ตอนที่ 1738 โจมตีนักปราชญ์โบราณ

อัจฉริยะสมองเพชร

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆

ตอนที่ 1738 โจมตีนักปราชญ์โบราณ

ฟึ่บ!

เกิดแสงสว่างวาบบนฉนวนที่ปิดกั้นหอความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ จางเซวียนกับจ้าวหย่ากระเด็นออกมา

“พวกคุณจะไปไหน?”

เด็กวัยรุ่นทั้ง 8 พร้อมกับกลุ่มคนจำนวนหนึ่งจาก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์เข้าตีวงล้อมจางเซวียนกับจ้าวหย่าทันทีที่ทั้งคู่ปรากฏตัว

“อะไรกัน? คุณยังอยากถูกซ้อมหรือ?” จางเซวียนคำราม

เขาอุตส่าห์ไว้ชีวิตเด็กพวกนี้ ยังไม่รู้จักสำนึกบุญคุณอีก คิดว่าจะเล่นงานเขาได้ง่ายๆหรือไง?

“พวกเราอยากท้าดวลอย่างชอบธรรมกับคุณ หนึ่งต่อหนึ่ง แต่คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้อาวุธหรืออสูร คุณกล้ารับคำท้าของพวกเราไหม?” เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งคำราม

“ท้าดวลอย่างชอบธรรม? แล้วเดิมพันคืออะไร?” จางเซวียนมองหน้าทั้งกลุ่มอย่างไม่แยแส

ถ้าไม่มีเดิมพัน เขาก็ไม่คิดจะเสียเวลาต่อสู้อย่างไร้ประโยชน์กับคนพวกนี้

ยังไม่ทันที่กลุ่มเด็กวัยรุ่นจะได้ตอบ เสียงนักปราชญ์โบราณคนหนึ่งก็ดังกึกก้อง “ก่อนหน้านี้ พี่หงเทียนได้มอบหยดเลือดของนักปราชญ์โบราณให้คุณ 5 หยด ถ้าคุณเอาชนะพวกเขาในการดวลได้ ผมก็จะมอบหยดเลือดของนักปราชญ์โบราณ 5 หยดให้คุณเป็นเดิมพัน!”

“นี่คือเดิมพันที่พวกเราพร้อมมอบให้ แล้วคุณมีอะไรจะเสนอ?”

“ผมมีอะไรจะเสนอ?” จางเซวียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า “ผมจะไว้ชีวิตพวกเขา!”

“….” นักปราชญ์โบราณรู้สึกเจ็บแปลบในอก

ถึงตอนนี้ก็ยังไม่แน่นอนว่าใครจะชนะดวลแถมผมยังเสนอจะมอบหยดเลือด5หยดของนักปราชญ์โบราณให้คุณด้วยแล้วนี่คือสิ่งที่คุณเสนอให้ผมหรือ?แน่ใจใช่ไหมว่าตัวเองจะชนะ?

“ถ้าคุณแพ้ คุณต้องมอบผืนผ้าใบสี่ฤดูให้พวกเรา!”

“จริงด้วย! คุณต้องนำผืนผ้าใบสี่ฤดูมาเป็นเดิมพัน!”

…..

เด็กวัยรุ่นคนอื่นๆตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน

แต่ยังไม่ทันจะสิ้นเสียง ก็เห็นจางเซวียนมองมาที่พวกเขาด้วยสายตาราวกับกำลังมองคนโง่เง่า “พวกคุณฝันไปหรือเปล่า? คิดว่าหยดเลือดของบรรพบุรุษเก่าแก่ของคุณเพียงไม่กี่หยดจะล้ำค่าพอให้ผมนำผืนผ้าใบสี่ฤดูออกมาเป็นเดิมพันหรือ?”

“ถะ-ถ้าอย่างนั้น…เราก็ไม่รับเดิมพันของคุณเหมือนกัน เพราะถ้าคุณแพ้ดวล พวกเราก็ไม่ได้อะไรจากการดวลครั้งนี้เลย!”

กลุ่มคนจาก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ประท้วงอย่างโกรธเกรี้ยว

นักปราชญ์โบราณของ100 สำนักแห่งนักปราชญ์ยิ่งเจ็บปวดหัวใจกว่าเดิม

“มันไม่ใช่กงการอะไรของผมเลยนี่ จริงไหม? ผมไม่ได้สนใจอยากดวลกับพวกคุณสักหน่อย ถ้าคุณไม่อยากสู้กับผม ก็ยกเลิกการดวลซะ” จางเซวียนพึมพำขณะยืดหลังบิดขี้เกียจ

เขาไม่เคยคิดจะดวลกับกลุ่มคนจาก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น จะได้ดวลหรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

“เอาอย่างนี้ดีไหม พวกเราจะแลกหยดเลือด 5 หยดกับการได้รับโอกาสให้เข้าไปฝ่าด่านวรยุทธในผืนผ้าใบสี่ฤดูของคุณ” นักปราชญ์โบราณจาก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์เสนอแนะ

“อืมมม…ก็ยังไม่น่าฟังสำหรับผมอยู่ดี ผมเป็นแค่นักรบขั้นร่างอันทรงเกียรติโลกจารึก ขณะที่เหล่าทายาทของคุณล้วนเป็นนักรบขั้นชั่วกัลปาวสานโลกจารึก ห่างกันถึง 2 ขั้นเต็มๆนะ มันไม่เป็นการเอาาเปรียบผมไปหน่อยหรือหากไม่อนุญาตให้ผมใช้ของล้ำค่าและอสูร?” จางเซวียนถาม

“ผมจะให้พวกเขาลดระดับวรยุทธให้เท่ากับคุณ” นักปราชญ์โบราณจาก100 สำนักแห่งนักปราชญ์ตอบ

ก็ถือว่าไม่ยุติธรรมจริงๆที่พวกเขาจะกำหนดกฎเกณฑ์เข้มงวดเกินไปกับอีกฝ่าย แถมยังส่งคู่ต่อสู้ที่มีวรยุทธสูงกว่าไปดวลกับเขาด้วย

“ถ้าอย่างนั้นก็เยี่ยมเลย เริ่มกันเถอะ!” จางเซวียนพยักหน้าก่อนจะก้าวออกมา เขาหัวเราะหึๆ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เพื่อให้เราทั้งสองฝ่ายไม่เสียเวลา พวกคุณเข้ามาหาผมทีเดียวพร้อมๆกันเลย เพราะถ้าคุณเข้ามาทีละคน ผมอาจยั้งมือไม่ทัน ต้องขออภัยไว้ด้วยหากพวกคุณสองสามคนจะต้องเสียชีวิตในการดวลครั้งนี้!”

“คุณอยากสังหารพวกเราหรือ? ก็ลองดู!” เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งคำราม

เขาลดระดับวรยุทธลงไปเป็นขั้นร่างอันทรงเกียรติโลกจารึก ก่อนจะพุ่งเข้าใส่จางเซวียนและเปิดการโจมตีก่อน

ด้วยการใช้ศาสตร์ลับอันน่าทึ่งบางอย่าง การเคลื่อนไหวของเด็กวัยรุ่นคนนั้นรวดเร็วมาก ในชั่วพริบตา เขาก็มาอยู่ตรงหน้าจางเซวียน พลังฝ่ามือพุ่งลงจากด้านบนเข้าใส่ศีรษะของเขา

ในตอนนั้น เด็กวัยรุ่นคิดว่าเขาได้แต้มต่อ แต่ยังไม่ทันที่พลังฝ่ามือจะถึงตัวอีกฝ่าย ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกราวกับมีลมรั่วออกจากปอดทั้งสองข้างของเขา เมื่อก้มลงมอง ก็เห็นว่าฝ่ามือของอีกฝ่ายพุ่งตรงเข้าใส่แผงอกของเขาแล้ว

พลั่ก!

เด็กวัยรุ่นกระเด็นไปไกลก่อนจะตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรง เขาไอและกระอักเลือดออกมากองใหญ่

เขาประหลาดใจเพราะยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจางเซวียนเล่นงานเขาตอนไหน ราวกับฝ่ามือของอีกฝ่ายพุ่งทะลุมิติเข้าใส่เขา!

“เข้ามาหาผมพร้อมๆกันเลย หนึ่งต่อหนึ่งน่ะพวกคุณสู้ผมไม่ได้หรอก!” จางเซวียนชำเลืองมองกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่เหลือ

“พวกเราลุยพร้อมกันเลย!”

เมื่อทั้งกลุ่มเห็นการต่อสู้ ก็รู้ทันทีว่าประสิทธิภาพการต่อสู้ของอีกฝ่ายเหนือชั้นกว่านักรบคนอื่นที่มีวรยุทธระดับเดียวกัน ไม่มีทางที่พวกเขาจะเอาชนะได้ด้วยการดวลหนึ่งต่อหนึ่ง ต่างคนจึงไม่ลังเล พวกเขาพยักหน้าให้กันขณะพุ่งเข้าใส่จางเซวียนอย่างพร้อมเพรียง

ตุ้บ! พลั่ก! ปึ้ก!

ยังไม่ทันที่ทั้งกลุ่มจะถึงตัวจางเซวียน อีกฝ่ายก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาแล้ว ราวกับเสือที่เล่นงานฝูงแกะ ไม่มีเด็กวัยรุ่นแม้แต่คนเดียวที่ต้านทานพละกำลังของจางเซวียนได้

ทุกคนล้วนแต่เป็นอัจฉริยะชั้นยอดของ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ และภาคภูมิใจในประสิทธิภาพการต่อสู้ของตัวเองที่เหนือชั้นกว่านักรบรุ่นเดียวกัน แต่เมื่อเผชิญกับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ความแข็งแกร่งที่พวกเขาเคยภาคภูมิใจนั้นกลับช่างน่าสมเพชและน่าหัวเราะ ราวกับพวกเขาเป็นเด็กน้อยที่กำลังเดินแถวต่อหน้าผู้ใหญ่คนหนึ่ง

“เขาทรงพลังขนาดนั้นได้อย่างไร?”

นักปราชญ์โบราณจาก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่รู้ทันทีว่าเหล่าทายาทของเขาต้องพ่ายแพ้การดวลแน่

แม้อีกฝ่ายจะเป็นแค่นักรบขั้นร่างอันทรงเกียรติโลกจารึก แต่ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาเทียบชั้นได้กับนักรบขั้นชั่วกัลปาวสานเลยทีเดียว!

ในบรรดาลูกศิษย์ลูกหามากมายของ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ ผู้เดียวที่มีความสามารถระดับนี้ก็คือขงซือเหยาเท่านั้น

เมื่อเฝ้าดูการต่อสู้อีกระยะหนึ่ง นักปราชญ์โบราณก็ได้เห็นความจริงอันน่าเจ็บปวดที่ว่าแม้จะสู้รบกันเป็นกลุ่ม พวกเขาก็ยังเทียบชั้นกับจางเซวียนไม่ได้เลยสักนิด

เขาไม่อยากยอมรับ แต่นักปราชญ์โบราณจาก100 สำนักแห่งนักปราชญ์ก็ถอนหายใจเฮือกและแนะนำว่า “พวกคุณสู้เขาไม่ได้หรอก…ยอมแพ้เถอะ!”

แต่ทันทีที่เขาพูดจบ เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

ด้วยการโจมตีอย่างไม่ลดละของกลุ่มเด็กวัยรุ่นจาก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ จางเซวียนพลาดพลั้งทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวง เปิดช่องโหว่ไว้ชั่วขณะ เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งซึ่งมีสายตาเฉียบแหลมมองเห็นโอกาสนี้และใช้นิ้วจิ้มเข้าที่จุดอ่อนของจางเซวียนทันที

ในช่วงเวลาของเหตุการณ์อันคาดไม่ถึงนั้น บางทีอาจเป็นเพราะจางเซวียนคิดว่าสายเกินไปแล้วที่เขาจะหลบเลี่ยงการโจมตี จึงยกมือขึ้นปล่อยพลังเล่นงานศีรษะของเด็กวัยรุ่นคนนั้นแทน

มันคือกระบวนท่าที่อาจสร้างความพินาศให้ทั้งสองฝ่าย เด็กวัยรุ่นอาจใช้นิ้วแทงทะลุหัวใจของจางเซวียนได้ แต่ศีรษะของเขาก็จะต้องแตกเป็นเสี่ยงๆและตายทันที

ที่สำคัญกว่านั้น เมื่อพิจารณาจากพละกำลังอันน่าสะพรึงในการเคลื่อนไหวของทั้งคู่ ก็ถือว่าสายไปแล้วที่ทั้งสองฝ่ายจะถอนการโจมตี

“หยุดนะ!” นักปราชญ์โบราณของ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์คำรามอย่างร้อนรน กระแสพลังงานเข้มข้นโอบล้อมพื้นที่ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว สกัดกั้นมิติบริเวณนั้นไว้ ดูเหมือนนักปราชญ์โบราณจาก100 สำนักแห่งนักปราชญ์จะตัดสินใจเปิดการโจมตีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรม

แต่หลังจากปล่อยพลังงานไปได้เพียงครู่เดียว ชายหนุ่มที่อยู่ด้านล่างซึ่งเมื่อครู่นี้เกือบจะถูกแทงทะลุหัวใจก็เคลื่อนไหวอย่างเงอะงะและหลบเลี่ยงกระบวนท่าที่อาจทำให้เขาถึงแก่ความตายไปได้อย่างหวุดหวิด

จากนั้น กระบี่เล่มหนึ่งก็มาอยู่ในมือของเขา

ฟึ่บ!

นักปราชญ์โบราณของ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าเป้าหมายของกระบี่เล่มนั้นไม่ใช่เหล่าทายาทของเขา แต่เป็นตัวเขาเอง!

“นี่มัน…อาวุธของนักปราชญ์โบราณ!” นักปราชญ์โบราณของ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์หรี่ตาด้วยความตกใจ

เขาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะจงใจเปิดเผยจุดอ่อนเพื่อยั่วยุให้เขาเปิดการโจมตี และจะได้ค้นหาตำแหน่งที่ซ่อนของเขา

นักปราชญ์โบราณพยายามหลบหนีทันที แต่ก็สายไป กระบี่แผ่รังสีโอบล้อมร่างของเขาไว้ ตรึงเขาให้หยุดนิ่งอยู่กับที่

วิ้งงงง!

ประกายคมปลาบสว่างวาบขึ้นกลางอากาศ เลือดสดๆพุ่งออกมา

“ฮ่าฮ่า! คุณได้รับความสำนึกในบุญคุณอย่างสูงสุดจากผมนะสำหรับความใจกว้างของคุณ!” จางเซวียนหัวเราะหึๆขณะรีบเก็บหยดเลือดเหล่านั้นเข้าสู่น้ำเต้าที่เขาเตรียมไว้

รวมแล้วก็ได้หยดเลือดราว 20 หยด

หยดเลือด 5 หยดของนักปราชญ์โบราณไม่เพียงพอสำหรับการต่อสู้ของเขาอีกต่อไป นี่คือสิ่งที่จางเซวียนหมายตาไว้ตั้งแต่แรก!

ดูเผินๆ นักปราชญ์โบราณของ100 สำนักแห่งนักปราชญ์ก็มีทีท่าสุภาพดี แต่กลับเลือกที่จะมองข้ามพฤติกรรมโหดร้ายของเหล่าทายาทของตัวเอง ไม่ใส่ใจกับการที่เด็กกลุ่มนี้ลักพาตัวลูกศิษย์ของเขามาหาผลประโยชน์ ไม่เพียงเท่านั้น ยังใช้พละกำลังของตัวเองกดข่มจางเซวียนเพื่อยับยั้งไม่ให้เขาได้ตัวจ้าวหย่าด้วย

ไม่มีทางที่จางเซวียนจะยอมพลาดโอกาสที่จะได้เอาคืน!

“คุณ…”

เพราะเสียเลือดมากเกินไป นักปราชญ์โบราณของ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ถึงกับหน้าซีดด้วยความอ่อนเพลีย เขาเกิดความโกรธเกรี้ยวจากการถูกโจมตีอย่างกะทันหันและกำลังจะตอบโต้ ก็พอดีกับที่รู้สึกได้ถึงรังสีงามสง่าที่แผดกล้าออกมา

นั่นคือรังสีของบรรพบุรุษเก่าแก่ของตระกูลจาง, จางหงเทียน ซึ่งปรามเขาไม่ให้โจมตีทายาทตระกูลจาง รู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองมีพละกำลังไม่พอจะสู้รบปรบมือกับจางหงเทียน นักปราชญ์โบราณของ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์จึงกล้ำกลืนความโกรธเกรี้ยวไว้และยั้งมือ

ไม่น่าเชื่อว่านักปราชญ์โบราณอย่างเขาจะถูกนักรบขั้นร่างอันทรงเกียรติล่อลวงจนถึงขั้นที่ตัวเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เพียงแค่คิดก็เหลือเชื่อแล้ว!

“หัวหน้าตระกูลจางคนใหม่ช่างน่าทึ่งเสียจริง! ผมประทับใจมาก, 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ของพวกเรายอมรับความพ่ายแพ้ ลาก่อน”

ฟิ้ววววว!

เกิดพายุหอบใหญ่ แล้วนักปราชญ์โบราณของ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ก็ฉุดเหล่าทายาทของเขากลับสู่ฐานที่มั่นของตัวเอง ก่อนจะหันหลังกลับและเตรียมตัวจากไป

“รอเดี๋ยว แล้วเลือดนักปราชญ์โบราณ 5 หยดที่คุณสัญญาว่าจะมอบให้ผมหากคุณแพ้ดวลน่ะ มันอยู่ไหน? คิดจะผิดสัญญาหรือ?” จางเซวียนตะโกนไล่หลังนักปราชญ์โบราณจาก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์

นักปราชญ์โบราณถึงกับเซเมื่อได้ยินคำนั้น เขาแทบกระอักเลือดกองใหญ่

เขาระงับความเจ็บแปลบที่หน้าอกไว้ จากนั้นก็สะบัดข้อมือและนำขวดหยกใบหนึ่งออกมาก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว เกรงว่าจะโมโหจนขาดใจตายเสียก่อนหากยังต้องพูดจากับชายหนุ่มคนนี้!