บทที่ 566 ข้านี่แหละเหลยเฟิง

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

“ไม่มีปัญหา ข้าจะทำให้ความปรารถนาของเจ้าเป็นจริง”

หลินเป่ยเฉินในยามนี้ไม่ต่างจากเทพเจ้าแห่งความตาย เขาเดินย่างสามขุม ถือกระบี่ตรงเข้าไปหาเป้าหมาย

“ไม่นะ… อย่า”

บรรดานายทหารฉลามผู้เป็นลูกน้องของแม่ทัพแห่งหน่วยรบคลื่นทมิฬ พร้อมใจกันถลาออกมาข้างหน้า เข้ารับการปะทะกระบี่สายฟ้าด้วยเลือดเนื้อของพวกมันเอง

เปรี้ยง!

หลินเป่ยเฉินสะบัดข้อมือ ตวัดกระบี่ขึ้นแนวตั้ง

เหล่านักรบฉลามปลิวกระเด็นออกไป

เด็กหนุ่มยังคงเดินตรงไปข้างหน้า

และทุกครั้งที่มีนักรบฉลามพุ่งเข้ามาเพื่อจะหยุดยั้งเขา พวกมันก็ต้องลอยกระเด็นกลับออกไปอย่างรุนแรง

หลังจากนั้น หลินเป่ยเฉินก็เดินไปหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าแม่ทัพฉลามอู๋หยา

“ฮ่าฮ่าฮ่า เข้ามาเลย…”

แม่ทัพฉลามอู๋หยายืนกัดฟันกรอด ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว

“เลิกพูดได้แล้วน่า ยืนเฉยๆ รอรับความตายนั่นแหละดีแล้ว”

หลินเป่ยเฉินแทงกระบี่ออกไป

วูบ!

คมกระบี่สายฟ้าแทงทะลุหน้าผากแม่ทัพฉลามอู๋หยา

ปลายกระบี่ทะลวงออกไปสู่ท้ายทอยหลังศีรษะ

และนี่ก็คือจุดจบของแม่ทัพฉลามอู๋หยาผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร

บรรยากาศปกคลุมด้วยความเย็นเยียบ

“โฮะ โฮะ โฮะ โฮะ…”

ในลำคอของฉลามหนุ่มเกิดเป็นเสียงที่เหมือนกำลังหัวเราะแต่ไม่หัวเราะ ดวงตาเหลือกลานหมุนวนตลอดเวลา

ตอนที่มันตาย ดวงตาสีเขียวปัดก็ยังคงจ้องมองมาที่หลินเป่ยเฉิน…

หลินเป่ยเฉินรู้สึกหนาวเย็นไปถึงขั้วหัวใจ

เขายกเท้าถีบร่างแม่ทัพฉลามอู๋หยาก่อนที่ตนเองจะหมุนตัวตีลังกากลับไปยืนอยู่ที่เดิม

ตุบ!

ร่างไร้วิญญาณของแม่ทัพฉลามอู๋หยาล้มลงไปบนเวที

หลินเป่ยเฉินจ้องมองซากศพของแม่ทัพฉลามผู้ยิ่งใหญ่ หลังจากยืนขบคิดอยู่ชั่วขณะหนึ่ง เขาก็เดินเข้าไปใช้กระบี่ตัดศีรษะคว้านหัวใจคู่ต่อสู้ตามธรรมเนียมของตัวเอง

มันเป็นสิ่งที่เด็กหนุ่มสาบานว่าจะไม่มีทางลืมทำเด็ดขาดเมื่อสังหารศัตรู

จะมีใครสามารถรับประกันได้บ้างว่าเผ่าพันธุ์ฉลามจะไม่ได้มีร่างกายแปลกประหลาดพิสดารจนทำให้มันสามารถฟื้นคืนชีพกลับมาได้อีก?

“ไม่นะ…”

รองหัวหน้าหน่วยรบคลื่นทมิฬเห็นดังนั้น ดวงตาก็เป็นประกายลุกวาว

มันร้องคำรามออกมาด้วยความเจ็บแค้นใจ ดวงตาแดงก่ำ “หลินเป่ยเฉิน เจ้ามนุษย์ผู้โสมม ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าทุกคนที่รู้จักกับเจ้า ข้าจะต้องแก้แค้น ข้าจะต้อง…”

เปรี้ยง!

เสียงกัมปนาทดังขึ้น

แล้วศีรษะของฉลามหนุ่มผู้เป็นรองหัวหน้าหน่วยรบคลื่นทมิฬก็ระเบิดกระจาย

“ส่งเสียงหนวกหูอยู่ได้… คิดว่าข้าอารมณ์ดีเหมือนหน้าตาหรือไง?”

หลินเป่ยเฉินถือปืนอินทรีหิมะอยู่ในมือข้างหนึ่งและเหยียดยิ้มเย้ยหยัน “เฮอะ พวกเจ้ามันเป็นสัตว์ใต้ทะเลที่มีตาหามีแววไม่ คิดจะมากดขี่ข่มเหงชาวเมืองหยุนเมิ่ง… ถามความเห็นข้าแล้วหรือยัง?”

ตุบ!

ร่างที่ไร้ศีรษะของรองหัวหน้าหน่วยรบล้มตึงลงไป

หลินเป่ยเฉินถึงกับยอมไว้ชีวิตฝ่ายตรงข้ามมาแล้วครั้งหนึ่ง เพราะเห็นแก่ความซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นเจ้านาย

แล้วมันกล้าดีอย่างไรมาข่มขู่เขา?

ไม่มีทางปล่อยให้ลอยนวลเด็ดขาด

หลินเป่ยเฉินผู้นี้ไม่ใช่คนที่ใครจะมาล้อเล่นด้วยง่ายๆ

ดังนั้น เขาจึงชาร์จพลังปืนอินทรีหิมะและจัดการระเบิดสมองฉลามหนุ่มรองหัวหน้าหน่วยโดยไม่ลังเล

“พวกเราฆ่ามัน”

“เจ้าอย่าหวังที่จะรอดชีวิตอีกเลย”

“พวกเราจะไม่ปล่อยให้ท่านแม่ทัพต้องตายเปล่า”

นายทหารใต้บังคับบัญชาของแม่ทัพฉลามอู๋หยาเริ่มเรียกคืนสติกลับมาได้อีกครั้ง พวกมันถือกระบี่อยู่ในมือและวิ่งเข้ามาหาหลินเป่ยเฉินด้วยความดุร้าย

“ไร้ยางอาย”

“การต่อสู้จบลงไปแล้ว พวกเจ้ายังคิดจะทำอะไรอีก?”

“เจ้าพวกสัตว์ทะเล คิดจะละเมิดกฎการต่อสู้หรืออย่างไร?”

เมื่อเห็นว่ามีหน่วยรบฉลามกำลังจะพุ่งเข้าไปโจมตีหลินเป่ยเฉิน พวกของฉู่เหินก็เตรียมตัวจะกระโดดขึ้นไปบนเวทีด้วยความเดือดดาล

แต่อาจารย์ใหญ่หลิงไท่ซวีได้ยกมือห้ามทุกคนเอาไว้

“ไม่ต้องเป็นห่วง”

หลิงไท่ซวีส่ายหน้าพูดด้วยความเยือกเย็น

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

เสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้นอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง

สำหรับทุกคนแล้ว นี่คือเสียงที่พวกเขาเริ่มคุ้นเคย

เสียงระเบิดจากวิชาฝ่ามือลำแสงพิฆาต!

นี่คือวิชาการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวหลินเป่ยเฉิน เมื่อเสียงระเบิดปานฟ้าคำรามดังขึ้น ก็จะต้องมียอดฝีมือจบชีวิตลงเสมอ

แน่นอนว่าเมื่อมองขึ้นไปบนเวทีในขณะนี้ มือซ้ายของหลินเป่ยเฉินก็กำลังปลดปล่อยลำแสงสีเงินที่แปลกประหลาดเหล่านั้นออกมาไม่หยุดยั้ง

ร่างของนายทหารฉลามหนุ่มกระเด็นออกไปตัวแล้วตัวเล่า

ม่านหมอกเลือดสาดกระจายในอากาศ

สีหน้าของหลินเป่ยเฉินมีความผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง

นายทหารฉลามหนุ่มทั้ง 12 ตัวเหล่านี้มีระดับพลังสูงส่ง แต่พวกมันเข้าใกล้ตัวเขาได้ไม่ถึงห้าวา สุดท้ายก็ต้องปลิวกระเด็นกลับออกไป ล้มลงนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นดิน

“พวกเจ้ายังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะมาสู้กับข้าได้หรอกนะ”

หลินเป่ยเฉินยกปืนขึ้นเป่าควันที่ปลายกระบอกปืน

เพราะเห็นว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของแม่ทัพฉลามอู๋หยามีความรักและเทิดทูนผู้เป็นหัวหน้ามากถึงขนาดนี้

หลินเป่ยเฉินจึงตัดสินใจช่วยสงเคราะห์ฉลามหนุ่มเหล่านี้ ให้ส่งลงไปพบเจอกับหัวหน้าสุดที่รักของพวกมันในนรกเสียเลย

เป็นไงล่ะ

ไม่ต้องขอบคุณก็ได้นะ

ข้านี่แหละ เหลยเฟิงกลับชาติมาเกิด

บรรดาคนดูที่อยู่รอบเวทีถึงกับตกตะลึง

ช่างอำมหิตเหลือเกิน

ฆ่าตาย… หมดเลยหรือนี่?

การต่อสู้ดำเนินอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบของชาวทะเล หลินเป่ยเฉินไม่คิดจะไว้หน้ากันบ้างเลยหรือไร?

หรือว่าเขาไม่เคยมองเห็นชาวทะเลอยู่ในสายตามาตั้งแต่แรก?

เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ทำให้เหล่ายอดฝีมือและนายทหารระดับสูงของชาวทะเลเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก พวกมันถึงกับสบถออกมาไม่หยุด

“มันฆ่าท่านแม่ทัพ”

“หลินเป่ยเฉินสังหารหน่วยรบคลื่นทมิฬ…”

“เด็กคนนี้โอหังมากเกินไปแล้ว”

นักรบชาวทะเลจำนวนมากรวมตัวกันเดินตรงไปที่เวทีประลองด้วยดวงตาแดงก่ำ

“อะไรกัน? ยังสนุกไม่พออีกหรือไง?”

หลินเป่ยเฉินเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่หวาดกลัวและเงยหน้าระเบิดเสียงหัวเราะใส่ท้องฟ้า “ฮ่าฮ่าฮ่า กฎการต่อสู้ในวันนี้ก็บอกอยู่แล้วนี่นา ผู้ชนะสามารถเอาชีวิตผู้ที่พ่ายแพ้ได้โดยชอบธรรม เหอเหอเหอ พวกเจ้าเอาแต่พูดว่าเทพเจ้าแห่งท้องทะเลมีความสูงส่งอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ดูสภาพความเป็นจริงสิ พวกเจ้าเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายละเมิดกฎการต่อสู้ก่อน เมื่อสักครู่ การต่อสู้ยังไม่ทันจบลง พวกเจ้าก็ยกขบวนขึ้นมาบนเวทีเสียแล้ว บัดนี้ก็คิดที่จะล้มเลิกการต่อสู้เสียดื้อๆ เฮ้อ นี่น่ะหรือคือนักรบของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลที่พวกเจ้าภูมิใจเป็นนักหนา…”