“สารเลว! เกิดอะไรขึ้น? หรือพวกเราจะเสียคนตั้งมากไปง่ายๆเช่นนี้?” มิรันด้าใบหน้าเขียวคล้ำ ซึ่งอันที่จริง กระทั่งหลังจากนั้นเขาก็ยังไม่ทราบว่ากองทัพมากเพียงนั้นกลับพ่ายแพ้ยับเยินได้อย่างไร หรือกองมทัพอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งจนไร้ผู้ต้าน?
ไม่มีผู้ใดทำความเข้าใจได้ว่า เหตุใดความแข็งแกร่งของสองทัพจึงแตกต่างกันถึงเพียงนี้ อัสวานแทบคลุ้มคลั่ง น้องชายของเขาอัสตูถูกสังหารไปต่อหน้าต่อตา แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้ การลงมือของเมอีฟหมดจดจนน่ากลัวเกินไป การสังหารคนในเงามืดหรือในสนามรบที่วุ่นวาย เมอีฟสามารถกระทำได้โดยง่าย นางสามารถซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางผู้คนนับพัน นี่แสดงให้เห็นถึงทักษะลอบเร้นอันน่าสะพรึง “พวกมันต้องตาย” อัสวานคั่งแค้น เขาหันไปมองมิรันด้าก่อนจะกล่าวว่า “ฝ่าบาท คนผู้นี้หมิ่นเกียรติกองทัพแห่งแลนซ์ของพวกเรา กระหม่อมขอเสนอว่าพวกเราควรส่งขุมกำลังจริงๆออกไปกวาดล้างพวกมันในคราเดียว ตามที่หน่วยสอดแนมรายงานมา พื้นที่โดยรอบไร้ซึ่งวี่แววของกองทัพอื่นๆ หรือก็คือ พวกมันมีเพียงเท่าที่เห็น หากเรามีท่าทีกลัวเกรงพวกมันเช่นนี้แล้ว เราจะไปสู้หน้าชาวจักรวรรดิแลนซ์ได้อย่างไร?” มิรันด้าแทบจะอดใจรอฉีกทึ้งเซียวอวี๋ไม่ไหว แต่เขาเป็นคนขี้ระแวง ไม่บุ่มบ่ามกระทำสิ่งใด เขาตระหนักดีว่าหากกระทำผิดพลาดเพียงครั้งเดียว เขาก็อาจจะต้องสูญเสียทุกอย่างไป “ไม่มีกองทัพอื่นๆอีกแล้ว?” มิรันด้าถามย้ำ เหตุผลที่เขาไม่กล้าทุ่มกำลังบดขยี้เซียวอวี๋ในทันทีก็เพราะระแวงว่าเซียวอวี๋จะมีกองทัพหรือไพ่ตายเก็บซ่อนเอาไว้ เพื่อขจัดข้อสงสัยนี้ เขาได้ส่งหน่วยลาดตระเวนออกไปตรวจสอบพื้นโดยรอบ จากคำรายงานของหน่วยลาดตระเวน พื้นที่ในแถบนี้ไม่มีร่องรอยการเดินทัพใดปรากฏขึ้น หรือก็คือ กองทัพของเซียวอวี๋ทั้งหมดก็มีเพียงที่อยู่เบื้องหน้านี้ แม้จะแข็งแกร่งอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังสามารถใช้จำนวนที่มากกว่าถมช่องว่างส่วนนี้ไป “ฝ่าบาท กระหม่อมรับรองได้ว่าพื้นที่โดยรอบปราศจากกองทัพใดๆ กระหม่อมคิดว่าเซียวอวี๋ผู้นี้เพียงต้องการใช้การรบที่เบื้องหน้าข่มขวัญพวกเรา กระหม่อมเสนอให้เร่งกวาดล้างพวกมันโดยเร็ว หากกองหนุนของพวกมันมาถึง นั่นก็จะทำให้พวกเราเสียเปรียบได้นะพะยะค่ะ” อัสวานวิเคราะห์ มิรันด้าขบคิดครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวว่า “อืม จับเป็นนังแพศยาสองพี่น้องนั่นมา ที่เหลือให้กำจัดฆ่าสิ้น” “พะย่ะค่ะ กระหม่อมขอกองมนตราและอาวุธเวทบางส่วน อีกฝ่ายมีนักรบเข้มแข็งอยู่หลายคน เช่นนั้น กระหม่อมทูลขอยืมตัว ท่านโล้นมหากาฬและท่านมอดเดิลพะย่ะค่ะ” อัสวานร้องขอกำลัง มิรันด้าโบกมือ “ข้าอนุญาต ขอเพียงเข่นฆ่าพวกมันได้” “ขอบพระทัยฝ่าบาท” อัสวานเผยยิ้มเหี้ยมเกรียม เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องราวที่เมืองเม็กโดนถล่มจนย่อยเกิดขึ้นอีก อาวุธเวทมากมายจึงถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่ ด้วยเวทอาวุธเหล่านี้ มันจะช่วยเสริมพลังให้ผู้ใช้มนตราได้มาก ครืน…… หลังผ่านการต่อสู้ กองทัพฝ่ายเซียวอวี๋ก็เอนกายลงพักราวกับที่นี่ไม่ใช่สนามรบ กระทั่งกองกำลังอัศวินสีชาดที่เดิมทีมีชื่อเสียงว่ามีรัเบียบเคร่งครัด เมื่อมาอยู่ภายใต้การบัญชาของเซียวอวี๋ก็ยังแยกย้ายกันพัก ซึ่งภาคีหัตถ์เงินเองก็ไม่ต่างกัน พวกเขานั่งพักนอนพักกันเอกขเนกราวกับมาพักผ่อน หากเป็นเมื่อก่อน อลอนโซ่คงหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ต้องกล่าวถึงการนั่งไร้ระเบียบเช่นนี้ กระทั่งเสื้อเกราะไม่เข้าที่หรือตัวดาบไม่คม ทหารนายนั้นก็คงโดนอลอนโซ่เทศน์จนหูชาไปแล้ว อย่างไรก็ตาม สภาพของกองทัพตอนนี้แทบดูไม่ต่างจากกองโจรภูเขาแม้แต่น้อย ทั้งคาสโซ่และอลอนโซ่ต่างก็ทำได้เพียงส่ายศีรษะอย่างหน่ายใจ พวกเขาก็ไม่กล้าตำหนิเซียวอวี๋ เพราะอย่างไรเสีย เซียวอวี๋ก็เป็นผู้บัญชาการที่ไม่เคยพ่ายแพ้แม้แต่ครั้งเดียว หลังจากอยู่ด้วยกันมาพักหนึ่ง พวกนักรบออร์คก็บอกเล่าเรื่องราวการรบอันยิ่งใหญ่ของเซียวอวี๋ ยิ่งได้ฟังเรื่องเหล่านั้นมากเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งตกตะลึงอ้าปากค้าง ด้วยการสูญเสียเพียงเล็กน้อย พวกเขาสามารถได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ที่สมควรถูกจารึก พวกเขารบชนะทุกสมรภูมิ การทำสงครามสำหรับพวกเขาก็แทบไม่ต่างจากการเดินหมากบนกระดาน คาสโซ่และอลอนโซ่กวาดมองทั่วสนามรบ พวกเขาพบว่า แม้กองทัพของเซียวอวี๋จะมีท่าทีเกียจคร้าน แต่หากถึงคราวรบขึ้นมาจริงๆ ทั้งหมดต่างก็กลายเป็นนักรบอันมีวินัยสูงส่ง สิ่งนี้ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกเชื่อมั่น ซึ่งที่จริง หลังจากได้อยู่ด้วยกันกับเซียวอวี๋มาพักหนึ่ง พวกเขาก็พบว่าเซียวอวี๋นั้นเป็นอันธพาลจริงแท้ ไม่ได้เพียงเสแสร้งแกล้งทำ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะทำตัวหยาบช้าไปบ้าง แต่คนหยาบช้าผู้นี้ก็ยังเป็นคนหยาบช้าที่แข็งแกร่งและตรงไปตรงมา เขาไม่ได้ดำเนินชีวิตตามขนบธรรมเนียมและมักมีความคิดแปลกใหม่อยู่เสมอ ซึ่งความคิดเหล่านั้นก็ล้วนแล้วแต่มีประสิทธิผลอย่างเหลือเชื่อ แม้เซียวอวี๋จะไม่ได้มีท่าทางของสุภาพบุรุษ แต่คาสโซ่ก็เชื่อว่ากลุยุทธ์ของเซียวอวี๋นั้นสามารถผ่อนคลายความตึงเครียดในทัพได้อย่างดี ทั้งยังสามารถป่วนประสาทศัตรูไปพร้อมกัน บางที นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่กองทัพของเขาไม่เคยรบแพ้ ‘หากครั้งนี้พวกเรายึดเมืองเม็กมาได้จริงๆ เช่นนั้นข้าก็จะขอติดตามเขา บุคคลที่แสนวิเศษเช่นนี้ไม่ได้หาเจอโดยง่ายจริงๆ’ คาสโซ่นึกขึ้นในใจ