TQF:บทที่ 718 คนทรพี (1)

 

“ผู้ฒ่าหยิง เจ้าไปกำจัดพวกคนชุดดำที่กำลังมานี่ให้หมด” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพูดเสียงเย็น “อย่าให้พวกเขาเข้ามาในบ้าน จะได้ไม่ไปรบกวนท่านย่าทวดและท่านย่าเล็ก”

 

ตอนนี้มีคนชุดดำหลายสิบคนกำลังมุ่งมาทางนี้ ต่อให้พวกเขาจะระวังตัวแค่ไหนก็หนีไม่พ้นกระแสจิตของนางอยู่ดี ก่อนจะสั่งกับเหล่าเผ่าอสูรที่ซ่อนตัวกันอยู่ต่อ

 

ผู้เฒ่าหยิงออกไปด้วยความว่องไว คนชุดดำหลายสิบคนไม่ทันแม้แต่จะก้าวเข้าบ้านใหญ่ก็ถูกผู้เฒ่าหยิงและเผ่าอสูรขวางเอาไว้ โดนเก็บจนไม่เหลือแม้แต่ซาก ราวกับไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน

 

แน่นอนว่าคนที่ถูกโจมตีไม่ใช่แค่สายบ้านใหญ่ ณ ตึกนอนของพวกตาเฒ่าในสถานที่ต้องห้ามแห่งหนึ่งก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในเวลาเดียวกัน

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวและขันทีชราอาเฟิงมาปรากฏตัวกลางอากาศแล้ว และได้เห็นคนชุดดำหลายสิบคนเข้าล้อมเหล่าตาแก่ไว้ ส่วนคนที่นำพวกเขาอยู่ก็คือคุณผู้ชายบ้านสามนั่นเอง

 

“ฟางเต๋อถัง เจ้าจะทำอะไร….”

 

ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลฟางถลึงตามองคนที่พาคนชุดดำมาด้วยสีหน้าเคียดแค้น ถ้าสายตาเขาฆ่าคนได้ ฟางเต๋อถังคงถูกสายตาของเขาฆ่าตายไปแล้ว

 

ฟางเต๋อถังก้าวเข้ามาเสมือนไม่เห็นพวกตาแก่ตรงหน้าอยู่ในสายตา เขาเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยมขณะที่มองเหล่าผู้อาวุโสที่สูงส่งอยู่ตลอดเวลาอย่างพิจารณา “ผู้อาวุโสทั้งหลายเป็นรากฐานของตระกูลฟาง ข้าฟางเต๋อถังไม่กล้าทำอะไรอยู่แล้ว แค่มีเรื่องจะขอร้องเหล่าผู้อาวุโสสักหน่อย หวังว่าเหล่าผู้อาวุโสจะตกลง”

 

“ฟางเต๋อถัง เจ้าจะเอายังไง” ผู้อาวุโสจ้องหลานสายตัวเองเขม็ง สายตาคมกริบคู่นั้นราวกับสามารถมองอีกฝ่ายออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

 

ฟางเต๋อถังแค่เหลือบมองเขาแต่ไม่ได้สนใจ ก่อนจะหันไปพูดกับผู้อาวุโสใหญ่ “ข้อเสนอของข้าไม่สูงหรอก แค่อยากให้เหล่าผู้อาวุโสสนับสนุนให้ข้าเป็นเจ้าบ้าน เชื่อว่าเหล่าผู้อาวุโสก็จะตอบตกลงสนับสนุนข้าใช่มั้ย”

 

“ถุยย…..”

 

ผู้เฒ่าสี่ตะเบ็งเสียงด่าอย่างเกรี้ยวกราด “ฟางเต๋อถัง ไอคนทรพี สัตว์เดรัจฉานที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่อย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์จะเป็นเจ้าบ้าน เจ้าเลิกคิดซะเถอะ”

 

การกระทำของฟางเต๋อถังเหล่าผู้อาวุโสรู้ดีอยู่แก่ใจ เพียงแต่ไม่มีใครพูดออกมาตรงๆ ไม่ว่าอย่างไรเรื่องราวต่างๆเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของเหล่าผู้อาวุโสด้วย เพราะฉะนั้น แม้ว่าพวกเขาจะรังเกียจการกระทำของเขา แต่ก็ไม่มีใครทำการลงโทษเขาจริงๆจังๆ

 

เพียงแต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าด้วยความปล่อยปละละเลยของพวกเขาฟางเต๋อถังยังกล้าลงมือกับพวกเขาอีก จะไม่ให้พวกเขาโมโหโทโสได้อย่างไร ตอนนี้พวกเขาแค้นจนอยากจะฟาดเขาให้ตายซะ

 

“เฮ่ะๆๆ…”

 

ฟางเต๋อถังหัวเราะอย่างพิลึกพิลั่น มองเหล่าผู้อาวุโสที่ทำตัวสูงส่งไม่เห็นตัวเองอยู่ในสายตา บัดนี้มาเป็นนักโทษใต้อาณัติของตัวเองแล้วก็รู้สึกยินดี สายตาเย็นยะเยือกยิ่งขึ้น “ข้าว่าเหล่าผู้อาวุโสอย่ารั้นมากจะดีกว่า หรือพวกเจ้าคิดว่ากินยาเม็ดสั้นตู๋เข้าไปแล้วจะสั่งข้าได้อีกรึไง ถ้าทุกท่านไม่อยากหายไปจากโลกนี้ข้าว่าอย่างจองหองมากจะดีกว่า”

 

“เจ้า ไอเดรัจฉาน เจ้านี่มันโหดเหี้ยมจริงๆ ตระกูลฟางจะต้องล้มละลายในมือเจ้าเข้าสักวัน” ผู้อาวุโสใหญ่ตะโกนด่า

 

ที่จริงตอนที่พวกเขาเห็นการปรากฏตัวของคนชุดดำและลำเลียงพลังเซียนก็รู้สึกถึงความผิดปกติแล้ว นอกจากพลังเซียนถูกสะกดไว้พวกเขายังถูกวางยาอีกด้วย ถ้าเป็นปกติละก็พวกเขาไม่เห็นพิษธรรมดาแบบนี้อยู่ในสายตาหรอก บีบคั้นออกมาก็จบ

 

บัดนี้พลังเซียนถูกสะกดไว้ สารพิษค่อยๆคืบคลานอยู่ในร่างพวกเขา ถ้าไม่ได้ยาแก้พิษละก็สุดท้ายพวกเขาก็หนีไม่พ้นความตาย

 

หรือก็คือคนตรงหน้าไม่คิดที่จะปล่อยพวกเขาไป ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ใช้พิษที่โหดร้ายขนาดนี้

 

ผู้อาวุโสสามมีท่าทีใจเย็นที่สุด เขาจ้องฟางเต๋อถังที่กำลังได้ใจเขม็ง “มาบีบคั้นพวกเราก็ไม่มีประโยชน์หรอก พวกเต๋อหยวนไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ หรือเจ้าคิดจริงๆเหรอว่าการยืมพลังคนอื่นมาจะข่มพวกเราได้”

 

“ถูกต้อง คนเหล่านี้ไม่ใช่คนของตระกูลฟางแน่” ผู้อาวุโสสี่กวาดตามองเหล่าคนชุดดำที่มีกลิ่นไอเพชรฆาตและพูดด้วยอารมณ์ทั้งโกรธทั้งตกใจ

 

เหล่าผู้อาวุโสเข้าใจในทันที ที่ฟางเต๋อถังกล้าลงมือก็เพราะเขาได้กำลังหนุนใหม่ บัดนี้เขาจะชิงไปทั้งตระกูลฟาง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าถ้าฟางเต๋อถังได้ตระกูลฟางไป จะต้องทำให้ 1 ใน 10 ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลฟางกลายเป็นหุ่นเชิดของคนอื่นแน่นอน

 

ถ้าตระกูลฟางจะมีจุดจบแบบนี้ต้องเป็นที่อับอายแน่ พวกเขาไม่มีทางยอมหรอก

 

“พวกเจ้ายังหวังว่าไอคนไม่เอาถ่ายอย่างฟางเต๋อหยวนจะมาช่วยรึ ฮ่าๆๆ….”

 

ฟางเต๋อถังหัวเราะร่วน “แม้เขาจะเข้าวัง แต่ก็ได้ไปไม่กลับแน่ ต่อให้เขาได้กลับมา ทั้งครอบครัวเขาก็อยู่ในมือข้า ข้าอยากจะข่มขู่เขายังไงก็ได้ เว้นแต่ว่าเขาจะไม่สนว่าครอบครัวจะเป็นหรือตาย”

 

“อีกอย่าง เจ้าคิดว่าฟางหมิงเห้อยังมีโอกาสกลับมาอีกรึ ไปเป็นแขกเข้าชมงานประลองก็มีทางเดียวสำหรับเขาคือตายเท่านั้นแหละ นอกจากพวกเขา 2 พ่อลูกแล้ว คนอื่นๆที่เหลืออยู่ก็ไม่ได้ตายดีแน่ รวมถึงนังสารเลว 2 คน ฟางซูหยุนและเฉิงเสี่ยวเสี่ยวด้วย พวกนางล้วนมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินวันนี้ ยังจะคาดหวังให้พวกนางมาช่วยพวกเจ้าอีกรึ ฝันไปเถอะ ฮ่าๆๆ….”

 

นึกไปถึงว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของตัวเองหมดฟางเต๋อถังก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่นออกมา เขารอวันนี้มาตั้งนานแล้ว การมาถึงของวันนี้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขและผยองใจอย่างมาก

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่พรางตัวอยู่กลางอากาศอดส่ายหน้าไม่ได้ “สวรรค์ลงโทษยังรอดได้ หากทำชั่วเองคงจะรอดยาก เขารนหาที่ตายเอง ให้เขาได้สิ่งที่ต้องการแล้วกัน”

 

นางแอบสั่งเผ่าอสูรที่ซุ่มอยู่ด้านนอก จากนั้นมีเผ่าอสูร 10 กว่าคนพุ่งเข้าไปในบ้านสามทันที จะล้างบางก็ต้องล้างให้เกลี้ยง

 

“คุณหนู พวกเราต้องลงมือแล้วใช่มั้ย” ขันทีชราเหลือบมองและถามเสียงเบา

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวส่ายหัวและตอบ “ไม่ต้องรีบ รอให้เขาลงมือก่อนเราค่อยลงมือ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวตาแก่พวกนี้ใจอ่อนฆ่าไม่ลงอีก พวกเราก็ไม่สะดวกที่จะลงมือ เก็บไว้ก็เป็นภัยร้าย”

 

“ขอรับ”

 

“ไอแก่หงำหงอก พวกเจ้าคิดได้รึยัง ว่าอยากจะอยู่หรืออยากจะตาย” นัยน์ตาฟางเต๋อถังเย็นยะเยือก แววตาเป็นประกายกระหายเลือด “ยังไงซะพวกเจ้าก็ต้องตอบตกลง ไอแก่ไร้ประโยชน์ฟางเต๋อหยวนเป็นบรรลุเทพเทวาแล้วยังไง เมื่ออยู่ในมือเทพเซียนแล้วก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น จากนี้ไปมีแต่ข้าเท่านั้นที่ตระกูลฟางต้องเชื่อฟัง”

 

“กล้าพูดดีนี่”

 

ขณะที่เหล่าผู้อาวุโสกำลังจะด่า จู่ๆก็มีเสียงเย็นๆอันคุ้นเคยดังมา ทำให้พวกเขาดีใจอย่างที่สุด

 

ส่วนฟางเต๋อถังผู้โอหังเมื่อได้ยินเสียงนี้ก็ตัวสั่นไปวูบนึง ในแววตามีความตกใจระคนสะพรึงกลัวแว้บผ่านไป มองหญิงสาวชุดขาวที่ปรากฏตัวขึ้นอึ้งๆ

 

นางยังคงเย็นชาจนถึงขีดสุดราวกับว่าบนใบหน้าของนางจะไม่แสดงสีหน้าอย่างอื่นอีก เมื่อเทียบกับความลนลานของเขาแล้ว เหล่าผู้อาวุโสยินดีปรีดากับการปรากฏตัวของนางมาก เพราะรู้ว่าตัวเองอาจถูกช่วยเอาไว้

———————————-