บทที่ 935 คุณหนูใหญ่

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 935 คุณหนูใหญ่

“ใคร?”

“ท่านเอ่ยนั้นคือใครกัน?!”

 ได้ยินคำที่ราชาเปี้ยนเอ่ยออกมา“ฉินเทียน”สองคำนี้ สีหน้าของเฮยสุ่ยนั้นเปลี่ยนไป ทันใดนั้นเขานั้นก็ไม่สามารถที่จะอยู่สงบได้

ราชาเปี้ยนนั้นตกใจ ตั้งแต่รู้จักจนถึงตอนนี้เป่ยจุน การแสดงออกของเขานั้นยอดเยี่ยม แพร่ไปทั่วท้องที่อันกว้างไกล แต่ทันใดนั้นทำไมถึงเป็นแบบนี้?

“ทำไมหรอ?”

“เป่ยจุนก็รู้จักคนนี้เช่นกันหรอ?มีอะไรที่ผิดปกติไปหรือ?”เขาเอ่ยถามด้วยความสงสัย

ภายในดวงตาของเฮยสุ่ยนั้นเปล่งแวบประกาย มองไปทีราชาเปี้ยนที่ไม่รู้เรื่องราวเบื้องลึก ก่อนที่จะถอนหายใจ แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีอะไรหรอก”

เพียงแค่ว่าจู่ๆก็นึกถึงคนหนึ่ง แต่ว่าคนนั้นได้ตายไปหลายปีแล้ว น่าจะแค่ความบังเอิญชื่อเหมือนกันแหละ”

“เหล่าหวัง ท่านเอ่ยว่าฉินเทียน นั้นเป็นใครกันหรือ?”

ราชาเปี้ยนเอ่ยด้วยความตื่นเต้น“งั้นพวกเราไม่เอ่ยถึงคนนี้แล้วล่ะ คนสมัยก่อนนั้นชื่อว่าฉินเทียนนั้นมีเยอะเกินไปแล้ว”

“ที่ข้าเอ่ยถึงคนนี้นั้น เป็นปรมาจารย์ฝีมือดีระดับสูง อีกทั้งอายุยังน้อยและแข็งแกร่งมากด้วยนะ”

“หากไม่มีอะไรผิดพลาด หลังจากเมื่อตะวันสว่างแล้ว เขานั้นน่าจะมาหาข้า!”

เฮยสุ่ยขมวดคิ้ว“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”

“หรือว่า นี่ก็คือคนที่ท่านจะให้มาจัดการฆ่าจินยีโหวและราชาจั่วเจียน หรอ?”

ราชาเปี้ยนเอ่ยเสียงต่ำลง“จะว่าเช่นนั้นก็ได้ห”

“ไม่นานมานี้ได้รับรายงานมาจาก เกาเหมิ่ง เขาตามจริง ข้านั้นตกตะลึง ว่าเจ้าฉินเทียน ที่อายุน้อยเช่นนี้ จะมีพลังมากมายขนาดนี้ สามารถที่จะต่อสู้คนเดียวกับเกาเหมิ่งและพรรคพวกรากษสทั้งห้าของพวกเขา”

“พลังของเกาเหมิ่งและรากษสทั้งห้า ข้านั้นก็ทราบดี ฉินเทียนนั้นสามารถต่อสุ้กับพวกเขานั้นได้ดุจสายน้ำที่ไหวพลิ้ว อีกทั้งพละกำลังยังไม่ตกอีกด้วย”

“ที่สำคัญเลยก็คือ เขานั้นยังขอร้องข้าอีกนะ”

“ใช่หรอ?”เฮยสุ่ยเอ่ยถามอย่างรีบร้อน “งั้นเมื่อเป็นปรมาจารย์เช่นนี้ ทำไมถึงต้องขอร้องท่านอีกด้วยล่ะ?”

ราชาเปี้ยนเอ่ยอย่างภูมิใจ“นี่เรียกว่าไม่หวังผลแต่แรก แต่กลับได้ตามคาดไงล่ะ”

“ไม่อยากจะซ่อนจากเป่ยจุน หลายปีมานี้จากที่คนของข้านั้นรายงาน ในสถานที่พวกนี้ ที่เห็ดหลินจือเลือดนั้นได้เติบโตขึ้นบนหลุมฝังศพพวกนี้ ก็เป็นพันปีกว่าแล้ว”

“ข้าทราบดีว่านี่คือของที่ดีที่สุด แต่ว่าไม่ได้มีความคิดที่จะใช้ เลยได้แต่เก็บไว้อย่างระมัดระวัง”

“จากที่เกาเหมิ่งรายงานมา เจ้าฉินเทียนนี้ เหมือนยากที่จะได้ เห็ดหลินจือเลือด”

“งั้นข้านั้นสามารถที่จะใช้เห็ดหลินจือเลือดในการจับเขา และบังคับให้เขานั้นลงมือจัดการกับหวังเหมี่ยนและหวังเจี่ยน”

“ยืมมือคนอื่นฆ่าคน จะไม่ต้องมาคอยเป็นกังวลเป่ยจุนเจ้าว่า แบบนี้เหมือนพระเจ้าเขาช่วยข้าไหมล่ะ?”

เฮยสุ่ยนั้นทำเสียงหึ ก่อนที่จะเอ่ยอย่างไม่แน่ใจ “ เจ้าฉินเทียนนี่ ยังมีตัวตนอื่นๆอีกหรือ?”

“ตัวคนอื่นๆงั้นหรอ?”ราชาเปี้ยนนั้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “เกาเหมิ่งเอ่ยว่าเป็นขุนศึกพลที่มาจากทางตอนใต้ และกำลังระดมปล้นสุสาน”

“ใช่แล้ว!”

“อีกทั้งเจ้าฉินเทียนนี่ยังไปก่อความวุ่นวายที่บ้านของ เกาเหมิ่งอีก ยังบังคับสมาชิกระดับสูงของเผ่ามังกรซ่อนรูป ช่างน่ากลัวจริงๆ”

“สุดท้ายแล้ว ไม่คาดคิดว่าจะทำให้มู่หลงแห่งเผ่ามังกรซ่อนรูปแดนตะวันออกนั้นตกใจได้”

“หลังจากที่มู่หลงมาแล้ว ยังเคารพฉินเทียนอีกต่างหาก อีกทั้งยังขอโทษ นี่มันน่าแปลกใจมากๆ”

“เป่ยจุน เจ้ากับมู่หลงนั้นเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เจ้าลองไปถามมู่หลงสิ ว่าเจ้าฉินเทียนนั้น ยังมีเบื้องหลังอะไรที่ทำให้คนตกใจอีกกัน?”

เฮยสุ่ยยิ้มแล้วเอ่ย“เหล่าหวัง ท่านจะคิดมากเกินไปแล้วล่ะ”

“ท่านก็เคยเจอกับมู่หลง ท่านยังไม่เข้าใจเขาอีกหรอ?เจ้าคนหน้าตายนั่น ปกติแล้วก็เอาแต่รักตัวเองนั่นแหละ”

“ข้าคิดว่า ที่เขาทำแบบนั้นต่อหน้าทุกคน และขอโทษต่อฉินเทียนนั้น ข้าคิดว่า หรือเป็นเพราะว่าลูกน้องของพวกเขาจะทำอะไรผิดกัน”

“เขานั้นที่ในฐานะหัวหน้า แน่นอนว่าจะต้องทำหน้าที่มีทัศนคติที่ดีและถูกต้อง มีเพียงแบบนี้เท่านั้น คนอื่นถึงจะไม่ได้เอ่ยพูดอะไร”

ราชาเปี้ยนเขานั้นตบขาตัวเองก่อนที่จะเอ่ย “ข้าเข้าใจแล้วล่ะ!จะต้องเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน!”

“มู่หลงคนนี้ข้าเคยเห็นหน้ามาก่อน ไม่ใช่ว่าข้าดูถูกเขานะ เป็นหัวหน้าด้วยกัน แต่ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเป่ยจุนของเจ้าแล้ว เขานั้นยังห่างอยู่อีกไกลเลยล่ะ!”

“ด้วยลักษณะใบหน้าแบบนี้ มองดูพวกแขนอะไรของพวกเขาแล้ว ข้ามองแล้วโกรธจริงๆ!”

“เอ่ยตามตรงนะ เขานั้นอยู่ที่ตงไห่ ในฐานะหัวหน้าของยุทธภพ แต่ว่าพวกเราตงไห่กรุ๊ปกับพวกเขานั้น ความสัมพันธ์นั้นไม่ดีเลยสักนิด”

“แต่ว่าคนของพวกข้าที่นี่นั้น กับลูกของของเขาและพวกหัวหน้านั้น ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีอยู่บ้าง”

เฮยสุ่ยเอ่ยยิ้ม“ดังนั้น ฉินเทียนนั้นน่าจะไม่มีตัวตนเบื้องหลังอะไรที่ทำให้คนอื่นนั้นตกใจ และยืมใช้มือของเขานั้นมาจินยีโหวและราชาจั่วเจียน เหมาะสมที่สุดแล้วล่ะ”

“ถ้าหากเขาทำสำเร็จนั้น มันก็จะดีมากๆ แต่ว่าถ้าหากล้มเหลวแล้ว อาจจะถูกสองคนนั้นทำร้าย และไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อท่าน เหล่าหวัง เลย”

“เมื่อถึงเวลา ความรับผิดชอบทั้งหมดนี้ ท่านสามารถที่จะผลักไปให้ฉินเทียนได้ เขานั้นยังไงส่ะก็เป็นได้แค่คนนอก”

ราชาเปี้ยนหัวเราะเสียงดังออกมา “ข้าก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน!”

“ข้าจะรีบโทรหาเกาเหมิ่ง ให้เขานั้นพรุ่งนี้เช้านั้น รีบพาเจ้าฉินเทียนนั้นมาที่นี่”

“ไม่ต้องรีบหรอก”เฮยสุ่ยเอ่ยเสียงต่ำ “จากที่ข้าได้เอ่ยไป เจ้าฉินเทียนนั้นจะต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน”

“อยากที่จะหลอกใช้เขา ให้เขานั้นมาติดกับ พวกเรานั้นจะต้องวางแผนกันให้ดีๆนะ ……”

“ไม่อย่างงั้นล่ะก็……”

เมื่อทั้งสองคนมารวมกัน และเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เบา และเกาะน้อยที่โดนทะเลที่กว้างใหญ่ล้อมรอบ เหมือนเข็มที่รอจิ้มฉินเทียน และรอเปิดอย่างเงียบๆ   

ในขณะเดียวกันนั้นเอง ระยะห่างจากเกาะเกาะเปี้ยนนั่งเรือที่ไปประมาณหลายสิบไมล์นั้น ยังมีเกาะใหญ่กว่าอีกด้วย

ที่เกาะนี้มีความยาวประมาณหนึ่งร้อยไมล์ มีนามว่าเกาะหวัง เป็นสถานที่ของตงไห่กรุ๊ป ซึ่งเป็นของหวังซื่อ และหลายปีมานี้ ได้มีหลายคนที่ร่วมด้วยช่วยกันสร้างบ้านนี้ออกมา

กับเกาะเกาะเปี้ยนที่เป็นเกาะส่วนตัวเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ที่เกาะเกาะหวังนี้ ยังนับว่าเหมือนเป็นเมืองเล็กเมืองหนึ่งเลยทีเดียว

และคนที่อยู่ที่นี่นั้น ต่างก็เป็นคนสนิทใกล้ชิดกับหวังซื่อ และก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลกรุ๊ป

พวกเขาที่อยู่บนเกาะนี้ ต่างก็เป็นคนสำคัญของหวังซื่อแห่งตงไห่กรุ๊ป ที่คอยควบคุมหกเมืองริมทะเล ที่มีทรัพย์สินเกือบกว่าล้านล้านบาท

ในตอนนี้ บ้านบนเกาะนี้นันส่วนมากนั้นจะดับกันแล้ว 

และคฤหาสน์ใจกลางเกาะนั้น กลับยังคงสว่างไสวอยู่ 

พลั๊ว!

ก่อนที่จะมีแจกันเผาโบราณได้แตกออก และเห็นคนที่ยืนใส่ชุดนอน ได้รับที่ผม แล้วเอ่ยตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว “ฉันไม่แต่ง!”

“ไม่ว่าเขานั้นจะเป็นคุณชายที่มาจากตระกูลเซี่ย หรือว่าคุณชายของตระกูลไหน ยังไงฉันก็จะไม่แต่ง!”

“ไอเจ้าบ้านั้น เขานั้นกลับไม่คิดที่จะถามถึงความยินยอมของฉัน มาคอยเป็นแม่สื่อให้ฉัน ทำไมเขาถึงไม่ตายสะ!”

หญิงสาวนั้นโกรธมาก ก่อนที่จะเอาของทุกอย่างในห้องนั้นทุบแตกจนหมด ก่อนที่จะโกรธแล้วลงไปนั่งบนโซฟา ก่อนที่จะถอนหายใจแรงออกมา

ส่วนหญิงรับใช้ที่อยู่ข้างๆนั้นก็ตกใจจนไม่แอบมุม ไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมา

“พี่ ทำไมถึงโกรธขนาดนี้ด้วยล่ะ มันคุ้มแล้วใช่ไหม?”

“โกรธจนร่างกายแทบจะแย่ นี่เหมือนทำร้ายตัวเองเลยนะ。”

ก่อนที่จะมีคนหนุ่มนั้นอายุราวๆยี่สิบต้นๆเดินเข้ามา แล้วนั้นยิ้มอบอุ่นมาก อายุน้อยๆ ก็ดูมีความน่าเชื่อถือมาก

“น้อง น้องก็อยากให้พี่ไปแต่งงานด้วยเหรอ?”

“นี่มันสมัยไหนกันแล้ว อยากที่จะมาจับถุงชนกันอีก น่ารังเกียจที่สุด!”

“ฉันไม่สนใจหรอก อยากแต่งน้องก็ไปแต่งเอง ยังไงฉันก็จะไม่แต่ง!”

หญิงสาวคนนี้ ที่เป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตงไห่กรุ๊ป และเป็นผู้สืบทอดคนต่อไป นามว่าหวังตัวยวี่

ส่วนชายหนุ่มนั้นมีนามหวังหลี

ตามโบราณที่เขาว่าเอาไว้ว่า หญิงสาวนั้นไม่เหมือนผู้ชาย เพราะโตไปก็ไปเป็นของบ้านอื่น ดังนั้นเขานั้นถึงจะกลายเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปของ ตงไห่กรุ๊ป แต่ว่า เขานั้นไม่ใช่ลูกขายแท้ๆของหวังเฉียน แต่เป็นเด็กที่เอามาเลี้ยงจากภายนอก

ดังนั้นหลังจากที่หวังเฉียนตายไป ตำแหน่งผู้นำเกาะนี้ ก็ว่างเปล่ามาเนิ่นนาน

เมื่อส่งต่อให้หวังตัวยวี่ เนื่องจากเธอนั้นคือผู้หญิง แล้วอีกอย่างเธอนั้นก็เอาแต่เล่น และไม่ได้สนใจสนการบริหารเลยด้วยส่ะ

หวังหลีเขานั้นยังเป็นชายหนุ่ม แต่ว่าเขานั้นได้แสดงตัวเป็นอย่างดี แต่ว่าเขานั้นคือคนที่เจ้าของเกาะเก่านั้นเลี้ยงมา และไม่ใช่สายเลือดของหวังซื่อที่แท้จริง

และอุตสาหกรรมธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ และจะตกไปอยู่ในมือของคนนามสกุลอื่นได้อย่างไร ?