อยู่ดีๆ ก็มีโซ่สองเส้นปรากฏขึ้นอีกครั้ง พุ่งเข้าไปพันตัวเฉินโม่

“รนหาที่ตาย!” เฉินโม่ส่งเสียงหึอย่างเย็นชา แสงสีทองพาดผ่าน กระบี่สับสวรรค์พุ่งไปแทงนักพรตยู่หลงอย่างรวดเร็ว

สวบ!

หน้าอกของนักพรตยู่หลงโดนแทงจนทะลุ

พละกำลังของนักพรตยู่หลงหมดไปนานแล้ว ไม่เหลือแรงต้านทานการโจมตีของเฉินโม่ เขากำลังเดิมพัน เดิมพันว่าตอนนี้เฉินโม่กำลังฝืน

แต่เห็นได้ชัดว่านักพรตยู่หลงเดิมพันพลาดแล้ว

กระบี่สับสวรรค์มีแสงโลหิตเล็กน้อย กลับมาข้างกายเฉินโม่อีกครั้ง มันหมุนรอบตัวเฉินโม่ เหมือนกำลังแสดงพลานุภาพให้ทุกคนเห็น

พวกคนที่มีความคิดเดียวกับนักพรตยู่หลงเมื่อครู่ ตอนนี้แต่ละคนยังแอบกลัวไม่หาย ถ้าคนที่เขาไปเมื่อกี้คือตัวเอง คงเหมือนกับนักพรตยู่หลงแน่นอน ตายหัวกับตัวอยู่คนละที่

เฉินโม่หันหลังมา ทุกคนตกใจจนถอยหลังหนึ่งก้าว มองเฉินโม่ด้วยใบหน้าเคารพและหวาดกลัว

สายตาของเฉินโม่ไม่ได้หยุดลงที่ทุกคน แต่สายตาของเขาหันไปทางคนตระกูลไช่

เฉินโม่มองไช่อิ้งเวิน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “กลับไปเตรียมเถอะ พรุ่งนี้ผมจะไปเอาของผมคืนที่ตระกูลไช่”

ไช่อิ้งเวินตัวเซ ทรุดลงกับพื้นทันที หน้าซีดเหมือนคนตาย

“พ่อ!” ไช่เหวินหย่าอุทานอย่างตกใจ รีบประคองไช่อิ้งเวิน แล้วหันมามองเฉินโม่อย่างโมโห

เฉินโม่ไม่ได้สนใจพวกเขา แต่หันหลังเดินมาข้างนักพรตยู่หลง ยื่นมือออกมาพร้อมกระบวนท่า แผ่นหยกปากว้าบนตัวนักพรตยู่หลงลอยเข้ามาอยู่ในมือเฉินโม่

มองแผ่นหยกปากว้าขนาดเท่าฝ่ามือ เฉินโม่สีหน้ายินดี “คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเครื่องรางระดับสูง!”

“อีกทั้งยังเป็นเครื่องรางระดับสูงประเภทป้องกันที่หายากมาก เทียบได้กับสมบัติล้ำค่าระดับต่ำ!”

“มิน่าล่ะนักพรตยู่หลงถึงต้านทานการโจมตี ที่มีพละกำลัง 80 เปอร์เซ็นต์ของฉันได้ ที่แท้อาศัยเครื่องรางป้องกันระดับสูงชิ้นนี้นี่เอง!”

ตอนสู้กับนักพรตยู่หลงเมื่อกี้ เฉินโม่ก็สงสัยแล้วว่าบนตัวนักพรตยู่หลงอาจมีของล้ำค่าที่ไม่เลว เป็นอย่างนี้จริงๆ ด้วย

“แต่น่าเสียดายที่หนังสือสวรรค์เล่มนั้นหายไปแล้ว ไม่งั้นฉันคงศึกษาได้สักหน่อย ว่านั่นเป็นเครื่องรางอะไรกันแน่”

สุดท้ายเฉินโม่มองศพของนักพรตยู่หลงแวบหนึ่ง แล้วหันหลังเดินไปทางวัดยู่หลง

พวกคนที่มามุงดู ถอนหายใจอย่างโล่งอกทันที

เฉินโม่อยู่ต่อหน้า พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง เหมือนภูเขาลูกใหญ่ทับอยู่บนตัว

ตอนนี้เฉินโม่ไปแล้ว พวกเขารู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว

“คิดไม่ถึงว่าพลานุภาพของเฉินไต้ซือจะถึงขั้นนี้!” มีนักบู๊อุทานอย่างตกใจ

“ช่างเถอะ พวกเรารีบไปกันเถอะ! การต่อสู้จบแล้ว อยู่ต่อก็ไม่มีความหมายอะไร!” พวกนักบู๊ที่เอาแต่พูดไม่ดีใส่เฉินโม่เมื่อครู่ ตอนนี้พวกเขาไม่อยากอยู่ที่นี่แม้แต่วินาทีเดียว กลัวว่าอีกเดี๋ยวเฉินโม่จะกลับมาแก้แค้น

พริบตาเดียว คนบนยอดเขากลับไปจนหมด เหลือเพียงคนตระกูลไช่

มองผู้นำตระกูลที่ทรุดอยู่บนพื้น พวกคนระดับสูงของตระกูลไช่ไม่รู้จะทำยังไงดี
“ทำยังไงดี พรุ่งนี้เฉินไต้ซือจะมาเอาทรัพย์สินของตระกูลไช่ทั้งหมด ต่อไปพวกเราจะต้องเร่ร่อนตามท้องถนนแล้วใช่ไหม” คนระดับสูงของตระกูลไช่คนหนึ่ง ตะโกนพูดออกมาอย่างตกใจกลัว

“ไม่ได้การแล้ว ฉันต้องรีบโอนทรัพย์สิน ถึงเฉินไต้ซือมาพรุ่งนี้ ฉันก็ไม่กลัว!” คนระดับสูงคนนั้นเหมือนบ้าไปแล้ว

“หึ ถ้านายโดนเฉินไต้ซือจับได้ว่าโอนทรัพย์สิน จากนิสัยของเขา นายเคยคิดหรือเปล่าว่าผลจะเป็นยังไง” คนระดับสูงของตระกูลไช่อีกคน พูดเตือนด้วยเสียงเย็นชา

“แล้วจะทำยังไง จะให้ต่อไปเราเป็นคนเร่ร่อนตามท้องถนนไม่ได้นะ!” คนระดับสูงคนนั้นเริ่มทึ้งผมตัวเอง ดูคร่ำครวญจะเป็นจะตาย

จู่ๆ เขาหันไปจ้องไช่เหวินหย่า แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ เหมือนสัตว์ป่ากินคน “เป็นเพราะเธอ ถ้าเธอไม่หาเรื่องเฉินไต้ซือ ตระกูลไช่ของเราจะตกต่ำถึงขั้นนี้เหรอ!”

“เธอสมควรตายจริงๆ!” คนระดับสูงคนนั้นพูดจบ จู่ๆ ก็กระโจนเข้าไปบีบคอขาวของไช่เหวินหย่า จะบีบคอไช่เหวินหย่าให้ตาย

บทที่ 1011

บทที่ 1013