ตอนที่ 708 : ห้าคนทําอาหาร
“โอ้ ไม่เลย! คุณแข็งแกร่งกว่าฉันอีก…” หลินเหลียงยิ้มอย่างนอบน้อมและครุ่นคิด “ชายคนนี้ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีคนพิเรนทร์ๆที่น่าสนใจอยู่ด้วย หลังจากที่ฉันจําศีลมาเป็นเวลาหลายปี ฉันยังรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของช้างน้อย และพลังงานในการรักษาที่ท่วมท้น มันดูบ้าคลั่งแต่ก็อ่อนโยนในเวลาเดียวกัน ร่างกายท่อนล่างนี้ราวกับพระเจ้าสรรค์สร้างขึ้นมา ถ้าเขาเข้าสู่โลกนั้น ฉันเชื่อว่าเขาสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ทุกชนิดที่คนเหล่านั้นไม่สามารถทําได้ สิ่งที่น่าประทับใจที่สุด คือคุณสมบัติพลังของเขามันเผาผลาญความเจ็บปวยเหมือนกับเปลวเพลิงแผดเผา และบํารุงร่างกายผู้ปวยเหมือนดั่งสายน้ํา” แม้แต่หลินเหลียงก็ยังประหลาดใจกับช้างน้อยของลุงฟรอสเลอร์ “ในอนาคตผู้ชายคนนี้จะต้องเป็นจิตวิญญาณของวีรชนอย่างแน่นอน!” หลินเหลียงหันไปมองคนข้างๆ เขาเห็นรอยยิ้มที่ราวกับเทพวีนัสของลุงแพนตี้ และรู้สึกชื่นชม “ฉันพนันได้เลยว่าแม้กระทั่งเทพธิดาก็ต้องรู้สึกอิจฉา เมื่อเห็นรอยยิ้มของเขา”
จากนั้นหลินเหลียงมองที่เย่ฉางและคนอื่นๆ “เขาคือผมขาวใช่ไหม? เขาช่างโชคร้ายเหลือเกิน เขาไม่มีที่มาในอดีต และความปรารถนาในอนาคต” เขาขมวดคิ้ว เมื่อเห็นบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัวเชื่อมโยงอยู่กับเย่ฉาง จากนั้นเขาก็ส่ายหัว ฉันคิดว่าเขาเป็นมนุษย์เทียมที่ดีที่สุด เขาทรงพลังมาก และความยืดหยุ่นร่างกายของเขาเกือบจะเหมือนกับสัตว์ร้ายมิติ คนตัวสูงคนนั้นน่าจะเป็นจางเจิ้งเฉียง เขาสูงและมีกล้ามเนื้อที่มาพร้อมกับพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นที่เขาจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญของประเทศนี้ และไม่ต้องพูดถึงความสําเร็จในอนาคตที่ไร้ขีดจํากัดของเขาเลย เห็นได้ชัดว่าคนที่สามอละตัวเล็กที่สุด เขามีกลิ่นอายมือสังหาร และออร่าของเสี่ยวหลิน โอ้! เขามีดวงตาแห่งการพิพากษาด้วยรึ? โดยปกติแล้วผู้ที่มีดวงตาดังกล่าวจะเป็นผู้ที่มีข้อบกพร่อง เมื่อพระเจ้ามอบอะไรให้คุณ ท่านก็จะนําบางสิ่งออกไปด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าพวกเขาโง่ แต่พวกเขาฉลาดเกินไปที่จะแยกแยะได้ว่าใครดีและชั่วร้าย อย่างไรก็ตามเขาคือผู้ที่สามารถแยกแยะความ ตกต่างได้อย่างถูกต้องแม่นยําด้วยสัญชาตญาณความบ้าคลั่ง อืม… ทั้งคู่ต่างชํานาญเทคนิคหยินหยาง ไม่เลว ไม่เลว!”
“พี่ใหญ่ขาว พี่ใหญ่ขาว! ผมมีความรู้สึกว่าผู้ชายที่มีพัดขนนกยื่นออกมาจากด้านหลังของก้นนั้นดูน่ารังเกียจมาก เขาจ้องมองมาที่ผมด้วยรอยยิ้มแปลกๆด้วยล่ะ…” หลินหลีดึงเยฉางเข้ามา และ กระซิบข้างหู“
“….”หลินเหลียงพูดไม่ออก
“เอาล่ะ เรามาเริ่มมื้อเย็นกันเถอะ ให้ชายพัดขนนกนั่นมานั่งด้วยกันเถอะ” ลุงฟรอสเลอร์เดินไปที่โต๊ะหลักอย่างภาคภูมิใจ และคนอื่นๆก็ต่างพากันนั่งลง วงชั้นแรกภายในวงของโต๊ะอาหารถูกกําหนดไว้สําหรับผู้เล่นที่ได้รับรางวัลในสงครามคริสมาสต์ที่ยิ่งใหญ่ วงชั้นที่สองสําหรับผู้เล่นที่เข้าร่วมสงคราม และสุดท้ายวงชั้นนอกสุดสําหรับประชาชนทั่วไป และมีที่นั่งจํากัดอาหารที่เสิร์ฟ ภายในงานล้วนได้รับการปรุงโดยพ่อครัวชั้นนํา 3 คนของถนนหยูลอง
“ปีนี้ตลาดกลางคืนย่านตะวันออกมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นเพราะพวกเขา ดังนั้นตาแก่หลี, มาริลีน และฉันตัดสินใจจับมือกันทําสุดยอดอาหารนี้ขึ้นมา! ผมขาว สิ่งที่นายพูดครั้งสุดท้ายนั้นถูกต้อง ซึ่งฉันได้ขบคิดเกี่ยวกับความคิดเห็นของนาย และดูเหมือนว่านายจะยังไม่สูญเสียทักษะการทําอาหารไป นอกจากนี้จางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่ก็ยังเป็นวีรบุรุษของเขตตะวันออก ดังนั้นเราต้องขอให้ นายมาเข้าร่วมทําอาหารกับเราด้วย ตาเฒ่าแพนตี้ ฉันรู้ว่านายยอดเยี่ยมแค่ไหน อย่าเกรงใจนักเลย มาเถอะ มาทําอาหารด้วยกัน!” เย่ฉางยืนขึ้นทันทีหลังจากฟังสิ่งที่เฒ่าหวังพูด “ลุงพูดถูก แล้ว!”
จางเจิ้งเฉียงและคนอื่นๆยืนขึ้นทันที “ลุงหวัง! อย่า!”
“ทักษะการใช้มีด! เพียงแคให้เขาใช้ทักษะการใช้มีด! อย่าปล่อยให้เขาแตะต้องอย่างอื่นเลย!” อูนาทุบโต๊ะแล้วตะโกนขึ้นมาทันที
“โอ้ มาเลย! ไม่ต้องกังวล ฉันไม่ขโมยซีนพวกเขาหรอกหนา เหมือนกับที่นานะพูดไว้ ฉันจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อการหั่น สับ, และตัดเอง มันไม่ใช่เรื่องดีเลยที่จะทําเช่นนั้น” เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่เย่ฉางถ่อมตน อูนาและคนอื่นๆจึงนั่งลงอย่างเงียบๆ และถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในทางตรงกันข้าม ลุงแพนตี้ถอดหมวกทรงสูง และผูกแขนเสื้อตัวเอง จากนั้นเขาก็เดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับผ้ากันเปื้อนลายตุ๊กตาหมี ผู้หญิงทุกคนตะโกนและกรีดร้องไปที่ทางเข้า
“ลุงแพนตี้หล่อมาก! เขาสมกับเป็นสามีแห่งชาติจริงๆ! และเขายังรู้วิธีการทําอาหารอีกด้วย! เมื่อพิจารณาจากคําพูดของลุงหวังแล้ว ดูเหมือนว่าทักษะการทําอาหารของลุงแพนตี้จะเทียบเท่ากับเขา! โอ้ให้ตายเถอะ! ฉันจะบ้าตาย!”
“ช่างน่าเสียดายที่ลุงแพนตี้ยังคงเป็นโสดอยู่ เขาไม่ได้แต่งงานใหม่หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิตลง…”
“คงจะเป็นเรื่องดีถ้าได้เป็นภรรยาของเขา” หญิงสาวในกลุ่มผู้ชมเริ่มฝันกลางวัน และเริ่มตระหนักถึงสิ่งรอบข้าง
เย่ฉางเดินขึ้นไปบนเวทีเช่นกัน เขาหยิบผ้าพันหัวและสวมผ้ากันเปื้อน จากนั้นเขาปักมีดทําอาหารลงบนเขียง “แคโยนสิ่งที่คุณต้องการตัดมาให้ฉัน!”
“หืม… เขาดูเท่มาก! แต่ฉันไม่แน่ใจว่าเขาจะทําได้ดีรึเปล่า! แล้วแบบนี้ล่ะ! สไลซ์ปลานี้ให้บาง!” เฒ่าหลีโยนปลามังกรเงินไปให้เยฉางทันที ในเสี้ยววินาทีนั้นเย่ฉางก็หยิบมีดขึ้นมา และปลาก็ร่อนลงบนจานราวกับว่ามันยังไม่ถูกตัด ผู้ชมบางคนหัวเราะเยาะ “การกระทําที่โง่เช่นนี้”
ประโยคนั้นยังพูดไม่จบ และเย่ฉางก็แทงมีดกลับไปบนเขียง ทันใดนั้นปลาก็คลื่ออกเป็นชิ้นบางๆเหมือนปีกจักจั่น เฒ่าหลี่ตกตะลึงไปชั่วครู่ “ทําได้ดี! ทักษะการใช้มีดนี้ดีกว่าของฉันร้อยเป็นเท่า!”
อูนาและคนอื่นๆส่ายหัวในเวลาเดียวกัน และพูดพึมพํา “ไม่ ไม่ ไม่! เขาเก่งในทักษะการใช้มีด! แต่เมื่อพูดถึงการปรุงอาหาร มันก็เหมือนกับว่าเขาตีตัวเราไปสู่นรก!”
ผู้ชมส่งเสียงเชียร์ดังกระหึม
“เทพเจ้าแห่งการเต้นรําไม่เพียงแต่เต้นรําได้ดีเท่านั้น แต่ให้ตายสิ! เขายังมีทักษะการใช้มีดที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย!”
“ทักษะของเขาสามารถอยู่ในระดับเดียวกับลุงฟรอสเลอร์ และลุงแพนตี้ได้เลย เขาเป็นคนที่น่าประทับใจที่สุดในสามวีรบุรุษแห่งตะวันออก”
ลุงฟรอสเลอร์ยิ้ม “ความเร็วในการตัดของเขาเร็วมาก”
ซูหยี่ยี่ยิ้มและพูดต่อ “อาจารย์ คุณคงมีประสบการณ์เกี่ยวกับการสําเร็จความใคร่ด้วยตนเองมาหลายปี เพื่อให้ได้ความเร็วเช่นนี้ใช่ไหม?”
“พี่ใหญ่ขาวเคยบอกฉันว่าเขาเรียนรู้วิธีช่วยตัวเองตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ เขาเป็นคนแรกที่เรียนรู้เรื่องนี้ในหมู่พวกเรา” คําพูดของหลินหลี่ทําให้อูนา และคนอื่นๆหัวเราะ
ในขณะเดียวกันหลินเหลียงก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร ถึงอย่างนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าเย่เทียนที่เงียบงันกําลังหลีกหนีเขาทางอ้อม เธอคนนี้ก็เป็นมนุษย์เทียมด้วยเช่นกัน! ด้วยสายตาของเธอ ฉันสามารถบอกได้เลยว่าเธอเก่งการคํานวณ” จากนั้นเขาก็หยิบพัดขนนกขึ้นมาและ ถามเธอ “เธอจะแก้คําถามนี้อย่างไร?”
“มีวิธีแก้ปัญหา 36 วิธี” เย่เทียนตอบ
หลินเหลียงตกตะลึงชั่วครู่และยิ้ม “น่าประทับใจจริงๆ”
จากนั้นเขาหันไปดูทั้งห้าคนทํางานร่วมกัน
เย่เทียนตกใจ “คําถามนี้ยากมาก! มันประกอบไปด้วย ฉีเหมินตุ้นเจี้ย, อี้จิง และการคํานวณที่เกี่ยวข้องกับรหัสลับสองทางเลือก แม้แต่ฉันก็ต้องใช้เวลาหลายวินาทีเพื่อแก้มัน มีมนุษย์หลายคนที่ไม่สามารถเข้าถึงระดับนี้ได้ แต่คนที่อยู่ตรงหน้าฉันอาจไม่สามารถแก้คําถามได้เร็วเท่าฉัน แต่วิธีการตีความและวิธีคิดของเขายังไม่ใช่สิ่งที่ฉันสามารถทําได้ในตอนนี้ จากนั้นเธอก็คุยกับเย่ฉางผ่านกระแสจิต “พ่อคะ ระวังชายคนนี้ด้วย! เขาอาจเป็นคนที่น่ากลัวมากคนหนึ่ง…”
(ฉีเหมินตุ้นเจี่ยคือศาสตร์พยากรณ์โบราณ ส่วนอี้จิงคือวิชาที่ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลง จากมีเป็นไม่มี, ไม่มีเป็นมีบวกกลายเป็นลบ, ลบกลายเป็นบวก จึงมีการแทนสิ่งเหล่านี้ด้วยเส้นเต็มและ เส้นขาดสองแบบ เมื่อนํามารวมกันหกเส้นหรือฉกลักษณ์ เมื่อนํามาหาค่าความน่าจะเป็นก็จะได้รูปแบบการเปลี่ยนแปลงถึงหกสิบสี่แบบ จนกลายมาเป็นแม่แบบของวิชาฮวงจุ้ยหกสิบสีช่วยด้วยนั่นเอง)
“ไม่ต้องกังวล ตอนนี้เขาเป็นเพียงแค่แขกเท่านั้น เราแค่จับตามองเขาต่อไป” เย่ฉางมองที่หลินเหลียง และตัดวัตถุดิบของเขาต่อไป
บรรยากาศของอาหารค่ํานั้นร่าเริง และทุกคนก็สนุกไปกับมัน เย่ฉางแกะสลักปลาชิ้นใหญ่ และมาริลีนก็ย่างวัตถุดิบต่างๆ ในขณะเดียวกันเฒ่าหวังและเฒ่าหลี่ก็โชว์ทักษะในการทําน้ําซุป ส่วนลุงแพนตี้นั้นทําอาหารที่ดูเหมือนเครื่องประดับและสร้อยประคํา (ลูกชิ้นสีสันสดใสเก้าลูก)
“เรียบร้อย” เย่ฉางวางปลาสไลซ์ของเขารอบๆจานเป็นรูปดอกกุหลาบ ตรงกลางมีหม้อไอน้ํา แบบ 2-อิน-1 หญิงสาวไร้ใบหน้าที่สวยงามถูกวางไว้ตรงกลางหม้อ และลุงแพนตี้ก็ห้อยสร้อยประคําเก้าสีที่คอของเธออย่างระมัดระวัง และคลุมเธอด้วยเสื้อผ้าที่เคลือบน้ําตาล มีพู่หางม้าที่มือซ้าย และไม้กางเขนอยู่ที่มือขวาของเธอ ราวกับว่าเทพธิดาได้จุติลงมา