ตอนที่ 261: อวี๋เหวยหมินคุกเข่าให้ก่อน

เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก

ตอนที่ 261: อวี๋เหวยหมินคุกเข่าให้ก่อน โดย Ink Stone_Romance

เฉินเยี่ยนกำลังคิดถึงคำพูดของอวี๋เหวยหมินจริงๆ

เธอไม่รู้ว่าในคำพูดของอวี๋เหวยหมินมีกี่คำที่เป็นจริง กี่คำที่หลอกลวง เพราะเธอไม่ใช่พยาธิในท้องอวี๋เหวยหมิน

เฉินเยี่ยนก็รู้ สำหรับอวี๋เหวยหมินแล้ว ถ้าเขาเป็นนักบัญชีให้ตัวเอง เขาจะทำได้ดีแน่นอน อวี๋เหวยหมินไม่ใช่คนไม่มีความสามารถเลย

อวี๋เหวยหมินเป็นคนยุคปัจจุบัน แล้วเขาก็เป็นผู้ชาย ทำงานในแวดวงมาหลายปี เขารู้อะไรเป็นอะไรไม่น้อยเลย

ถ้าเธอและอวี๋เหวยหมินไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งมากมายขนาดนี้ อวี๋เหวยหมินก็เป็นคนที่เหมาะสมจริงๆ

แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถให้อวี๋เหวยหมินเข้าไปในโรงงานได้ เธอไม่มีทางให้อวี๋เหวยหมินเป็นนักบัญชีของโรงงานได้ เธอไม่ใช่แม่พระ เธอไม่สามารถให้อภัยสิ่งที่อวี๋เหวยหมินทำได้

ตอนนี้ชีวิตอวี๋เหวยหมินไม่ดี อย่างมากเธอไม่ไปซ้ำเติม แต่เธอจะไม่ช่วยอวี๋เหวยหมิน

อันที่จริงอวี๋เหวยหมินพูดจาน่าฟัง ยอมรับผิดทุกอย่าง อยากจะช่วยเธอ  ทำเพื่อเธอบ้าง สู้เขาพูดมาเลยดีกว่าว่าเขาทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ชีวิตก็ไม่มีอะไรดี ไม่มีเงิน อยากจะเป็นไปคนงานในโรงงานหาเงิน

“อวี๋เหวยหมิน”

เฉินเยี่ยนเรียก แล้วมองซ้ายขวาหน้าหลัง เห็นว่าไม่มีคน

อวี๋เหวยหมินมองเฉินเยี่ยนอย่างมีความหวัง

“ที่นี่ไม่มีคนอื่น พวกเรามาพูดความจริงดีกว่า”

เฉินเยี่ยนพูดอีก สายตามีแววประชดนิดหน่อย เขาคิดว่าตัวเองโง่หรือไง

“เยี่ยนจื่อ คุณพูดมา ผมรับฟังหมด ผมรู้ว่าเมื่อก่อนผมไม่ดี คุณตีผมเลย ด่าผม ผมยินดีรับ คุณวางใจได้ ผมจะไม่เอาคืนแน่นอน หรือคุณจะให้ผมคุกเข่า ก็ไม่มีปัญหา”

อวี๋เหวยหมินเห็นเฉินเยี่ยนจะพูดความจริงกับเขา คิดว่าคำพูดเขาทำให้เฉินเยี่ยนหวั่นไหว สีหน้าแสดงความดีใจขึ้นมา

“ตั้งแต่พวกเราเป็นเพื่อนนักเรียนมาจนถึงสามีภรรยา ระยะเวลาที่รู้จักกันมาไม่สั้นเลย เมื่อก่อนฉันคิดว่าฉันรู้จักคุณดี แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันไม่รู้จักคุณเลย แต่ฉันอยากจะบอกคุณ ฉันก็ไม่ได้อยากจะรู้จักคุณ ไม่สนว่าคุณจะรู้สึกผิดหรือไม่ ไม่ว่าคุณจะคิดยังไง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันกับคุณเป็นแค่คนผ่านมาแล้วผ่านไป ชีวิตฉันตอนนี้ไม่แย่ มีครอบครัว มีคนที่ฉันรัก และสามีที่รักฉัน ดังนั้นฉันไม่คิดจะแก้แค้น เพราะฉันเชื่อว่าคนอย่างคุณและเฉินเวยจะต้องได้รับผลตอบแทน ดังนั้นรบกวนคุณ อยู่ห่างฉันหน่อย อย่าให้ฉันดูถูกคุณ ต่อจากนี้ไม่ต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าฉัน ได้ไหม?”

เฉินเยี่ยนไม่เข้าใจทำไมอวี๋เหวยหมินถึงยังมีหน้ามาหาตัวเอง แต่เธอรู้ว่าตัวเองไม่มีทางทำงานร่วมกับอวี๋เหวยหมินได้

อวี๋เหวยหมินได้ยินคำพูดเฉินเยี่ยนก็มองเฉินเยี่ยนเงียบๆ

ที่จริงเขาก็คิดไว้แล้วว่าเฉินเยี่ยนจะปฏิเสธเขา แต่เขาก็ยังมา เป็นเพราะช่วงนี้ชีวิตเขาไม่ค่อยได้ดั่งใจเลย

แม่เขาทะเลาะกับภรรยาทุกวัน ด่ากันทุกวัน แต่ไม่รู้ทำไม เขาถึงทำอะไรก็ไม่สำเร็จ แม้ตอนแรกจะดูไปได้สวย แต่สุดท้ายจะต้องไม่สำเร็จไปทุกครั้ง

เขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไรผิด หรือมีคนคอยขัดขาเขา ยังไงถึงตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว

ธุรกิจเขาก็ทำไม่ได้ ทำเงินก็ไม่ได้ แล้วยังติดหนี้คนอื่นอีก ทุกวันภรรยาก็ด่าว่าเขาไม่มีปัญญา เขาก็อยากจะหาเงิน แต่เขาทำไม่สำเร็จ

เขารีบร้อน เขาร้อนรน ไม่ใช่ว่าเขาไม่หาวิธี ไม่ใช่ว่าไม่พยายาม แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้

ไม่ว่าเขาจะคิดมาดีแค่ไหน เป้าหมายเขายิ่งใหญ่แค่ไหน ตอนนี้เขาทำให้มันเป็นจริงไม่ได้แล้ว

สุดท้ายเขาคิดว่าเขาต้องไปทำงานที่โรงงาน ไปเป็นคนงานก่อน แก้ปัญหาปากท้องก่อน แล้วรอโอกาสมา ค่อยไปทำเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของเขาให้เป็นจริง

แต่คนงานในยุคนี้เนื้อหอมมาก เขาไม่มีคนรู้จัก เขาเลยเข้าไปทำที่โรงงานอื่นไม่ได้

ส่วนโรงงานม้วนบุหรี่ของเฉินเยี่ยนค่าแรงสูง สวัสดิการดี เขาอยากจะเข้าไป แต่ตอนนั้นเขาทำกับเฉินเยี่ยนแบบนั้น เพราะเฉินเวย คนบ้านเฉินก็เกลียดเขา ไม่มีทางให้เขาเข้าไปแน่นอน

ตอนที่เขากำลังปวดหัวอยู่ ก็มีข่าวเฉินเยี่ยนกำลังหานักบัญชีพอดี เขาคิดว่าสวรรค์ช่วยเขา ถึงได้มอบโอกาสดีขนาดนี้ให้เขามา ถ้าเขาไม่คว้าไว้ เขาต้องเสียใจแน่

เขารู้ว่าเฉินเยี่ยนรู้ความสามารถเขาดี เขาสามารถเป็นนักบัญชีได้ไม่มีปัญหา

ถ้าเฉินเยี่ยนยอมให้เขาเข้าโรงงาน เขาก็จะทำให้ดี ช่วยเฉินเยี่ยนดูแลบัญชีอย่างดี จะช่วยจัดการบริหารโรงงานม้วนบุหรี่ด้วยกันกับเฉินเยี่ยน

ถึงตอนนั้นถ้าเขาทำดีกับเฉินเยี่ยนมาก ทำงานที่ดีให้เฉินเยี่ยน คิดว่าเฉินเยี่ยนคงไม่ทำให้เขาลำบาก

เฉินเยี่ยนผู้หญิงคนนี้ ถ้าคุณทำดีกับเธอ เธอย่อมทำดีกับคุณแน่นอน

ขอแค่เขาทำดีกับเฉินเยี่ยน ไม่ช้าเร็วเฉินเยี่ยนจะต้องซาบซึ้ง ถึงตอนนั้นไม่แน่เขาและเฉินเยี่ยนอาจจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันก็ได้

ทำให้เฉินเยี่ยนและซินห้าวหย่ากัน เขาก็จะได้หย่ากับภรรยาที่หยาบคายคนนั้นของเขา ให้เธอออกไปอยู่ไกลๆ ที่ไหนก็ไปเลย เขาหวังจะให้เฉินเยี่ยนให้อภัยเขา

เดิมทีเขาและเฉินเยี่ยนเป็นสามีภรรยากัน เขาและเฉินเยี่ยนต่างหากที่เหมาะสมกันที่สุด

ขอแค่ได้อยู่ด้วยกันกับเฉินเยี่ยน ชีวิตเขาถึงจะดีได้ เขาจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน

นี่เป็นข้อเดียวที่อวี๋เหวยหมินเข้าใจในตอนนี้

“เฉินเยี่ยน ผมผิดไปแล้วจริงๆ คุณให้อภัยผมเถอะ ให้ผมช่วยคุณ เหลือทางเดินให้ผมบ้าง เห็นแก่ความรักของเราเมื่อก่อน ถือว่าผมขอร้องคุณ”

อวี๋เหวยหมินพูดจบก็คุกเข่าลง

สีหน้าเขามีแววอ้อนวอน มีความเจ็บปวด มีความสำนึกผิด

ตอนนี้เขาไม่กลัวขายหน้าคนอื่นแล้ว ยังไงก็ไม่มีใครเห็น ในยุคปัจจุบัน ผู้ชายคุกเข่าขอผู้หญิงแต่งงาน ผู้ชายบางคนคุกเข่าต่อหน้าผู้หญิงถือเป็นเรื่องปกติ เขาก็ถือว่าเป็นการชดเชยที่ไม่ได้คุกเข่าขอเฉินเยี่ยนแต่งงานแล้วกัน

เฉินเยี่ยนมองอวี๋เหวยหมินที่คุกเข่าอยู่บนพื้นดิน

อวี๋เหวยหมินเป็นประเภทผู้ชายเห็นแก่ศักดิ์ศรีของความเป็นชายมาก ตอนที่ขอแต่งงานเขาไม่ได้คุกเข่า พูดประมาณว่าผู้ชายที่คุกเข่านั้นไม่ได้เรื่อง

บางครั้งเห็นผู้ชายคุกเข่าบนกระดานซักผ้า คุกเข่าบนคีย์บอร์ด คุกเข่าบนเปลือกทุเรียน เขาจะยิ้มเยาะ บอกว่าผู้ชายพวกนี้น่าขายหน้า แต่วันนี้ เขากลับคุกเข่าแบบนี้ เพื่องานงานหนึ่ง

คิดถึงวันนั้นที่เขาพูดกับตัวเอง เขาถูกกำหนดมาให้ทำเรื่องใหญ่ เขาคือผู้นำ ในอนาคตเขาจะเป็นเศรษฐีพันล้าน เขามีอนาคตที่สดใส แล้วยังให้ตัวเองมาเป็นคนรักเขา ให้ตัวเองอย่าทำให้เขาไม่พอใจ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อ

คำพูดพวกนั้นยังก้องอยู่ในหู แต่วันนี้เขากลับยอมคุกเข่าต่อหน้าตัวเองเพื่องานหนึ่งที่ได้เงินเดือนไม่กี่สิบเหรียญ

เฉินเยี่ยนพูดไม่ถูกว่าในใจรู้สึกยังไง

สงสารไหม?

เธอไม่สงสารอวี๋เหวยหมิน

เกลียดไหม?

ในใจเธอรู้สึกเจ็บเล็กน้อย

เธอเคยเป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุดกับอวี๋เหวยหมิน อวี๋เหวยหมินทำแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองน่าสมเพช

“คุณลุกขึ้นมาเถอะ”

เสียงเฉินเยี่ยนทุ้มต่ำ เธอหลุบตาลง นิ้วมือดูขาวซีดเพราะกำที่จับจักรยานแน่น ท่าทางของเฉินเยี่ยนไม่ได้ดูดีใจที่อวี๋เหวยหมินคุกเข่าให้เธอเลย

เฉินเยี่ยนทำแบบนี้ทำให้อวี๋เหวยหมินรู้สึกว่าเขามีหวัง เฉินเยี่ยนสงสารเขา

“คุณไม่ตอบตกลง ผมก็ไม่ลุกขึ้น เยี่ยนจื่อ คุณตอบตกลงผมได้ไหม?”

อวี๋เหวยหมินมองเฉินเยี่ยน สายตาดูเร่าร้อน มีความรัก เขามั่นใจว่าครั้งนี้เขาทำถูกต้อง

“งั้นคุณก็คุกไปจนตายเลย ยังไงฉันก็ไม่ตกลง สมองฉันไม่ได้มีไว้รองน้ำ ให้คุณเข้ามาในโรงงาน คุณพูดของคุณเชื่อถือได้ไหม? อย่าล้อเล่นเลย คุณอยากคุกเข่าก็คุกไปเถอะ ไม่เกี่ยวกับฉัน”

เฉินเยี่ยนพูดจบก็ไม่มองอวี๋เหวยหมินอีกเลย เข็นรถเดินออกไป