชาติที่แล้ว แต่เธอกำลังอยู่บนเส้นทางไปสู่จุดหมายและชูฮันก็ไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าเธอจะทำสำเร็จอย่างแน่นอน
ในขณะที่ชูฮันยังคงคิดไม่ออกว่าทำไมบูชามาอยู่ที่นี้ได้
อุตส่ารีบมา…แต่แล้วกลับต้องโดนเซอไพรส์ซะเอง
ถ้าเขาเข้าฝใจได้ถูกต้องละก็ดูเหมือนว่าบูชาจะเคยพูดว่าต้องการจะฆ่าเขา?
ถ้าเขาจำได้อย่างถูกต้องละก็ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะบอกว่าเขาต้องการที่จะฆ่าเขา? เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ชูฮันก็ไม่คิดดึงดัน เขานั่งนิ่งและกระซิบข้างหูบูชาอย่างใจเย็น “อย่าคิดตุกติก”
เวลานี้บูชากำลังยิ้มอยู่สายตาพร่ามัวจนดูเหมือนกำลังมัวเมาในอะไรบางอย่าง และจู่ๆเธอก็ยื่นริมฝีปากสีแดงเข้ามาใกล้หูชูฮัน พ่นลมหายใจใส่เบาๆอย่างยั่วๆ “ชูฮัน ฉันไม่ไหวแล้ว กลิ่นกายของคุณดึงดูดอารมณ์ฉันเหลือเกิน”