บทที่ 691 ยังมีกลิ่นคาวเลือดอย่างอื่น

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 691 ยังมีกลิ่นคาวเลือดอย่างอื่น
ทั้งสองคนย่องเข้าไปอย่างระมัดระวัง จิตใต้สำนึกบอกพวกเขาว่าที่นี่อันตรายอย่างมาก

ตอนนี้พวกเขาต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่มีกำลังที่จะต่อสู้ได้อีก ทำได้เพียงระวังแล้วก็ระมัดระวัง

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพวกเขาหรือเปล่า เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กลายร่างเล็กกว่าเดิม คดอยู่ตรงข้อมือกู้ชูหน่วน มองดูข้างหน้าอย่างตื่นเต้น แต่น้ำลายไหลอย่างไม่ขาดสาย

กู้ชูหน่วนสะบัดอย่างรังเกียจหลายที กลับไม่สามารถสะบัดเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หลุด กลับถูกเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์รัดไว้ยิ่งแน่น

ในใจนางพูดอะไรไม่ออก พูดเตือนเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ให้ระวังตัวหน่อย แล้วก็เดินไปข้างหน้าต่อ

ภายในถ้ำมืดมิด ยื่นมือไปก็มองไม่เห็นอะไร พวกเขาเพิ่งก้าวเข้าไป เสียงเตือนข้างในก็ดังขึ้น กู้ชูหน่วนดึงตัวซ่างกวนฉู่ซ่อนอยู่หลังก้อนหินตรงทางแยก

ข้างหน้ามีเสียงฝีเท้าเดินมาอย่างเสถียร เพราะพวกเขาเพิ่งเข้ามาในถ้ำ ยังปรับตัวกับแสงสว่างในถ้ำไม่ได้ เหมือนมองเห็นชายคนหนึ่งวิ่งโซเซออกมา บนตัวเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด

สายตาชายคนนั้นตกตะลึง วิ่งไปด้วย มองระวังหลังไปด้วย ราวกับด้านหลังมีน้ำเหนือและสัตว์ร้ายวิ่งไล่พวกเขามา

ทันใดนั้น ดาบอันร้ายกาจพุ่งผ่านมา ฟันขาซ้ายขวาของชายคนนั้นขาดทันที

“อ้าก…..”

เสียงร้องเจ็บปวดดั่งหมูถูกเชือดดังขึ้น

สิ่งที่ตอบสนองความโหดเหี้ยมโศกเศร้านั้นก็คือเล่มดาบนั้นหวนกลับมา ตัดมือทั้งสองข้างของชายคนนั้นขาด

“อ้าก……”

เสียงร้องเจ็บปวดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง

ชายคนนั้นถูกตัดขาดทั้งแขนทั้งขา กลิ้งเจ็บปวดอยู่บนพื้น

กู้ชูหน่วนมองดูแล้วก็เห็นใจอย่างมาก โดยเฉพาะเห็นเลือดของเขาไหลเป็นสายน้ำที่เอ่อล้น

ด้านหลังมีเสียงฝีเท้าสองคนดังขึ้นพร้อมลมหายใจเยือกเย็น

แล้วเห็นชายสวมหน้ากากดำสองคนยื่นมือขวาคว้าจับดาบถือไว้ในมือ มองดูชายที่กลิ้งพื้นอยู่อย่างเจ็บปวด พร้อมพูดขึ้นด้วยความเย็นชาว่า “ผลจากการหักหลังสำนักวิญญาณมืด เจ้าทนรับไม่ได้แน่”

“พวกสัตว์ร้าย พวกเจ้าฆ่าข้าเถอะ ข้าจะไม่ฆ่าคนให้พวกเจ้าอีก”

“ตาย เจ้ายังไม่มีสิทธิ์นั้น”

ชายสวมหน้ากากดำหัวเราะเย้ย ใช้นิ้วมือดีดหนึ่งที ชายคนที่ล้มลงกับพื้นและร้องโหยหวน รูม่านตาของเขาหดตัวลงทันที พยายามดิ้นรนที่จะคลานไปข้างหน้า ปากก็ร้องพูดขึ้นอย่างตื่นตกใจว่า “ไม่…..อย่า…..”

เพราะค่อนข้างมืด กู้ชูหน่วนจึงมองไม่เห็นว่าชายสวมชุดดำสวมหน้ากากสองคนนั้นทำอะไรอย่างไรกันแน่ ชายคนนั้นร้องเจ็บปวดยิ่งกว่าเมื่อกี้ ร้องโหยหวนยิ่งกว่าหมูถูกเชือด ภายในถ้ำที่ค่อนข้างใหญ่นี้เต็มไปด้วยเสียงสะท้อนของเขา

เขาพยายามดิ้นรน แต่เพราะมือเท้าทั้งคู่ถูกตัดขาดแล้ว จึงดิ้นรนไปไหนไม่ได้ ทำได้เพียงสีหน้าบิดเบี้ยว

แล้วกู้ชูหน่วนกับซ่างกวนฉู่ก็เห็นภาพตรงหน้า บนร่างกายของชายคนนั้นมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยมา ตัวหนอนที่น่าขยะแขยงคลานออกมาจากปากของเขา กัดเนื้อและเลือดของเขาอย่างดุเดือด

มองเห็นภาพนี้ กู้ชูหน่วนเองก็แทบจะอ้วก

มองภาพอนาถอยู่เนิ่นนาน นานจนกู้ชูหน่วนแทบทนไม่ไหวอยากลุกขึ้นมาแล้ว

ฆ่าคนก็แค่ตัดหัวขาด กลับทรมานคนแบบนี้ โรคจิตจริงๆ

ซ่างกวนฉู่คว้าจับมือของนางไว้แน่น กล้านางใจร้อนแล้ววิ่งพุ่งออกไป

หากพวกเขาออกไปตอนนี้ นอกจากเพิ่มอีกสองชีวิตแล้ว ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย

ผู้ชายคนนั้นไม่มีทางมีชีวิตรอดแล้ว

ผู้ชายคนนั้นเจ็บปวดจนสลบไปหลายครั้ง เมื่อเจ็บปวดจนฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ชายปิดหน้าชุดดำสองคน ราวกับเคยชินกับภาพแบบนี้แล้ว เล่นกับความอนาถนี้อยู่อย่างสูงส่ง ไม่มีการแสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ

ในที่สุด……

ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นทนไม่ไหวแล้วหรือเปล่า สลบหมดสติไปแล้ว แมลงนับหมื่นพันตัวยังคงกัดเขาอยู่อย่างต่อเนื่อง

ชายปิดหน้าหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “เป็นเพียงมดยังคิดที่จะสั่นคลอนต้นไม้ใหญ่ ไม่เจียมตัว”

“ทำไมข้าถึงยังได้กลิ่นคาวเลือดอย่างอื่นอีก?”

ได้ยินแบบนี้ ในใจกู้ชูหน่วนกับซ่างกวนฉู่ต่างอัดแน่น