ตอนที่ 703 ปล่อยมือจากไป (4) โดย Ink Stone_Romance

หยูอันยังอยากพูดท้วงเขาแต่พอเห็นใบหน้าเย็นชาของเขาดีๆ แล้วกลับพูดอะไรไม่ออก

ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่าที่เย่เซียวเหมือนใจตายไปในคืนเดียว…ราวกับว่าการมีชีวิตอยู่ต่อหรือไม่นั้นไม่ได้สำคัญอีกต่อไป…

สาเหตุที่หยูอันคิดได้ก็มีแค่ผู้หญิงที่ชื่อไป๋ซู่เย่เท่านั้น…

……………………

ประเทศ S

เมืองที่เข้าสู่ฤดูหนาว ลมหนาวเย็นเข้ากระดูก

วันที่ 18 เดือน 11 วันเกิดของเธอ

ฮูหยินไป๋โทรมาตั้งแต่วันที่สิบห้าว่าเธอต้องเว้นช่วงเวลามื้อเย็นของวันที่สิบแปดไว้ ส่วนงานเลี้ยงของเพื่อนร่วมงานเลยถูกเลื่อนไปเป็นเวลากลางคืนของวันที่สิบแปด

พวกไป๋หลางดีใจกว่าเธอเสียอีกและได้วางแผนทุกอย่างของคืนวันที่สิบแปดไว้หมดแล้ว

เธอที่เป็นตัวหลักของงานกลับไม่รู้สึกสนุกสนานด้วยแต่แค่ไม่อยากขัดอารมณ์ทุกคน วันที่สิบเจ็ดหลังเลิกงานไป๋ซู่เย่ขับรถไปที่ภูเขามู่เจี้ยเพียงลำพังหลายชั่วโมง เธอจอดรถในโซนให้บริการของเมืองมู่ ลงมานั่งตำแหน่งที่เขาเคยนั่ง ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคนเดียว

รอบข้างยังคงมีคู่รักประปรายเช่นเคย เธอเงยหน้ายิ้มให้พวกเขา

จากนั้นลุกขึ้นเดินฝ่าลมหนาวจากไปเพียงลำพัง

เธอปีนเขามู่เจี้ยคนเดียว นั่งตรงจุดชมวิวคนเดียว ดูพระอาทิตย์ขึ้นคนเดียว นั่งอยู่ตรงนั้นตลอดคืนนิ่งๆ รอแสงตะวันปกคลุมเขาทั้งลูก ขณะหิมะสีขาวโพลนได้แปรเปลี่ยนเป็นสีทองอร่ามนั้นเธอก็เดินลงเขาทีละก้าวๆ คนเดียว…

ไม่มีใครอุ้มเธอขึ้นเขาอีก และไม่มีใครจะแบกเธอลงเขาอีก…

มีบางประสบการณ์ที่อาจมีเพียงครั้งเดียวในชีวิต ซึ่งไม่ว่าอย่างไร…ก็ไม่มีทางลืมไปชั่วชีวิต…

…………………………

ไม่ได้พักสายตาสักนาทีเดียวก็ขับรถกลับกระทรวงความมั่นคงหลายชั่วโมงก่อนจะทำงานต่อ หนึ่งเดือนนี้เธอเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่รู้จักเหนื่อย เครื่องจักรทำงานตลอดไม่มีพัก

เมื่อมาถึงห้องทำงานของขวัญจากเพื่อนร่วมงาน ลูกน้องหรือหัวหน้าต่างกองพะเนินเทินทึกบนโต๊ะเธอ

 “รัฐมนตรี สุขสันต์วันเกิด!” เลขาอุ้มช่อดอกไม้หนึ่งเข้ามา “คุณอวิ๋นเป็นคนให้ค่ะ”

 “ขอบคุณ” เธอยิ้มตอบบางๆ

รับดอกไม้มาดม

ทั้งที่หอมมากแต่เธอกลับไม่ได้กลิ่นของความสุข

ของขวัญที่ไป๋หลางให้เธอนั้นเป็นน้ำมันหอมหนึ่งกล่องที่แบกมาจากอีกฟากของโลก

 “คืนนี้คุณอย่าลืมจุดอันนี้นอนนะ ผมเคยถามมาว่ามันได้ผลดีต่อการนอนหลับที่สุด”

 “ขอบคุณ” ไป๋ซู่เย่ดมเทียนหอม “คืนนี้ก็จะลองจุดดู”

ไป๋หลางมองเธอหลายที ไป๋ซู่เย่ไม่รู้สึกถึงสายตาของเขา ปลายนิ้วเกี่ยวผมที่ปรกข้างแก้มไปหลังหูและเปิดโน้ตบุ๊คไปพูดไปพลาง “ทำไม ไม่คิดจะทำงาน คิดจะมาจ้องหัวหน้าของนายทั้งวันอยู่ตรงนี้เหรอ?”

 “เมื่อคืนคุณไม่ได้นอนอีกแล้วใช่ไหม?” ไป๋หลางอดถามไม่ได้

ไป๋ซู่เย่ระอาเล็กน้อย “นายถามคำถามนี้ทุกวัน มาติดตั้งกล้องวงจรปิดบ้านฉันเลยดีไหม”

 “ไม่ใช่แค่ตาแดงแต่ยังขอบตาดำขนาดนี้ ผมเดาว่าคุณไม่ได้นอนเลยสักนาทีเดียว”

ไป๋ซู่เย่ไม่อยากถูกเขามองออกเลยแสร้งออกปากไล่อย่างหงุดหงิด “พอแล้ว นายรีบออกไปเถอะ คืนนี้ต้องเลิกงานเร็วหน่อย ฉันยุ่งมาก”

ไป๋หลางถอนหายใจพยักหน้าเตรียมหันหลังเดินออกไป

แต่พอเดินได้ก้าวเดียวสุดท้ายก็อดไม่ได้ หันกลับมามองเธอแวบหนึ่ง “รัฐมนตรี คุณรู้ไหม…”

ประโยคกล่าวถึงนี่ก็หยุดชะงัก

 “มีอะไร?” ไป๋ซู่เย่เงยหน้าขึ้นมา

 “ช่างเถอะ ไม่มีอะไร”

 “ไป๋หลาง มีอะไรก็พูด!”

 “…เขา จะแต่งงานแล้ว”

ในหัวไป๋ซู่เย่เกิดเสียงดังอื้ออึงก่อนที่ทุกอย่างจะขาดห้วง จากนั้นถามเสียงเบา “ใคร?”

 “จากข่าวที่เราได้ตรวจสอบมาบอกว่า…เย่เซียว อีกไม่นานจะแต่งงานกับน่าหลัน”

สิ้นเสียงไป๋หลาง

ภายในห้องทำงานเงียบสงัดอยู่พักใหญ่

เงียบจนได้ยินเสียงหายใจที่หนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ ของเธอ…

ไป๋หลางยืนอยู่ตรงนั้นทั้งที่ในหัวเองก็วุ่นวาย เขาถึงขั้นคิดว่าหากเดี๋ยวรัฐมนตรีร้องไห้ต่อหน้าตัวเอง เขาควรพูดปลอบเธออย่างไรดี ในเมื่อไม่เคยเห็นเธอน้ำตาตกสักครั้งจริงๆ

 “โอเค นายออกไปเถอะ…”

ครู่ใหญ่เธอถึงกล่าว

คำสั้นๆ ที่ติดสั่นเครือคล้ายใช้แรงหมดทั้งตัว

ไป๋หลางกำลังจะพูดอะไรไป๋ซู่เย่ก็หยิบเอกสารฉบับหนึ่งบนโต๊ะให้เขา “ช่วยเอาไปส่งให้ปลัดกระทรวงชั้นบนให้ฉันหน่อย ถ้าฉันไม่ให้นายเข้ามา นายห้ามเข้ามา!”

 “รัฐมนตรี!”

 “รีบไป!” เธอไม่ได้เงยหน้าเลยตั้งแต่ต้น

ไป๋หลางเงียบไปอึดใจพลางมองเธออย่างปวดใจแวบหนึ่ง สุดท้ายหยิบเอกสารเดินออกไปโดยไม่กล่าวคำใดๆ

ประตูปิดลงเบาๆ หลังไป๋หลางหายไป ไป๋ซู่เย่ก็หันหลังอย่างรวดเร็ว ให้ร่างกายที่สั่นเทาพิงโต๊ะทำงานและทิ้งสายตาไปนอกหน้าต่าง เธอพยายามเบิกตาให้กว้างราวกับว่าแบบนี้น้ำตาจะไม่ไหล แต่เธอพบว่าทุกอย่างเป็นแค่ความคิดเท่านั้น…

น้ำตาไม่ไหล แต่หัวใจกลับกำลังฝนตก…

ฝนห่าใหญ่…

ชโลมหัวใจเธอจนเปียกโชก หนาวยะเยือกเข้ากระดูก…

เธอรู้สึกแค่หนาว หนาวจนเลือดในร่างกายแทบจะแข็งตัว

…………………………

กลางคืน

งานฉลองวันเกิดกับเพื่อนร่วมงาน

ไป๋ซู่เย่ที่ควบคุมดูแลตัวเองมาตลอดคืนนี้กลับไม่เคยวางแก้วน้ำเมาลงสักครู่เดียว

ทุกคนล้วนสังเกตถึงความผิดปกติแต่ช่วงนี้รัฐมนตรีไป๋ก็ผิดปกติอยู่แล้ว แม้จะมาทำงานเหมือนเช่นเคย ยิ้มให้ทุกคนไม่ว่าใครก็ตาม แต่เห็นได้ชัดว่าทรุดโทรมกว่าเมื่อก่อนและหนักขึ้นเรื่อยๆ

ทุกคนต่างคาดเดาว่าจะได้รับความสะเทือนใจจากอะไร

แต่ผู้หญิงดั่งสวรรค์ฟ้าประทานอย่างรัฐมนตรีไป๋ ราบรื่นทุกอย่างทั้งเรื่องครอบครัวและการงาน จะมีอะไรที่กระทบใจเธอได้? ความรัก?

แต่คุณอวิ๋นที่ตามจีบเธอ ทุกคนก็รู้ว่าเป็นคนประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่น สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

ไป๋ซู่เย่เมาอย่างสมบูรณ์แบบ

ไป๋หลางมองแล้วรู้สึกแย่แต่กลับเป็นคนที่รู้สาเหตุดีที่สุด และไม่กล้าแม้แต่จะปลอบใจ

ชำระเงินให้ทุกคนสนุกต่อไป ส่วนตัวเองกลับพยุงเธอที่เมามายไม่ได้สติออกไปจากคลับแห่งนี้

 “ผมจะส่งคุณกลับไปก่อน”

ไป๋ซู่เย่ปัดมือเขา ดวงตาหยาดเยิ้มและรื้นด้วยน้ำใสบางๆ “ไม่ต้องให้นายไปส่ง ฉันไม่ได้เมา”

คนที่เมาแล้วควรไม่รู้สึกอะไรอีก…

หัวใจต้องไม่เจ็บขนาดนี้…

เจ็บเหมือนปริแตกออก…กลับมาเหมือนเดิมไม่ได้อีก…

 “คุณกลับไปนอนดีๆ สักตื่น พอตื่นมาพรุ่งนี้ก็ไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้ว!” ไป๋หลางนึกปวดใจ อยากแบกเธอไปที่รถ

 “ให้ฉันเดินคนเดียวสักพัก…” ไป๋ซู่เย่ไม่ยอมขึ้นรถ แค่ใช้ดวงตาแดงก่ำร้องขอเขา “ให้ฉันอยู่คนเดียวสักพัก ได้ไหม? นายอย่ามาสนใจฉัน”

…………………………