TQF:บทที่ 722 ท่านเขยกลับมาแล้ว (2)
เป็นไปได้อย่างไร
ภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้พวกเขาเกิดคำถามเดียวกันขึ้นในใจ
ตู้มม
แค่ท่าเดียว ปีศาจเฒ่าที่ตอนแรกคิดจะโจมตีเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ต้องเปลี่ยนท่าเป็นป้องกันตัวในทันทีเมื่อเจอกับพัดที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวฟาดลงมา แต่มันสายเกินไป ไม้ฟาดลงบนตัวเขาราวกับคลื่นยักษ์
“อ๊ากกก….”
เขาตะโกนลั่น ดวงตาเบิกโพลง เสียงดังตู้มและเขากระเด็นหมุนตัวออกไปราวกับใบไม้ร่วง
“เจ้าเพื่อนเก่า….”
“ผู้อาวุโสสาม…”
“เจ้าเพื่อนเก่า…..”
ปีศาจเฒ่าทั้ง 3 ตกตะลึงกันอีกครั้ง พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าผู้อาวุโสสามซึ่งเป็นเทพเซียนจะกันท่าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้แม้แต่ท่าเดียว
นี่มันเป็นไปได้อย่างไร นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!!
“อ๊ากก…”
ผู้อาวุโสสามไกลๆเพิ่งจะตั้งตัวได้ก็กระอักเลือดออกมา พวกเขาเคยถูกทำให้บาดเจ็บซะที่ไหนกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่บาดเจ็บจนกระอักเลือดเลย
อับอาย นี่มันเป็นความอับอายอย่างสิ้นเชิง
“ฆ่านางก่อน….”
1 ในนั้นตั้งสติได้รีบลงมือถล่มเฉิงเสี่ยวเสี่ยวทันที 2 คนที่เหลือก็ไม่รอช้า พวกเขาจัดแจงเป็นรูปสามเหลี่ยมเพื่อสร้างวิชาสะกดโจมตีนาง ซึ่งมีพลังโจมตีสูงมาก
หวังจะฆ่านางให้ได้
“เสี่ยวเสี่ยว….” ฟางเต๋อหยวนทั้งตกใจทั้งโกรธ รีบพุ่งเข้ามาโดยไม่ต้องคิด
ขันทีชราที่จะลงมือใส่ผู้อาวุโสสามมีสีหน้าหนักใจ ล้มเลิกความตั้งใจที่จะฆ่าอีกฝ่ายทันทีและหันกลับมาเตรียมทลายวงล้อมให้
ในขณะนั้นเสียงของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ดังขึ้นที่ข้างหูพวกเขาพร้อมกัน “ท่านปู่ทวด อาเฟิง ไม่ต้องสนใจข้า รีบไปฆ่าไอแก่ที่ไม่ยอมตายสักทีนั่นก่อน ข้ามีวิธีถ่วงไอแก่ 3 คนนี้ไว้ก่อน รีบไปเร็วอย่าให้พลาดโอกาส”
หลังจากที่ทั้ง 2 ผู้เฒ่าได้ยินเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ลังเลอยู่นิดหน่อย ก่อนจะพุ่งไปล้อมผู้อาวุโสสามที่บาดเจ็บสาหัสอยู่ทันที
เมื่อต้องเจอกับการโจมตีจากปีศาจเฒ่าทั้ง 3 คน เฉิงเสี่ยวเสี่ยวสายตาเป็นประกายเจิดจ้า แผ่พลังลมปราณที่ยิ่งใหญ่และดุร้ายออกไป ถล่มลงมาที่ลานกว้างเสมือนภูเขา แม้แต่อากาศก็นิ่งไม่ไหวติง
“ฆ่ามันนน…..”
1 ในปีศาจเฒ่าตะโกนเสียงสะท้านไปหลายลี้ พลังลมปราณอันน่ากลัวและกดดันพุ่งออกจากตัวเขาอย่างหมดจด เปรียบดั่งผู้กล้าได้มาเยือนแล้ว
ประชาชนทุกคนในระยะหลายลี้ใกล้ๆล้วนได้ยินเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดนี้หมด
แม้ว่าวันนี้จะมีคนจำนวนไม่น้อยมาเข้าร่วมงานประลองการสกัดยา แต่ก็ยังมีคนที่ไม่เข้าร่วมอยู่ ดังนั้นเสียงคำรามนี้ทำให้คนไม่น้อยได้ยินและเริ่มเคลื่อนไหว
โดยเฉพาะที่นี่ใกล้กับพระราชวังที่สุด ต่อให้ตาเฒ่าฮ่องเต้จะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องก็เห็นทีจะไม่ได้
เขาที่อยู่ในห้องหนังสือหลวงขมวดคิ้วและครุ่นคิดนิดหน่อย และทำมือเป็นสัญลักษณ์
จากนั้นก็มีร่างดำ 3 ร่างแว้บผ่านพระราชวังและมุ่งมาทางนี้
หลายร้อยเมตรในอากาศขึ้นไป พวกเขาปล่อยเงาดาบนับหมื่นเงาออกมา ราวกับจะสับเฉิงเสี่ยวเสี่ยวให้เละเป็นชิ้นๆ
เมื่อเจอกับเงาดาบนับหมื่นเงาสีหน้าของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้เปลี่ยนไปเลย หมุนตัวไม่หยุด พลังภายในพลุ่งพล่านออกมาจนเกิดเป็นภาพมายาในอากาศ ไม้ตบยุงในมือหลอมเป็นนับพันนับหมื่นไม้ฟาดเข้าใส่เงาดาบนับหมื่นเงา
“ตู้มม….”
เงาดาบถูกไม้ตบยุงของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวตบจนแหลกเหลว ผู้อาวุโสทั้ง 3 ตะลึงจนลูกตาแทบจะหลุดออกมา นั่นมันพัดอะไรกัน ทำไมถึงได้พิสดารและน่ากลัวเช่นนี้
แม้จะอยากรู้มาก แต่พวกเขาที่ได้สติกลับมาเข้าใจว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดว่าอีกฝ่ายใช้อะไร แต่เป็นเวลาที่ต้องฆ่านางให้ได้โดยเร็วที่สุด
“ตู้มมม….”
พวกเขาปลดปล่อยวิชาสะกดอีกครั้ง เสาสีดำพุ่งขึ้นสู่ฟ้าอย่างยิ่งใหญ่ แทบจะสะท้านดวงอาทิตย์
ชายชุดดำ 3 คนที่เพิ่งมาจากพระราชวังลงมือฆ่าผู้อาวุโสสามทิ้งซะ พอดีกับที่พวกเขาได้เห็นเสาลมปราณนั้น รู้สึกได้ถึงพลังลมปราณอันไร้ขีดจำกัดและผยองจองหอง
ชั่วขณะนั้น ฟ้าดินสงบลง
พลังลมปราณสีดำอันน่าสะพรึงเป็นเหมือนมังกรอันดุร้าย คำรามเสียงสนั่นออกมาซึ่งดังก้องไปรอบทิศ เงยหน้าและอ้าปากอันใหญ่ยักษ์พุ่งเข้าใส่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน ราวกับจะเขมือบเฉิงเสี่ยวเสี่ยวลงท้อง
“วิชากระจอก” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่เห็นมังกรดำที่กำลังพุ่งมาอยู่ในสายตาเลยสักนิด พูดเสียงเยือกเย็น “ก็แค่วิญญาณมังกรเท่านั้น”
ไม้ตบยุ่งในมือนางไม่รู้ว่าหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ พรืด ในมือนางมีก้านหลิวเขียวผ่องราวกับถูกสลักด้วยหินหยกศักดิ์สิทธิ์ แวววาวไปทั้งตัวเกิดเป็นแสงอันเจิดจรัส พุ่งทะลุท้องฟ้าไป
นัยน์ตาของมังกรดำที่อ้าปากกว้างและพุ่งเข้ามาจะกินเฉิงเสี่ยวเสี่ยวจู่ๆก็เบิกตาโพลง ตกตะลึงถึงขีดสุด คำรามออกมาด้วยความสั่นกลัว
“โฮกกก…..”
จากนั้นเสียงเงียบไปฉับพลัน ก้านหลิวเขียวขจีก้านหนึ่งผุดผ่องดั่งโซ่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสีเขียวเปล่งประกายพุ่งทะลุร่างของมันไป
ไม่สามารถต้านทานได้
ก้านหลิวเขียวขจีที่เปล่งบารมีดูแล้วอ่อนนุ่มเป็นที่สุด แต่ตอนที่พุ่งเข้ามาจริงๆแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า แยกร่างของมังกรดำที่เป็นเพียงวิญญาณมังกรออกจากกัน
ชั่วขณะนั้นเฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่คิดจะปล่อยวิญญาณมังกรของมังกรดำตัวนี้ไป ก้านหลิวในมือสะบัดอีกครั้งและฟาดลงบนร่างของวิญญาณมังกรดำครั้งแล้วครั้งเล่า มันไม่สามารถหนีไปไหนได้เลย
“โฮก…”
เสียงคำรามแสบแก้วหูเบาลงเรื่อยๆ ร่างของมังกรดำก็จางลงเรื่อยๆจนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
————————————