ตอนที่ 324 นี่มันช่างน่าอับอายเสียจริงๆ!

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ตู๋กูซิงหลันใบหน้าก้มมองพื้น ก้นหันหาพระจันทร์

 

 

เส้นผมยาวสลวยของนางลู่ลงไป บดบังโฉมหน้าทั้งหมดของนางเอาไว้

 

 

ฉู่เจียงมองเห็นใบหน้าของนางไม่ชัด เขาเห็นเพียงรูปร่างของนางซึ่งก็คล้ายคลึงกับเหลียงเซิงเซิงหลายส่วนอยู่เหมือนกัน

 

 

เดิมทีตู๋กูซิงหลันกับเหลียงเซิงเซิงก็มีความคล้ายคลึงกันมากอยู่แล้ว ประกอบกับค่ำคืนนี้มืดมิด และฉู่เจียงเองก็จดจ่อกับการต่อสู้ ทำให้เขาไม่ทันได้มองดูนางให้ชัดเจน

 

 

ในกระแสชีพจรของนางก็ยังมีไอหยินของยมราชหลงเหลืออยู่ เขาจึงยึดถือเอาว่าคนที่จีเฉวียนแบกเอาไว้ก็คือเหลียงเซิงเซิง

 

 

ตู๋กูซิงหลันถูกหัวไหล่ของจีเฉวียนทิ่มจนปอดจะทะลุอยู่แล้ว

 

 

พอฉู่เจียงฟาดแส้ลงมา จีเฉวียนก็วาดกระบี่ออกไป ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน เกิดเป็นแรงปะทะมหาศาล

 

 

ที่บังเอิญกวาดผ่านแก้มก้นและสะโพกของตู๋กูซิงหลันขึ้นไป

 

 

‘เฟี้ยวฉึกๆ’ กระโปรงของตู๋กูซิงหลันทะลุเป็นรูสองรู

 

 

แก้มก้นกลมๆ ทั้งสองข้างของตู๋กูซิงหลันถึงกับโผล่ออกมาแล้ว นางรู้สึกได้เลยว่าสายลมโชยโดนก้นจนเย็นวูบวาบ ในใจต้องด่ากราดออกมายาวเหยียด

 

 

จะอย่างไรนางก็เป็นถึงไทเฮาของแคว้นแคว้นหนึ่งเหมือนกันนะ!

 

 

ถูกลูกชายตนเองแบกเอาไว้แบบนี้ก็แล้วไปเถอะ แต่ต้องมาเปลือยก้นนี่มันอะไรกัน?

 

 

ฉู่เจียงผู้นั้นใช่จงใจหรือไม่? เป็นพวกโรคจิตที่ชอบแอบดูเด็กสาวๆ ใช่ไหม?

 

 

พอฉู่เจียงกวาดตามองมาก็ได้เห็นก้นขาวๆ นุ่มๆ ที่เหมือนกับไข่ปอก

 

 

เขาตกตะลึงไปเล็กน้อย ไม่ทันรอให้เขาได้มองมากไปกว่านี้ กระบี่ของจีเฉวียนก็พุ่งเข้าใส่ลูกตาของเขาแล้ว

 

 

สำหรับจีเฉวียนแล้ว ฉู่เจียงนับว่ามีฝีมือพอตัว

 

 

เมื่อครู่หากมิใช่ว่าเขาหลบหลีกได้รวดเร็ว เกรงว่าที่ขาดทะลุไปจะไม่ใช่แค่กระโปรงของตู๋กูซิงหลัน แต่ว่าเป็นก้นของนางแล้ว

 

 

ฮ่องเต้ทรงนึกย้อนกลับไปถึงยามที่อยู่ในสุสานของเย่วฮูหยิน ก้นที่สวยงามคู่นี้เคยปล่อยลมใส่หน้าของพระองค์อย่างเต็มที่มาแล้ว

 

 

อืม……ถึงแม้ว่าจะเป็นก้นที่ผายลมออกมา แต่ว่าในเมื่อเป็นของซิงซิง จะอย่างไรพึงต้องปกป้องให้ดี

 

 

ไอ้ตัวแสบนี้พึ่งได้เห็นก้นของซิงซิงไป ดวงตาคู่นั้นก็อย่าได้มีไว้อีกเลย

 

 

“เราขอใช้นามของโอรสสวรรค์เป็นเดิมพัน จะต้องปกปักษ์รักษาก้นของเจ้าให้ได้” จีเฉวียนกล่าวอย่างมุ่งมั่น

 

 

ตู๋กูซิงหลันอยากจะร้องไห้แล้ว ถ้าเช่นนั้นรบกวนพระองค์ช่วยหาผ้าผืนน้อยมาปิดให้หม่อมฉันก่อนได้ไหม?

 

 

“รอชมเราควักลูกตาของมันออกมาให้เจ้า”

 

 

ตู๋กูซิงหลันอยากจะบ้าตาย นางไม่ได้ต้องการลูกตาของฉู่เจียงสักหน่อย พี่ชาย!

 

 

พวกเราใส่ใจประเด็นสำคัญหน่อยไม่ได้หรือ?

 

 

วิญญาณทมิฬชักจะรู้สึกว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว เพื่อรักษาหน้าของตู๋กูซิงหลันเอาไว้ มันได้แต่แสดงน้ำใจออกมา มันได้แต่กระโดดไปยังแก้มก้นของนาง จากนั้นก็กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนแก้มก้นที่เปลือยเปล่าของนาง

 

 

ใช้ขาสั้นและมือป้อมๆ ของตนเองช่วยบิดให้กับนาง “หลันหลัน เจ้าอย่างได้ชิงชังข้านะ ที่ข้าสามารถทำเพื่อเจ้าได้ในตอนนี้ ก็มีแต่ช่วยปิดแค่นี้ละ”

 

 

ว่าแล้ว มันก็ใช้มือป้อมๆ ของมันขยุ้มลงไป

 

 

โอ้ว….เด้งดึ๋งดีจริงๆ ทั้งลื่นทั้งนุ่ม แก้มก้นเช่นนี้คงถูกทาเครื่องบำรุงผิวอยู่ทุกวี่ทุกวันถึงได้มีผิวพรรณที่ดีเช่นนี้

 

 

มิน่าเล่าฮ่องเต้สุนัขถึงได้บอกว่าต่อให้ต้องตายก็จะรักษาเอาไว้ให้ได้

 

 

ตู๋กูซิงหลัน “……..” นางอยากจะได้ดาบฆ่ามังกรมาเสียบเจ้าวิญญาณทมิฬให้เหมือนเสียบแอปเปิ้ลนัก!

 

 

นี่มันช่างน่าอับอายเสียจริงๆ!

 

 

พอจีเฉวียนและฉู่เจียงมองเห็นการกระทำของเจ้าถวนจื่อตัวดำ สายตาของทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปในทันที

 

 

“ในใต้หล้าตอนนี้ ถึงกลับมีไอ้พวกตัวเล็กตัวน้อยที่กล้าแตะต้องเหยื่อของข้าด้วยหรือ?” ฉู่เจียงกล่าวเสียงต่ำ เขาแยกร่างของมาอีกหนึ่งร่าง แล้วพุ่งไปถึงเบื้องหน้าจีเฉวียนในทันที

 

 

แต่คราวนี้เป้าหมายของเขากลับเป็นวิญญาณทมิฬ

 

 

จีเฉวียนไหนเลยจะยอมเปิดโอกาสให้กับเขา หนึ่งกระบี่สะบัดออกไป ตัดชายเสื้อส่วนหนึ่งของฉู่เจียงขาดออกมา

 

 

ทันทีที่พระองค์สะกิดพระบาท คนก็ทะยานถอยหลังออกไปทั้งร่าง บนไหล่กว้างของพระองค์ยังคงแบกร่างนางผู้เป็นยอดดวงใจเอาไว้

 

 

ตู๋กูซิงหลันชักจะคุ้นเคยจนไร้ความรู้สึกประหลาดที่ต้องเปลือยแก้มก้นเสียแล้ว ได้แต่ต้องยอมวับๆ แวมๆ อยู่เช่นนี้ต่อไป

 

 

“เจ้าสุนัขน้อย คดีเก่ายามอยู่ภายในโลงทองแดง เรายังไม่ทันได้คิดบัญชีกับเจ้าให้ดี เจ้าก็กล้ามาถือโอกาสกินเต้าหู้กับซิงซิงอีกหรือ?” ฮ่องเต้ทรงถอยไปยังจุดที่ปลอดภัย เหลือบพระเนตรมองดูวิญญาณทมิฬที่เกาะอยู่บนแก้มก้นของตู๋กูซิงหลันด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร

 

 

วันนั้นยามที่อยู่ภายในโลงทองแดง เจ้าสุนัขน้อยนี้คอยขัดคอเขาไม่ยอมหยุด

 

 

ตอนนี้ยังถึงกับกล้ามากินเต้าหู้อย่างเปิดเผยต่อหน้าพระองค์ เฮอะ เฮอะ

 

 

ต่อให้มันเป็นสัตว์อสูรในพันธสัญญาของซิงซิง อย่างไรก็ต้องโดนสั่งสอนสักรอบ ไม่อาจรอดไปได้

 

 

หากไม่สั่งสอนมันให้เป็นสัตว์อสูรที่ดี อีกหน่อยมันคงจะยิ่งกล้าหือมากกว่านี้

 

 

ยามที่ฮ่องเต้ทรงหึงหวงขึ้นมา ก็กลายเป็นเจ้านายที่ไม่สนใจใยดีสิ่งใดทั้งนั้น

 

 

พระองค์ซัดพระหัตถ์ออกไปด้วยความรวดเร็วประดุจประกายไฟ

 

 

วิญญาณทมิฬตระหนกจนขนลุกฟู มันผละจากก้นของตู๋กูซิงหลันเข้าไปซุกในอกของนางอย่างรวดเร็ว

 

 

ฝ่ามือของจีเฉวียนรั้งกลับไปไม่ทัน จึงกลายเป็นตบลงไปบนก้นของตู๋กูซิงหลันอย่างแรง

 

 

“เพี้ยะ!” เสียงฝ่ามือนั้นดังสนั่นชัดเจน!

 

 

ตู๋กูซิงหลันรู้สึกได้เลยว่าก้นของนางมีแรงสะท้อนดึ๋งดั๋งกลับไปกลับมากหลายรอบ

 

 

สามารถมีก้นที่เต่งตึงเด้งดึ๋งขนาดนี้ได้นับว่านางมีบุญจริง ช่างน่าภาคภูมิใจยิ่งนัก

 

 

จากนั้นความแสบร้อนก็ลามไปทั่วทั้งก้นของนางในทันที

 

 

ฮือ ฮือ แง ไปตายซะเถอะ!

 

 

ขอบพระทัยฮ่องเต้สุนัขที่ทำให้ก้นของนางกลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง

 

 

จีเฉวียนตกตะลึงไป เหลือบพระเนตรมองดูแก้มก้นทั้งสองที่นุ่มหยุ่นอย่างยิ่ง…..พระองค์ก็รู้สึกขึ้นมาในพระทัยอย่างเงียบๆ ว่า มัน อืม นุ่มอย่างประหลาดดีเหลือเกิน

 

 

เมื่อคู่พระองค์ใช้พลังฝ่ามือมากไปเล็กน้อย จึงรั้งเอาไว้ไม่ทัน คงทำให้นางเจ็บแน่แล้ว

 

 

แต่ว่าเมื่อครู่พอตีป๊าบลงไปช่างให้ความรู้สึกที่ดียิ่งนัก

 

 

วิญญาณทมิฬเองก็ตกตะลึงไป มันหนีรอดมาได้ แต่ว่าน่าสงสารตู๋กูซิงหลันที่อยู่ดีๆ ก็ต้องมาถูกตีไปหนึ่งฝ่ามือ

 

 

มันชะงักไปชั่วครู่ ก็รีบส่งเสียงหงุงหงิงออกมา “หลันหลัน เจ้าจัดการกับฮ่องเต้สุนัขนั้นหน่อย มันจะตีข้า!”

 

 

“เจ้าดูสิ เขาถึงกับตีเจ้าจนก้นแตกลายเสียแล้ว หากว่าตีโดนข้าขึ้นมา มิใช่ว่าข้าจะต้องตายหรอกหรือ? หงิงๆๆ ~”

 

 

ตู๋กูซิงหลัน “…..”

 

 

จีเฉวียนอยากจะตบเจ้าสุนัขน้อยนั่นให้ตายเสียจริงๆ

 

 

พระองค์เหลือบมองดูตู๋กูซิงหลันที่ยังคงอยู่บนบ่า ก็ทำพระองค์น่าสงสารออกมาบ้าง “ซิงซิง เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ เจ้าสัตว์อสูรที่เจ้าเลี้ยงเอาไว้มันไม่ใช่ตัวดีอะไร มันคิดจะกินเต้าหู้เจ้า”

 

 

วิญญาณทมิฬ “ก้นของหลันหลันดีกว่าเต้าหู้เละๆ เป็นไหนๆ กินเกินอะไรกัน ตาข้างไหนของเจ้าที่เห็นว่าข้ากิน?”

 

 

จีเฉวียน “เราเห็นจากดวงตาทั้งสองข้างนี้แล้ว”

 

 

วิญญาณทมิฬ “งั้นข้าก็กินไปแล้วสินะ กินไปแล้วล่ะนะ เจ้ากินไม่ได้ เฮอะ น่าอิจฉาไหมเล่า! วะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า…”

 

 

อย่างไรเสียก็ผิดใจกับฮ่องเต้สุนัขนี่จนถึงที่สุดไปแล้ว แล้วยังจะต้องไปสนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้อีกทำไม?

 

 

จีเฉวียน “เจ้าสุนัขน้อย อย่าได้ลำพองว่าเจ้าเป็นสัตว์อสูรของซิงซิง แล้วจะทำอะไรก็ย่อมได้”

 

 

ความอดทนของพระองค์มีอยู่อย่างจำกัด

 

 

ทั้งยังคิดจะจับมันมาเฆี่ยนตีบนพื้นอยู่ก่อนหน้าแล้ว

 

 

ตู๋กูซิงหลันได้แต่ร้องไห้อย่างไร้น้ำตา ว่ากันตามจริง นี่มันใช่เวลาจะมาต่อล้อต่อเถียงกันเรื่องก้นของนางไหม?

 

 

ดูด้านหลังนั้นเสียก่อนซิ! ฉู่เจียงไล่ตามมาแล้วเห็นไหมเล่า!

 

 

นางกลัวจริงๆ ว่าฉู่เจียงจะพุ่งเข้ามาแล้วตะโกนว่า ‘ปล่อยก้นนั้นนะ ตาข้าบ้างแล้ว’ !

 

 

โถ่เว้ย!

 

 

จะปล่อยให้นางพูดสักสองประโยคไม่ได้หรือไงกัน? แค่เรื่องเข้าใจผิดกัน อธิบายเพียงไม่กี่ประโยคก็แก้ไขเรื่องราวได้แล้ว!

 

 

แต่ว่าตอนนี้สมองของนางกลับอื้ออึงไปหมดแล้ว ตอนที่พวกเขาประมือกันนางยังถูกจับพลิกไปมาอีกหลายตลบ จนอยากจะอ้วกออกมา

 

 

ในลำคอของนางจุกแน่นไปหมดแล้ว พูดอะไรไม่ออกสักคำเดียว

 

 

ตอนนี้ตู๋กูซิงหลันรู้สึกแต่ว่าฉู่เจียงช่างตาบอดจริงๆ!

 

 

ฉู่เจียงไล่ตามมาด้วยความโมโกรธา ยามนี้เขาแบ่งร่างออกไปถึงสิบร่าง พุ่งเข้ามาปิดล้อมจีเฉวียนเอาไว้ทุกทาง

 

 

“ข้าเคยบอกแล้ว เหยื่อของข้า ใครก็ห้ามแตะต้อง” สองตาของเขาจับจ้องไปที่จีเฉวียน “วันนี้พวกเจ้าบังอาจจับก้นนาง ข้าก็จะเฉือนก้นของพวกเจ้าออกมาเป็นการชดใช้!”

 

 

 

 

——

 

 

ตอนต่อไป “ลายสักของฉู่เจียง”