TQF:บทที่ 720 คนทรพี (3)

 

โม่ซวนซุนได้ยินคำถามของอาจารย์หญิงก็รีบคุยกับนางผ่านกระแสจิต “อาจารย์หญิง ไม่ต้องรีบ พวกเรารอดูก่อนว่าพวกเขาจะลงมืออย่างไรบ้าง”

 

“เกินไปแล้ว พวกเขาฆ่าเผ่าอสูรไปร้อยกว่าตัว เสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยไม่ปล่อยพวกเขาไว้แน่ แต่วิทยายุทธของพวกเขา…”

 

“วิทยายุทธของพวกเขาล้วนอยู่ระดับบรรลุเทพเทวาและเทพเซียน 3 คนที่เก่งที่สุดอยู่จุดสูงสุดของระดับเทพเซียน เป็นพวกที่น่ากลัวที่สุด ถ้าพวกเขาคิดจะหาเรื่องเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยละก็ พวกนางต้านไว้ไม่ไหวแน่”

 

“แล้วจะทำยังไงดีล่ะ”

 

หรงจิ้งซือตะลึงอย่างมาก ยังดีที่นางควบคุมลมปราณของตัวเองได้ ไม่อย่างนั้นปีศาจเฒ่าพวกนี้ต้องรู้สึกตัวแน่ “เสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยสู้พวกเขาไม่ได้แน่ๆ ซุนเอ๋อ ไม่อย่างนั้นเราตามหาพวกนางให้เจอแล้วรีบไปจากที่นี่กันเถอะ”

 

“อาจารย์หญิงวางใจเถอะ มีข้าอยู่ ข้าไม่ปล่อยให้พวกนางโดนทำร้ายหรอก”โม่ซวนซุนหยุดแปปนึงและพูดต่อ “ต่อให้พวกเรากล่อมให้พวกนางไป ตามนิสัยพวกนางแล้วก็ไม่ยอมไปกันหรอก”

 

“งั้นพวกเราจะช่วยพวกนางอย่างไรดีล่ะซุนเอ๋อ ครูเจ้าจะยอมช่วยพวกเรารึเปล่า”

 

“ตาแก่ซอมซ่อเหรอ อืม ก็อาจจะ ท่าทางคนของโถงวิหารสวรรค์ก็ไม่ค่อยสงบเสงี่ยมกันสักเท่าไหร่ ต้องหาเวลาจัดระเบียบซะหน่อยแล้ว”

 

“ซุนเอ๋อ เสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยจะเข้าร่วมงานประลองรึเปล่า”

 

“เข้าร่วม หยูเฮงน้อยใกล้ถึงแล้ว เสี่ยวเสี่ยวกำลังยุ่งอยู่”

 

“ยุ่งอยู่?”

 

และก็จริง ในตอนนั้นเฉิงเสี่ยวเสี่ยวกำลังยุ่งอยู่ นางและขันทีชราเดินทางไปทิศของพระราชวังแต่ไม่ได้เข้าใกล้พระราชวัง ใช้พลังจิตคอยจับตาดูคนรอบๆวังอยู่

 

ในเมื่อคนของกลุ่มทหารรับจ้างเอ้าชังคิดจะดักโจมตีฟางเต๋อหยวนย่อมต้องลงมือจากจุดนี้แน่ๆ แต่สิ่งที่ทำให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวแปลกใจคือไม่พบกลุ่มทหารรับจ้างเอ้าชังแม้เงา

 

“อาเฟิง พวกเขามารึยัง” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวขมวดคิ้วและส่งเสียงถาม

 

“คุณหนู พวกเขามาแล้ว”

 

สายตาของขันทีชราทอดไปยังบางแห่งในอากาศ “คุณหนู มีเทพเซียนมากันทั้งหมด 4 คน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดละก็คุณผู้ชายฟางไม่ใช่คู่มือของพวกเขาแน่”

 

“เฮอะ เทพเซียน มือเติบดีนี่ ข้าจะทำให้พวกเขาเสียเทพเซียนไป 4 คน ให้พวกเขาได้รู้รสชาติเจ็บปวดใจซะบ้าง”

 

“คุณหนู วางใจเถอะ พวกเขาหนีไม่พ้นแน่”

 

“พวกเราสู้แบบทีเดียวรู้ผลไปเลย เดี๋ยวต้องไปดูงานประลองการสกัดยาอีก ขี้เกียจจะรออยู่ที่นี่แล้ว”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวกวาดสายตามองลมปราณกลางอากาศที่ปรากฏลางๆ สั่งผึ้งหยกในวังเสียงเย็น

 

ขณะนั้น ฟางเต๋อหยวนที่กำลังกินลมชมวิวกับตาเฒ่าฮ่องเต้ในสวนดอกไม้หลวงจู่ๆก็ได้ยินเสียงเล็กๆข้างหู ทำให้เขาอดตกใจไม่ได้

 

สีหน้าผิดหวังและตกตะลึงที่แว้บผ่านหน้าเขาไปในพริบตาเดียวตาเฒ่าฮ่องเต้ข้างๆก็สัมผัสได้ อดถามกลั้วหัวเราะไม่ได้ “พี่ฟางเหม่อด้วยเรื่องอะไรรึ”

 

“ฝ่าบาท ยัยหนูเสี่ยวเสี่ยวส่งข้อความมาเรียกข้าให้ออกไปข้างนอก ฝ่าบาทโปรดอภัยด้วย” ฟางเต๋อหยวนที่ตั้งสติได้ไม่รอช้า รีบประสานมือและแจ้ง

 

“เหอะๆ พี่ฟางไม่ต้องเกรงใจ ในเมื่อยัยหนูเสี่ยวเสี่ยวเรียกเจ้าก็ต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่ๆ เจ้ากลับไปก่อนเถอะ ไว้เราว่างแล้วค่อยมาคุยเล่นไร้สาระกัน” ตาเฒ่าฮ่องเต้ก็รู้ว่านี่เป็นช่วงเวลาสำคัญ เขาไม่แปลกใจสักนิดที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเรียกตัวไป

 

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”

 

หลังจากที่ฟางเต๋อหยวนกล่าวขอบคุณแล้ว ก็หายไปจากสวนดอกไม้หลวงต่อหน้าต่อตาตาเฒ่าฮ่องเต้

 

“ตู้มม….”

 

เพิ่งออกจากพระราชวังมาได้ไม่นานก็มีลมปราณอันแข็งแกร่งถาโถมเข้าใส่ฟางเต๋อหยวน

 

ฟางเต๋อหยวนที่ลำเลียงพลังเซียนเพื่อต้านไว้สีหน้าเปลี่ยนไป เขารู้สึกเหมือนถูกภูเขามหึมาทับไว้ หลังจากนั้นก็มีร่างของคน 4 คนปรากฏสู่สายตาของเขา

 

“พวกเจ้าคือ….” ฟางเต๋อหยวนตะลึงมาก รู้ตัวทันทีว่าวิทยายุทธของทั้ง 4 คนลึกล้ำเกินจะหยั่ง เขามองไม่ออกเลย

 

คนวัยกลางคนทั้ง 4 มองฟางเต๋อหยวนด้วยสายตาเย็นยะเยือกราวกับมองคนตายอยู่ “เจ้าไม่ต้องรู้หรอกว่าพวกเราเป็นใคร วันนี้ เจ้าจะตายอยู่ที่นี่แหละ”

 

“พวกเจ้ากล้าไม่เบานี่ อย่าลืมสิว่าที่นี่คือชิงยาง” ฟางเต๋อหยวนตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด

 

“ชิงยางแล้วทำไม พวกเราอยากจะฆ่าใครก็ฆ่า….”

 

1 ในนั้นหัวเราะเย็นๆ ส่วนอีกคนขมวดคิ้วและแทรกขึ้น “เจ้าเพื่อนเก่า จะพูดมากกับเขาไปทำไม”

 

 

 

 

 

—————————————-