บทที่ 637 Final Name (8)

The Novel’s Extra

Chapter 637 Final Name (8)
บาอัลคำรามราวกับว่าเขากำลังรอช่วงเวลานี้ เสียงคำรามของเขามากกว่าเสียงสะท้อน มันมองเห็นได้ทางร่างกายอย่างชัดเจน ในไม่ช้าพลังปีศาจของบาอัลก็พุ่งเข้าหาพวกเขาเหมือนสึนามิ

KWAAAAA-!

คลื่นพลังงานปีศาจพุ่งขึ้นจากทุกทิศทุกทาง คิมซูโฮคว้ามิสเทลทีนก่อนที่คลื่นจะซัดเขา
จากนั้น มิสเทลทีนโค้งขึ้นในอากาศ
คิมซูโฮเหวี่ยงดาบของเขาอย่างรวดเร็ว การโจมตีเพียงครั้งเดียวนั้นได้กำจัดพลังปีศาจหายไปทั้งหมดราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่ในตอนแรก

คิมซูโฮลบ“ ความจริง” ที่ว่าบาอัลได้ปล่อยพลังปีศาจออกมา นั่นคือพลังของเทคนิคลับที่เขาเรียนรู้จากมิสเทลทีน

เขาได้รับกิฟต์ดาบแห่งนักบุญจากการบรรลุในครั้งแรก และครั้งที่สองเขาได้เรียนรู้เทคนิคดาบลับที่มีอยู่ในมิสเทลทีน
แต่ในความเป็นจริงเขาสามารถใช้เทคนิคนี้ได้ตั้งแต่เริ่มต้น คำอธิบายของเขาที่สามารถ “ตัดได้ทุกสรรพสิ่ง” เป็นการเกริ่นอย่างชัดเจน

พลังของเขา – ความสามารถในการตัดทุกอย่างที่เขาต้องการ

ในอดีต เขาจำกัดพลังของตัวเองทางอ้อมโดยคิดว่าเขาสามารถตัดได้เเค่สิ่งมีชีวิตและวัตถุ ปัญหาก็คือความคิดของเขา เขาไม่เคยคิดที่จะตัดสิ่งที่เขาคิดว่าไม่สามารถถูกตัดได้ แต่ตอนนี้เขาเรียนรู้ที่จะคิดนอกกรอบและลดความคิดเชิงนามธรรมลงไป

แน่นอนว่าคิมซูโฮรู้ว่าเทคนิคนี้เพียงอย่างเดียวนั้นยังห่างไกลจากบาอัลอยู่มาก ถ้าเขาสามารถก้าวเหนือขีดจำกัดของตัวเองได้อีกหนึ่งก้าว ถ้าเขาสามารถเข้าสู่สถานะของการเป็นนักดาบขั้นสูงสุด….
จากนั้นในที่สุด เขาก็สามารถตัดพลังบาอัลได้

“…คุณ.”

จินซาฮยอคหันไปมองคิมซูโฮด้วยความประหลาดใจ แชนายอน และคนอื่น ๆแค่คิดว่าดาบของ คิมซูโฮตัดพลังงานปีศาจ แต่จินซาฮยอค รู้ดีกว่า ในฐานะผู้ครอบครองผู้ถือครอบแห่งอำนาจการควบคุมความเป็นจริงแล้ว เธอจำอำนาจของคิมซูโฮได้ในทันที
พลังของเขาอาจรบกวนกฎของโลก มันเป็นความสามารถที่เหมาะสมสำหรับตัวละครหลักโดยธรรมชาติแล้ว จิตใจของจินซาฮยอคจึงได้หลุดลอยไปหานวนิยายที่อียอนจุนพูดถึงมาก่อนหน้านี้

“ อย่าประจบตัวเองเลย”

แต่ชินจงฮักขัดจังหวะขบวนความคิดของจินซาฮยอค เขาคว้าหอกผู้พิชิตขึ้นมาและเดินผ่านคิมซูโฮไป คิมซูโฮหันกลับมาเพียงเพื่อเผชิญหน้ากับชินจงฮัก ในเวลาเดียวกันเขาสามารถรู้สึกถึงพลังที่ไม่คุ้นเคยรอบ ๆ คู่แข่งเก่าของเขา

“ อยากพนันหน่อนไหม?”

KOOONG-! หอกผู้พิชิตหอกกระแทกกับพื้นดังลั่น ชินจงฮักยืนโดยแผ่นหลังกว้างของเขาอยู่ด้านหน้าของทุกคน เผชิญหน้ากับเบื้องหน้าและพูดต่อ

“ ใครจะเป็นคนแรกที่ฆ่าบาอัล”

แม้ว่าชินจงฮักจะดูจริงจัง แต่จินซาฮยอคก็รู้สึกตลกขึ้นมายิดๆ หลังจากเวลานี้ เป็นไปได้ไงที่เขายังคิดว่าตัวเองยังเป็น ‘ตัวละครหลัก’? ดูเหมือนว่าชินจงฮักจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก แม้หลังจากที่ได้พบกับคุณปู่ของเขาและสืบทอดมรดกของเขามา
ถึงอย่างนั้น คิมซูโฮ ก็ตอบด้วยรอยยิ้ม

“แน่นอน มาพนันกันเถอะ”

“ แล้วรางวัล?” ชินจงฮักถามเมื่อเขาจ้องมองไปที่แชนายอน น่าเสียดายที่แชนายอนไม่ได้สังเกต

หลังจากใคร่ครวญ คิมซูโฮก็อ้าปากพูด

“อืม … ผู้แพ้เรียกผู้ชนะว่า ‘ฮยอง’ เป็นเวลาหนึ่งเดือนเป็นไง?”

ถึงแม้ข้อเสนอนั้นจะค่อนข้างดูสุ่มๆ แต่คิมซูโฮจริงจัง
เขามีอายุมากกว่าทุกคนอย่างน้อย 10 ปี บางครั้งเขาต้องการได้ยินเพื่อนของเขาเรียกเขาว่า ‘ฮยอง’ หรือ ‘โอปป้า’ บ้าง

“…”

มันไม่ยากที่จะสรุปคำตอบของชินจงฮักจากหน้าตาที่บิดเบี้ยวของเขา ‘ไม่มีทางที่ฉันจะเรียกแกว่าพี่’ – การแสดงออกนั้นได้แสดงออกมาแทนคำพูดของเขาแล้ว

“ ไม่สำคัญอะไรนี่ ถ้านายจะชนะ นายกลัวอะไรเหรอ?”

แต่เขาไม่สามารถทนการยั่วยุของคิมซูโฮได้
ชินจงฮักส่ายหัว

“เอาสิ มาเริ่มกันเถอะ”

พลังเวทย์มนตร์ของชินจงฮักอาบไปทั่วหอกผู้พิชิต คิมซูโฮจับมิสเทลทีนขึ้นมาช่นกัน

“ เอาล่ะ เริ่มกันเถอะ เอาชีวิตให้รอดแล้วกัน”
พวกเขาคลายอารมณ์ด้วยการสนทนาเบา ๆ และกลับมามั่นคงเมื่อเผชิญกับปัญหาของพวกเขาอีกครั้ง
ตอนนี้พวกเขาพร้อมที่จะไป คิมซูโฮก้าวไปข้างหน้า….
จากนั้น
เสียงบางอย่างดังเข้ามาในหูของคิมซูโฮ

– คิมซูโฮ คุณได้ยินผมไหม?

“ฮะ? คิมฮาจิน?”

คิมซูโฮพึมพำด้วยความประหลาดใจ ชื่อนั้นดึงดูดความสนใจของทุกคนในครั้งเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แชนายอนคว้าข้อมือของคิมซูโฮอย่างรวดเร็ว

“อะไร? คุณเพิ่งพูดว่าคิมฮาจินหรอ? เขาอยู่ที่ไหน?”

ในขณะนั้น คิมฮาจินได้พูดคำต่อไปของเขา

– เฮ้ มาช่วยผมที

มันเป็นการขอความช่วยเหลือ

**

[ปารีสฝรั่งเศส]

Whiiish-!

อาแฮอินผิวปาก มันเป็นสัญญาณที่จะเรียกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเธอ เสียงนกหวีดที่มีพลังเวทย์นั้นมาถึง มังกรฟ้า ในท้องฟ้าและมังกรก็ลงมาอย่างเคร่งขรึม

-Krrr!

พอใจกับท้องฟ้าสีฟ้าใส มังกรฟ้าเปล่งเสียงออกทางจมูกอย่างพึงพอใจ สัตว์ประหลาดที่บินได้เช่นการ์กอยล์ที่ครั้งหนึ่งเคยปกคลุมท้องฟ้าได้ถูกล้างออกไปทั้งหมดโดยมังกรฟ้า
อาแฮอินตบที่ปากมังกรเบา ๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปหาแกรนด์เมจิกเชี่ยนที่ยืนอยู่กลางซากปรักหักพัง

“ …รุ่นพี่แกรนด์เมจิกเชี่ยนคะ”

มันน่าตื่นเต้นที่ได้พูด ‘รุ่นพี่แกรนด์เมจิกเชี่ยน’ ออกมาดัง ๆ ทักษะของเขาที่เธอได้เห็นในวันนี้แน่นอนว่าสมชื่อจริงๆ
อาแฮอินพูดต่อและพยายามที่จะระงับอารมณ์ที่เอ่อล้นของเธอ

“ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต่อสู้เคียงข้างคุณ”

“โอ้ ได้โปรด”

โอแจจินยิ้มเบา ๆ และงอเข่าราวกับว่าพยายามจะนั่งลง เศษของม้านั่งที่แตกกระจายลงอยู่ตามพื้นได้เข้ามาหาเขา แล้วพวกมันก็ได้สร้างขึ้นใหม่ในรูปของม้านั่งอย่างรวดเร็ว และ โอแจจินก็ทรุดตัวลงบนชิ้นงานที่ทำเสร็จแล้ว
อีกครั้ง อาแฮอิน รู้สึกประทับใจ

“ ในทำนองเดียวกัน มันเป็นเกียรติที่ได้ร่วมต่อสู้เคียงข้างนักเวทย์ที่มีความสามารถเช่นคุณ มันวิเศษมากที่คุณกลายเป็นนักเวทย์ 9 ดาวที่มีเพียงแค่เวทมนตร์อัญเชิญเท่านั้น”

“ … ค-ค- คุณชมฉัน”

บางทีเขาอาจจะพยายามทำตัวเป็นคนดี ถึงกระนั้น อาแฮอินก็ไม่สามารถต้านทานร่างกายของเธอจากการสั่นไหวด้วยความดีใจ

โอแจจินยิ้มและพูดต่อไป“ แต่ฉันใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว ฉันรู้สึกได้ว่าความคิดของฉันได้กระจายออกไปและมันก็ยากขึ้นที่จะสูดลมหายใจได้ในเวลาไม่กี่นาที คุณและนักเวทย์คนอื่นจะต้องเข้ามาแทนที่ฉันหลังจากนี้ บางทีเพื่อนเก่าของฉันอาจจะช่วยคุณ หากพวกเขาสามารถทำได้ นั่นคือ-”

อาแฮอิน รู้ว่า โอแจจิน มีความหมายอย่างไรกับ ‘เพื่อนเก่าของเขา’ แต่มีเพียงสี่ในกลุ่มไนท์สตาร์เท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่….

—นักเวทย์อาแฮอิน คุณต้องมาที่โซลตอนนี้!

ทันใดนั้น เสียงดังขึ้นจากสมาร์ตวอทช์ของอาแฮอิน
เจ้าของเสียงคือ คิมซุกโฮ อดีตประธานาธิบดีของเกาหลีและปัจจุบันเป็นประธานของสมาคมฮีโร่

” ท่านประธานคะ ฉันยังต้องดูแลเรื่องในปารีสอยู่”

– นั่นไม่ใช่ปัญหาของฉัน! บ้าเอ้ย ปีศาจเข้ามาที่บังเกอร์ของฉัน! มาเดี๋ยวนี้…

ดังนั้น สิ่งที่เขาหมายถึงคือเขาต้องการให้เธอช่วยเขา อาแฮอินลดระดับเสียงลงบนสมาร์ทวอทของเธอและหันไปจ้องมองที่โอแจจิน
โอแจจินส่ายหัวด้วยเสียงหัวเราะ

“ เขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย”

นั่นคือทั้งหมดที่เธอต้องการ
อาแฮอิน ยิ้มและตะโกนด้วยเสียงด่วน

“ไม่นะ! ปีศาจกลับมามีชีวิตอีกครั้ง!”

-อะไร? คุณพูดว่าอะไร ไม่ต้องรอ ไม่สำคัญ มาที่นี่เดี๋ยวนี้….

เสียงของ คิมซุกโฮ ถูกตัดกลางคัน
อาแฮอินถอด smartwatch ของเธอออกจากข้อมือแล้วโยนมันลงบนพื้น จากนั้นเธอก็หันไปจ้องมองซาตานคนสุดท้าย – แอสทารอธ – ที่ใจกลางซากปรักหักพัง
แอสทารอทดูเหมือนอัศวินในชุดเกราะ เขาจ้องมาที่โอแจจินพร้อมดาบขนาดใหญ่ในมือของเขา โอแจจินเผชิญหน้ากับสายตาของปีศาจที่จ้องมองมาที่ม้านั่งตรงนี้

“ ถ้างั้น…เราจะต่อกันเลยไหม”

โอแจจินหยัดตัวเองขึ้นมา สายตาของแอสทารอสมองตามการเคลื่อนไหวโอแจจิน ปีศาจยอมรับความแข็งแกร่งของมนุษย์ตรงหน้าเขาและวางแผนที่จะเผชิญหน้ากับเขาด้วยพลังทั้งหมดที่มี

“ ให้ฉันช่วยคุณเถอะนะคะ”

คนที่แข็งแกร่งพอ ๆ กับปีศาจ
ความรู้สึกขอบคุณและรู้สึกประทับใจกับความจริงที่ว่าชายผู้นี้อยู่ข้างมนุษยชาติ อาแฮอินได้ติดตามโอแจจินไป