ตอนที่ 313 ลักลอบเข้าประเทศ โดย Ink Stone_Fantasy
“อาจารย์ เรื่องนั้นเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ท่านกับผมสามารถไปได้ ไปถึงพัทยาก่อน จากนั้นนั่งเรือไปฮ่องกง พอถึงที่นั่นก็จะมีคนมารับ!”
เดินไปด้านหน้าของชาญ ทองทวนอย่างกล้าๆกลัวๆในระยะห้าเมตร สมชายก็ทิ้งตัวลงคุกเข่าอยู่บนพื้น ดูเคารพนบนอบเหลือประมาณ
อาจารย์คุณไสยในประเทศไทยค่อนข้างเป็นที่นับถือมาก สมชายถึงแม้อยู่ที่ประเทศไทย แต่ก็พอมีหน้ามีตาอยู่บ้าง แต่หากชาญ ทองทวนจะฆ่าเขา ง่ายดายกว่าการบี้มดตัวหนึ่ง ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกแน่
“สมชาย เพื่อนของข้า เจ้าไม่ต้องกลัวขนาดนี้ อาจารย์คุณไสยไม่เคยแสดงวิชาใส่เพื่อน เจ้าลุกขึ้นยืนเถอะ!”
เสียงดังจากโลหะกระทบกันดังขึ้นระลอกหนึ่งด้านหน้าสมชาย เสียงเป็นพิษต่อโสตประสาทเป็นอย่างมาก แต่เสียงที่สมชายได้ยินนั้นราวกับเสียงกล่อมจากธรรมชาติ รีบก้มลงคำนับชาญ ทองทวนเป็นพัลวัน จึงได้ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างระวัง
แต่จิตใจของสมชายนั้นยินดียิ่งกว่าอะไรดี เขาไม่เชื่อคำของชาญ ทองทวนหรอก ครั้งที่แล้วอาจารย์คุณไสย คนนี้ก็ออกปากคุยกับคนอื่นว่าเป็นเพื่อนกัน แต่แค่พริบตาเดียวคนนั้นก็ถูกพิษตายแล้ว
“อาจารย์ เรือที่ผมหามาเป็นเรือสินค้า สามารถพาคนไปด้วยได้หกคน ไม่ทราบว่า อาจารย์จะพาผู้ติดตามไปด้วยกี่คน”
สมชายจะต้องยืนยันจำนวนคนที่จะลักลอบเข้าไป จึงได้รวมความกล้าถามออกมา ลอบสบสายตาไปยัง ชาญ ทองทวน แต่ทว่าพอได้สบตาก็รีบดึงสายตาคืนมาทันที
อาจารย์คุณไสยที่ยืนอยู่ด้านหน้านี้รูปร่างไม่สูงประมาณร้อยเจ็ดสิบกว่า แต่ด้านข้างค่อนข้างหนา ดูแล้วก็น่าจะพอ กับส่วนสูง ยืนอยู่ตรงนั้นก็เหมือนภูเขามนุษย์ก็ไม่ปาน รูปร่างกำยำแข็งแรง
นอกจาความอ้วน บนหน้าของชาญ ทองทวน ก็ไม่มีอะไรที่ผิดแปลกจากคนปกติ ในตอนที่เขากำลังคุยอยู่กับสมชาย สีหน้าตลอดเวลานั้นมีแต่ความยิ้มแย้ม เหมือนกับว่ายืนคุยอยู่กับเพื่อนเก่าที่รู้จักกันมานานก็ไม่ปาน
แต่หากกวาดสายตาไปบนตัวของชาญ ทองทวน ก็จะทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอยู่บ้าง
บริเวณเอวของชาญ ทองทวน มีเข็มขัดหลากสีผูกอยู่รอบเอว หากพิจารณาให้ดี นั่นเป็นงูที่ถูกผ่าให้แบนราบออก หัวงูยังแลบลิ้นยาวออกมาไม่หยุด
นอกจากนั้นบนขาของ ชาญ ทองทวน ทั้งสองข้างยังเต็มไปด้วยรอยสัก มีตะขาบยาวสิบกว่าเซ็นต์อยู่ข้างละตัว หากมองไปผาดๆ เหมือนรอยสักสีเขียว แต่ตะขาบมองดูเร็วๆ เหมือนกำลังขยับ อาจจะบอกว่าทั้งสองตัวนี้เป็นของจริง
นอกจากนั้น ดวงตาทั้งสองข้างของชาญ ทองทวนก็ไม่เหมือนคนทั่วไป เมื่อสบตาทำให้คนรู้สึกว่าถูกดึงดูดเข้าไป ในหัวจะเปลี่ยนเป็นเบลอและมึนชา
ดังนั้นหลังจากมองสบตาชาญ ทองทวนไปแล้ว สมชายก็รีบดึงสายตากลับมา ก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเอง ท่าทางแบบนั้นยิ่งกว่าตอนที่ไหว้แสดงความเคารพพระ ที่อยู่ในวัดเสียอีก
“ครั้งนี้ที่จะไปฮ่องกงนอกจากข้าก็ยังมีอีกคน สมชาย นายหยิบกล่องที่วางไว้ปากทางยกขึ้นไปไว้บนรถ ข้าจะไปเชิญเพื่อนของข้ามา!”
สีหน้าอวบอูมของชาญ ทองทวนปรากฏรอยยิ้มประหลาด โดยเฉพาะในตอนที่กล่าวถึงเพื่อน รอยยิ้มนั้นดูมีเลศนัยเป็นอย่างมาก
“ขอรับ อาจารย์!”
สมชายที่ก้มหน้าไม่ได้เห็นสีหน้าของชาญ ทองทวน รีบเดินถอยออกไปอย่างระวัง นำกล่องใหญ่ ที่อยู่ปากทางเข้ายกขึ้นมา
“บ้าจริง อีกหน่อยไม่ทำธุระกับอาจารย์คุณไสยแล้ว ข้าจะย้ายประเทศ!” กล่องนั้นไม่ได้หนักมาก แต่ด้านในปรากฏเสียงซ่าๆ ออกมา กลับทำให้สมชายขนลุกขึ้นมา อีกนิดเดียวเกือบโยนกล่องออกไป
สมชายถึงแม้จะรู้วิชาคุณไสย แต่ในฐานะคนไทย ก็รู้ว่าด้านในกล่องนี้บรรจุอะไรอยู่ นอกจากพวกงูพิษและแมลงแล้ว เขาคิดไม่ออกว่าด้านในจะมีอะไรอยู่อีก
ยกกล่องอย่างระวังวางลงในท้ายรถ สมชายเอามือพิงยืนอยู่ข้างรถ สายตาสอดส่องไปในหุบเขา เขารู้สึกอยากรู้ว่าเพื่อนที่อาจารย์ชาญ ทองทวน กล่าวถึงเป็นใคร
ต้องเข้าใจว่า อาจารย์คุณไสยถึงแม้จะได้รับความเลื่อมไสจากประชาชนคนไทย แต่ก็ยังปลีกวิเวกจากลุ่มคน พวกเขามักจะเก็บตัวสันโดษ ดังนั้นระหว่างอาจารย์คุณไสยด้วยกันเอง ยากที่จะเป็นเพื่อนกันได้
แต่ทว่าสมชายยืนรออยู่ที่ข้างรถเป็นเวลานาน ก็ยังไม่เห็นชาญ ทองทวนเดินออกมาจากตึกทรงยุโรป เขานัดคนเรือไว้มีเวลาจำกัด แต่ว่าต่อให้สมชายกล้าขนาดไหน เขาก็ไม่กล้าเข้าไปเร่งชาญ ทองทวนเป็นแน่ สีหน้าปรากฏแววเร่งรีบ
ในตอนนั้นเองชาญ ทองทวน ก็กำลังยืนอยู่บริเวณหน้าประตูของห้องหนึ่ง เขายืนอยู่ตรงนั้นมาสิบกว่านาทีแล้ว สีหน้าปรากฏแววขัดแย้ง มีหลายครั้งที่อยากยกมือผลักประตูเปิดออก แต่ก็ลดมือลง
“อาจารย์ ท่านไม่อนุญาตให้ลูกศิษย์รับเงินในประเทศ แต่ผมยังต้องกินต้องใช้ วันนี้ขอยืม “ตัว” มาใช้หน่อยแล้วกัน!”
หลังจากลังเลอยู่นาน ในที่สุดชาญ ทองทวนก็เปิดประตูออก พาร่างที่อวบอ้วนเบียดเข้าไปด้านใน
ห้องนี้ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีไฟ มีแสงไฟสาดรอดมาจากด้านนอก ด้านในห้องจะเห็นว่ามีเท้าของคนคนหนึ่ง และร่างเงาของคนที่นั่งอยู่
“สบายดีเหรอ” ชาญ ทองทวนเปล่งเสียงหนึ่งออกมาที่คนรอบข้างฟังไม่เข้าใจ ราวกับกำลังสวดบทสวด บนหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อที่ผุดพราย
“เพื่อนเก่า นายเรียบร้อยแล้วใช่มั๊ย” หลังจากกล่าวคำพูดนั้นออกมาแล้ว ชาญทองทวนพลันกัดนิ้วชี้ของตัวเอง แล้วกดไปบนหน้าผากของร่างเงาดำนั้น
ในตอนที่เลือดจากปลายมือแตะโดนหน้าผากของคนนั้น ร่างเงาที่นั่งในห้องก็ลืมตาขึ้นมา แสงสว่างพาดผ่านไปเมื่อคนผู้นั้นลุกขึ้นยืน
คนผู้นี้ร่างกายสูงใหญ่ สูงประมาณ 190 เซ็นติเมตรโดยประมาณ เมื่อซักครู่ที่นั่งลงอาจจะไม่ชัดเจน แต่พอยืนขึ้นมา ทำให้ชาญ ทองทวนผู้อ้วนท้วนสมบูรณ์กลายเป็นตัวเล็กขึ้นมา
“ไปกันเถอะ” สีหน้าของชาญ ทองทวนปรากฏรอยยิ้มขึ้น เขาเดินออกมาจากห้องก่อน และคนนั้นก็เดินตาม ด้านหลังเขาอย่างกับเงา
เมื่อออกมาจากห้องมืด รูปร่างหน้าตาของคนนั้นก็ปรากฏ อายุของเขาราว 35-36 ปี คิ้วหนาและตาโต รูปหน้ารวมกันทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว
นอกจากร่างกายสูงใหญ่และจุดสีแดงบริเวณกลางหว่างคิ้วแล้ว ดวงตาของเขา ก็ทำให้คนมองเหมือนต้องมนตร์สะกด เพราะในตอนที่เขามองไปข้างหน้านั้น สายตามีประกายหลุดลอย ลูกตาราวกับเพ่งไปที่จุดเดียวอย่างไงอย่างนั้น
“อาจารย์ มาแล้วเหรอ”
เห็นชาญ ทองทวนพาผู้ชายร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากตึกทรงยุโรป สมชายก็รีบออกไปต้อนรับ กระตือรือร้นเปิดประตูรถออกรอ ให้ทั้งสองคนเข้าไปนั่ง
ชาญ ทองทวน นั่งด้านหลังคนเดียว ส่วนชายวัยกลางคนนั่งตำแหน่งข้างคนขับ หลังจากสมชายสตาร์ทรถ เรียบร้อยแล้ว ชาญ ทองทวน ก็ถามขึ้นว่า “ไปเถอะ พรุ่งนี้เช้าน่าจะถึงฮ่องกงแล้วใช่มั๊ย”
“พรุ่งนี้ เช้าตรู่ก็ถึงฮ่องกงแล้วครับ คนที่จะมารับที่เรือผมได้จัดการไว้หมดแล้ว ถ้าอาจารย์จะกลับ แค่โทรหาคนนี้ เขาจะช่วยอาจารย์ดำเนินการเองครับ”
สมชายหมุนตัวกลับไป ส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้ชาญ ทองทวน ภายในใจพลันอุทานว่า “ตัวเองรอบนี้ขาดทุนแล้ว”
สมชายเป็นนายหน้ารายใหญ่ที่สุดของไทย ช่วยคนข้ามพรมแดนไปแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายสูง แต่ชาญ ทองทวนหาเขาเจอ และไม่ได้ให้เงินซักแดงเดียว แล้วยังต้องจัดเรือสินค้าให้เฉพาะ ให้ส่งตัวเองข้ามไป
“อืม เพื่อนเอย นายทำได้ไม่เลว ฉันพอใจมาก! ” ชาญ ทองทวนรับกระดาษแผ่นนั้นมามองชั่วครู่ ใบหน้าแสดงความพอใจออกมา ยื่นมือออกไปตบไหล่สมชาย
หมอคุณไสยที่ไทยได้รับความเคารพนับถือมาก แต่คนส่วนมากมักจะต้องใช้ชีวิตลำบาก เหมือนอาจารย์ของชาญ ทองทวนเป็นอาจารย์ดังระดับประเทศแต่กลับต้องยกภูเขานั้นให้ลูกศิษย์ ส่วนตัวเองไปอยู่ในป่าฝึกวิชา
ชาญ ทองทวนถึงแม้ในไทยจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงระดับอาจารย์ ไม่ได้รับการบูชาจากเชื้อพระวงศ์ รายได้ของเขามาจากการบริจาคของพวกลูกศิษย์
เดิมทีชาญ ทองทวนเป็นพวกละโมภในทรัพย์สินเงินทอง แต่วิกฤตเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปีที่ผ่านมา ทำให้เงินที่เขาเก็บหอมรอมริบกว่าล้านดอลล่าร์กลายเป็นฟองสบู่ไป
ถึงแม้หลังจากเกิดเรื่องชาญ ทองทวนได้ทำให้ผู้จัดการหุ้นอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น แต่เงินของเขาเอากลับคืน มาไม่ได้แล้ว นี่จึงทำให้ชาญ ทองทวนเข้าสู่ภาวะวิกฤต
ต้องทราบก่อนว่า อาจารย์คุณไสยเลี้ยงพวกแมลงหรือสัตว์มีพิษ จะต้องมีค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ บวกกับชาญ ทองทวนฝึกวิชาในการใช้ร่างคนตาย แค่รายจ่ายนี้ก็แทบทำให้เขาจมลงอยู่แล้ว
ในตอนที่ซ่งเสี่ยวหลงมาหาเขา และสัญญาจะให้ค่าตอบแทนหนึ่งล้านดอลล่าร์นั้น ชาญ ทองทวนก็เกิดความละโมภ หากว่าไม่ได้จะไปยังสถานที่ต้องห้ามนั่นแล้ว ชาญ ทองทวนตกปากรับคำไปตั้งนานแล้ว
ดังนั้นเมื่อได้รับโทรศัพท์ซ่งเสี่ยวหลง รู้ว่าเป้าหมายไปยังฮ่องกงแล้ว ชาญ ทองทวนก็ตอบรับคำอย่างไม่ลังเล
แต่ชาญ ทองทวนดูเผินๆ เหมือนอวบอ้วนโง่เขลา แต่จริงๆ แล้วระวังทุกอากัปกิริยา ถึงแม้เป้าหมายที่ซ่งเสี่ยวหลง พูดถึงจะเป็นแค่คนธรรมดา เขาก็ไม่ได้ชะล่าใจ นำเอา “เครื่องมือฆ่าคน” ที่อาจารย์ฝึกสำเร็จเมื่อหลายปีก่อนมาด้วย
ในตอนที่พระอาทิตย์ตกดิน รถก็มาถึงแหล่งท่องเที่ยวของไทยพัทยา ชาญ ทองทวนที่สวมใส่ชุดลายตารางหลากสี นอกจากจะอวบอ้วนแล้ว ปะปนกับนักท่องเที่ยวไปก็ดูไม่สะดุดตาเท่าไหร่นัก
ภายในท่าเรือเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา มีเรือสินค้าลำหนึ่งจอดอยู่ ไต้ก๋งคุมเรือกำลังมองออกไปยังชายฝั่ง
“สมชาย นายมาได้ซักที หากมาช้ากว่านี้ ฉันรอไม่ไหวแล้ว!”
รอจนกระทั่งชาญ ทองทวนขึ้นเรือไปแล้ว ไต้ก๋งก็บ่นใส่อารมณ์กับสมชายที่ยืนอยู่บนฝั่ง เดิมทีเขาแค่อยากจะแอบไปเงียบๆ ไม่ข้ามแดน แต่สมชายมีอิทธิพลที่ไทยเยอะมาก ตัวเขาเองจำต้องยอมทำ
“ปรีดา นายจะต้องคุ้มครองความปลอดภัยของคุณชาญ ทองทวนให้ดี!” สมชายมองไปที่ชาญ ทองทวนครั้งหนึ่ง แต่ไม่กล้าบอกสถานะที่แท้จริงออกมามิเช่นนั้นไต้ก๋งเรือจะต้องตกใจจนไม่ยอมเดินเรือแน่นอน
“สมชาย ฉันเดินเรือมายี่สิบกว่าปีแล้ว ไม่เคยเกิดปัญหาอะไรมาก่อน นายวางใจเถอะน่า!” ปรีดาโบกมือย่างไม่ใส่ใจ เงยหน้าขึ้นมองชาญ ทองทวนสองคนไป ในใจพลันรู้สึกเย็นเยือก
ชาญ ทองทวนในตอนนี้ก็คือชายร่างอ้วนที่ยิ้มแย้ม แต่คนที่รูปร่างสูงใหญ่นั่น กลับทำให้คนที่เห็นเกิดความเกรงกลัว โดยเฉพาะดวงตาที่เหมือนคนตาย ทำให้คนที่เห็นรู้สึกเย็นยะเยือก
……