บทที่ 688 ทำไมถึงยอมแลกด้วยชีวิตเพื่อช่วยข้า

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 688 ทำไมถึงยอมแลกด้วยชีวิตเพื่อช่วยข้า
เดิมกู้ชูหน่วนอยากที่จะหันหน้าไปทางอื่น แต่เมื่อคิดดูแล้ว พลังวิทยายุทธของซ่างกวนฉู่คล้ายเวินเส้าหยีอย่างมาก สามารถรวบรวมพลังให้กลายเป็นน้ำแข็ง ยังใช้น้ำแข็งเป็นอาวุธทำร้ายคนได้

กระทั่งเป็นวิชาแช่แข็งหมื่นลี้

ถึงแม้กระบวนท่านั้นจะมีพลังสู้แช่แข็งหมื่นลี้ไม่ได้ แต่กลับใช้ในทิศทางเดียวกัน

เวินเส้าหยีได้รับบาดเจ็บสาหัส ซ่างกวนฉู่ก็มีบาดแผลเก่า

ตอนที่เวินเส้าหยีไปแดนเหนือสุด ซ่างกวนฉู่ก็ลาไปพักไปอิสรจร

บนใต้หล้านี้จะมีเรื่องอะไรบังเอิญขนาดนั้น

ที่บังเอิญที่สุดก็คือ บนร่างกายของเขามีสิ่งที่นางรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก

ภูเขาหิมะถล่ม ตามหลักเวินเส้าหยีน่าจะตายไปแล้ว ทว่าไม่ได้เห็นศพกับตาตัวเอง นางก็มั่นใจไม่ได้ว่าเวินเส้าหยีตายอยู่ที่แดนเหนือสุด

จู่กู้ชูหน่วนก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ จ้องมองดูด้านล่างของเขา พร้อมยิ้มอย่างชั่วร้าย

“อาจารย์พูดถูก หากลูกศิษย์มีอะไรกับอาจารย์บ้าง จะต้องสนุกไม่น้อย”

“อีกอย่าง……อาจารย์รูปหล่องดงามสง่า มีความสามารถ ลูกศิษย์ปปลาบปลื้มมานานแล้ว ที่นี่ไม่มีใครอื่น เรามารู้จักกันเพิ่มมากขึ้นดีไหม”

นางพูดไปด้วย มือข้างหนึ่งเอื้อมไปหาอย่างไม่อยู่นิ่ง

“ซี๊ด…..”

ในขณะที่ยังไม่โดนตัวอาจารย์ซ่างกวน อาจารย์ซ่างกวนก็ดึงตัวนางไป พร้อมค้อมอยู่บนตัวนาง

กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยโชยมาแตะจมูก กู้ชูหน่วนรู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว กระทั่งยังชอบดมกลิ่นนี้บนตัวเขา

ตรงหน้าเป็นใบหน้าซ่างกวนฉู่ที่รูปงามดั่งเทพ หล่อเหลาอย่างไร้ที่ติ

กู้ชูหน่วนสัมผัสได้ถึงเสียงลมหายใจกับจังหวะการเต้นของหัวใจเขา

หัวใจของเขาเต้นอย่างแรง ใบหน้าที่ขาวซีดอมยิ้มเล็กน้อย มุมปากยักขึ้น ราวกับมนต์เสน่ห์ดึงดูดให้นางหลงไหล พร้อมพูดขึ้นว่า “คุณหนูสาม การทำความรู้จักให้ลึกซึ้ง พูดแต่ปาก หรือลงมือเล็กน้อยคงไม่พอ เจ้าว่าไหม”

ซ่างกวนฉู่ยิ้มอย่างอ่อนโยน มือซ้ายที่เรียวผ่องขาวเอื้อมปัดผมบนหน้าผากของนาง เลื่อนต่ำลงมาจนเกือบสัมผัสปลายจมูกโด่งของนาง

การเคลื่อนไหวของซ่างกวนฉู่ ทำให้กู้ชูหน่วนสั่นเทา

ในหัวสมองอดไม่ได้ที่จะนึกถึงใบหน้าหยิ่งผยองของเย่จิ่งหาน

คิดถึงเย่จิ่งหาน ในใจกู้ชูหน่วนรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา นางผลักซ่างกวนฉู่ พร้อมพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “อาจารย์ ในฐานะที่เป็นอาจารย์ กลับสอนลูกศิษย์กระทำเรื่องเสื่อมเสียเช่นนี้ ไม่กลัวเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือ”

“เจ้ายินยอมข้าก็พอใจ เสื่อมเสียตรงไหน?”

“เชอะ…..เป็นถึงอาจารย์ราชวิทยาลัย พูดจาออกมาได้อย่างไม่รู้จักอับอาย”

ซ่างกวนฉู่ลุกขึ้นมาจัดเสื้อผ้าของตนเองให้เรียบร้อยอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว พร้อมพูดขึ้นว่า “ดูท่าทีคุณหนูสาม ไม่อยากทำความรู้จักข้าให้ลึกซึ้งแล้วใช่ไหม?”

กู้ชูหน่วนมองดูเขาอย่างกับมองคนปัญญาอ่อน มุมปากยิ้มอย่างเยาะเย้ยเหยียดหยาม

ซ่างกวนฉู่ก็ไม่สนใจ แต่พร้อมขึ้นอย่างตรงไปตรงมาว่า “ไม่เลว สมาธิคุณหนูสามพัฒนาขึ้น ไม่หวั่นไหวกับความงาม อาจารย์ดีใจด้วย”

“……”

กู้ชูหน่วนแทบสงสัยว่าตนเองฟังผิดไป

จิ้งจอกตัวนี้…..เขาพูดว่าอะไรนะ?

หมายความว่าทั้งหมดเมื่อกี้ เป็นเพียงการลองใจนาง?

ข้ออ้าง

เห็นได้ชัดว่าเขาอยากสานสัมพันกับนางมากขึ้น ยังจะมีหน้ามาพูดจาแบบนี้

“ไม่เสียแรงที่อาจารย์เป็นหนึ่งในอัจฉริยะทั้งสี่ของเมืองหลวง ฝีปากขนาดนี้ หน้าหนาขนาดนี้ ข้าเทียบไม่ได้เลย”

“ดังนั้น รอเมื่อเจ้ากลับไปวิทยลัย ต้องเรียนรู้เยอะๆ”

ในใจกู้ชูหน่วนบ่นพึมพำ

ผู้ชายคนนี้ใช่เวินเส้าหยีจริงๆ หรือ?

ทั้งสองคนแตกแต่งกันมากไปไหม?

“ทำไมเจ้าถึงยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยข้า”

“ยืนไม่มั่นคง เท้าลื่น ด้วยความรีบร้อนจึงผลักเจ้าลงมา ตอนนี้เสียใจแล้ว”

“……”

“แล้วทำไมเจ้าถึงต่อสู้กับชายแก่ชุดดำอย่างสุดชีวิต?”

“เพราะเขาก็คิดที่จะฆ่าข้า ช่วยเจ้าก็เท่ากับเป็นการช่วยข้าเอง”