ภาค 6 ยันฟ้าด้วยมือเดียว บทที่ 507 ข้าจะทำอะไร พวกเขาหยุดไม่ได้

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ระเบียงเหวลึกอยู่ที่จุดตัดของทะเลจิตประสาน ทะเลเต่าทะยาน และทะเลรางเลือน

กระแสคลื่นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงสามสายม้วนอยู่ในทะเลลึก ก่อให้เกิดความชื้นอันน่าประหลาด ทั้งยังรวมตัวกัน ประกอบกันเป็นคลื่นใต้น้ำที่มีเอกลักษณ์ที่นี่

โลกผืนสมุทรประกอบกันจากทวีปจำนวนน้อยและท้องทะเลจำนวนมาก

ในสถานที่อื่นก็มีสถานที่ที่เป็นจุดตัดของสามทะเลเช่นกัน แต่ว่าคลื่นใต้น้ำเช่นนี้กลับมีแค่ตรงจุดตัดของทะเลจิตประสาน ทะเลเต่าทะยาน และทะเลรางเลือนเท่านั้น เป็นสภาพภูมิศาสตร์ที่มีความพิเศษ

เพียงแต่คลื่นใต้น้ำนี้สกปรกเป็นอย่างยิ่ง สำหรับจอมยุทธ์แล้ว มันเต็มไปด้วยอันตราย หลายครั้งต่อให้มีจอมยุทธ์ดำลงทะเล ก็ไม่อยากเข้าใกล้ที่แห่งนี้

ในตอนนี้มีคนมารวมตัวกันมากมาย ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอค่อนข้างประหลาดใจ ‘หรือว่าข่าวลือจะผิด?’

คลื่นใต้น้ำก่อให้เกิดน้ำวนขนาดยักษ์ ทว่าใจกลางน้ำวนกลับไม่มีน้ำทะเล เกิดเป็นที่ว่างบริเวณหนึ่ง

ทุกคนที่มาอยู่รวมกันบนที่ว่างนี้กำลังสนทนากันไปต่างๆ นาๆ

“เหอะ ในที่สุดลี่เซิ่งก็ทนไม่ไหว ต้องการท้าสู้กับจางฮ่าวเฉิงแล้ว ไม่ได้เห็นการต่อสู้กันระหว่างยอดฝีมือสองคนที่อยู่ในจอมยุทธ์ขั้นรูปญาณสิบอันดับแรกมานานแล้ว”

“วังผลึกวารีและสำนักสังหารมังกร สองกลุ่มผู้นำฝ่ายธรรมะและพรรคมารในที่สุดก็จะปะทะกันแล้ว แต่ไม่รู้ว่า ‘มังกรน้ำเงิน’ จางฮ่าวเฉิงจะสมกับตำแหน่งอันดับหนึ่ง หรือ ‘ฟันเสาสวรรค์’ เฉิงลี่อันดับสองในตอนนี้จะเหนือกว่ากัน”

“อย่าดูถูกลี่เซิ่งไป ถึงจะทระนงตน แต่เขามิใช่คนบุ่มบ่าม ครั้งนี้ที่ท้าสู้กับจางฮ่าวเฉิง ไม่แน่ว่าจะอยู่ในช่วงคอขวด คิดจะใช้เรื่องนี้เลื่อนเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณ”

“อาศัยดอกไม้วิญญาณเก้าดอกจากใบวิญญาณเก้าใบของเขา ใครจะกล้าดูถูกกันเล่า”

เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้นก็ค่อยๆ เข้าใจ ที่นี่กำลังจะเกิดการท้าสู้ขึ้น

สองฝ่ายที่ท้าสู้ก็คือมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณสองคน ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกผืนสมุทร

สำนักสังหารมังกรเป็นสำนักใหญ่อันดับหนึ่งในหกพรรคมาร เหมือนกับตำแหน่งในเจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมของวังผลึกวารี

ชื่อของสำนักนี้ผิดข้อห้ามของวังผลึกวารีและสำนักมังกรโลหิต แทบจะนับได้ว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน

การจัดอันดับจอมยุทธ์สิบอันดับแรก ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการต่อสู้ระหว่างกันไม่ได้ เป็นการตัดสินโดยดูที่ผลงานการรบโดยรวม และพลังที่แสงออกมนในการต่อสู้จริง

นี่ย่อมทำให้มีคนไม่ยอมรับ

ความจริงเมื่อต่อสู้แล้วได้ผลลัพธ์แพ้ชนะ ฝ่ายที่แพ้มักจะไม่ยอมรับ เฝ้าอดทนฝึกฝนหลายปีเพื่อทำลายความอัปยศก่อนหน้า อย่าว่าแต่ในสถานการณ์ที่ยังไม่ทันต่อสู้ก็ถูกคนกดหัวเอาไว้ จะมีจอมยุทธ์กี่คนที่อดทนได้กัน

ตอนนี้กำลังจะเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้นแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอกะพริบตาปริบๆ ไม่ใคร่ใส่ใจนัก เพียงแต่รู้สึกสนใจ ‘เจียงสยงที่ถูกข้ากำจัด ดูเหมือนจะถูกจัดอยู่ในอันดับสามกระมัง’

เขายิ้มพลางส่ายหน้า ข้ามน้ำวนมายังเหนือที่ว่าง

“ที่นี่ทางหนึ่งเป็นทะเลจิตประสาน ทางหนึ่งเป็นทะเลเต่าทะยาน ต่างเป็นถิ่นของฝ่ายธรรมมะ ลี่เซิ่งนั่นกลับกล้ามาท้าสู้ที่นี่”

“ด้านหลังมีทะเลรางเลือนอยู่ด้วย หากมีจอมยุทธ์ขั้นรูปญาณต้องการฆ่าเขา แค่ถอยไปยังทะเลรางเลือนก็ใช้ได้แล้ว สำนักสังหารมังกรจะต้องมียอดฝีมือมาด้วยแน่”

“เหตุเกิดจากที่สำนักสังหารมังกรมีศิษย์อายุน้อยคนหนึ่ง เกิดความขัดแย้งกับศิษย์อายุน้อยของวังผลึกวารี ถูกเล่นงานเสียท่า ลี่เซิ่งรู้ว่าจางฮ่าวเฉิงอยู่ที่นี่ จึงคิดมาล้างอาย”

ขณะที่ทุกคนพูด ก็เห็นว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่เอินซูปรากฏตัวขึ้น

ตอนแรกยังไม่สนใจนัก ถึงอย่างไรก็มีจอมยุทธ์พเนจรอยู่มากมาย ไม่มีผู้ใดจำคนทุกคนได้หมด

แต่เมื่อลองคิดให้ดี คนกลุ่มหนึ่งก็รู้สึกว่าเยี่ยนจ้าวเกอดูคุ้นตานัก

โดยเฉพาะจอมยุทธ์ของเกาะจิตประสาน ต่างเบิกตาขึ้นโดยพลัน “เป็นเจ้า?!”

คนที่กลับเกาะจิตประสานในตอนนั้นย่อมเก็บภาพเงาแสงของเยี่ยนจ้าวเกอไว้ พวกฟางจ้าวหงและหยางฉู่ฟานไร้ข่าวคราวโดยสิ้นเชิง ทุกคนในเกาะจิตประสานต่างคิดว่าพวกเขาน่าจะประสบคราเคราะห์เข้าแล้ว

หลายวันมานี้ เกาะจิตประสานตามหาเยี่ยนจ้าวเกอทุกที่ ประกาศกฎอัยการศึกบนทะเลจิตประสาน ในตอนนี้เมื่อเห็นชายหนุ่มก็จำได้ทันที

คนอื่นเห็นปฏิกิริยาของจอมยุทธ์เกาะจิตประสาน ต่างทยอยกันตอบสนอง “หรือว่า…จะเป็นคนที่ฆ่า ‘ปีศาจวิหค’ เจียงสยง?!”

เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินคำสนทนาของผู้คน ทว่ายังคงมีสีหน้าสบายอารมณ์ เพียงแต่มองคนของเกาะจิตประสานอย่างคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

อีกฝ่ายไม่ได้คิดจะเก็บเป็นความลับ ปล่อยข่าวที่ตนฆ่าคนของสำนักตาข่ายปีศาจออกไปจริงๆ สำนักตาข่ายปีศาจน่าจะเริ่มตามหาตนแล้วเช่นกัน

ส่วนเรื่องของพวกฟางจ้าวหง เพื่อไม่ให้เสียหน้า กลับยังไม่ได้ป่าวประกาศออกไป ถึงอย่างไรก็ยังไม่เห็นศพ เกาะจิตประสานยังคงมีความหวังอยู่

เมื่อเห็นเยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเรียบเฉย คนอื่นพลันใจเย็นไม่ได้อีกต่อไป

นั่นคือ ‘ปีศาจวิหค’ เจียงสยง ในระดับมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณของโลกผืนสมุทร เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นรองแค่ ‘มังกรน้ำเงิน’ จางฮ่าวเฉิง และ ‘ฟันเสาสวรรค์’ ลี่เซิ่งเท่านั้น

สำนักตาข่ายปีศาจไม่มีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์และอาวุธศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองสำนัก จึงมีชื่อเสียงสู้สำนักสังหารมังกร สำนักปราชญ์ปีศาจ และเกาะวิญญาณหลอนซึ่งเป็นหกพรรคมาร รวมถึงวังผลึกวารี บึงหมื่นกระบี่ และสำนักมังกรโลหิตที่อยู่ในเจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมมะไม่ได้

แต่ว่าในจอมยุทธ์ขั้นกำเนิดญาณสิบอันดับแรก ‘วิหคปีศาจ’ เจียงสยงกลับถูกจัดอยู่ในอันดับสาม

อีกทั้งเขายังมีอายุน้อยมาก กลับมีศักยภาพที่แข็งแกร่งให้ขุดค้น สำนักตาข่ายปีศาจต่างฝากความหวังไว้ที่ตัวเขา

แต่ว่าในข่าวที่เกาะจิตประสานปล่อยออกมา ยอดฝีมือแห่งยุคคนหนึ่งกลับตายในมือองคนหนุ่มผู้หนึ่ง

นี่จะไม่ทำให้สำนักตาข่ายปีศาจคลุ้มคลั่ง ไม่ทำให้โลกผืนสมุทรตกตะลึงได้อย่างไร

โดยเฉพาะสิ่งที่ทำให้คนจิตใจสั่นสะท้านก็คือ ตามคำกล่าวของเกาะจิตประสาน ชายหนุ่มผู้นี้ยังเป็นผู้สืบทอดของสำนักปราชญ์ปีศาจด้วย

ในเจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมะ หกพรรคมาร สำนักที่ลึกลับที่สุดก็คือสำนักปราชญ์ปีศาจ ในสำนักนี้มีคนน้อยยิ่ง แต่ว่าทุกครั้งที่มีคนปรากฏออกมาต่างก็สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน

ในโลกผืนสมุทร ปราชญ์ปีศาจซึ่งเป็นเจ้าสำนักคือยอดฝีมือด้านวรยุทธ์ที่มีจำนวนน้อย ขึ้นชื่อเรื่องความลี้ลับ

จอมยุทธ์เกาะจิตประสานต่างมองกันไปมา รู้สึกหนังศีรษะชา

จนมีคนส่งกระแสเสียงให้กับจอมยุทธ์สำนักอื่นที่อยู่รอบๆ ‘เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเขาจะเป็นลูกศิษย์รุ่นใหม่ของสำนักปราชญ์ปีศาจ! ธรรมมะไม่ขออยู่กับมาร พวกเราร่วมมือกันสังหารเขาเถอะ!’

‘อายุเพียงแค่นี้ก็มีพลังฝึกปรือสูงถึงขนาดนี้แล้ว ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย เกรงว่าปราชญ์ปีศาจจะสู้เขาไม่ได้ด้วยซ้ำ หากปล่อยให้เติบโต ยากจะคิดถึงผลลัพธ์ในวันหน้า!’

เนื่องจากตำแหน่งด้านภูมิศาสตร์ คนที่อยู่ที่นี่เยอะที่สุด นอกจากจอมยุทธ์เกาะจิตประสานแล้ว ก็คือจอมยุทธ์ของสำนักคืนวิญญาณที่ปกครองทะเลเต่าทะยาน

จอมยุทธ์สำนักคืนวิญญาณขมวดคิ้วมองเยี่ยนจ้าวเกอ “พวกท่านมั่นใจหรือ ว่าสิ่งที่เขาใช้คือยันต์สวรรค์ผีดูดเลือด”

จอมยุทธ์เกาะจิตประสานพูดด้วยน้ำเสียงเร่งร้อน “ข่ายอาคมสลายไปแล้ว แต่ย่อมไม่ผิดแน่ อีกทั้งยันต์สวรรค์ผีดูดเลือดถึงแม้จะมีจำกัด แต่ด้วยพลังฝึกปรือของเขา ตำแหน่งควรเป็นรองแค่ปราชญ์ปีศาจในสำนักปราชญ์ปีศาจเท่านั้น บนตัวเขาจะต้องมียันต์สวรรค์ผีดูดเลือดอีกแน่”

คนของสำนักคืนวิญญาณยิ้มอย่างหนักใจ “พวกเรามาดูเรื่องสนุก ไม่มีความสามารถจัดการเขาได้หรอก”

หางตาของเขามองฟู่เอินซู “ยิ่งไปกว่านั้น คนที่อยู่ข้างๆ เขา…”

จอมยุทธ์เกาะคืนวิญญาณกล่าว “อีกเดี๋ยววังผลึกวารีจะต้องส่งคนมาช่วยจางฮ่าวเฉิงสร้างแรงกดดัน ถึงแม้สำนักสังหารมังกรอาจจะมาด้วยเหมือนกัน แต่คงจะไม่ยอมช่วยเหลือ พวกเราส่งข่าวไปแล้ว อีกเดี๋ยวผู้ปกครองเกาะจะมาถึง พวกท่านติดต่อยอดฝีมือสำนักท่าน ป้องกันไม่ให้คนเลวผู้นี้กลับทะเลรางเลือน”

เมื่อได้ยินว่าฟางข่าน ผู้ปกครองเกาะจิตประสานจะมาด้วยตนเอง สีหน้าของจอมยุทธ์สำนักคืนวิญญาณก็เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เริ่มพิจารณาอย่างจริงจัง

การแลกเปลี่ยนสีหน้าระหว่างพวกเขาตกอยู่ในสายตาของเยี่ยนจ้าวเกอและฟู่เอินซู นางถามเสียงราบ “กำจัดทิ้งให้หมดหรือไม่”

เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ “ไม่จำเป็น ถึงอย่างไรอีกเดี๋ยวจะมีคนมาจากวังผลึกวารีและสำนักสังหารมังกร”

“ส่วนข้าคิดทำอะไร พวกเขาล้วนขัดขวางไม่ได้ จะไว้ชีวิตหรือไล่ไปก็ไม่มีข้อแตกต่าง”