บทที่ 334

เมื่อพูดเสร็จ เซียวชูหรันก็พูดต่อว่า “แล้วเธอไม่ต้องทำงานเหรอ?”

ต่งรั่งหลินแลบลิ้นออกมาแล้วพูดว่า “เดิมทีงานของฉันก็อยู่แต่ข้างนอกนี่แหละ อีกอย่าง ฉันอยู่ที่ตี้เหากรุ๊ป ยังไม่เคยพบประธานเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างเขาก็ควบคุมฉันไม่ได้หรอก เป็นพนักงานที่ไม่ได้มีใครสนใจ ดังนั้นถ้าไม่ได้ไปทำงานบางวันก็ไม่เป็นไรหรอก”

จากนั้น ต่งรั่งหลินจึงพูดต่ออีกว่า “แต่ว่าเธอมีงานต่อ งั้นฉันส่งพวกเธอสองคนกลับไปก่อนแล้วกัน”

เมื่อถึงที่จอดรถ เย่เฉินก็พบว่าท่านห้าหงยืนอยู่ข้ารถของต่งรั่งหลิน

รอยรถที่โดนเมื่อวานยังไม่ได้นับการซ่อม

เมื่อท่านหงห้าเห็นเย่เฉินเดินมา จึงรีบเข้าไปต้อนรับและกล่าวความเคารพว่า “คุณเย่ ไปเที่ยวมาสนุกไหมครับ?”

“ก็ไม่เลว” เย่เฉินเหลือบมองไปที่ด้านหลังของรถ จึงเห็นว่าซ่อมจนเหมือนกับของใหม่อย่างไงอย่างงั้น เลยกล่าวว่า “นายนี่ทำจากใจเลยนะ”

ท่านหงห้ารีบกล่าวอย่างเคารพว่า “ท่านอาจารย์เย่ พอดีมีร้านซ่อมรถอยู่ด้านข้างครับ เลยให้พนักงานเอาอุปกรณ์มา อันนี้ท่านจะกลับบ้านเหรอครับ?ต้องการให้เรียกคนไปส่งไหมครับ?”

เย่เฉินรีบโบกมือ ปฏิเสธไปว่า “นายไปทำอะไรของนายเถอะ เดี๋ยวพวกฉันกลับกันเอง”

“โอเคครับ หากท่านอาจารย์เย่มีอะไร สามารถเรียกหาผมได้ตลอดเลยนะครับ” ท่านหงห้าโค้งมือคำนับ จากนั้นก็จากไปพร้อมกับคนของเขา

เซียวชูหรันเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ส่ายหัวไปมาพร้อมกับพูดกับเย่เฉินว่า “ไม่รู้จริงๆว่าคนพวกนี้เป็นอะไร ทำไมถึงได้เคารพคุณขนาดนี้”

เย่เฉินยิ้มและกล่าวว่า “เป็นเพราะว่าฉันมีความสามารถ แค่นั้นไม่ได้เหรอ?”

เซียวชูหรันมองบนใส่เย่เฉิน พร้อมกับพูดว่า “คงเป็นทักษาะด้านฮวงซุ้ยใช่ไหมล่ะ?ตอนนี้พวกเขาดูเชื่อใจคุณมากเลยนะ หากรู้ว่าคุณหลอกพวกเขา อนาคตคงจะแก้แค้นคุณแน่ๆ คุณเองก็ควรระมัดระวังหน่อยแล้วกัน”

เย่เฉินยิ้มแต่ก็ไม่ได้เถียงอะไร

ทั้งสามคนขึ้นรถและมุ่งหน้าขับเข้าไปในเมือง

บนถนน ต่งรั่งหลินขับรถแล้วถามไปว่า “ชูหรัน อันนี้เธอกลับบ้านหรือว่าไปที่ไหน?”

“กลับบ้านสิ” เซียวชูหรันกล่าว “กลับบ้านไปจะไปพักผ่อนซะหน่อย วันจันทร์ก็ต้องกลับมามีพลังอีกครั้งให้ได้!”

ต่งรั่งหลินพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า “งั้นฉันไปส่งเธอสองคนกลับบ้านก่อนแล้วกัน แล้วฉันค่อยกลับโรงแรม”

เซียวชูหรันถามอย่างประหลาดใจว่า “ตอนนี้เธอยังอยู่ที่โรงแรมอีกเหรอ?”

ต่งรั่งหลินครวญครางพร้อมกับพูดว่า “ไม่อยู่โรงแรมแล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหนล่ะ ฉันก็อยู่ที่ป๋ายจินฮ่านกงมาตลอดแหละ”

เซียวชูหรันถาม “อยู่โรงแรมคนเดียวเงียบเหงามากใช่ไหม?ทำไมไม่หาซื้อบ้านสักหลังในจินหลิง?”

ต่งรั่งหลินยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “ซื้อบ้านอยู่คนเดียวมันลำบากกว่าอีก งั้นอยู่โรงแรมไม่ดีกว่าเหรอ ทุกวันมีคนมาเก็บกวาดห้อง ทำความสะอาดให้ อยากกินอะไรก็แค่โทรไป ก็จะมีรถมาส่งอาหารให้ถึงห้อง ซักผ้าก็แค่โทรไป เขาก็ขึ้นมารับแล้ว อบแห้งรีดเสื้อผ้าเสร็จถึงจะค่อยส่งมาให้ฉัน”

สำหรับคนที่เงินอย่างต่งรั่งหลินนั้น ดูเหมือนว่าจะใช้เงินในการประหยัดเวลาและประหยัดพลังงานของหล่อน

เซียวชูหรันจึงถามอีกว่า “แล้วเรื่องที่บ้านของเธอเป็นยังไงบ้าง?แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอยังมาอะไรกับเธออีกรึเปล่า?”

“ไม่แล้วล่ะ” ต่งรั่งหลินกล่าว “ฉันเคยร้องเรียนครอบครัวฉนไปก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาบอกว่าหลักฐานไม่เพียงพอ มันรับประกันไม่ได้ว่าสิ่งที่ฉันพูดมาทั้งหมดนั้นจะเป็นความจริง ลูกพี่ลูกน้องของฉันก็ไม่ค่อยอะไรแล้วล่ะ คงไม่กล้าทำอะไรฉันแล้ว”

ขณะที่พูดเธอก็มองไปที่กระจกหลัง มองเย่เฉินที่นั่งอยู่เบาะท้าย จากนั้นก็ขยับปากกล่าวว่า “ขอบคุณ”

ในใจของเธอนั้นรู้ดีว่า เย่เฉินเป็นคนตือนคนในตระกูลต่งไม่ให้พวกเขาทำอะไรกับตนอีก นั่นจึงทำให้พวกนั้นเจียมตัว

ดังนั้น จึงไม่รู้ว่าเย่เฉินนั้นช่วยตนเองมากี่ครั้งแล้ว

เซียวชูหรันรู้สึกสงสารต่งรั่งหลินเพื่อนสนิทคนนี้ มาทำงานที่จินหลิงคนเดียว พักอยู่ที่โรงแรมมาตลอด แถมยังเจอคนในครอบครัวทรยศและตามล่าอีก

…..

เมื่อคิดเช่นนี้ เธอจึงพูดกับต่งรั่งหลินว่า “รั่งหลิน ตระกุลหวังมอบบ้านพักให้กับเย่เฉิน อยู่ที่Tomson Riviera รอที่นั่นตกแต่งเสร็จแล้ว ฉันจะหาห้องให้เธอ เธอย้ายมาอยู่กับเราได้เลย”

“จริงๆเหรอ?!” ต่งรั่งหลินถามอย่างตื่นเต้น

เซียวชูหรันยิ้มแล้วพูดว่า “แน่นอนว่าจริงอยู่แล้ว!เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน จะโกหกเธอได้ไงกัน?”