ตอนที่ 2658 พลังของค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจขั้นสี่

เมื่อซือเฟิงเปิดใช้งานโลกจิ๋ว ท้องฟ้าเหนือป่าทะเลทรายก็มืดลงจนราวกับว่าเวลายามค่ำคืนมาถึงแล้ว

ในทันทีทุกคนในสนามรบรู้สึกราวกับว่าการรับรู้สภาพแวดล้อมของพวกเขานั้นหายไป ซึ่งมันราวกับว่าพวกเขาจมดิ่งลงไปในความว่างเปล่าสีดำสนิทโดยที่ไม่มีอะไรอยู่ในนั้น นอกจากผู้เล่นแล้ว แม้แต่มอนสเตอร์ Faux Saint ก็ยังต้องหยุดลง พลางหันซ่ายทีขวาทีอย่างไร้จุดหมาย ขณะที่ดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

หลังจากนั้นไม่นานแสงสีสันสดใสก็โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า โดยแสงนี้ให้ความรู้สึกศักสิทธิ์และยิ่งใหญ่มากๆ

ผู้เล่นที่เฝ้าชมจากระยะไกลนั้นได้มองเห็นบาเรียสายรุ้งขนาดมหึมาล้อมรอบป่าทะเลทรายทั้งหมดนอกเมืองปีกสีเงิน โดยบาเรียนี้ได้ทำการแยกป่าออกจากโลกภายนอกอย่างชัดเจน และทำให้ป่านี้ดูเหมือนกับภาพลวงตาเลย

ในขณะเดียวกันภายใต้บาเรียที่มีสีสันเหล่านี้ เหล่ามอนสเตอร์ Faux Saint ก็เริ่มกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และเสียงกรีดร้องของพวกมันก็ดังก้องไปทั่วป่า ในเวลาเดียวกันออร่าที่รุนแรงที่พวกมันแผ่ออกมานั้นก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว และแม้แต่ค่าสถานะพื้นฐานกับความเร็วในการตอบสนองของมันก็ยังลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งตอนนี้มันราวกับว่ามอนสเตอร์ Faux Saint ที่ทุกคนล้วนหวาดกลัวนั้นได้กลายเป็นมอนสเตอร์ทั่วไป ไปแล้ว ….

เมื่อได้เห็นฉากนี้ทุกคนในสนามรบต่างก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง

“นี่มันไม่แข็งแกร่งเกินไปหน่อยงั้นหรอ ?! ผู้ชายคนนี้สามารถจะสร้างดีบัฟให้กับมอนสเตอร์ Faux Saint หลายพันตัวเพื่อปราบปรามมันได้ในทันที !!! ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่ ?!”

ทีมนักผจญภัยต่างๆที่ทำหน้าที่คุ้มกันขบวนสินค้า และกองทัพลาดตระเวนที่ต่อสู้กับมอนสเตอร์กับ Faux Saint อยู่ล้วนจ้องมองไปยังซือเฟิงอย่างประหลาดใจ

พวกเขาเคยเห็นวงเวทย์ที่ถูกใช้ปราบปรามมอนสเตอร์มามากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยจริงๆที่พวกเขาได้เห็นวงเวทย์ที่สร้างความปั่นป่วนมากขนาดนี้ และมีเอฟเฟคมหาศาลขนาดนี้

Faux Saint Destroyers ตัวไหนก็แล้วแต่แบบสุ่มมันก็มากเกินพอแล้วที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามปวดหัวมากๆในการจะจัดการกับมัน

อย่างไรก็ตามตอนนี้ Faux Saint Destroyers หลายร้อยตัวกับถูกปราบปรามอย่างรุนแรงจนมันแข็งแกร่งกว่ามอนสเตอร์ระดับลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั่วไปก็ยังสามารถจะรับมือกับแกรนลอร์ดเหล่านี้ได้ สำหรับ Faux Saint Devourer ที่เคยดูยิ่งใหญ่ ตอนนี้มันก็ไม่ได้ต่างจากมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายโดยทั่วไปเลย และในสถานะปัจจุบันของมัน แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดขั้นสามในปัจจุบันก็จะสามารถต้านทานมันได้ช่วงระยะเวลาหนึ่งเลย

แม้แต่วงเวทย์ระดับปรมาจารย์ก็ไม่น่าจะสามารถให้ผลแบบนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นวงเวทย์ที่ซือเฟิงใช้มันยังครอบคลุมพื้นที่ป่าทะเลทรายทั้งหมด

ในตอนนี้แม้แต่ตัวซือเฟิงเองก็ยังรู้สึกประหลาดใจกับผลลัพธ์ของโลกจิ๋ว เขาไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขามาถึงที่มาตราฐานขั้นสี่ นอกเหนือจากความสามารถในการแสดงพลังของเทคนิคการต่อสู้ขั้นสูงออกมาในทุกการเคลื่อนไหวแล้ว ความสามารถในการควบคุมวงเวทย์ของเขายังจะดีขึ้นจนน่ากลัวเช่นกัน

ขณะนี้เอฟเฟคการปราบปรามของโลกจิ๋งสามารถเทียบได้กับเอฟเฟคของวงเวทย์ระดับปรมาจารย์ขั้นสูงเลย

แม้จะแปลกใจ แต่ซือเฟิงก็ไม่ได้หยุดลงชั่วคราว หลังจากเปิดใช้งานโลกจิ๋งแล้ว เขาก็พุ่งเข้าใส่ Faux Saint Devourer ทันที

ภายใต้การปราบปรามของโลกจิ๋ว ความเร็วของ Faux Saint Devourer นั้นลดลงอย่างมาก และในเวลาเพียงสองวินาที ซือเฟิงก็สามารถป้องกันและใช้ Abyssal Blade โจมตีโต้ตอบมันกลับไปได้

ซึ่งเส้นโค้งรูปจันทร์เสี้ยวจากการโจมตีของ Abyssal Blade ปรากฎขึ้น และมันก็ตัดผ่านไหล่ของ Faux Saint Devourer ไปทันที โดยที่ Faux Saint Devourer นั้นไม่ทันที่จะตอบสนองต่อการโจมตีนี้ได้ทันเวลา มันจึงถูกทำให้ปลิวกระเด็นเข้าไปชนกับต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปหลายหลา และค่าความเสียหายมากกว่าหกแสนก็ปรากฎขึ้นเหนือหัวของมัน ตอนนี้ความแตกต่างระหว่างกำลังรบของทั้งสองฝ่ายนั้นมันชัดเจนสำหรับทุกคนที่เห็น

“วงเวทย์นั่นมันคืออะไรกัน ? นี่ Faux Saint Devourer ไม่มีความแข็งแกร่งมากพอจะโต้ตอบกลับจริงๆงั้นหรอ ?”

บรรดามหาอำนาจต่างๆที่เฝ้าชมการต่อสู้จากเมืองปีกสีเงินต่างก็ตกตะลึง เมื่อได้เห็น Faux Saint Devourer เสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง ในความเป็นจริง ความเร็วในการตอบสนองของ Faux Saint Devourer นั้นไม่สามารถจะติดตามการเคลื่อนไหวของนักดาบได้ทันเลย

แม้ว่าพวกเขาจะชมอยู่ผ่านกระจกเวทย์มนต์ แต่พวกเขาก็สามารถบอกได้เลยว่าค่าสถานะพื้นฐานของ Faux Saint Devourer นั้นลดลงอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามค่าสถานะพื้นฐานของ Faux Saint Devourer ก็น่าจะมีเทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายในเลเวลเดียวกัน ซึ่งเมื่อบวกกับความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการต่อสู้ พลังการต่อสู้โดยรวมของมันจึงน่าจะเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนได้เลย เพราะท้ายที่สุดแล้วค่าสถานะพื้นฐานของมอนสเตอร์ขั้นสี่นั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย

อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้เลย ตอนนี้ Faux Saint Devourer แทบไม่สามารถจะป้องกันตัวเองจากการโจมตีของซือเฟิงได้ด้วยซ้ำ และ HP ของมันก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง มันไม่สามารถจะติดตามการเคลื่อนไหวของซือเฟิงได้ทันเลย

หลังจากได้เห็นสิ่งนี้ ทุกคนก็สามารถจะจินตนการถึงผลลัพธ์ที่รอ Faux Saint Devourer ตัวนี้อยู่ได้อย่างชัดเจน

ตาย !!

แม้ว่าการที่ซือเฟิงจะฆ่า Faux Saint Devourer ด้วยตัวเองจะเป็นไปไม่ได้ อันเนื่องมาจากมันมี HP ที่สูงมาก แต่ตราบใดที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเข้าร่วมการโจมตี ในท้ายที่สุด Faux Saint Devourer ก็จะตายลงแน่นอน

จนถึงวันนี้ นับประสาอะไรกับการฆ่า Faux Saint Devourer ที่เป็นมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย มหาอำนาจต่างๆยังไม่เคยฆ่า Faux Saint Destroyer ที่อยู่ในระดับแกรนลอร์ดได้เลยด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามตอนนี้ ซือเฟิงกับสามารถทำปาฎิหาริย์นี้ให้เกิดขึ้นได้สำเร็จ โดยอาศัยวงเวทย์แค่วงเดียว นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลย

หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่ถึงสิบนาทีหลังจากที่ซือเฟิงเปิดใช้งานโลกจิ๋ว บรรดา Faux Saint Saboteurs ทั้งหมดในสนามรบต่างก็ตายลงไปภายใต้เงื้อมือของกองทัพลาดตระเวนแล้ว ในขณะที่ HP ของ Faux Saint Destroyers ส่วนใหญ่ก็ลดลงเหลือน้อยกว่าครึ่ง สำหรับ Faux Saint Devourer ที่มีซือเฟิง เพอเพิ้ลอาย และผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอีกหลายสิบคนโจมตีมันอยู่นั้น ตอนนี้ HP ของมันลดลงต่ำกว่าเจ็ดสิบเปอเซ็นต์แล้ว

ผู้เล่นในปัจจุบันนั้นอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้เห็นฉากนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสมาชิกของทีมนักผจญภัยต่างๆ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในที่สุดสถิติไร้พ่ายของมอนสเตอร์ Faux Saint จะต้องจบลงที่นี่

ก่อนหน้านี้มหาอำนาจต่างๆรวมไปถึงผู้เล่นนั้นล้วนหวาดกลัวมอนสเตอร์ Faux Saint อย่างมาก และแค่ Faux Saint Destroyers ที่เป็นมอนสเตอร์ระดับแกรนลอร์ดนั้นก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับผู้เล่นโดยทั่วไปที่จะฆ่ามัน ไม่ต้องพูดถึง Faux Saint Devourer ที่เป็นมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายเลย

อย่างไรก็ตามตอนนี้การจะฆ่าแกรนลอร์ด และมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายเหล่านี้จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ซึ่งตอนนี้ไม่เพียงแต่มันจะช่วยเพิ่มความหวังในการอยู่รอดของอาณาจักรสตาร์มูนเท่านั้น แต่การเข้ายึดดินแดนที่เสียไปของอาณาจักรกลับคืนมาก็ยังพอมีความเป็นไปได้ด้วย และเมื่อตอนนั้นมาถึง ผู้เล่นก็จะสามารถพัฒนาต่อไปได้ในอาณาจักรสตาร์มูน และจักรวรรดิออร์คเช่นเดิม

“ฉันไม่รู้ว่าคนๆนั้นเป็นใคร แต่หลังจากการต่อสู้ในครั้งนี้ มันมีแนวโน้มสูงมากว่าสถานการณ์ในอาณาจักรสตาร์มูนจะเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวด้วยรอยยิ้มมุมปาก เมื่อเธอเห็นซือเฟิงกำลังทำการปราบปราม Faux Saint Devourer ผ่านกระจกเวทย์มนต์

ก่อนหน้านี้มอนสเตอร์ Faux Saint ที่มีสถิติไร้พ่ายนั้นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มหาอำนาจต่างๆ รวมไปถึงผู้เล่มากมายต่างหวาดกลัวมือแห่งนักบุญ และในตอนนี้แม้ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จในการฆ่ามอนสเตอร์ Faux Saint เพียงเล็กน้อยในอาณาจักรสตาร์มูน แต่หากข่าวความสำเร็จในครั้งนี้แพร่กระจายออกไป มือแห่งนักบุญก็จะไม่สามารถแสดงความหยิ่งผยผองและเอาแต่ใจออกมาได้มากเท่าเมื่อก่อนแน่นอน

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่มหาอำนาจต่างๆที่ซ่อนอยู่ภายในเมืองปีกสีเงินกำลังคิดว่ากองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint นั้นกำลังจะประสบกับความพ่ายแพ้ หอกสายฟ้าที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้างหลายโหลก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า และโจมตีเข้าใส่ซือเฟิงกับคนอื่นๆที่กำลังโจมตี Faux Saint Devourer อยู่ ซึ่งความเร็วและพลังของหอกสายฟ้านี้ก็น่ากลัวมากๆจนมันทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่ายี่สิบคนกลายเป็นไอทันที

พร้อมกับการโจมตีของหอกสายฟ้านี้ที่เข้ามา ทันใดนั้นบาเรียเวทย์มนต์สองชั้นก็ปรากฎขึ้นรอบๆ Faux Saint Devourer ที่บาดเจ็บสาหัส และทำการปกป้องมันเอาไว้ ซึ่งแม้แต่คำสาปขั้นสามของเพอเพิ้ลอายก็ยังไม่สามารถจะโจมตีทะลุบาเรียนี้ไปได้

ก่อนที่ใครจะทันได้ตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่พัฒนาไปอย่างฉับพลันนี้ได้ มันก็มีร่างมากกว่าหนึ่งร้อยร่างที่โผล่ออกมาอย่างรวดเร็วจากป่าโดยรอบ และร่างเหล่านี้ก็ได้เข้าไปยืนอยู่ข้าง Faux Saint Devourer ทันที ซึ่งมันก็ชัดเจนว่าพวกเขานั้นยืนอยู่คนละฝั่งกับซือเฟิงและคนอื่นๆ โดยร่างเหล่านี้นั้นล้วนแผ่ออร่าที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับแกรนลอร์ดในเลเวลเดียวกันออกมา

“พวกคุณเป็นใคร ? แล้วนี่พยายามจะทำอะไร ?”

หลังจากเพอเพิ้ลอายเห็นเพื่อนของเธอถูกฆ่า และ Faux Saint Devourer ได้รับการปกป้องจากบาเรียเวทย์มนต์สองชั้น ความโกรธที่ไม่อาจจะอธิบายได้ก็ปรากฎขึ้นในจิตใจของเธอ ตอนนี้เธอจ้องมองไปยังผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าหนึ่งร้อยคนในชุดเสื้อคลุมสีดำที่ปรากฎตัวขึ้นมาอย่างกระทันหันด้วยความโกรธ

หากไม่ใช่เพราะผู้มาใหม่เหล่านี้มีออร่าที่เทียบเท่ากับแกรนลอร์ดในเลเวลเดียวกัน เธอคงจะเลือกที่จะโจมตีพวกเขาไปแล้ว อย่างไรก็ตามสัญชาตญาณของเธอบอกเธอว่าเธอไม่ควรทำแบบนั้นเลย เพราะท้ายที่สุดตราบใดที่เธอลงมือ เพื่อนของเธออีกกนับสิบจะตายลงทันทีแน่นอน
ในเวลาเดียวกันชายร่างสูง หัวล้าน ที่มีดวงตาสีทองก็เดินออกมาจากกลุ่ม และเมื่อชายหัวล้านมองไปที่เพอเพิ้ลอาย เขาก็ยิ้มและกล่าวว่า “ผู้บัญชาการเพอเพิ้ล ไม่ได้เจอกันนานนะ คุณยังจำฉันได้ไหม ?”

เมื่อได้เห็นการปรากฎตัวของชายหัวล้านคนนี้ บรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมาก และการแสดงออกของเพอเพิ้ลอายก็ดูรุนแรงขึ้น

“เธ้าซั่นอาย !! ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ ?!” เพอเพิ้ลอายกล่าวขณะที่ใบหน้าของเธอมืดมนลง และเธอก็มองไปยังชายหัวล้านคนนี้อย่างหวาดกลัว “นี่มือแห่งนักบุญกำลังพยายามจะทำอะไร ?!”

สาเหตุที่เธอกลัวชายหัวล้านที่ชื่อเธ้าซั่นอายนี้นั่นก็เป็นเพราะ เขาเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการของสามกองกำลังหลักของมือแห่งนักบุญ แถมเขายังเป็นสัตว์ประหลาดที่เป็นผู้รับผิดชอบในการนำกองกำลังเข้ายึดเมืองกิลของพันธมิตรดวงดาว ค่าสถานะพื้นฐานของเธ้าซั่นอายนั้นเทียบได้กับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายทั่วไปเลย เขาได้ฆ่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนที่ศาลาลับส่งมาเพื่อช่วยเหลือพันธมิตรดวงดาวลงไปในทันที

“ฉันยังจำเป็นต้องพูดอีกงั้นหรอ ? มันก็เป็นเพราะคนของคุณไปไกลเกินไป นั่นคือเหตุผลที่เราต้องออกมาหยุดคุณ …” เธ้าซั่นอายกล่าว

“คุณหมายความว่าไง ?” เพอเพิ้ลอายถาม

“มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่มอนสเตอร์ Faux Saint จะเข้ายึดครองทวีปด้านตะวันออก เพราะท้ายที่สุดพวกมันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และผู้เล่นอย่างพวกเราก็จะไม่สามารถหยุดมันได้เลย ดังนั้นทางเลือกเดียวของพวกเราคืออยู่ร่วมกับพวกมัน แต่ตอนนี้คุณกับคิดจะฆ่า Faux Saint Devourer ที่พึ่งโผล่ออกมา ซึ่งมันเป็นเหมือนกับราชันของมอนสเตอร์ Faux Saint นี่มันรังแต่จะสร้างความโกรธให้กับมอนสเตอร์ Faux Saint Devourer เพิ่มขึ้นเท่านั้น และมอนสเตอร์ Faux Saint เหล่านี้อาจจะเพิ่มจำนวนการโจมตีมากขึ้นด้วยในระหว่างวันนะ …” เธ้าซั่นอายกล่าว “ดังนั้นเรามาเพื่อหยุดไม่ให้คุณทำอะไรโง่ๆ !!! และซ้ำเติมสถานการณ์ปัจจุบัน !!!”

คำพูดของเธ้าซั่นอาย ทำให้สมาชิกในทีมนักผจญภัยหลายคนหยุดลงชั่วคราว

มอนสเตอร์ Faux Saint หลายพันตัวที่นี่เป็นเพียงมอนสเตอร์ Faux Saint กลุ่มเล็กๆจากจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนในอาณาจักรสตาร์มูน ยิ่งไปกว่านั้น มันก็เป็นเช่นเดียวกับที่เธ้าซั่นอายได้กล่าวมา มอนสเตอร์ Faux Saint เหล่านี้ค่อนข้างจะเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างไม่น่าเชื่อ ตราบใดที่ผู้เล่นฆ่าพรรคพวกของพวกมันไปเป็นจำนวนมาก มันก็จะจัดกองกำลังใหญ่กว่ามาตามล่าผู้เล่นต่อทันที และแม้ว่าผู้เล่นอาจจะสามารถป้องกันการโจมตีหลายครั้งจากกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว กองทัพมอนสเตอร์พวกนี้ก็จะจัดกองทัพมาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเพื่อจัดการกับผู้เล่นลงให้ได้อยู่ดี ผลลัพธ์ในท้ายที่สุดมันจะเหมือนเดิม หากผู้เล่นไปสร้างความโกรธเคืองให้กับพวกมัน

ถ้าพวกเขาฆ่า Faux Saint Devourer ซึ่งเป็นเหมือนกับราชาในหมู่มอนสเตอร์ Faux Saint ที่นี่ มันก็ไม่มีใครสามารถบอกได้เลยว่ามอนสเตอร์ Faux Saint ตัวอื่นๆจะทำอะไรต่อไป และมันก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่พวกมันทั้งหมดจะเพิ่มการเคลื่อนไหวของตัวเองมากขึ้นทั้งในกลางวันและกลางคืน จนทำให้เหล่าผู้เล่นต้องเจอกับปัญหามากขึ้น นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่พวกมันจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมากๆ เมื่อเวลาผ่านไป

ในสถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่เพอเพิ้ลอายก็ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอะไรต่อเช่นกัน

ในขณะที่เพอเพิ้ลอายและหลายคนกำลังไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ดี เสียงที่สงบก็ดังเข้าหูของทุกคน

“ถ้าฉันอยากจะฆ่ามันไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ล่ะ ?”