ตอนที่ 40

Kill the Hero

Kill the Hero 040

[กำจัดก็อบลินที่ซ่อนตัวจากเหล่าออร์ค เพื่อไปยังชั้นต่อไป]

 

ทันทีที่พวกเขาเข้าสู่ดันเจี้ยน แจ้งเตือนใหม่ก็ดังขึ้นในหูของผู้เล่นพร้อมกัน

ความเงียบค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามา

“สถานการณ์ถูกเปิดเผยอย่างชัดเจนแล้ว”

เป็นจองฮุนยองที่ทำลายความเงียบ

เขาสวมเกราะที่ทำจากหนังสีดำ และมีโล่ขนาดใหญ่บนหลังเหมือนกระเป๋าสะพายหลัง

“เนื่องจากเงื่อนไขของชั้นนี้ ไม่ยาก เราจะแยกกันที่ชั้น 1 แต่ถ้าเจอก็อบลิน อย่าต่อสู้ด้วยตัวคนเดียว อย่าลืมแจ้งทุกคนด้วย”

ไม่มีเสียงตอบรับ

เป็นเพราะแผนการได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้าแล้ว

จองฮุนยองพูดกับสมาชิกปาร์ตี้ต่อไป โดยไม่รอคำตอบ

“เอาล่ะ เริ่มงานกันเถอะ!”

“โอ้วว! ”

“ครับ! ”

ตามจองฮุนยอง เพื่อนร่วมทีมของเขาพาตัวเองผ่านป่าทึบพร้อมกับส่งเสียงอย่างกระตือรือร้น

อีกฝ่ายจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ฝ่ายนั้นไปในทิศตรงกันข้ามกับทิศที่ปาร์ตี้ของจองฮุนยองตัดสินใจสำรวจ

คนเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้คือคิมวูจิน

เขานั่งลงคนเดียว และไม่ขยับ

เขานึกถึงบทสนทนาที่เขาคุยกับจองฮุนยองในห้องน้ำ

‘การต่อสู้อยู่ที่ชั้น 2’

จองฮุนยองบอกแผนการของเขาในห้องน้ำ

เราจะทำตัวตามปกติในชั้นที่ 1 และจะกำจัดสมาชิกสมาคมหัวกะโหลกที่ซ่อนตัวอยู่ทันทีมาถึงชั้นที่ 2

ไม่มีการอธิบายเหตุผลของแผน

อย่างไรก็ตามนั่น ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ มีผู้คุ้มกันที่ไหนเคยอธิบายบ้าง ว่าทำไมพวกเขาถึงปกป้องอีกคนด้วยวิธีนี้?

ยิ่งไปกว่านั้น ไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าทำไม

‘เวลาที่แน่นอน’

คิมวูจินรู้เหตุผล

‘แม้จะเป็นดันเจี้ยนระดับ D+ แต่ 2 ชั้น ก็ยังเป็น 2 ชั้นอยู่ดี’

ความทรงจำของปาร์คอียอน ทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายร่วมมือกับสมาคมหัวกะโหลกไปกี่ครั้งแล้ว เขารู้ว่าจองฮุนยองเป็นลูกค้ารายใหญ่ของสมาคมหัวกะโหลก และจะวัดระดับความสามารถได้ยังไง

ในขณะเดียวกัน เขายังรู้ด้วยว่านักฆ่าจากสมาคมหัวกะโหลกนั้นมีความเชี่ยวชาญแค่ไหน

‘พวกเขาเคลียร์ดันเจี้ยนนี้ได้แน่นอน ด้วยคน 9 คน โดยไม่มีฉัน’

เว้นแต่ปาร์คอียอนจะจำความสามารถของพวกเขาผิด มันจะไม่มีปัญหากับพวกเขาทั้ง 9 คนแน่นอน

‘โดยเฉพาะคนที่ชื่อ มัตสึโมโตะ ฝีมือของเขาไม่ธรรมดาเลย’

หนึ่งในนักฆ่าที่ส่งมาจากสมาคมหัวกะโหลก คนที่ชื่อ มัตสึโมโตะ ฝีมือดีมาก

‘ผู้พิทักษ์แสงศักดิ์สิทธิ์…’

เพราะเขามีรัศมีแบบเดียวกันกับที่ทำให้ลีเซจุนเป็นวีรบุรุษ

คนที่มีฝีมืออย่างพวกเขาไม่มีปัญหาในการเคลียร์ดันเจี้ยน 2 ชั้นอยู่แล้ว

‘แต่พวกนั้นจะลำบาก ถ้าฉันวิ่งไปทั่ว’

อย่างไรก็ตาม ถ้าคิมวูจินทำตัวเป็นตัวแปร สถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน

ตัวอย่างเช่น ถ้าคิมวูจินหนีไปยังชั้นที่ 1

หรือเกิดปัญหา มีผู้เสียชีวิตมากกว่าสองคนขณะล่าคิมวูจิน

ในกรณีนี้ ถึงแม้ชั้นนั้นจะถูกเคลียร์แล้ว พวกเขาก็ยังต้องเผชิญกับอันตรายที่ใหญ่กว่าในชั้นถัดไป

เหนือสิ่งอื่นใด คิมวูจินมีประสบการณ์รอดชีวิตจากการลอบสังหารที่สมาคมหัวกะโหลกส่งมา

‘พวกเขาไม่มีสิ่งที่คล้ายกับดวงตาแห่งอนูบิส ดังนั้นพวกเขาอาจจะต้องการให้ฉันมีชีวิตอยู่ ถ้าเป็นไปได้’

ด้านสมาคมหัวกะโหลก คิมวูจินนั้น ไม่สามารถมองข้ามได้ ถึงแม้พวกเขาจะดูถูกคิมวูจินก็ตาม และที่สำคัญที่สุด พวกเขาต้องการให้คิมวูจินมีชีวิตอยู่ เพื่อรีดข้อมูล

หลังจากคำนึงถึงข้อจำกัดดังกล่าวแล้ว ทำให้การล่าคิมวูจินยิ่งยากขึ้น

‘ในสถานการณ์แบบนี้ กลยุทธ์ที่ดีที่สุดก็คือเคลียร์ชั้นที่ 1 อย่างเงียบ ๆ จากนั้น ไปยังชั้นที่ 2’

หลีกเลี่ยงปัญหาในชั้นที่ 1 ให้ได้มากที่สุด

พูดอีกอย่าง คือที่ชั้น 1 พวกเขาจะทำหน้าที่เป็นนักล่าที่คอยเฝ้าดูเฉย ๆ

พวกนั้นไม่สนใจว่าเหยื่อจะกินหญ้า ดื่มน้ำหรืออะไรก็ตาม

‘พวกเขาจะแค่เฝ้ามองฉันที่ชั้น 1 ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ตาม’

แน่นอนว่าพวกเขาไม่รังเกียจที่คิมวูจินจะสะสมศพออร์คที่จะกลายเป็นอาวุธเลือด และทหารของคิมวูจิน

คิมวูจินลุกขึ้น เมื่อเขาได้ข้อสรุป

 

จองฮุนยองเป็นผู้เล่นเลเวล 29 เป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งอย่างปฏิเสธไม่ได้

เพราะนักสู้อมตะเป็นรัศมีที่มีทักษะการต่อสู้ ทักษะการตัดสินใจ และแม้แต่ทักษะความเป็นผู้นำของเขาก็โดดเด่น

และเขายังเป็นนักวางแผนที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

“แล้วเขาเป็นยังไงบ้าง?”

“เขาล่าออร์คอยู่ตลอดเวลา เขามีทักษะมาก เป็นคนที่พิถีพิถัน เขาประยุกต์ใช้เลือดพิษ และวางกับดักร่วมกันได้ดีทีเดียว

“มีอะไรผิดปกติไหม?”

“ไม่มีเลย เขาแค่ล่า สิ่งเดียวที่พิเศษคือวิธีที่เขาทำกับศพแต่ละศพ มันเป็นเรื่องปกติที่ทำแบบนี้”

“จับตาดูเขาเอาไว้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับพฤติกรรม และความสามารถของเขา นั่นเป็นวิธีที่เราจะจับเขาได้อย่างไร้ปัญหา”

นั่นคือเหตุผลที่จองฮุนยองไม่ได้พาคิมวูจินไป แต่จับตาดูเขา

“นายกังวลมากเลยเหรอ?”

“นี่ พูดตรง ๆ นะ มันง่ายเหมือนเวลานอนกินเค้กไม่ใช่เหรอ? นักฆ่ากับผู้คุ้มกันอยู่ฝ่ายเดียวกัน อันที่จริงเขาจบเห่แล้ว ถึงเราจะทำอะไรเกี่ยวกับประวัติที่เราทำภารกิจล้มเหลวไม่ได้ก็เถอะ”

อย่างที่ได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ ทักษะของจองฮุนยองเป็นของจริง

เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะจริง ๆ มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประวัติของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

“งานไม่ยาก และเราได้คนละหนึ่งพันล้านวอน…ฉันรู้สึกว่าเราได้เงินมาง่ายเกินไป”

จากมุมมองของเขา ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเงินจำนวนมากขนาดนั้น เพื่อประวัติความล้มเหลวของตัวเอง

อย่างที่ลูกน้องของเขาพูดก่อนหน้านี้ นี่เป็นเกมที่เกือบจะจบแล้ว ในเมื่อกลุ่มของเขาทรยศคิมวูจิน

“สมาคมหัวกะโหลกใจดีเรื่องเงินเสมอ”

“ฉันไม่เข้าใจว่าเงินพวกนั้นมาจากที่ไหน”

นอกจากนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาร่วมมือกับสมาคมหัวกะโหลก

แต่เขาก็ไม่เคยคิดออก นั่นคือพวกเขาเป็นมืออาชีพ

ไม่มีปัญหาเรื่องการละความสนใจสักเล็กน้อย

“อย่าเสียสมาธิ”

อย่างไรก็ตาม จองฮุนยองได้ยึดเป้าหมายเป็นหลัก

“สมาคมหัวกะโหลกไม่ได้โง่ พวกเขาจะไม่ใช้เงินจำนวนมากกับงานง่าย ๆ ฉันแน่ใจว่าเจ้าคนที่ชื่อคิมวูจินต้องมีอะไรซ่อนเอาไว้แน่”

นั่นคือเหตุผลที่จองฮุนยองเป็นผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ

“ก่อนอื่น เราต้องหาทุกอย่างที่หาได้เกี่ยวกับเขาก่อน”

จองฮุนยองพูดขณะมองไปยังลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ เขา

“ฉันย้ำอยู่ตลอด อย่าล่า เวลาเหยื่อระวังตัวสูง ฆ่า เวลามันไม่รู้ตัวหรือประมาท”

จองฮุนยองค่อย ๆ มองไปรอบ ๆ พร้อมกับแนะนำนี้

“ถึงเวลาเปลี่ยนคนแล้วไม่ใช่เหรอ?”

ผู้หญิงสวมเกราะหนังน้ำหนักเบา และหมวกขนนกพยักหน้า

“ใช่ ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว แต่เขายังไม่มาเลย”

ทุกคนเงียบไปชั่วขณะ เพราะคนสังเกตการณ์ที่พวกเขาส่งไปเฝ้าติดตามคิมวูจินยังไม่กลับมา

บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้น

เห็นได้ชัดว่าทุกคนที่นี่รู้ถึงความสำคัญของการตรงต่อเวลาระหว่างการเฝ้าระวังมากขนาดไหน

“เราควรจะไปไหม?”

ผู้เล่นหญิงยกมือขึ้น

เมื่อเห็นดังนั้นจองฮุนยองจึงพูด

“ไม่ พวกเราทุกคนจะไปพร้อมกัน”

 

Kururu!

ภายในป่าทึบ ออร์คกำลังเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ

Keuaa!

ออร์คเคลื่อนไหวอย่างเร่งรีบ และตื่นตัวมาก

เห็นได้ชัดว่าออร์คสังเกตเห็นกลิ่นเลือดสด ๆ ที่ไหลออกมา

ในขณะเดียวกันก็มีสัญญาณว่าออร์คตัวนั้นหิวโหยมากกว่าที่เคยเป็น

Krrr!

อาหารที่มีกลิ่นเลือดปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาของมัน

ผู้เล่นตัวสั่นบนพื้น มีเลือดออก

Keuaaa!

ออร์คเริ่มวิ่งเข้าหาอาหาร เป็นการจัดโต๊ะไว้ให้พวกมันกินอย่างแท้จริง

ตอนนั้นเอง

ผู้เล่นคนหนึ่งที่ปรากฏตัวออกมา ได้ทุบหัวของออร์คด้วยค้อนขนาดใหญ่ในมือ

Puukk!

พร้อมกันนั้น เสียงบางสิ่งได้แตกออกอย่างรุนแรง ออร์คก็ร่วงลงสู่พื้น

มันเป็นการโจมตีที่พอที่จะฆ่าคนธรรมดาได้

Keukkk!

แต่ออร์คที่ล้มลง ขยับร่างกายขณะที่พยายามจะลุกขึ้น

Krrr!

น่าเสียดายที่กะโหลกของมันแตก และได้รับความเสียหายจนถึงสมอง มันทำลายประสาทสัมผัสอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสาทด้านการรักษาสมดุล

Puak!

เป็นอีกครั้งที่ออร์คล้มลงขณะที่พยายามจะลุกขึ้นจากพื้น

ผู้เล่นที่ถือค้อนเหวี่ยงลงไปที่หัวของออร์คอีกครั้ง

Puukk!

เสียงกะโหลกแตกดังขึ้นซ้ำ ๆ

ขณะนั้นจองฮุนยองที่ถือค้อนตะโกนออกมา

“เช็กสภาพจินอุก!”

ชายชุดเกราะพุ่งเข้าหาผู้เล่นที่อยู่บนพื้นทันที

ชายคนนั้นมีขวดไม้อยู่ทางซ้าย และมีแสงสีขาวส่องอยู่ในมือขวา มันหมายความว่าเขาได้ใช้งานทักษะรักษาของเขา

มันบ่งบอกว่าเขาเป็นฮีลเลอร์ และนั่นคือเหตุผลที่เขาสวมเกราะเหล็ก

ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะมอบอุปกรณ์ป้องกันอันแข็งแกร่งให้กับผู้รักษาที่กายภาพอ่อนแอ ในเมื่อการเคลื่อนไหวไม่สำคัญ

“อีกสองคน! ”

ในขณะเดียวกัน จองฮุนยองก็เรียกลูกน้องที่เหลืออีกสองคน

ทั้งสองคนรีบปรากฏตัวอย่างรวดเร็ว

Puukk!

จองฮุนยองตะโกนใส่ทั้งสองคน ขณะที่เขาฟาดค้อนไปยังหัวของออร์คอีกครั้ง

“สำรวจให้ทั่ว!”

เมื่อได้ยินคำสั่ง ลูกน้องทั้งสองได้สังเกตการณ์พื้นที่โดยรอบพร้อมกับถืออาวุธเอาไว้

จองฮุนยองเลิกสนใจออร์ค และเริ่มสำรวจพื้นที่

‘นี่มันอะไรกัน? ’

ตอนนี้ ดวงตาของจองฮุนยองแหลมคมราวกับสัตว์ร้ายตัวหนึ่ง

มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

การที่ฝ่ายค้นหาของเขาถูกโจมตีก็เหมือนกับการถูกควักดวงตา

นอกจากนี้ การเล็งไปที่ดวงตาของใครสักคนก็จำเป็นต้องมีความสามารถ

มันเป็นหลักฐานว่าศัตรูมีทั้งสติปัญญา และความสามารถ

‘ใคร? ’

แล้วศัตรูเป็นใครกัน?

จองฮุนยองยังไม่ได้สรุปว่าศัตรูเป็นใคร

แต่แล้วจองฮุนยองก็ได้ยินเสียงมาจากข้างหลัง

“อ้ากกก! ”

มันเป็นเสียงกรีดร้องของฮีลเลอร์ที่เข้าไปรักษาพันธมิตรที่ล้มลง

เมื่อจองฮุนยองหันหน้าไปตามเสียง เขาก็เห็นโครงกระดูกออร์ค 2 ตัว ที่มีดาบกระดูกอันน่ากลัวอยู่ในมือ พวกมันแทงลีอิลซุงกับคิมจินอุกที่ถูกตัดคอ

‘กับดัก!’

สถานการณ์นี้คือ ศัตรูได้ใช้เพื่อนร่วมทีมของพวกเขาวางกับดักฮีลเลอร์

“ศัตรู! ”

“โครงกระดูก! ”

จากนั้นลูกน้องทั้งสองที่กำลังสำรวจพื้นที่ก็บอกว่ามีศัตรู

จองฮุนยองหันกลับมาอีกครั้ง

จากนั้นเขาก็เห็นกลุ่มโครงกระดูกอยู่รอบตัวเขาแล้ว

มีโครงกระดูก 7 โครงที่กระดูกเป็นสีดำสนิท และทุกโครงก็ถือดาบที่ทำจากกระดูกเคลือบด้วยเลือดสีแดงเข้มอยู่ในมือ

เมื่อเห็นแบบนี้ จองฮุนยองก็ตะโกน

“รวม…”

รวมตัว!

เขาพยายามจะตะโกนสั่ง

Puhwat!

ถ้าคิมวูจินที่ซ่อนตัวอยู่ที่พื้นไม่ได้เข้ามาใกล้เขาจากทางด้านหลัง และปาดคอของเขาด้วยมีดในมือ เขาก็คงจะตะโกนออกมาได้

Huheop!

จองฮุนยองส่งเสียงออกมาขณะพยายามอ้าปาก

 

[คุณติดพิษจากเลือดพิษ]

 

หูของจองฮุนยองได้ยินแจ้งเตือนที่น่าหวาดกลัว

แต่จองฮุนยองไม่มีเวลามาพิจารณาการแจ้งเตือนนั้น

Puk!

เพราะคิมวูจินแทงดาบเข้าที่คอของจองฮุนยองอย่างไร้ความปรานี

Tukk!

จองฮุนยองทรุดลงแบบนี้เอง

“อ้ากกก! ”

ฮีลเลอร์ลีอิลซุงที่ถูกทหารโครงกระดูก 2 ตัวเข้าทำร้ายก็ล้มลง เพราะไม่อาจรักษาบาดแผลได้อีกต่อไป

ทหารโครงกระดูกตัวหนึ่งหันร่างไปหาเหยื่ออีกคนราวกับว่ามันไม่สนใจลีอิลซุงอีกแล้ว

“อุ อ่า! ”

“ฮยอง! ”

คนที่เหลืออีก 2 คนตกใจ และจ้องมองสิ่งที่เห็น

‘อุก พวกเราจะทำยังไงดี? ’

‘กะ เกิดอะไรขึ้น? ‘

เมื่อสายตาของพวกเขาหันไปทางคิมวูจิน หัวใจของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

สิ่งแรกที่ผู้เล่นที่เข้าร่วมกับสมาคมเมสสิอาห์ได้เรียนรู้คือคำเตือน

“นับจากนี้ไป อย่าไว้ใจใครนอกจากสมาชิกสมาคมของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในดันเจี้ยน”

มันแนะนำว่า ไม่ควรไว้ใจใครนอกจากผู้เล่นสมาคมเมสสิอาห์ เพราะตำแหน่งของสมาคมเมสสิอาห์เป็นศัตรูของผู้เล่นส่วนใหญ่

แม้แต่ในสมาคมเมสสิอาห์เอง คิมวูจินก็จัดการเฉพาะงานที่ยากที่สุดเท่านั้น

เขาพบผู้คนมากมายที่เข้าหาเขาด้วยเจตนาดี แต่ต่อมาก็เปลี่ยนสีหน้า และแสดงความเป็นศัตรูครั้งหนึ่งในดันเจี้ยน

แน่นอนว่าคิมวูจินเป็นผู้เชี่ยวชาญในการติดต่อกับคนเหล่านี้

การแทงข้างหลังก่อนที่จะถูกทรยศเป็นสิ่งสำคัญ

นั่นเป็นเหตุผลที่เขาจัดการกับปาร์ตี้ของจองฮุนยองก่อน

เพราะพวกเขาต้องทำเป็นใจดีมีเมตตา และลดความระมัดระวังลง เพื่อแทงข้างหลังคิมวูจิน และตอนนี้มันก็จบแล้ว

Puk!

ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจากปาร์ตี้ของจองฮุนยองถูกฆ่าด้วยดาบของทหารโครงกระดูก

 

[ทหารโครงกระดูก ฆ่าได้ 3 สถิติทั้งหมดเพิ่มขึ้น 9% จากผลของเอฟเฟกต์สกิลเจ้าแห่งสมรภูมิ]

 

คิมวูจินได้รับแจ้งเตือนถึงจุดจบของพวกเขาอย่างชัดเจน

ทันทีที่คิมวูจินได้ยินแจ้งเตือน เขาก็เข้าไปหาคนที่ตาย และสบตากับพวกนั้น

 

[ดวงตาแห่งอนูบิสได้เปิดออก]

 

นัยน์ตาสีดำเริ่มอ่านความทรงจำ

คิมวูจินเริ่มค้นหาสิ่งที่คนพวกนี้ตั้งใจจะทำกับเขา มีความสัมพันธ์แบบไหนกับสมาคมหัวกะโหลก และมีความสัมพันธ์กับสมาคมเมสสิอาห์ไหม

คิมวูจินพบวิธีที่พวกเขาจัดการกับเงินที่จากการทำผิดกฎหมาย

นั่นคือทั้งหมด

ระหว่างที่ทำแบบนี้ คิมวูจินจะไม่รู้สึกตัว

– เราต้องจับเป็นเขา? ดูเหมือนพวกนั้นอยากจะทรมานเขานะ ฮู่! เขาต้องพบเจอกับความยากลำบากก่อนตาย

– โชคร้ายอะไรอย่างนี้! ถูกทรยศ แล้วยังถูกฆ่าอีก เขาต้องตายตาไม่หลับแน่

– ช่างเถอะ ตอนที่ได้เงินมาแล้ว ฉันจะซื้อนาฬิกาแบบไหนดี?

ขณะนี้เองที่คิมวูจินเห็นว่าพวกนี้พูดเรื่องการทรยศเขาราวกับคิมวูจินเป็นของว่างพร้อมเครื่องดื่ม เขาก็ไม่ได้แสดงรู้สึกอะไรเป็นพิเศษ

ตอนที่เขาสบตากับจองฮุนยองที่ตายไปแล้วก็เหมือนกัน

คิมวูจินไม่ได้ใส่ใจแผนการที่พวกนั้นมีต่อเขา

– คุณกำลังบอกว่า ถ้าเราทรยศคนของปาร์คยองวานที่เราต้องคุ้มกัน คุณจะให้เงินห้าพันล้านวอนงั้นเหรอ?

– ถูกต้อง

– ห้าพันล้านวอนกับการแทงข้างหลังผู้เล่น …

– เงินน้อยไปเงินเหรอ?

– ไม่เลย ฉันจะทำงานนี้ให้ดี

– ขอบคุณ คุณคิมแจฮุน

มีสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของคิมวูจินเป็นพิเศษ

‘คิมแจฮุน’

ชื่อของเพื่อนร่วมงานที่เขาคุ้นเคยจากสมาคมเมสสิอาห์ได้ปรากฏขึ้น

‘ในที่สุดฉันก็เจอหางที่จะจับแล้ว’

คิมวูจินเงยหน้าขึ้น

ตอนนี้ ดวงตาของคิมวูจินกลับมาเป็นปกติแล้ว เขากำลังมุ่งหน้าไปที่แห่งหนึ่ง

คิมวูจินได้หยุดลงตรงบริเวณที่ก็อบลินตัวหนึ่งห้อยลงมาจากต้นไม้เหมือนซากศพ

คิมวูจินปามีดใส่ก็อบลิน

Puk!

มีดบินตัดชีวิตของก็อบลินที่แขวนไว้

 

[กำจัดก็อบลินที่ซ่อนตัวแล้ว]

[ดันเจี้ยนชั้นที่ 1 ถูกเคลียร์ ตอนนี้คุณไปยังชั้นที่ 2 ได้แล้ว]

 

คิมวูจินไม่คิดจะล่าอยู่ที่นี่ต่อไป