ตอนที่ 255: เฉินฉือหลิว โดย Ink Stone_Romance
เฉินเยี่ยนกับซินห้าวขี่รถกลับไปบ้านเฉินด้วยกัน
บ้านเฉินมีคนไม่น้อย ตอนนี้ก็ไม่มีเรื่องอะไร ไม่มีอะไรทำ คนมาเยี่ยมเยอะมาก จับกลุ่มสองสามคนมายืนอยู่หน้าประตูบ้านเฉิน แกะเมล็ดทานตะวันกัน กินถั่วลิสงคั่วกัน พูดคุยสัพเพเหระกัน เห็นเฉินเยี่ยนก็ร้องดีใจบอกว่าเฉินเยี่ยนจะได้เป็นคุณป้าแล้ว
คุณป้า สำหรับเธอแล้วนี่เป็นคำเรียกคำใหม่
แต่หลังจากนี้คนจะเรียกเธอคำนี้ยิ่งมากขึ้นไปอีก
เฉินเยี่ยนยิ้มแล้วเข้าไปในบ้าน
เฉินจงและเฉินกุ้ยอยู่ข้างนอก เห็นพวกเขามา ก็รีบยิ้มทักทาย
เฉินจงและเฉินกุ้ยทักทายซินห้าว เฉินเยี่ยนเห็นสีหน้าพวกเขา ไม่ได้ดูไม่ดีใจ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้โกรธที่หลัวเหมยคลอดลูกสาว
“แม่ลูกอยู่ข้างในน่ะ รีบเข้าไปเถอะ ไปอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้ ไปดูหลานสาวลูก”
เฉินจงชี้เข้าไปในห้อง นั่นเป็นห้องที่เฉินกุ้ยและหลัวเหมยอยู่ หลัวเหมยใกล้คลอดแล้ว เพราะต้องอยู่เดือน หวางนิวเลยไม่ให้พวกเขากลับไปอยู่ฝั่งนั้น
เข้ามาในห้อง หลัวเหมยนอนอยู่ ศีรษะถูกห่อไว้ ถึงแม้หน้าจะยังอ้วนอยู่ แต่มองดูแล้วสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
หวางนิวกำลังนั่งอยู่ ข้างหลัวเหมยมีทารกตัวเล็กนอนหลับอยู่
ทารกถูกห่อไว้อย่างแน่นหนา เห็นแค่ใบหน้าโผล่มา หน้าแดง มีบางทียังคงมีรอยเลือดอยู่ ยังไม่ได้เช็ดให้สะอาด ผมไม่ถือว่าดำ ออกเหลืองเล็กน้อย แต่ยังดีที่ไม่ได้หัวล้าน
นอนหลับตาอยู่ เลยดูไม่ออกว่าตาโตหรือเล็ก
ไม่น่ารัก เฉินเยี่ยนคิดว่าทารกนี้ตัวเล็กเกินไป มองไม่ออกว่าน่ารัก แต่เด็กที่เพิ่งเกิดก็น่าจะเหี่ยวไปหมดแบบนี้
“เยี่ยนจื่อมาแล้วเหรอ มา รีบมาดู ลูกมีหลานสาวแล้วนะ”
หวางนิวเห็นเยี่ยนจื่อก็ทัก ใบหน้ายังมีรอยยิ้ม
เฉินเยี่ยนพยักหน้า
“ทำไมไม่เช็ดให้เธอ ตรงนี้ยังมีเลือดอยู่เลย”
เฉินเยี่ยนชี้ไปที่ใบหน้าทารก
“อากาศหนาว เช็ดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นทารกจะหนาวเอา”
หวางนิวส่ายหน้า
เฉินเยี่ยนไม่ได้พูดอะไร เกี่ยวกับเรื่องเด็กแล้วเธอไม่มีสิทธิ์พูดอะไร เธอไม่รู้เรื่อง หวางนิวเลี้ยงพวกเขามาตั้งหลายคน ยังไงก็มีประสบการณ์มากกว่าเธอ
“พี่สะใภ้ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
เฉินเยี่ยนเดินเข้าไปถามหลัวเหมยอย่างเป็นห่วง
หลัวเหมยพยักหน้าให้เฉินเยี่ยน ฝืนยิ้มจางๆ ออกมา เห็นได้ชัดว่าไม่มีแรง
“เมื่อวานรู้สึกว่าจะคลอดแล้ว ทรมานทั้งคืน วันนี้แปดโมงกว่าเพิ่งคลอดออกมา พี่สะใภ้ลูกทรมานมากเลย คลอดยากขนาดนี้ คิดว่าจะเป็นลูกชาย ใครจะรู้ว่าได้ลูกสาว”
ในใจหวางนิวยังรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เธอคาดหวังว่าท้องแรกจะเป็นผู้ชาย
เฉินเยี่ยนดึงเสื้อหวางนิวเบาๆ
“เขาว่ามีลูกสาวก่อนสิดี เด็กผู้หญิงสิดี เด็กผู้หญิงนี่แหละรักแม่ แข็งแกร่งกว่าเด็กชาย ถ้าแม่ไม่อยากได้ งั้นหนูอุ้มกลับบ้านก็ได้”
เฉินเยี่ยนพูดจบยังส่งสายตาให้หวางนิวด้วย ทำไมเธอถึงได้แสดงความผิดหวังต่อหน้าลูกสะใภ้นะ พี่สะใภ้จะเสียใจแค่ไหน ถ้าอยู่เดือนไม่ดี ก็จะมีผลไม่ดีต่อหญิงตั้งครรภ์
“ไม่ได้หรอก พ่อลูกอยากได้ ตอนแรกแม่กลัวว่าพ่อลูกจะไม่ชอบใจ ไม่ได้มีหลานชายคนโต ยังถามพ่อลูกอยู่ว่าจะกินก๋วยเตี๋ยวไหม? พ่อลูกบอกว่าทำไมจะไม่กิน ดูเขาดีใจขนาดนี้ พี่ชายลูกก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แม่ก็คิดว่าคลอดลูกสาวก็ดีเหมือนกัน ครั้งหน้าค่อยคลอดหลานชายให้แม่ เหมยเอ๋อร์ สบายใจได้ เธอคลอดใครมาพวกเราก็ดีใจทั้งนั้น อย่าเสียใจไปล่ะ”
คำพูดสุดท้ายหวางนิวพูดกับหลัวเหมย
สีหน้าหลัวเหมยค่อยดีขึ้นมาหน่อย
เธอคลอดลูกสาวออกมา ในใจเป็นกังวลมาก กลัวว่าพ่อแม่สามีจะไม่ชอบ กลัวว่าสามีจะไม่ชอบเธอ เพราะเธอชอบชีวิตในบ้านเฉิน เธอไม่อยากสูญเสียไป
เฉินจงเป็นหัวหน้าครอบครัว ถึงแม้หวางนิวจะพูดเยอะ แต่เธอเป็นคนตรงๆ ไม่มีพิษมีภัย มีอะไรก็พูดอย่างนั้น อีกทั้งเธอแต่งเข้ามา หวางนิวก็ดีกับเธอมาก
เฉินเยี่ยนคนนี้ก็คุยกันง่าย เฉินหู่ก็ดีกับเธอเช่นกัน เธอคิดว่านี่คือชีวิตที่เธอต้องกร
คลอดลูกสาว ในใจเธอกลัวมาก คิดไม่ถึงว่าพ่อสามีและสามีจะไม่โทษเธอเลย แม่สามีก็พูดจาเป็นปกติ แล้วยังปลอบเธอด้วย เธอค่อยโล่งใจ
เฉินเยี่ยนก็โล่งใจ เธอกลัวแม่จะไปทำสีหน้าใส่พี่สะใภ้จริงๆ ตอนนี้ดูเหมือนจะดีแล้ว
“แล้วลูกมีความเคลื่อนไหวหรือยัง?”
หวางนิวถามเฉินเยี่ยนอีก เธอคิดว่าเฉินเยี่ยนแต่งงานกับซินห้าวมาก็หลายเดือนแล้ว ควรจะมีความคืบหน้าได้แล้ว
“ยังค่ะ ซินห้าวบอกแล้ว ช่วงนี้ยุ่งมาก อีกสองปีค่อยมีก็ยังไม่สายค่ะ”
เฉินเยี่ยนก็ไม่รีบ
“ยังมีได้ก็รีบมีเถอะ อย่าเห็นว่าสามีพูดแบบนี้ ถึงเวลามีไม่ได้ เขาจะมาเร่งเอา อีกอย่างคุณปู่คุณย่าลูกฝั่งนั่นก็น่าจะรีบเหมือนกัน”
หวางนิวกลับไม่สบายใจ
“รู้แล้วค่ะ”
ปากเฉินเยี่ยนตอบรับ แต่สายตากลับเอาแต่มองทารกน้อย เธอรู้สึกมหัศจรรย์มาก
“ตั้งชื่อหรือยัง?”
เฉินเยี่ยนถาม
“ชื่อต้าหนี”
หวางนิวพูดชื่อออกมา หลัวเหมยก็ไม่คัดค้าน
เฉินเยี่ยน…
“แม่ คนต่อไปไม่ใช่ว่าจะเรียกเอ้อร์หนี ซานหนีนะ แม่ตั้งชื่อให้เพราะๆ หน่อยสิ”
เฉินเยี่ยนยอมแพ้จริงๆ
“งั้นลูกว่าชื่ออะไรดี?”
หวางนิวจ้องลูกสาว เธอคิดว่าชื่อต้าหนีเพราะดี
“เธอเกิดวันที่สิบหกเดือนหนึ่ง ถ้าจะชื่อฉือหลิวก็ยังเพราะกว่าต้าหนี”
เดิมทีเฉินเยี่ยนคิดว่าบ้านเฉินต้องตั้งชื่อเรียบร้อยแล้ว เธอเลยไม่ได้คิดเลย
“อะไรนะ? ชื่อฉือลิ่ว[1]? ไม่ได้ นี่มันชื่ออะไรกัน”
หวางนิวส่ายหน้า คิดว่าลูกสาวออกความคิดเห็นประหลาด
“ฉือหลิวค่ะ ที่แปลว่าต้นทับทิม ดอกทับทิม ไม่ใช่ฉือลิ่ว”
เฉินเยี่ยนไม่รู้จริงๆ ว่าแม่เธอฟังยังไง
“ฉือหลิวหรือ ก็ดีเหมือนกันนะ”
หวางนิวค่อยพยักหน้า เดิมทีเธอคิดจะตั้งว่าฮวาเอ๋อร์ แต่หลานสาวเธอชื่อฮวาเอ๋อร์หมดเลย ถ้าชื่อเหมย คนที่ชื่อเหมยก็มีเยอะเหลือเกิน อีกอย่างลูกสะใภ้ก็ชื่อเหมย ไม่ได้ ไม่มีชื่อดีๆ เลย ดังนั้นเธอเลยคิดถึงต้าหนี แต่ตอนนี้เฉินเยี่ยนบอกว่าฉือหลิวก็ไม่แย่นะ
“งั้นก็ชื่อฉือหลิวแล้วกัน ฉันก็ว่าเพราะดี”
หลัวเหมยก็เห็นด้วย
หลานคนแรกของบ้านเฉินเลยได้ชื่อแล้ว เฉินฉือหลิว ถึงแม้จะไม่เพราะมาก แต่ก็เพราะกว่าเฉินต้าหนีอยู่
เฉินเยี่ยนเห็นหลัวเหมยง่วงเลยให้เธอนอน
ฝั่งเฉินฉือหลิวก็หลับอย่างสบาย นานๆ ทีปากเล็กจะขยับ น่ารักมา เฉินเยี่ยนก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้ทำความสะอาดตัวเด็ก อากาศหนาวขนาดนี้ ถ้าเป็นหวัดขึ้นมา ความรับผิดชอบนี้เธอแบกไม่ไหว
แต่เฉินเยี่ยนชงน้ำตาลทรายแดงให้ฉือหลิวน้อย ให้หวางนิวค่อยๆ ป้อนให้ฉือหลิวน้อยดื่ม
ชาติที่แล้วเฉินเยี่ยนได้ยินคนบอกว่า ป้อนน้ำตาลทรายแดงให้เด็กกินจะช่วยป้องกันเด็กเป็นโรคดีซ่าน ยุคนี้การแพทย์ยังไม่ทันสมัย ไม่ว่าจะได้ผลหรือไม่ ยังไงก็ไม่เสียหาย
กินข้าวเที่ยงแล้ว รู้ว่าร่างกายหลัวเหมยไม่เป็นไร เฉินเยี่ยนก็สบายใจ
ถามถึงวันที่กินเส้นก๋วยเตี๋ยวชัดเจนแล้ว อีกเก้าวันหลังจากนี้ เฉินเยี่ยนกับซินห้าวก็กลับไป
ระหว่างทางกลับเฉินเยี่ยนพิงไปกับหลังซินห้าว
“พวกเรามีลูกสักคนดีไหม? ทางที่ดีคลอดลูกแฝดชายหญิงเลย ครั้งเดียวได้ทั้งลูกชายลูกสาว ฉันจะได้ไม่ต้องคลอดสองรอบ อีกอย่าง จะมีแผนคุมกำเนิดแล้ว ไม่ให้มีลูกเยอะ แต่ถ้าครั้งหนึ่งคลอดสองคน ก็จะดูน่าตกใจไปหน่อย”
เฉินเยี่ยนบ่นให้ซินห้าวฟัง เห็นเฉินฉือหลิวแล้ว ไม่รู้ว่าเธอมีความรู้สึกอยากเป็นแม่ได้ยังไง
“ยังไงก็ได้ คุณคลอด ผมก็ชอบ คุณไม่คลอด ก็ไม่เป็นไร เราอยู่กันสองคน”
ซินห้าวไม่คัดค้าน
[1] ฉือลิ่วแปลว่าสิบหก