เฮียสงแผดเสียงออกมา “ฝึกฝนชั่วร้าย ที่แท้นายคือคนที่ฝึกฝนชั่วร้าย มิน่าล่ะนายถึงมาที่นี่ นายมันคนที่ฝึกฝนชั่วร้ายที่สมควรตาย”

ลู่ฝานอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นชักนิ้วกลับมา

เฮียสงล้มลงกับพื้น ชักไม่หยุด

คนที่ฝึกฝนชั่วร้ายงั้นเหรอ

ลู่ฝานนึกขึ้นได้ เคล็ดวิชาบู๊ที่ชิงพลังมาจากคนอื่นได้ อันที่จริงเป็นสัญลักษณ์ของคนที่ฝึกฝนชั่วร้าย

ลู่ฝานยิ้มบางๆ ลูบคางครุ่นคิด

ดูเหมือนกระบวนท่านี้จะใช้บ่อยไม่ได้ แม้เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ฝึกฝนชั่วร้าย แต่เมื่อใช้ออกมา จะเป็นการหาเรื่องให้ตัวเอง มันไม่คุ้มค่าที่จะทำไม่ใช่เหรอ

มู่หนี ไอ้ตาแดง ต้าเก้อ ทั้งสามคนมองลู่ฝานเหมือนเห็นผี

โดยเฉพาะตอนที่เฮียสงตะโกนออกมาว่าคนที่ฝึกฝนชั่วร้าย ยิ่งสะเทือนใจพวกเขาเข้าไปใหญ่

ทั้งสามคนเอาอาวุธออกมา แสงสว่างทั้งตัว

ลู่ฝานมองพวกเขาแล้วพูดว่า “พวกนายก็จะสู้กับฉันเหรอ”

มู่หนีกัดฟันพูดว่า “ไม่ต้องกลัวเขา เห็นได้ชัดว่าเขาใช้พลังประหลาดออกมาได้ ก็ต่อเมื่อปะทะกับคน เราโจมตีจากระยะไกล!”

พูดจบ มู่หนีสะบัดมือไม่หยุด รอบๆ ลู่ฝานมีแสงกระบี่สีฟ้าเป็นแถบ

ไอ้ตาแดงกับต้าเก้อลงมือเช่นกัน แสงค่ายกลสีฟ้าปรากฏด้านล่างตัวลู่ฝาน รอบๆ ยังมีแสงปรากฏขึ้นมาเป็นกำแพง

วางกรอบดักศัตรูหรือคนร้าย ฆ่าทิ้งในพริบตา

ลู่ฝานลองสัมผัสแสงสีฟ้าพวกนี้

ไม่ได้การแล้ว พลังที่ใช้ออกมาเหมือนเคล็ดวิชาบู๊ หรือไม่ก็วิชาบ้าคลั่งเกินไป ถ้าดูดซับจะมีความเสี่ยงสูงเกินไป

ลู่ฝานมีแผนในใจ เขาปล่อยปราณชี่ออกมา

แยกกระจาย!

ทันใดนั้น แสงสีฟ้าที่พุ่งมาถึงหน้าเขาโดนดันกลับไปไกลหลายเมตร แม้ไม่ได้ถูกขจัดออกไปในพริบตาเหมือนพลังฟ้าดินอื่นๆ แต่ก็โดนเคลื่อนย้ายออกไป ไม่สามารถโจมตีลู่ฝานได้

พวกมู่หนีมองลู่ฝานเหมือนเสียสติ พวกเขาไม่เคยเจอความแข็งแกร่งระดับนี้มาก่อน

ลู่ฝานค่อยๆ เดินเข้ามาข้างหน้ามู่หนี

นิ้วแตะลงบนหว่างคิ้วมู่หนี พลังทั้งหมดของมู่หนี เข้าไปหาลู่ฝาน

มู่หนีพยายามดิ้น ลู่ฝานใช้เพียงนิ้วเดียว แต่เหมือนภูเขาทั้งลูกกดทับเธอเอาไว้

เธอสั่นไปทั้งตัว แต่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

ลู่ฝานสัมผัสถึงเส้นลมปราณและกระดูก อวัยวะภายในและตันเถียนของเธอ

สิ่งที่ทำให้ลู่ฝานแอบตกใจ ในตันเถียนที่โดนควบคุมของเธอ เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังปราณจนน่าตกใจ มันใกล้รวมตัวกันเป็นรูปร่างแล้ว

นี่โดนกดมานานขนาดไหน ถึงกลายเป็นแบบนี้ได้

จู่ๆ ลู่ฝานเกิดความเข้าใจ เขารู้แล้วว่าการทดสอบในคุกน้ำคืออะไร

ผนึกสีฟ้าควบคุมตันเถียน แต่กลับไม่ทำให้มันเสียการเคลื่อนไหว พลังปราณของนักบู๊ก็ดี พลังชี่ของผู้ฝึกชี่ก็ดี แม้ไม่ได้ตั้งใจไปฝึกฝน ยังไงก็มีการพัฒนาอยู่แล้ว เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ พลังพวกนี้อยู่ในพื้นที่จำกัดจนเต็มเปี่ยม และกลายเป็นรูปเป็นร่าง

ถ้าเธอทำลายผนึกได้ พลังเหล่านี้คงทะลักออกไปหลายลี้ เหมือนกับเปิดประตูกั้นน้ำ ยกระดับแดนของคนได้หลายระดับในพริบตาเดียว

เหมือนพลังสายเลือดของศิษย์พี่หานเฟิง ควบคุมเอาไว้ก่อน จากนั้นระเบิดออกมา พลังทำลายอุปสรรค

ยิ่งควบคุมไว้นาน ยิ่งระเบิดออกมาอย่างรุนแรง

เหมือนกับมู่หนีที่อยู่ด้านหน้า ตอนนี้วิทยายุทธของเธอแค่แดนปราณนอกขั้นสูงสุด แต่เมื่อเธอปลดผนึก จะพุ่งสู่แดนปราณชีวิตขั้นปลาย ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเป็นไปได้

อีกทั้งตอนนั้นเธอยังสามารถใช้พลังสีฟ้า ที่เธอสะสมมาอย่างยากลำบากได้ด้วย
นี่คือการบ่มเพาะผู้สืบทอดหรือไม่ก็ลูกศิษย์หรือเปล่า

ลู่ฝานเลื่อมใสความฉลาดของเทพอักษรจากใจจริง

น่าเสียดายที่มู่หนีโชคร้ายมาเจอเขา ลู่ฝานใช้ปราณชี่ทะลุเข้าไปในผนึก แทรกซึมไปในตันเถียนของเธอ

ลู่ฝานจงใจเอาปราณชี่นี้แปรเปลี่ยนเป็นพลังขจัด ต่อมาตันเถียนของมู่หนีเริ่มเป็นรู ฉีกขาด พลังปราณด้านในเริ่มเคลื่อนไหวอย่างแรง

ตันเถียนแยกส่วน

ทุกอย่างสิ้นสุด!

มู่หนีกระอักเลือดออกมา เธอมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายโหดเหี้ยมมาก!”

ลู่ฝานพยักหน้า “ฉันบอกแล้วว่าเธอจะอ้วกออกมา”