ตอนที่ 2665 วงเวทย์ที่ช่วยอัพเกรดวิญญาณ

เมื่อจ้องมองไปที่หมอกสีขาวหลายๆเส้นที่เคลื่อนอยู่ภายในจิตใจของเขา ซือเฟิงก็ได้เห็นประกายแสงจางๆติดตามควบคู่ไปด้วย ซึ่งมันทำให้ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ

ใน God domain วงเวทย์มักถูกสร้างจากมานา อย่างไรก็ตามวงเวทย์บางวงก็ไม่ได้ถูกสร้างจากมานาเพียงอย่างเดียว แต่มันยังมีสิ่งอื่นผสมอยู่ด้วย

ในขณะเดียวกันวงเวทย์ที่เขากำลังมองดูอยู่นี้มันก็มีร่องรอยของวิญญาณ

ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวงเวทย์วิญญาณในข่าวลือจะมีอยู่จริง !!! ซือเฟิงเผยใบหน้าที่มีความสุขออกมา ขณะที่เขาสังเกตหมอกสีขาวหลายๆเส้นที่เคลื่อนอยู่ภายในจิตใจของเขา

เขาเคยได้ยินเรื่องราวของวงเวทย์วิญญาณมาก่อน แต่เขาไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลย

ตามข่าวลือที่เขาได้ยินมาวงเวทย์วิญญาณนั้นเป็นชุดวงเวทย์ที่สามารถเปลี่ยนวิญญาณของผู้เล่นได้ แน่นอนว่ามันก็ยังมีการกล่าวถึงวงเวทย์วิญญาณที่กลืนกินวิญญาณของผู้เล่นด้วย และในชีวิตที่ผ่านมาของเขานั้น มันก็มีข่าวลือมากมายจริงๆเกี่ยวกับวงเวทย์วิญญาณ

อย่างไรก็ตามมันมีสิ่งหนึ่งที่ซือเฟิงมั่นใจคือวงเวทย์วิญญาณที่เกาะติดกับเขานี้จะสามารถใช้อัพเกรดวิญญาณได้

ตามหลักแล้วผู้เล่นนั้นไม่ควรจะสามารถอัพเกรดวิญญาณได้ เพราะมันเป็นไปได้สำหรับ NPC เท่านั้น อย่างไรก็ตามวงเวทย์วิญญาณนั้นทำให้มันเป็นไปได้ และจากที่ซือเฟิงเคยได้ยินมาในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เมื่อผู้เล่นได้รับการอัพเกรดวิญญาณแล้ว แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปก็จะสามารถกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลังใน God domain ได้ ในความเป็นจริงผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าบางส่วนในชีวิตที่ผ่านมาของเขานั้นสามารถไปถึงขั้นห้าได้เพราะการอัพเกรดวิญญาณด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามในชีวิตที่ผ่านมาของเขา คนส่วนใหญ่ก็ยังคงเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น เพราะพวกเขารู้สึกว่าแม้จะไม่มีวงเวทย์วิญญาณ แต่ผู้เชี่ยวชาญที่ทำการใช้มันก็จะยังคงกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลังใน God domain ได้อยู่ดี ดังนั้นคนส่วนใหญ่ใน God domain จึงถือว่าการมีอยู่ และประโยชน์ของวงเวทย์วิญญาณนั้นเป็นแค่เรื่องไร้สาระ

อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงกับได้รับวงเวทย์วิญญาณมาเป็นของตัวเอง

แน่นอนว่าถ้าคนๆหนึ่งไม่ได้เป็นนักเวทย์ขั้นสูงเป็นอย่างน้อย คนๆนั้นก็จะแทบไม่สามารถรับรู้ได้ถึงวงเวทย์จากหมอกเหล่านี้เลย และคนส่วนใหญ่ก็จะถือว่ามันเป็นตราประทับวิญญาณ

โชคดีที่ฉันตรวจสอบมันอย่างรวดเร็ว หากรออีกสักสองถึงสามวัน ฉันจะสูญเสียโอกาสไป ซือเฟิงนั้นรู้สึกโล่งอก เมื่อเขาแน่ใจถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจน

วงเวทย์วิญญาณภายในตัวเขาได้รับพลังมาจากพลังวิญญาณและมานาของ Faux Saint Devourer แม้ว่าการเติมมานาให้กับวงเวทย์วิญญาณจะเป็นเรื่องง่าย แต่กับเรื่องการเติมพลังวิญญาณนั้นไม่ใช่ อย่างน้อยตอนนี้ซือเฟิงก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำแบบนั้นได้ยังไง ขณะที่วงเวทย์วิญญาณก็จะคงอยู่ได้อีกไม่นานนัก

แน่นอนตราบใดที่วงเวทยวิญญาณนี้ยังคงอยู่ มอนสเตอร์ Faux Saint ก็จะสามารถรับรู้ถึงการปรากฎตัวของเขาได้ การดำรงอยู่ของวงเวทย์วิญญาณนั้นอาจถือได้ว่าเป็นทั้งโชคดีและโชคร้าย

เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ ซือเฟิงก็เริ่มศึกษาวงเวทย์วิญญาณภายในจิตใจของเขาทันที

วงเวทย์วิญญาณนี้เพียงแค่ตราตรึงอยู่ในจิตใจของเขาเท่านั้น วงเวทย์วิญญาณยังไม่ได้ถูกเปิดใช้งาน หากเขาต้องการจะให้วงเวทย์วิญญาณแสดงเอฟเฟคจริงออกมา เขาจะต้องเปิดใช้งานมันก่อน

แน่นอนเลยว่าวงเวทย์วิญญาณนั้นมีความซับซ้อนจริงๆ จากสิ่งที่ฉันเห็นมันประกอบไปด้วยวงเวทย์ระดับปรมาจารย์ขั้นพื้นฐานราวสี่สิบวง และวงเวทย์ระดับปรมาจารย์ขั้นสูงมากกว่าหนึ่งโหล แถมสามในนั้นยังเกือบจะถึงขั้นของวงเวทย์ระดับสุดยอดปรมาจารย์ ยิ่งไปกว่านั้นฉันยังต้องพึ่งพาเจตจำนงแห่งวิญญาณของฉันเองเพื่อเปิดใช้งานวงเวทย์วิญญาณนี้ด้วย และแค่ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลให้วิญญาณของฉันถูกกลืนกิน ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมบางคนถึงเรียกมันว่าวงเวทย์กลืนวิญญาณ หลังจากตรวจสอบวงเวทย์วิญญาณเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ซือเฟิงก็รู้สึกสับสนการค้นพบของเขา
วิญญาณนั้นมันเป็นดั่งสิ่งที่เหมือนกับภาพลวงตา มันไม่สามารถจะอธิบายด้วยคำพูดได้ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงวิธีการอัพเกรด หรือการทำให้มันอ่อนแอลง อย่างไรก็ตามวงเวทย์วิญญาณในตัวเขาสามารถจะบรรลุเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลย

แต่น่าเสียดายที่ผลลัพธ์ของการเปิดใช้งานวงเวทย์วิญญาณนั้นมันมีแค่สองทางเท่านั้น ไม่มีทางที่สาม โดยทางแรกคือสวรรค์ ขณะที่อีกทางหนึ่งคือนรก และนอกนั้นมันไม่มีอะไรเลย

หากผู้เชี่ยวชาญทั่วไปได้รับการเสนอทางเลือกเช่นนี้ พวกเขาอาจไม่ลังเลที่จะลองเปิดใช้งานวงเวทย์วิญญาณ เพราะท้ายที่สุดแล้วผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้นั้นมันมากกว่าการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น และแม้ว่าวิญญาณของพวกเขาจะได้รับความเสียหาย แต่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดมันก็จะเป็นแค่การติดอยู่ในขั้นสามตลอดไปเท่านั้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ก็จะต้องติดอยู่ในขั้นสามอยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่โดนเรื่องอะไรแบบนี้

อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงสำหรับซือเฟิง การสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นนั้นมันมีสิทจะมีมากกว่าผลกำไรที่อาจเกิดขึ้น เพราะท้ายที่สุดด้วยมาตราฐานในปัจจุบันของเขา เขาไม่น่าจะมีปัญหาในการจะเข้าให้ถึงขั้นห้า และหากตอนนี้วิญญาณของเขาเสียหาย การจะเข้าถึงขั้นห้าให้ได้ก็จะเป็นปัญหามาก เพราะท้ายที่สุดแล้วยิ่งผู้เล่นไปถึงขั้น และเลเวลที่สูงมากเท่าไหร่ ความสำคัญของอาวุธและอุปกรณ์ก็จะยิ่งลดลงมากเท่านั้น และความแข็งแกร่งส่วนบุคคลกับวิญญาณนั้นจะขึ้นมามีบทบาทสำคัญแทน

นี่ฉันจะต้องยอมแพ้งั้นหรอ ? ซือเฟิงลังเล แม้ว่าเขาจะรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าวงเวทย์วิญญาณค่อยๆสลายไปจากจิตใจเขา

เนื่องจากวงเวทย์วิญญาณจะถูกใช้กับวิญญาณเขา ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสเพียงครั้งเดียวในการจะเปิดใข้งานมัน และหากเขาไม่สามารถจะควบคุมวงเวทย์วิญญาณนี้ให้แสดงผลออกมาแบบดีๆได้ วงเวทย์วิญญาณามันก็อาจจะย้อนกลับมากลืนกินวิญญาณของเขาแทน อย่างไรก็ตามหากเขาทำสำเร็จวงเวทย์วิญญาณนี้ก็จะอัพเกรดวิญญาณของเขา

ไม่ มันยังไม่ได้สิ้นหวังไปซะทั้งหมด !!!

หลังจากถกเถียงอยู่ในจิตใจของตัวเองมาระยะหนึ่ง ซือเฟิงก็เริ่มคิดถึงความเป็นไปได้ และเขาก็ได้จัดการนำเอาหัวใจแห่งออกัสตัสที่ได้รับความเสียหายออกมาจากกระเป๋าของเขา

มันเป็นเรื่องยากอย่างน่าเหลือเชื่อที่ผู้เล่นจะได้ค้นพบโอกาสในการอัพเกรดวิญญาณของตัวเอง และตราบใดที่เขาสามารถจะจัดการกับวงเวทย์วิญญาณได้สำเร็จ เขาก็จะมีช่วงเวลาที่ง่ายขึ้นมากในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ และเควสเลื่อนขั้นในอนาคต ในความเป็นจริงความช่วยเหลือที่เขาจะได้รับจากการอัพเกรดวิญญาณก็จะยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่เขาจะได้รับจากอุปกรณ์ระดับตำนานซะอีก และมันก็จะเป็นการสูญเปล่าอย่างมาก หากเขาละทิ้งโอกาสนี้

ในขณะเดียวกันมันก็มีอยู่สองวิธีที่เขาสามารถเพิ่มโอกาสในการเปิดใช้งานวงเวทย์วิญญาณให้สำเร็จขึ้นได้อย่างมาก

วิธีแรกคือการทำความคุ้นเคยกับวงเวทย์ที่ใช้สร้างวงเวทย์วิญญาณทั้งหมด อย่างไรก็ตามวงเวทย์วิญญาณนั้นมันมีความซับซ้อนมาก และตามมาตราฐานในปัจจุบันของเขา เขาอาจต้องใช้เวลาสองสัปดาห์ในการเรียนรู้และจดจำวงเวทย์ทั้งหมด

ขณะที่วิธีที่สองก็คือการปรับปรุงสภาพจิตใจของตัวเองเพื่อให้เขาสามารถนำทางเจตจำนงแห่งวิญญาณผ่านวงเวทย์วิญญาณได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

สำหรับคนอื่นๆทั้งสองวิธีนี้อาจจะยากอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่สำหรับซือเฟิง

หัวใจของออกัสตัสที่ได้รับความเสียหายสามารถจะปลดปล่อยพลังงานนิรันดร์ออกมาได้ เมื่อเปิดใช้งานมัน …. ซึ่งพลังงานนิรันดร์นั้นเหนือกว่ามานาหลายเท่า และมันสามารถจะช่วยยกระดับสภาพจิตใจของผู้เล่นให้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดได้ โดยทุกๆอย่างนี้พลังงานนิรันดร์จะช่วยได้มาก

ซึ่งด้วยพลังงานนิรันดร์โอกาสของเขาในการจะเปิดใช้งานวงเวทย์วิญญาณได้สำเร็จก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ปัญหาเดียวคือหัวใจของออกัสตัสที่ได้รับความเสียหายนั้นมีคูลดาวน์สามเดือน

แน่นอนว่ามันก็ยังมีตัวเลือกในการใช้คริสตัลเทพเจ้าหนึ่งชิ้นเพื่อหลีกเลี่ยงคูลดาวน์ที่ยาวนาน และแม้ว่ามันจะมีราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อในการใช้คริสตัลเทพเจ้าหนึ่งชิ้นเพื่อเรื่องนี้ แต่หากมันสำเร็จมันก็คุ้มค่า

เมื่อคิดได้ดังนี้ซือเฟิงก็เลือกจะหยิบคริสตัลเทพเจ้าชิ้นสุดท้ายที่เขามีอยู่ออกมาจากกระเป๋าของเขา และปล่อยให้หัวใจของออกัสตัสที่ได้รับความเสียหายดูดซับมันเข้าไป ก่อนที่เขาจะเปิดใช้งานวงเวทย์ของหัวใจ

ทันใดนั้นกระแสหมอกสีม่วงก็ไหลออกมาจากหัวใจของออกัสตัสที่ได้รับความเสียหาย และมาบรรจบกันรอบๆซือเฟิง ในขณะเดียวกันความรู้สึกสดชื่นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของซือเฟิง และความคิดของเขากับสมาธิก็เริ่มชัดเจนขึ้นกว่าเดิมมาก

ดี !! เอาล่ะมาเริ่มกัน !!!

ตอนนี้ซือเฟิงก็ได้สูดหายใจเข้าลึกๆ และเริ่มวิเคราะห์วงเวทย์ที่อยู่ในวงเวทย์วิญญาณทีละวงอย่างรอบคอบ

สองชั่วโมง …

สี่ชั่วโมง …

หกชั่วโมง …

ตอนนี้เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากพลังงานนิรันดร์ ซือเฟิงจึงสามารถเรียนรู้ส่วนประกอบทั้งหมดของวงเวทย์วิญญาณได้ในเวลาเพียงเจ็ดชั่วโมง แถมมันก็ยังทำให้เขาได้รับความเชี่ยวชาญระดับกึ่งสุดยอดปรมาจารย์นักเวทย์มาเล็กน้อยจากเรื่องนี้

ตอนนี้ฉันได้เรียนรู้วงเวทย์ทั้งหมดแล้ว ต่อไปมันก็จะเหลือแค่การนำทางเจตจำนงแห่งวิญญาณของฉันผ่านวงเวทย์วิญญาณเพื่อกระตุ้นพวกมัน !!!

เมื่อมองไปที่วงเวทย์วิญญาณในจิตใจของเขา ซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นและกังวลคละเคล้ากันไป แม้ว่าเขาจะคุ้นเคยกับส่วนประกอบของวงเวทย์วิญญาณทั้งหมดแล้ว แต่การจะเปิดใช้งานพวกมันให้สำเร็จนั้นมันก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะท้ายที่สุดการจะเปิดใช้งานวงเวทย์แต่ละวงในวงเวทย์วิญญาณนั้นมันจะต้องทำการแบ่งเจตจำนงแห่งวิญญาณออกเป็นหลายเส้น และการจะทำแบบนี้ให้ได้มันก็ยากอย่างไม่น่าเชื่อ

หลังจากเตรียมใจอยู่พักหนึ่ง ซือเฟิงก็เริ่มชี้นำเจตจำนงแห่งวิญญาณของเขาทันที

เปิดใช้งานวงเวทย์วงที่หนึ่ง …

เปิดใช้งานวงเวทย์วงที่สอง …

เปิดใช้งานวงเวทย์วงที่สาม …

เมื่อเปิดใช้งานวงเวทย์แต่ละวงไปได้มากขึ้น การเปิดใช้งานวงเวทย์ต่อๆไปก็เริ่มจะทำได้ยากมากขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ตามโชคดีที่สำหรับซือเฟิง เขาพอจะแบกรับและทำอะไรแบบนี้ไหว

เวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว และก่อนที่ซือเฟิงจะรู้ตัว เวลาก็ได้ผ่านไปมากกว่ายี่สิบนาทีแล้ว และในตอนนี้เหงื่อของเขาก็เปียกชุ่มไปทั่วทั้งตัวแล้ว

สุดท้ายแล้ว !!!

วงเวทย์สุดท้ายนี่ซือเฟิงจำเป็นจะต้องแยกเจตจำนงแห่งวิญญาณออกเป็นสิบเจ็ดเส้นเพื่อเปิดใช้งานมันให้สำเร็จ ซึ่งเมื่อเขาก็สามารถจะทำมันได้อย่างรวดเร็วและไม่ยากเย็นนัก

Peng!

ทันใดนั้นเสียงที่คมชัดก็ดังขึ้นในใจเขา

ในช่วงเวลาต่อมาวงเวทย์หลักของวงเวทย์วิญญาณก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนที่วงเวทย์อื่นๆจะเริ่มแตกออกตามไปเป็นโดมิโน่

ในขณะเดียวกันหมอกสีขาวหลายเส้นที่ไหลเวียนในจิตใจของซือเฟิงก็ได้เปลี่ยนเป็นอนุภาคแสงจำนวนนับไม่ถ้วนไหลเข้าไปที่สมองของซือเฟิง

มันสำเร็จใช่ไหม ?
ซือเฟิงตกตะลึง เมื่อได้เห็นฉากนี้ในจิตใจของเขา