ตอนที่ 481 อย่าลาออก + ตอนที่ 482 รักคุณมากเกินกว่าที่จะพูดออกไป

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 481 อย่าลาออก + ตอนที่ 482 รักคุณมากเกินกว่าที่จะพูดออกไป โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 481 อย่าลาออก

สยงชิงชิงพึมพำถอนหายใจกับตนเองอยู่สักพัก จู่ๆ ก็โมโหขึ้นมา บ่นอย่างคับแค้นใจว่า “ไม่ซ้อมแล้ว ร้องเพลงพวกนี้ทุกวัน ต่อให้ผู้ชมฟังไม่เบื่อ แต่ฉันเองร้องจนเบื่อแล้ว เพลงนี้ก็ห้ามร้องเพลงนั้นก็ห้ามร้อง อยู่ที่นี่จะไปมีความหมายอะไรกัน? ถ้าได้รับความนิยมขึ้นมาฉันจะลาออกไม่ทำแล้ว!”

อันที่จริงแล้วความคิดที่หญิงสาวแซ่สยงจะลาออกนั้นไม่ใช่ครั้งแรก ได้ทำงานที่คณะวัฒนธรรมยังไม่ถึงครึ่งเดือน หญิงสาวคนนี้ก็ประสบกับระบบขององค์กรที่ยุ่งยาก กฎระเบียบแย่ๆ จนทำให้รู้สึกแย่จนไม่คิดอยากจะทำต่อแล้ว แต่ก็โดนพ่อแม่ของเธอกดดันให้ทำต่อไป

ทำงานในคณะวัฒนธรรมเป็นการงานที่มั่นคง ไม่รู้ว่ามีคนตั้งกี่คนที่จ้องจะเอางานของสยงชิงชิงไป ถ้าหากสยงชิงชิงลาออกไม่ทำ คนพวกนั้นคงจะปรบมือร้องโห่ด้วยความดีใจอย่างแน่นอน ซึ่งพ่อแม่ของสยงชิงชิงคงไม่ยินดีนัก!

ลูกสาวของตัวเองมีงานดีๆ ทำ ถึงจะได้แต่งกับสามีที่ดี ต่อให้หน้าตาสวยขนาดไหน ถ้าหากเป็นคนไม่มีงานทำ ไม่ได้ทำอะไรเลย ผู้ชายดีๆ ก็คงไม่อยากจะได้แน่นอน!

เพื่ออนาคตของผู้หญิงคนนี้ พ่อแม่ของสยงชิงชิงก็ถือว่าเอาใจใส่ลูกอยู่ไม่น้อย คนหนึ่งทำหน้าถมึงทึง อีกคนทำหน้าใจดี อ้อนวอนขอให้สยงชิงชิงไปทำงานอย่างว่าง่าย อย่าทำตัวเหมือนลิงกระโดดโลดเต้นไปมาวุ่นวายไปทั่ว

อู่เหมยรำลึกความหลังอยู่ครู่หนึ่ง อันที่จริงเวลานี้เพลงป๊อปในประเทศก็ถือเป็นคลื่นใต้น้ำที่ไหลเชี่ยวทีเดียว เธอจำได้ว่าในปีหน้านี่แหละ จะมีนักร้องคนสำคัญคนหนึ่งจัดงานคอนเสิร์ตที่สนามกีฬาคนงาน ถือเป็นยุคที่เจริญรุ่งเรืองนับเป็นประวัติการณ์ในเมืองหลวง ประกาศให้รู้อย่างเป็นทางการว่าวงการดนตรีแนวใหม่ของประเทศจีนได้เริ่มขึ้นแล้ว

ตั้งแต่นั้นมาวงการดนตรีของประเทศจีนก็ขยายวงกว้างมากขึ้น ดั่งดอกไม้ที่เติบโตเจริญงอกงามอยู่บนผืนแผ่นดินนี้

แต่หากเวลานี้สยงชิงชิงพ้นจากหน่วยงานขององค์กรไปแล้ว ก็ต้องออกจากบ้านไปทำมาหากินพึ่งพาตนเอง ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นทางขวากหนามที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก พวกองค์กรด้านดนตรีพวกนั้นจะต้องขัดขวางสยงชิงชิงแน่ๆ

สยงชิงชิงคนเดียวสู้กับพวกองค์กรดนตรี ก็ไม่ต่างอะไรกับเอาไข่ไปชนหิน จุดจบคงไม่ดีเท่าไรนัก!

“พี่ชิงชิงพี่รออีกสองสามปีค่อยทบทวนดูใหม่ พี่ลาออกตอนนี้จะสามารถทำอะไรได้ ? ไม่มีงานก็ไม่มีเงินเดือน ไม่มีเงินเดือนก็ไม่มีเงินไปซื้อเสื้อผ้าสวยๆ แล้วก็ของอร่อยๆ กิน น่าเศร้าจะตาย!” อู่เหมยพูดโน้มน้าว

สยงชิงชิงมองไปทางสาวน้อยที่ร้อนใจยิ่งกว่าตัวเองเสียอีก พลันในใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที แล้วก็หัวเราะก๊ากออกมา จิ้มหน้าผากของอู่เหมยพูดขึ้นว่า “ฉันก็แค่พูดไปเรื่อยน่ะ จะลาออกจริงๆ ซะที่ไหน ต่อให้ลาออกจริงๆ ฉันก็ควรจะหาทางหนีทีไล่ให้ดีเสียก่อน ไม่อย่างนั้นหญิงสาวที่โตแล้วอย่างฉันยังต้องให้พ่อแม่เลี้ยง น่าขายขี้หน้าชะมัด!”

อู่เหมยค่อยวางใจลงหน่อย สยงชิงชิงก็เพียงแค่บ่นเท่านั้น เพียงแต่ตัวเธอกับสยงชิงชิงต่างก็นึกไม่ถึงว่าเรื่องราวบนโลกใบนี้ ไม่ว่าทำเรื่องอะไรสุดท้ายผลลัพธ์มักจะตรงข้ามกับสิ่งที่คิดไว้เสมอ มีเรื่องเหนือความคาดหมายตั้งมากมายที่ทำให้คนเราเลือกสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความต้องการของตนเอง จนเส้นทางชีวิตมุ่งเบนไปอีกทาง แล้วบางทีอาจจะเป็นเส้นทางที่สดใสกว่าที่เป็นอยู่เดิม!

หรือบางทีอาจจะเป็นเส้นทางคับแคบที่เต็มไปด้วยขวากหนาม!

สยงชิงชิงกับอู่เหมยยิ่งพูดคุยกันอย่างถูกคอ ก็เลยไม่ซ้อมเสียเลย เธอทำตามคำเรียกร้องของอู่เหมย สยงชิงชิงร้องเพลง <เถียนมี่มี่> ขึ้นมา เสียงของเธอสูงใสไพเราะ น้ำเสียงเต็มไปด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม เป็นเสียงที่หาได้ยาก

เพียงแต่ว่าเสียงดีๆ แบบนี้กลับไม่เหมาะที่จะร้องเพลงที่ใช้เสียงหวานนุ่มแนวซาบซึ้งกินใจ!

การร้องเพลงของสยงชิงชิงสมบูรณ์ไม่มีที่ติ ยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้าน แต่การขยายความของ ‘เถียนมี่มี่’ กลับรู้สึกอยู่ตลอดว่าขาดกลิ่นอายบ้างอย่าง ฟังแล้วให้ความรู้สึกประหลาด

มันก็เหมือนกับนายพลหญิงคนหนึ่งที่ควรจะขี่ม้าเพื่อฆ่าศัตรู แต่กลับบังคับเธอให้มาเด็ดดอกบัว มันแปลกไปหมดมันไม่เข้ากันเลยสักนิด!

”เพราะไหม ฉันร้องเป็นยังไงบ้าง?”

สยงชิงชิงมองเด็กน้อยสองคนอย่างร่าเริง อยากที่จะฟังความเห็นของพวกเขามาก

…………………………………………..

ตอนที่ 482 รักคุณมากเกินกว่าที่จะพูดออกไป

เด็กอ้วนอู่เชาลูบจมูก ถามกันไว้ก่อนว่า “คือให้ฉันพูดตามความจริงใช่ไหม?”

“แน่นอนสิ อยากจะฟังคำโกหกฉันจะถามพวกเธอทำไม!” สยงชิงชิงมองบนใส่

“ถ้าฉันพูดความจริง เธอห้ามลงไม้ลงมือนะ!”

อู่เชาลูบจมูกอีกครั้ง ภายใต้สายตาที่มองดูอย่างเงียบๆ ของสยงชิงชิง พูดอย่างช้าๆ ว่า “ไม่ค่อยเพราะเท่าไร ร้องยังไม่ดีเท่าเหมยเหมยเลยด้วยซ้ำ!”

อู่เหมยโมโหจนถีบไปทีหนึ่ง ไออ้วนสมควรตายทำไมต้องเอาเธอไปเปรียบเทียบ ถ้าสยงชิงชิงคิดมากจะทำยังไง!

อู่เชารีบหลบไปอยู่อีกข้างหนึ่ง ชี้ไปที่สยงชิงชิงพลางแก้ต้างว่า “ก็เธอบอกให้ฉันพูดตามความจริงอ่ะ ฉันก็แค่รู้สึกว่าเธอร้องเพราะกว่าสยงชิงชิงก็เท่านั้นเอง เดิมทีเพลงนี้ก็เหมือนกับขนมเค้กข้าว เธอกลับร้องกลายเป็นขนมปังปิ้งเนื้อลาไปได้ จะเพราะได้ยังไง!

อู่เหมยมองสยงชิงชิงอย่างกังวล กลัวว่าเธอจะโมโห แต่สายตาของหญิงสาวคนนี้กลับเปล่งประกายระยิบระยับ ดึงอู่เหมยมาให้เธอร้องให้ฟังหนึ่งรอบ อู่เหมยได้แต่ร้องขึ้นมาอย่างจนปัญญา สยงชิงชิงยิ่งได้ฟังสายตาก็ยิ่งเป็นประกาย เหมือนกับกระจกแก้วยังไงอย่างนั้น

“เหมยเหมยเธอร้องขึ้นมาได้ดีกว่าจริงดังคาด ถ้าหากเธอเรียนทักษะการส่งเสียงและการหายใจสักหน่อยนะ จะร้องเพราะกว่านี้อีก เพราะกังวาลกว่าเทปคาสเซ็ทอีก!”

สยงชิงชิงชมเชยอย่างใจกว้าง วิธีการพูดของเธอแทบจะคล้ายกับสยงมู่มู่ แนะนำให้อู่เหมยไปเรียนดนตรี แต่อู่เหมยกลับไม่ค่อยยินดีนัก

“ฉันยังเรียนวาดรูปอยู่เลย ตอนนี้ยังต้องเรียนเต้นอีก ถ้าต้องไปเรียนดนตรีอีกล่ะก็ ฉันจะเอาเวลาที่ไหนไปเรียนล่ะ? ค่อยว่ากันวันหลังแล้วกัน!”

สยงชิงชิงรู้สึกว่าน่าเสียดาย พูดอย่างอิจฉาว่า “ฉันล่ะอิจฉาเสียงของเธอจริงๆ ทั้งหวานทั้งนุ่ม คล้ายกับเติ้งลี่จวินเป็นอย่างมาก ไม่เหมือนกับเสียงของฉัน สูงเกินไป ร้องทีรับไม่ไหว”

เธอรู้ดีกว่าใครๆ ทั้งหมดว่าเสียงของตัวเองมีพลัง ร้องเสียงสูงไม่ลำบากเลยสักนิด แต่ร้องทำนองเพลงที่เป็นเสียงอ่อนเสียงหวานก็จะลดเสน่ห์ของเพลงนั้นลงไป ทำให้เธอกลัดกลุ้มใจเป็นอย่างมาก

แต่เธอจะยังมีวิธีแก้ปัญหาทางไหนอีก แม่ของเธอร้องโอเปร่า ตั้งแต่เด็กเธอก็ฝึกออกเสียงกับแม่ ไม่แน่ว่าเดิมทีเสียงของเธออาจจะนุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนขนมเค้กข้าวก็เป็นได้ แต่โดนแม่ของเธอฝึกจนเสียงกลายเป็นขนมปังปิ้งเนื้อลาไปแล้ว

อู่เหมยไม่เข้าใจความคิดของสยงชิงชิงเลยจริงๆ “พี่ชิงชิงพี่มีเสียงที่ดีเป็นพิเศษ ไม่คิดเลยว่ายังจะไม่ชอบอีก? พี่นี่มีของดีตรงหน้ายังจะไม่รู้ถึงความล้ำค่าของมันอีก!”

สยงชิงชิงฟังแล้วรู้สึกรื่นหูไม่น้อย เด็กคนนี้ถือว่าพูดเป็นเลยนะเนี่ย ทำให้จิตใจของเธอเบิกบานมีความสุขมาก เธอถอนหายใจ พูดว่า “แต่เสียงของฉันร้องเพลง เถียนมี่มี่’ ไม่เพราะ ผู้หญิงในคณะพวกนั้นต่างก็ร้องเพราะกว่าฉันกันทั้งนั้น!”

อู่เหมยพูดออกมาจากความรู้สึก “พี่ทำไมจะต้องร้องเพลง ‘เถียนมี่มี่’ ให้ได้ล่ะ? พี่ร้องเพลงอื่นๆ ก็ได้นี่!”

เพลงเพราะๆ มีตั้งมากมาย หญิงสาวคนนี้กลับจะเป็นจะตายจะต้องร้องเพลงเถียนมี่มี่ให้ได้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ!

สยงชิงชิงกลุ้มใจจนดึงทึ้งผมตัวเอง “ฉันไม่รู้ว่าต้องร้องเพลงอะไรถึงจะดี ฉันไม่อยากร้องเพลงที่ทางคณะจัดให้เลยสักนิด แต่นอกจากเพลงพวกนี้แล้ว ฉันก็ไม่มีเพลงอื่นให้ร้อง ไอหยา กลุ้มใจจริงๆ!”

อู่เหมยรีบจับมือของสยงชิงชิงเอาไว้ ถ้ายังให้เธอดึงต่อไปอีก ผมคงโดนดึงหมดหัว จนหัวล้านแน่!

“พี่ชิงชิงเสียงของพี่สามารถร้องเพลงได้เยอะมาก ฉันจำได้ว่ามีเพลงหนึ่งชื่อเพลงว่า ‘รักคุณมากเกินกว่าที่จะพูดออกไป’ พี่ร้องน่าจะเหมาะมากๆ!”

อันที่จริงเดิมทีแล้วเพลงนี้เป็นเพลงยอดนิยมของประเทศอเมริกาในยุคห้าสิบ ‘More than I can say’ ได้แปลเป็นภาษาของประเทศนั้นๆ อยู่หลายประเทศ เป็นเพลงรักที่มีท่วงทำนองไพเราะมาก เมื่อชาติที่แล้วมีนักร้องหญิงคนหนึ่งนำไปขับร้อง แพร่กระจายไปทั่วทั้งประเทศจีนอย่างกว้างขวาง

ตอนนี้เพลงที่ได้รับความนิยมในประเทศก็คิอเพลงของเติ้งลี่จวินที่มีท่วงทำนองที่หวาน เพลงที่อู่เหมยพูดไม่ใช่เพลงทั่วไป จนสยงชิงชิงนึกไม่ออก แต่พออู่เหมยพูดชื่อเพลงนี้เป็นภาษาอังกฤษ ทำให้เธอถึงนึกขึ้นมาได้ ลองฮัมเพลงไปสองสามท่อน ยิ่งร้องก็ยิ่งตื่นเต้น!

”ความรู้สึกนี้แหละ ที่ฉันชอบก็คือความรู้สึกแบบนี้เนี่ยแหละ เหมยเหมย เธอนี่เป็นดาวนำโชคของฉันจริงๆ เลย!”

สยงชิงชิงทำเหมือนกับว่าหาทิศทางการดำรงชีวิตเจอแล้วยังไงก็ไม่ปาน กอดอู่เหมยอย่างแรงหอมไปหนึ่งที รีบร้อนกลับไป

…………………………………………..