ตอนที่ 293

Rise of The Undead Legion

Chapter 293 : Lakhbar ผู้อมตะ

 

Bud วิ่งผ่านประตูวาร์ปมาเปลี่ยนเป็นร่างเงาเพื่อหลบการโจมตีจากทหาร ตอนที่มาถึงประตู Bud ได้เหวี่ยงหมัดเข้าที่หินบนประตูวาร์ปจนทำลายมันได้
รอยแตกแผ่ออกไปตามประตู แสงจากประตูวาร์ปสลัวจนดับลง ตอนนี้เป็นการต่อสู้ในพื้นที่ปิด นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับ เดฟ ในการสู้กับราชาโดยไม่มีทหารด้านนอกเข้ามาช่วย
Tiny ได้ส่งอันเดตทั้งหมดออกมา อันเดตของเขาได้ประจำตำแหน่งตัวเองเป็นขบวนรบ พวกโจมตีใกล้อยู่ด้านหน้า พวกโจมตีไกลและนักเวทย์อยู่ด้านหลัง Dunlord แบกกัปตันอันเดตและมันติคอร์หกตัวได้ก่อขบวนทั่วห้องโถง
“ บดขยี้พวกมัน ! “ – เดฟ ตะโกน
แรนเจอร์ได้ยิงธนูเข้าใส่พวกทหาร ส่วนพวกโจมตีใกล้ได้ยั้งพวกนั้นเอาไว้ เดฟ สะบัดง้าวและสั่ง Grumpy วิ่งไปที่แนวหน้า
เขาสะบัดง้าวไปทางซ้ายขวาจนสร้างดาเมจมหาศาลใส่พวกทหารที่เข้ามาใกล้เขา เดฟ สะบัดมือเรียกหัวกะโหลกใหญ่กว่าเดิม 8 เท่าออกมา  หัวกะโหลกเหล่านี้มีขนาดเท่ากับลูกบอล พวกมันลอยอยู่รอบตัว เดฟ และระเบิดทหารที่เข้ามาใกล้จนทำให้มันเซ

-160,555

-180,668

-159,555

-160,555

-180,668

-159,555

ดาเมจสีแดงโผล่มารอบตัว เดฟ จากหัวกะโหลกที่ระเบิด
“ พวกอันเดตสกปรก ! “ – ราชาคำรามออกมาและตัวเริ่มขยายขึ้นมา หน้าที่เป็นมนุษย์นั้นบิดเบี้ยวและฉีกขาดออกเผยให้เห็นใบหน้าที่ไร้ผิว ชุดสีขาวถูกเผาเป็นเถ้าและผิวหนังสที่เหลือบนร่างกายก็ถูกสูบเข้าไปในเนื้อ กระดูกโผล่ออกมาจนเกิดปีกออกมาจากหลัง  ราชาตอนนี้กลายเป็นมอนเตอร์ที่น่ากลัว
“ โคตรน่าเกลียดเลย ! “ – เดฟ พูดขึ้น
มันมีทหารเป็นร้อยที่สู้กับอันเดตของเขาแต่ เดฟ มีได้เปรียบโดยเฉพาะมันติคอร์ที่คอยจัดการทหารได้ง่ายๆ
ราชาเห็นว่ากองทัพเสียเปรียบจึงตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย มันยื่นมือออกมาแล้วกางมือออกเผยให้เห็นลูกตาเล็กๆ
“ ตาย ! “ – ราชาตะโกนขึ้นมา
ลำแสงสีม่วงถูกยิงออกมาจากฝ่ามือ ลำแสงนั้นพุ่งทะลุอกมันติคอร์ตัวหนึ่ง

-555,000

มันติคอร์เสียเลือดไปกว่าครึ่งด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“ เหี้ย ! “ – เดฟ สบถออกมา – “ Dunlord กิ้งก่า ! เอาเลย ! “ – เดฟ ตะโกน
Dunlord ชี้หน้าไม้ยิงเข้าใส่ราชาที่ลอยอยู่ กิ้งก่าเองก็ยิงหนามที่หลังออกไปใส่ราชา
ลูกดอกพุ่งทะลุเนื้อของราชาจนฝังไว้กับตัวมัน ราชาตกลงมาที่พื้นไม่อาจจะเคลื่อนไหวได้อีก
อันดตของ เดฟ ได้ฆ่าทหารทั้งหมดแล้ว น่าเสียดายที่มันไม่ดรอปของออกมา ร่างกายของพวกมันสลายไปหลังจากที่พวกมันตาย
เดฟ ค่อยๆเดินเข้าไปหาศพ
อันเดตทุกตัวได้มารวมตัวกัน พวกเขาระวังตัวกันอย่างมาก
มือของราชาขยับ
“ เหี้ย มันยังไม่ตาย ! “ – เดฟ ฟาดง้าวเข้าใส่หัวของบอส
แต่ราชามีอีกแผน มือของมันยื่นขึ้นมาจับง้าวเอาไว้ มันลุกขึ้นยืนแล้วสลัดลูกดอกทั้งหมดที่ฝังตัวมันออก
เดฟ ยากที่จะดึงง้าวออกมาจากมือราชาได้ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนไปใส่ถุงมือ เดฟ ต่อยเข้าใส่ที่หน้าราชาจนเกิดไฟรูปกรวยขึ้นมาในจุดปะทะเผาผมของราชาไปแต่ราชานั้นไม่สะดุ้งเลยแม้แต่น้อย
ราชาปล่อยง้าว อาวุธได้ตกลงมาที่พื้น
“ ฉันเป็นอมตะ ! ดาร์ก แกฆ่าฉันด้วยการโจมตีพวกนี้ไม่ได้หรอก “
เดฟ ไม่ฟังที่บอสพูด เขาเตะเข้าที่หว่างขาของบอส
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดฟ เอียงหัวถาม – “ เอาจริงดิ ?”
บอสไม่ได้ตอบและให้รางวัลแบบเดียวกัน บอสเตะเข้าที่หว่างขาของ เดฟ จนทำให้เขากระเด็นออกไป
เดฟ ร่วงลงมากับพื้นแล้วบ่นออกมา – “ เหี้ยเอ้ย เจ็บนะเว้ย “ – เขากำหว่างขาตัวเองแล้วร้องออกมา แม้ว่าเกมจะลดความรู้สึกเจ็บได้แต่การเตะที่จุดนี้ยังไงก็เจ็บอยู่ดี
ขนาดตัวบอสใหญ่ขึ้น กระดูกได้โผล่มาจากแขน พวกมันเปลี่ยนเป็นมืออีกอัน หน้าที่ไร้ผิวเริ่มมีเกล็ดโผล่มาและหัวก็มีเขาสองเขางอกขึ้นมาด้วย
“ ใช่ บอสหลายขั้นสินะ มันจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆด้วย เดาว่าฉันต้องฆ่าแกอีกหลายครั้งสินะ “
เดฟ ตรวจสอบเลือดของบอส ตอนนี้บอสมีเลือด 1.6 ล้าน
“ โจมตีต่อ ! “ – เดฟ สั่งการ มือของเขาขยับท่านินจา มีไฟมารวมตัวกันรอบ เดฟ และพุ่งออกไปเมื่อ เดฟ ชี้นิ้ว
ลูกไฟสองอันลอยอยู่เหนือหัว เดฟ เขาชี้ไปข้างหน้าและยิงเข้าใส่ราชา
บอสโดนระเบิดจนตัวเซ กิ้งก่าของ Dog พุ่งเข้าชนกับบอส บอสใช้มือของมันฟาดเข้าใส่กิ้งก่าแต่ Dog ได้ฟาดแส้ขัดการโจมตีเอาไว้ ตาของกิ้งก่าส่องแสงออกมา เพราะเลเวลที่ต่างกันระหว่างบอสกับกิ้งก่าจึงทำให้บอสไม่ได้แข็งเป็นหิน ดังนั้น Grumpy จึงตัดสินใจใช้ [Petrifying Gaze] ช่วย ตอนที่ตาของ Grumpy ส่องแสง บอสแทนที่จะเป็นหินรึช้าลงนั้นกลับไม่เป็นอะไรเลย
เขาพึมพำออกมา – “ ฉันคิดว่า…ฉันเข้าใจแล้ว”
ทันใดนั้นก็มีแจ้งเตือนโผล่มาตรงหน้า เดฟ
***
[Blessed one] พัฒนา จากนี้สกิลจะได้ผลกับแค่ Lakhbar

***

“อะไรวะ ? ! “ – เดฟ ร้องออกมา มันไม่ยุติธรรม !
เดฟ วิ่งเข้าไปหา Grumpy แล้วปีนไปที่หลังของมันแล้วตะโกนขึ้นมา – “ Grump โยนฉันไป ! “
กิ้งก่าได้โยน เดฟ เข้าใส่หน้าของราชา เดฟ ต้องการทำแบบเดียวกับตอนที่เขาจัดการมันติคอร์แต่ราชาไม่ใช่มอนเตอร์กากๆ มันจับ เดฟ ไว้กลางอากาศแล้วฟาดเขาลงกับพื้น
เดฟ กระเด้งไปกับพื้นและรับดาเมจมหาศาล

-251,222

“ เหี้ยเอ้ย ! “- เดฟ สบถออกมา เขาไม่คิดว่าการตอบโต้ของบอสจะพัฒนาขึ้นแบบนี้

+80,000

ตัวเลขสีเขียวโผล่มาบนหัวของ เดฟ เขาหันกลับไปมองก็พบว่าพรีสนั้นฮีลให้เขาอยู่
เดฟ พยักหน้าให้กับพรีสและหันกลับไปมองบอส
“ ฉันจะใช้ทุกอย่างในการต่อสู้นี้ ถ้าแกคืนชีพขึ้นมาอีก แกคงมีเลือด 3.2 ล้าน “
เดฟ ไม่อยากคิดตอนที่บอสฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกสองครั้ง ไม่งั้นแล้วเลือดของบอสคงสูงเกินจนเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะฆ่ามัน
เขาทุบกำปั้นเข้าด้วยกันแล้วตะโกน – “ พวก ! เอาเลย ! โจมตีได้ตามใจ ! “
เดฟ วิ่งไปมาระหว่างอันเดตและพุ่งเข้าหาบอส บอสตัวใหญ่แค่ครึ่งหนึ่งของมันติคอร์แต่อันตรายกว่ามาก
เดฟ เปิดใช้ [Aura] และพุ่งเข้าใส่บอสด้วย [Dragon Kick]
บอสเห็น เดฟ ลอยเข้ามา มันไขว้มือทั้งสองข้างไว้ตรงหน้า เท้าของ เดฟ เตะเข้าที่แขนของบอส  บอสใช้มืออื่นฟาดเข้าใส่ เดฟ เดฟ ไม่ลังเลที่จะใช้ [Vertical Slash] เพื่อหลบ ตอนที่ตีลังกากลับหลังมานั้น เดฟ ได้ใช้ [Immortal Apparition] ไปโผล่ด้านหลังหัวบอส
“ ฉันคิดว่า…ฉันเข้าใจแล้ว “
มีแจ้งเตือนโผล่มาตรงหน้าบอส
***
[Immortal Apparition] ได้ถูกใช้กับ Lakhbar การทำงานไม่ได้ผล !
***

เดฟ ไม่สนใจแจ้งเตือนและต่อยด้วย [Dragon Fist] เข้าใส่ที่หลังหัวของบอส
หัวของบอสสะบัดเพราะแรงปะทะแต่ก่อนที่จะได้ทันตั้งตัว มันติคอร์ก็ได้ยิงหนามพิษเข้าใส่บอส พิษทำงานลดเลือดบอสไปมหาศาลแต่บอสก็พึมพำมาอีกครั้ง – “ ฉันคิดว่า….ฉันเข้าใจแล้ว”
พิษนั้นไร้ประโยชน์ไปทันที
เดฟ สบถออกมาอีกรอบ ถ้านานกว่านี้สกิลทุกอย่างจะไร้ประโยชน์และไม่มีอะไรนอกจากการโจมตีตรงๆที่ทำดาเมจบอสได้ นอกซะจากว่าพระเจ้าจะให้เขาต้านทานการโจมตีกายภาพได้ทั้งหมด งั้นเวทย์ใช้งานทั้งหมดก็ไร้ประโยชน์สำหรับ เดฟ
อันเดตยังคงเข้าโจมตีบอสต่อ กิ้งก่าใช้หนามที่หางของมันฟาดเข้าใส่บอสและกัดเข้าที่บอส ส่วน Dunlord ยิงลูกดอกออกมาอย่างต่อเนื่องจนทำให้มันเลือดไหล
เลือดของบอสลดลงอย่างรวดเร็วและตอนที่ตกที่นั่งลำบากบอสก็ได้คำรามออกมาแล้วสูบพลังงานสีดำรอบตัว มันอ้าปากออกมาแล้วยิงเอาลำแสงสีดำเข้าใส่อันเดตที่อยู่แนวหลัง
มีแจ้งเตือนการตายหลายอันโผล่มาตรงหน้า เดฟ นักเวทย์ ⅓ ของเขาตายไปเพราะการโจมตีนี้
เดฟ ปัดแจ้งเตือนทิ้ง เขาชั่งใจคิดตัวเลือกที่มี เขาควรใช้โหมดเทพรึต้องรอ ? สิ่งเดียวที่เขากังวลคือถ้าบอสฟื้นคืนชีพขึ้นมาตายอีกล่ะ
“ พวก ! เราให้มันรอดจากที่นี่ไม่ได้ ! เราคืออันเดต ! แสดงให้มันดูถึงความแข็งแกร่งของเรา ! “ – เดฟ ตะโกน
***
ฉายานักศิลปะแห่งสงครามทำงาน !
กองทัพของคุณจะมีดาเมจเพิ่มขึ้น 20%
อันเดตของคุณมีโอกาส 3.5% ที่จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาทันทีหลังจากที่ตาย 3.5%
***
“ สวย ! “
เดฟ วิ่งเข้าหาบอสพร้อมกับอ้าปากใช้ [Ray of Flames] ยิงเข้าใส่บอสจนทำให้มันกระเด็นอออกไป มันติคอร์จับตัวบอสไว้เพื่อตรึงบอสให้โดนไฟของ เดฟ
บอสคลั่งขึ้นมา มันดึงแขนจับมันติคอร์สองตัวฟาดเข้าด้วยกัน จากนั้นมันก็โยนมันติอคร์เข้าใส่อันเดตตัวอื่น
มีการตายเพิ่มขึ้นแต่อันเดตนั้นไม่ได้กลัวรึลังเล น่าแปลกใจที่อันเดตนักเวทย์ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาทันทีหลังจากที่ตายและเข้าร่วมการต่อสู้ต่อ นี่ต้องขอบคุณฉายาของเขา
Tiny ตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้ มันใช้มือฟาดเข้าใส่บอสแต่บอสปัดมันกระเด็นด้วยการเตะ
เดฟ ยังคงโจมตีบอสต่อด้วยทุกอย่างที่มี อันเดตเริ่มตายเร็วขึ้นเรื่อยๆ มันติคอร์ตัวหนึ่งตายไปและตอนนี้ก็เหลือแค่ 5 ตัวที่สู้อยู่
“ Tiny เอามันติคอร์ออกมาอีกตัว ! “
Tiny เรียกโลงศพออกมาแล้วดึงเอามันติคอร์ให้เข้ามาในห้องโถง
บอสพบว่าการต่อสู้นี้ยากขึ้นเรื่อยๆและตัวของมันก็เต็มไปด้วยบาดแผล สกิลของ เดฟ ใช้มาเกือบหมดแล้ว ต้องขอบคุณที่บอสเหลือเลือดแค่ประมาณ 1 แสน
บอสได้ใช้ความพยายามสุดท้ายรับมือการโจมตีที่เข้ามาแต่มันก็ยังต้องนอนราบไปกับพื้นเมื่อเจอการโจมตีจากพวกมันติคอร์
บอสร่วงลงไปเป็นครั้งที่สี่
ใจของ เดฟ เต้นรัว เขารอแจ้งเตือนการตายของบอสอย่างคาดหวัง
บอสตัวสั่น มันลุกขึ้นยืนแล้วคำรามออกมา หน้าตามันน่ากลัวกว่าเดิม เขาเริ่มใหญ่ขึ้นและขนาดตัวก็ใหญ่พอๆกับ Ash King  ปีกของมันตอนนี้ได้กลายเป็นปีกกระดูก มือทั้งหกของมันจับอาวุธใหม่ กระดูกบนเนื้อของมันได้สร้างตัวเป็นเกราะกระดูกเพื่อปกป้องร่างกาย
ใจของ เดฟ หล่นวูบ เลือดของบอสเพิ่มขึ้นเป็น 3.2 ล้าน
“ ก็ได้ เหี้ยเอ้ย แกอยากเล่นแบบนี้จริงๆใช่มั้ย ? ก็ได้ งั้นได้เวลาโหมดเทพแล้ว “