ตอนที่ 1697 สี่นภาสวรรค์รวมตัว

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1697 สี่นภาสวรรค์รวมตัว
เฉียวอันชานเบิกตาโพลงจนแทบหลุดออกมาจากเบ้า หัวใจของเขาสั่นระรัวจนแทบระเบิด

ยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์อีกคน!

เท่านี้เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ก็จะมียอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์เท่ากับเมืองจักรพรรดิยอดสันติแล้ว?

เฉียวอันชานได้แต่จ้องมองเล่งหยูบนยอดหอยุทธด้วยสภาพไม่อยากเชื่อสายตา

อาณาจักรนภาสวรรค์มันเป็นกันได้ง่ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

ในเวลาข้ามคืนเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์กลับสามารถให้กำเนิดสองยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ขึ้นมาได้!

“นี่มัน…บ้าน่า! เขาเสียเวลากว่าแสนปีไปและอายุก็ผ่านเลยช่วงหนุ่มมานานแล้ว! จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ได้อีก?”

“หากว่าคนหนึ่งโชคดี แล้วคนที่สองจะว่าอย่างไรดีเล่า? นี่มัน…มันจะบ้าเกินไปแล้วใช่ไหม?”

“ใครก็ได้ช่วยบอกหน่อยว่ามันเกิดขึ้นอะไรกันแน่?”

ในฝั่งเมืองจักรพรรดิยอดสันติ ทุกคนต่างตื่นตะลึงจนหุบปากที่อ้าค้างไม่ลง

เรื่องการบรรลุของเล่งหยูนี้มันจะเกินกว่าที่พวกเขาจะทำใจรับได้ไป

ในสิบเมืองสันเขาใต้ที่เปี่ยมไปด้วยนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้านี้ อาณาจักรนภาสวรรค์นั้นเป็นเหมือนยอดสวรรค์ที่พวกเขาไม่มีทางไปถึงได้เลยแม้แต่น้อย

มีนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าในสิบเมืองสันเขาใต้นี้กี่คนกัน!

นับไม่ถ้วน!

แต่ว่ายอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ในสิบเมืองสันเขาใต้นี้มีจำนวนแค่ยี่สิบหรืออย่างมากก็แค่สามสิบ!

โอกาสในการบรรลุระดับนี้มันทำให้ผู้คนต้องสิ้นหวัง

ดูอย่างเช่นเหล่ายอดฝีมือเช่นเจิ่งชีหรือหนิงเทียนปิง พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นยอดคนมากพรสวรรค์ แต่หากไปถึงฐานของอาณาจักรนภาสวรรค์ พวกเขาก็ต้องพบกับเขาสูงที่ไม่มีทางปีนได้อยู่ดี!

ที่ผ่านมานั้นในสิบเมืองสันเขาใต้จะมีคนบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ได้แค่ประมาณหมื่นปีครั้งเท่านั้น

แต่วันนี้กลับมีผู้บรรลุขึ้นมาได้ถึงสองคน!

สายตาของผู้ตรวจการสั่นคลอนทันที ตอนนี้จิตใจของเขาเองก็อยู่ไม่สุขเช่นกัน

ด้วยสายตาของเขา เขาย่อมมองออกว่าเจิ่งชีเองก็เพิ่งจะบรรลุมาได้ไม่นานนักเช่นกัน

ตอนนี้ในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์กลับมีอีกผู้คนที่บรรลุขึ้นมาได้!

วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น?

หรือว่า…จะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ?

“ผู้อาวุโสใหญ่เย่หยวนจงเจริญ!”

“ผู้อาวุโสใหญ่เย่หยวนจงเจริญ!”

“ผู้อาวุโสใหญ่เย่หยวนจงเจริญ!”

ระหว่างที่ผู้ตรวจการและคนจากเมืองจักรพรรดิยอดสันติต่างกำลังตกตะลึงก็เกิดเสียงดังขึ้นเป็นคลื่นที่ด้านล่าง

บังเอิญ?

จะเป็นไปได้ยังไง!

เมื่อหายจากอาการตื่นตกใจ เหล่ายอดฝีมือในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ก็รับรู้ถึงความเป็นจริงได้แทบจะในทันที

การบรรลุของเจิ่งชีและเล่งหยูนั้นต้องมิใช่ความบังเอิญใดๆ แน่!

ทั้งหมดนี้คงเป็นฝีมือของผู้อาวุโสใหญ่เย่หยวน!

หากเป็นเมื่อก่อน พวกเขาคงคิดว่าเรื่องราวแบบนี้มันไร้สาระ

แค่จอมเทพโอสถชั้นต้น จะมีปัญญาไปช่วยอะไรการบรรลุสู่อาณาจักรนภาสวรรค์ได้?

มันเป็นเรื่องที่สุดไร้สาระ!

แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีใครสงสัยเลย!

เพราะเวลาสิบปีมานี้เย่หยวนได้สร้างปาฏิหาริย์ไว้มากมายด้วยน้ำมือของเขาเอง

คนเฒ่าคนแก่ที่วันๆ ได้แต่รอความตายกลับสามารถบรรลุขึ้นสู่ระดับใหม่ได้เพราะโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ของเย่หยวน

เพราะฉะนั้นมันจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะเชื่อว่าปาฏิหาริย์ในวันนี้เองก็เกิดขึ้นมาด้วยน้ำมือของเย่หยวนเช่นกัน มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญใดๆ ทั้งสิ้น

ผู้ตรวจกายนั้นสั่นสะท้านไปทั้งร่างพร้อมหันไปมองเย่หยวนอย่างตื่นตกใจ

เป็นตอนนี้นี่เองที่เขาได้รู้ว่าเด็กน้อยคนนี้ที่เพิ่งจะมีพลังบ่มเพาะแค่อาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวกลับได้เป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่ของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์!

นี่มันเรื่องบ้าบอใดกัน?

หากสมองของโซชูเจียไม่เพี้ยน มันก็ต้องหมายความว่าเด็กคนนี้เก่งกาจไปทุกด้าน!

และดูท่าสมองของโซชูเจียจะยังอยู่ดี หมายความว่า…คำตอบคือความแข็งแกร่ง

แต่ไม่ว่าจะใช้สมองคิดตามแค่ไหนผู้ตรวจการคนนี้ก็ไม่สามารถจะนึกให้ออกได้ว่าเย่หยวนไปทำยังไงถึงช่วยให้สองผู้คนบรรลุสู่อาณาจักรนภาสวรรค์ได้

เขาไม่ได้นึกถึงโอสถเลยแม้แต่น้อย เพราะการที่ราชันพระเจ้าหนึ่งดาวจะหลอมโอสถยอดหยกโมฆะ?

จะล้อเล่นรึไง?

“ฮ่าๆๆ เฉียวอันชาน เท่านี้เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ของข้าเองก็มียอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์สี่คนบ้างแล้ว! ข้าล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าเจ้าจะยังอวดเก่งได้อีกไหม!” โซชูเจียหัวเราะลั่น

ในหมู่สิบเมืองสันเขาใต้ด้วยกันนี่ เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นับว่าเป็นเมืองที่อ่อนแอมากเมืองหนึ่ง

เขาในฐานะเจ้าเมืองต้องทนเก็บกดเรื่องนี้ไว้นานแสนนาน

แต่วันนี้จะเป็นวันที่เขาได้เชิดหน้าชูตากับเขาบ้าง

การให้กำเนิดยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์สองคนเช่นนี้ในวันเดียว มันจะทำให้เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ขึ้นสู่การเป็นเมืองระดับแนวหน้าในทันที

เฉียวอันชานนั้นหน้าเสียจนไร้คำบรรยาย การเปลี่ยนแปลงนี้มันทำให้เขาตื่นตกใจมาก

เมื่อได้ยินคำตะโกนจากด้านล่างมาก เขาก็รู้สึกตื่นตกใจอย่างบอกไม่ถูก

หรือว่าเจิ่งชีและเล่งหยูจะสามารถบรรลุได้เพราะเย่หยวนจริงๆ?

แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้และกล่าวขึ้น “โซชูเจีย อย่าเพิ่งได้ใจไป! พันธะดาบทองคำนั้นคือการต่อสู้ด้วยชีวิต แค่อาณาจักรนภาสวรรค์ที่เพิ่งบรรลุมาหมาดๆ สองคนจะมาเปลี่ยนอะไรได้?”

โซชูเจียไม่คิดจะสนใจเขาและหันหน้าไปหาเย่หยวนแทนพร้อมหัวเราะเสียงดัง “เย่หยวน เจ้าทำได้จริงๆ! เรื่องราวครั้งนี้ต้องขอยกความดีความชอบให้เจ้าเลย!”

เย่หยวนยิ้ม “จัดเตรียมแผนการเพื่อเข้าหอยุทธและถ่วงเวลาไว้ โชคดีที่มันทันการ”

โซชูเจียหรี่ตามองทันที เพราะคำพูดนี้ของเย่หยวนมันมีอะไรบางอย่างแฝงออกมาด้วย

ทำไมเล่งหยูต้องไปบรรลุที่ด้านในหอยุทธ?

เหมือนว่า…มันจะมีเรื่องอะไรบางอย่าง!

เฉียวอันชานนั้นยืมอยู่เฉยต่อไปไม่ได้ เขากัดฟันแน่นและหันไปบอกผู้ตรวจการด้วยท่าทางสุดทน “ท่านผู้ตรวจการ ข้าน้อยผู้นี้ขอให้ท่านโปรดเริ่มพันธะดาบทองคำเดี๋ยวนี้ด้วยเถิด!”

แม้ว่าเล่งหยูและเจิ่งชีจะบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์มาได้ แต่อาณาจักรนภาสวรรค์ก็ยังเป็นอาณาจักรนภาสวรรค์!

หากเป็นสี่ต่อสี่จริงเรื่องราวมันคงเปลี่ยนไปได้มาก

แต่ว่าผู้ตรวจการกลับทำหน้าเย็นชาและกล่าวขึ้น “เจ้ากล้าสั่งข้าผู้นี้อย่างนั้นรึ?”

เฉียวอันชานตื่นตกใจทันทีที่ได้ยินและรีบตอบ “ข้า…ข้าน้อยมิกล้า!”

ผู้ตรวจการบอก “ดีแล้วที่ไม่กล้า! เมื่อเขาเริ่มการบรรลุแล้วมันก็หมายความว่าเขาคือคนระดับเดียวกับพวกเรา! จะให้พันธะดาบทองคำ เรื่องราวยิ่งใหญ่แบบนั้นถูกทำราวกับเป็นเรื่องเด็กเล่นได้อย่างไร? บอกให้เริ่มพันธะดาบทองคำทันที นี่เจ้าคิดอยากให้ผู้คนนินทาข้าลับหลังรึ? หืม?”

เหงื่อเย็นเหยียบไหลท่วมกายเฉียวอันชานและเอาแต่พูดซ้ำๆ ว่าเขามิกล้า

ผู้ตรวจการบอกต่อ “หากเรื่องนี้มันไปถึงหูของเมืองหลวงจักรพรรดิเจ้ายังคิดว่าข้าจะเป็นผู้ตรวจการต่อได้รึ? หรือว่าเจ้าอยากให้ข้าเข้าข้างเมืองจักรพรรดิยอดสันติของเจ้าในการทำลายเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้ลงกัน?”

เฉียวอันชานนั้นเหงื่อตกราวสายน้ำ แต่เขาก็ไม่เวลาแม้แต่ที่จะเช็ดมัน “ข-ข้าน้อยทำพลาดไปแล้ว! ข้าน้อยแค่…แค่ไม่คิดว่าคำพูดนั้นมันจะเป็นการลบหลู่ท่านผู้ตรวจการ ขอท่านผู้ตรวจการอย่าได้ลงโทษข้าเลย!”

ผู้ตรวจการตอบ “ถอยไป! หลังจากเขาบรรลุได้แล้วพันธะดาบทองคำจะเริ่มขึ้นทันที!”

มีหรือที่เฉียวอันชานยังจะกล้าพูดอะไร? ตอนนี้เขาได้แต่ถอยกลับไปโดยไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงหายใจ

เวลาค่อยๆ เดินผ่านไป พลังคลื่นวิญญาณในเมืองก็ค่อยๆ จางเบาบางลง

แต่พลังจากตัวของเล่งหยูกลับแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่หยุด

“ฮ่าๆๆ ไม่นึกเลย! ไม่นึกเลยจริงๆ ว่าเฒ่าคนนี้จะยังมีปัญญาบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์กับเขาได้!”

หลังจากบรรลุแล้วเล่งหยูก็หัวเราะลั่นที่สั่นสะท้านไปทั่วฟ้าดิน

เมื่อสี่ร้อยปีก่อน เขานั้นยังติดอยู่ในห้วงมิติสืบทอดและไม่มีปัญญาที่จะออกมาโลกภายนอกเสียด้วยซ้ำ

ตอนนั้นเขาไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าสักวันหนึ่งตัวเองจะได้มาบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์แบบนี้ได้

นี่มันคือสิ่งที่เขาไม่เคยนึกเลยฝันเลยตลอดช่วงแสนกว่าปีที่ผ่านมา

แต่วันนี้เย่หยวนกลับช่วยทำให้มันเกิดขึ้น

ฟุบ!

เล่งหยูพุ่งตัวมาในระยะหลายกิโลเมตรด้วยเวลาแค่ชั่วพริบตาก่อนจะมาถึงข้างกายเย่หยวนอย่างทันควัน

“โอสถยอดหยกโมฆะนั้นช่างยอดเยี่ยม! เย่หยวน บุญคุณครั้งนี้ต่อให้ชดใช้ไปทั้งชีวิตมันก็คงไม่มีทางใช้หมดแน่!” เล่งหยูบอกเย่หยวนด้วยเสียงหัวเราะลั่น

และเขาก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังที่เหนือล้ำจากร่างของผู้ตรวจการได้ เล่งหยูจึงเปลี่ยนสีหน้าและหันไปคารวะ “เล่งหยูแห่งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ขอคารวะท่านผู้ตรวจการ!”

ผู้ตรวจการพยักหน้ารับ “อืม ไหนๆ เจ้าก็บรรลุได้แล้ว เรามาเริ่มพันธะดาบทองคำกันเลย!”