บทที่ 900 คลื่นจิตที่พัฒนา

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 900 คลื่นจิตที่พัฒนา

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

ในถ้ำกว้างขวางถูกปกคลุมไปด้วยควันสีฟ้าอมเขียวหนาแน่นซึ่งปลดปล่อยระลอกคลื่นออกมาเล็กน้อย เนื่องจากส่วนลึกของถ้ำมีแรงดูดกลืนรุนแรงพุ่งออกมาแล้วดูดควันสีฟ้าอมเขียวเหล่านั้น ราวกับการก่อตัวของกระแสน้ำวนสีฟ้าอมเขียว…

ใจกลางน้ำวนมู่เฉินนั่งเงียบราวกับก้อนหิน ยามนี้ร่างเขาเหมือนเหวลึกไร้ก้นกลืนกินควันสีฟ้าอมเขียวเข้าสู่ร่างกายไม่สิ้นสุด

ชี่! ชี่!

พร้อมกับควันสีฟ้าอมเขียวพวยพุ่งเข้ามาในร่างกาย ผิวหนังของมู่เฉินก็เปลี่ยนเป็นสีแดงร้อนลวกมากขึ้น ก่อนที่เสื้อผ้าจะกลายเป็นเถ้าถ่านหลังเสียงดังฉ่าเกิดขึ้น

ทว่ามู่เฉินก็ยังคงไม่เคลื่อนไหวแม้ว่าเสื้อผ้าจะไม่มีแล้ว สีหน้าก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด นั่นเพราะตอนนี้เขาเข้าสู่สมาธิฝึกฝนลึกซึ้ง นอกจากนี้เขายังปล่อยให้ตนเองอยู่ในสภาพที่ว่างเปล่า หลงลืมตน เขาพยายามนึกภาพคุกสายฟ้าตลอดเวลาภายใต้สมาธิว่างเปล่านี้…

ครืน!

ยามนี้ห้วงจิตของมู่เฉินแตกต่างจากเวลาปกติมาก ความมืดแผ่กระจายออกไปไม่สิ้นสุด เสียงคำรามป่าเถื่อนสะท้อนดังรุนแรง

เปรี้ยง!

ท่ามกลางเสียงฟ้าคำรน สายฟ้าแล่นผ่านความมืดเป็นครั้งคราว ขณะที่บรรยากาศบ้าคลั่งกระจายออกไปทั่วความมืดมิด

ไม่รู้ว่าเขาทำพลาดไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ในที่สุดมู่เฉินก็เห็นภาพคุกสายฟ้าได้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็มีเค้าโครงอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ตอนนี้คุกสายฟ้ามีรูปร่างแล้ว มู่เฉินต้องการเพียงแค่ทำให้สมบูรณ์แบบเท่านั้น… ในเมื่อคุกสายฟ้ามีรูปโครงแล้วเขาก็ต้องขัดเกลาคลื่นจิตของตนด้วยสายฟ้าภายในนั้น

ขณะที่คลื่นจิตมู่เฉินหมุนวน เมฆสายฟ้าที่อยู่ในคุกสายฟ้าก็กวนตัวและเริ่มเสียดสีกันอย่างรวดเร็ว แรงเสียดทานจากเมฆสายฟ้าทำให้เกิดเสียงคำรามสนั่นหวั่นไหว ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเกิดขึ้นในเมฆสายฟ้า…

ครืน!

เสียงคำรามทวีความรุนแรงมากขึ้น ทันใดนั้นเสียงกลุ่มใหญ่แผดออกมา เมฆสายฟ้าถูกฉีกออก สายฟ้าที่มีความหนาประมาณสิบกว่าจั้งก็ยิงออกมา

สายฟ้านี้ประหลาดมาก มันเหมือนจะไร้รูปร่าง แต่ก็สามารถรับรู้ถึงมันได้ชัดเจน มันแหวกว่ายอยู่ในคุกสายฟ้ามืดมิด เสียงครางกระหึ่มกระจายออกไปอย่างต่อเนื่อง

สายฟ้านี้ก็คือสายฟ้าฤทัยปีศาจดำ!

เพียงครั้งเดียว มู่เฉินก็ประสบความสำเร็จในการสร้างสายฟ้าฤทัยปีศาจดำ เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเขาเคยชำระสายฟ้าฤทัยปีศาจดำมาก่อน ถ้าใครอยากวาดเสือก็ต้องไปเห็นเสือตัวจริงเสียก่อน หากไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสือมีรูปลักษณ์อย่างไร ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะวาดออกมา เหมือนกันกับภาพนึกคิดนี้ ถ้ามู่เฉินไม่เคยเห็นสายฟ้าฤทัยปีศาจดำและไม่เคยรับรู้ลักษณะของมันอย่างแท้จริง เขาก็จะไม่สามารถจินตภาพสายฟ้าฤทัยปีศาจดำที่มีผลต่อการชำระได้แน่นอน

ทว่านี่เป็นสายฟ้าเพียงเส้นเดียวของสายฟ้าฤทัยปีศาจดำ เห็นได้ชัดว่ายังเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดใช้งานคุกสายฟ้าด้วยสายฟ้าเส้นเดียว…ดังนั้นมู่เฉินยังต้องนึกภาพสายฟ้าฤทัยปีศาจดำให้มากขึ้นเพื่อเติมเต็มโครงร่างคุกสายฟ้า

เมื่อมีเป้าหมายนี้ มู่เฉินก็ไม่ได้ชักช้า เริ่มการนึกภาพขึ้นอีกครั้ง ทันใดนั้นเสียงฟ้าร้องรุนแรงก็ดังก้องอยู่ในคุกสายฟ้าอันมืดสลัวอีกครั้ง ขณะที่เมฆสายฟ้ากวนตัวกระทบกันและกัน สายฟ้าอีกเส้นก็เริ่มปรากฏขึ้น…

ชัดว่านี่เป็นงานหนักในการเติมเต็มคุกสายฟ้าและต้องใช้เวลาไม่น้อย ดังนั้นในเวลาต่อมามู่เฉินจึงเข้าสู่กระบวนการน่าเหนื่อยหน่ายในการนึกภาพสายฟ้าฤทัยปีศาจดำทีละเส้น…

เขาขับไล่ความคิดอื่นๆ ทั้งหมดในใจ มุ่งเน้นไปที่การนึกภาพสายฟ้าฤทัยปีศาจดำ เมื่อคลื่นจิตอ่อนล้าลง เขาก็จะหยุดทำสมาธิเพื่อกู้คืน เมื่อฟื้นตัวก็จะเริ่มนึกภาพอีกครั้ง

เขาไม่รับรู้เรื่องเวลา ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด เขารู้เพียงว่าต้องสร้างภาพต่อไป จนกว่าคุกสายฟ้าจะถูกสร้างเสร็จในหัวสมองอย่างแท้จริง

สำหรับเวลาเขาลืมไปทั้งหมดแล้ว

เวลาเหมือนจะถูกแช่แข็ง

มู่เฉินไม่รู้ว่ากี่ครั้งที่เข้าสู่สมาธิเพื่อกู้คืนคลื่นจิต บางทีอาจเป็นพันครั้งหรือมากกว่านั้น…

ในขั้นตอนการนึกคิดภาพ หากเป็นคนที่ไม่มีหัวใจแน่วแน่ก็อาจจะเป็นบ้าไปแล้ว แต่เนื่องจากหลายปีแห่งการฝึกฝนอันขมขื่นของเขา จึงเป็นประโยชน์มากในช่วงเวลาที่สำคัญนี้

ความอุตสาหะทำให้เขาต้องตั้งมั่นในกระบวนการน่าเบื่อหน่าย ความอดทนก็ได้รับการชำระคืน เนื่องจากคุกสายฟ้าเติมเต็มขึ้นเรื่อยๆ

ครืน!

ขนาดของคุกสายฟ้ามืดมิดใหญ่จนไม่สามารถอธิบายได้ เมฆสายฟ้าอัดแน่นอยู่ภายใน สายฟ้าฤทัยปีศาจดำที่ไร้รูปลักษณ์ครางกระหึ่มทั่วท้องฟ้า ฉากนี้คล้ายกับวันสิ้นโลก หากฉากนี้ปรากฏในโลกภายนอก จอมยุทธ์ที่อยู่ต่ำกว่าขุมพลังตี้จื้อจุนคงไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้เลย

หลังจากใช้เวลานึกคิดภาพอยู่นาน คุกสายฟ้าก็ถูกสร้างสำเร็จอย่างแท้จริงซึ่งแสดงให้เห็นว่ารุนแรงและดุร้ายเพียงใด

คลื่นจิตของมู่เฉินลอยไปในคุกสายฟ้า เขารู้สึกได้ว่า สายฟ้าฤทัยปีศาจดำในคุกสายฟ้าจะเริ่มเปิดการโจมตีคลื่นจิตของเขาและขัดเกลาทันทีที่คลื่นจิตเคลื่อนไหว

ในที่สุดเขาก็บรรลุขั้นตอนสำคัญช่วงแรกของการฝึกฝนคัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่ ต่อจากนี้ก็เป็นขั้นตอนสำคัญเหมือนกัน

นั่นเป็นเพราะมู่เฉินจะต้องรักษาคุกสายฟ้าไว้ ไม่เช่นนั้นถ้าเขาออกจากห้วงแห่งจิตไป คุกสายฟ้าก็จะหายไป ถ้าเขาต้องการฝึกฝนก็ต้องสร้างคุกสายฟ้าขึ้นมาใหม่อีกครั้ง…

หลังจากผ่านประสบการณ์ลำบากในการสร้างคุกสายฟ้า มู่เฉินก็เข้าใจว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาไม่สามารถใช้พลังงานและเวลาจำนวนมากในการสร้างคุกสายฟ้าได้ทุกครั้งที่ฝึกฝน

ดังนั้นเขาจะต้องสำเร็จในขั้นตอนสำคัญที่สุดเพื่อคงคุกสายฟ้าไว้ในห้วงแห่งจิต ตามคัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่ว่าในบทที่ชื่อว่ากระบวนการกล่อมเกลาคุก

จริงๆ แล้วก็ไม่ยากเกินไปที่จะบรรลุขั้นตอนนี้ เนื่องจากคุกสายฟ้าเกิดจากคลื่นจิตของมู่เฉิน ดังนั้นตราบใดที่คลื่นจิตยังคงอยู่ ที่นี่ก็จะไม่หายไป

ทว่าจิตของเขาจะต้องกลับเข้าร่างไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอด มิฉะนั้นร่างกายก็จะแห้งเฉา… ส่วนทางออกของปัญหานี้ก็ไม่ยากเกินไป ตราบใดที่เขาแยกส่วนหนึ่งของจิตอยู่ที่นี่ การดำรงอยู่ของคุกสายฟ้าก็จะถูกเก็บรักษาไว้

ทว่านั่นเป็นวิธีทั่วไป คัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่มีวิธีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

ซึ่งก็คือเมล็ดพันธุ์คลื่นจิต

แยกจิตส่วนหนึ่งออกเพื่อสร้างเมล็ดพันธุ์ฝังลงอยู่ในคุกสายฟ้า พูดโดยทั่วไปนี่เป็นวิธีการที่วิปริตอย่างยิ่ง เนื่องจากเมื่อคลื่นจิตถูกแยกออกก็ต้องอ่อนแอลง ส่วนเมล็ดพันธุ์คลื่นจิตต้องแบ่งแยกความนึกคิดของเขาออกไปครึ่งหนึ่ง นี่จะทำให้ตัวเขาอ่อนแอลงเพียงใด?

ทว่าแม้จะเป็นวิธีการวิปริต แต่ก็ยอดเยี่ยมมาก เมล็ดพันธุ์คลื่นจิตที่ถูกทิ้งไว้ในคุกสายฟ้าสามารถถูกขัดเกลาได้ตลอดเวลา นั่นก็หมายความว่าถึงคลื่นจิตอีกครึ่งหนึ่งของมู่เฉินจะไม่ได้อยู่ในคุกสายฟ้า แต่เมล็ดพันธุ์คลื่นจิตที่เขาทิ้งไว้ ก็จะได้รับการขัดเกลาและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ…

เมื่อมองในระยะยาว นี่เป็นการลงทุนที่ให้ผลกำไรอย่างแท้จริง แค่เขาต้องการความกล้าหาญ

แต่เห็นได้ชัดว่ามู่เฉินยิ่งกว่ากล้าหาญ ดังนั้นเขาจึงแบ่งจิตครึ่งหนึ่งสร้างเมล็ดพันธุ์โดยไม่ลังเล!

ขณะที่จิตแยกออก ความเจ็บปวดรุนแรงก็ตีขึ้นภายในหัวสมอง วินาทีนั้นกระทั่งมู่เฉินยังยากที่จะรักษาสถานะนี้ไว้ จิตของเขาแทบจะปลิวออกไปจากห้วงแห่งจิต แต่โชคดีที่ความอุตสาหะของเขาสูง ดังนั้นสุดท้ายเขาก็สามารถทนต่อความเจ็บปวดในการฉีกขาดที่รุนแรง หลีกเลี่ยงสถานการณ์พยายามอย่างไร้ความหมายก่อนหน้านี้

ในคุกสายฟ้า ครึ่งหนึ่งของจิตมู่เฉินถูกซ่อนอยู่ในส่วนลึกของเมฆสายฟ้า ก่อนที่จะควบรวมอย่างช้าๆ และคงอยู่ที่นี่…

ครืน!

ด้านนอกเมฆสายฟ้า ลำสายฟ้าแล่นแปลบปลาบกระแทกเข้ากับคลื่นจิตด้วยความถี่คงที่ พร้อมกับการโจมตีด้วยสายฟ้าทุกครั้ง ก็จะเห็นว่ากลุ่มคลื่นจิตมีความละเอียดยิ่งขึ้น ไม่รู้ว่าขัดเกลามาแล้วกี่ครั้ง ในที่สุดครึ่งหนึ่งของจิตเขาก็รวมตัวกลายเป็นกลุ่มก้อนขนาดหัวแม่มือ

ในที่สุดเมล็ดพันธุ์คลื่นจิตก็อุบัติขึ้น

จิตส่วนที่เหลือของมู่เฉินจ้องมองไปที่เมล็ดพันธุ์คลื่นจิตก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อเมล็ดพันธุ์ถูกสร้างขึ้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงแปลกประหลาดในคุกสายฟ้า ซึ่งดูเหมือนจะไม่เป็นภาพลวงตาขนาดนั้นอีก…

“สำเร็จแล้วเหรอ?”

มู่เฉินพึมพำกับตัวเอง ด้วยความคิดสายหนึ่งจิตเขาก็เริ่มจางหายไป สภาพจิตใจว่างเปล่าก็ค่อยๆ หายไปเช่นกัน

เหนือจุดจื้อจุนไห่ ร่างมู่เฉินที่ถูกสร้างขึ้นด้วยคลื่นหลิงก็ค่อยๆ ลืมตาหลังจากผ่านไปไม่รู้นานเท่าไร เมื่อเขาเปิดตาขึ้นมาข้อมูลจำนวนมากที่ถูกสกัดไว้ก็พุ่งเข้าใส่ ขณะที่จิดของเขาควบคุมร่างกายของตนอีกครั้ง

“ฝึกมาหนึ่งเดือน…”

เมื่อรับรู้ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว มู่เฉินก็แอบรู้สึกโล่งใจ ในห้วงแห่งจิตเขารู้สึกราวกับหลายปีผ่านไป แต่ไม่คิดว่าโลกภายนอกจะผ่านไปเพียงหนึ่งเดือน

แต่โชคดีที่มีผลตอบแทนสำหรับกระบวนน่าเหนื่อหน่ายนี้ เขารู้สึกถึงความคลุมเครือบางอย่างเพิ่มขึ้นในหัวสมอง ซึ่งดูเหมือนจะไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ช่างเป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์มาก

“หืม?”

ขณะที่มู่เฉินสัมผัสสิ่งที่อยู่ในใจ เขาก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าเกิดริ้วความพิศวง นั่นเป็นเพราะเขาตระหนักว่าแม้จะแยกครึ่งหนึ่งของจิตไปเพื่อสร้างเมล็ดพันธุ์คลื่นจิต แต่คลื่นจิตของเขาก็ยังแข็งแกร่งกว่าเมื่อเดือนก่อน!

ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน คลื่นจิตของเขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นยิ่งนัก!