Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 654 หย่า
“เย่เซิ่งเทียน คุณมาที่เมืองเฉียนถัง พวกเราหย่ากันเถอะ”

เย่เซิ่งเทียนได้รับโทรศัพท์จากหวางซี ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจมาก

อารมณ์หม่นหมอง เหมือนมีหินก้อนใหญ่กดทับอยู่ในใจ แม้แต่หายใจก็รู้สึกเจ็บปวดมาก

เขานึกไม่ถึงว่าหวางซีจะหย่ากับเขาเร็วขนาดนี้ และเขาก็ยังไม่ได้เตรียมใจ

“เย่เซิ่งเทียน ถึงคุณไม่พูดก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าคุณต้องการจะบีบให้ฉันตาย งั้นคุณก็ไม่ต้องมาหย่า!”

คำพูดของหวางซีไร้ความปรานี

เย่เซิ่งเทียนขยับลำคอ เสียงของเขาสั่น “โอเค”

หลังจากวางสายแล้ว เย่เซิ่งเทียนหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด และรู้สึกขมขื่นเป็นอย่างมาก

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เขามาถึงเมืองเฉียนถัง และได้พบหวางซีที่ทางเข้าสำนักเขต

ดวงตาของหวางซีบวมแดง ผมของเธอยุ่งเหยิง สภาพของเธอนั้นแย่มาก

เย่เซิ่งเทียนยื่นมือออกไปด้วยความปวดใจ แต่หวางซีหลบเลี่ยง มือของเขาค้างอยู่กลางอากาศ เขายิ้มด้วยความขมขื่น และกล่าวด้วยความอ่อนแรงว่า “ซีเอ๋อร์ ผมขอโทษ”

หวางซีกล่าวด้วยความเย็นชา “มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว แค่เห็นท่าทางปิ่มว่าจะขาดใจตายของคุณ มันทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงมาก หลังจากหย่าแล้ว ถ้าคุณจะมาพบซือซือ ฉันก็ไม่ขัดขวาง”

หลังจากกล่าวจบ เธอหันหลังแล้วเดินเข้าไปในสำนักเขต

ในระหว่างขั้นตอนดำเนินการหย่า สมองของเย่เซิ่งเทียนว่างเปล่า ตอนที่เจ้าหน้าที่ยื่นใบหย่าให้เขา น้ำตาของเขาก็ไหลออกมาทันที

ร่องรอยของเลือดกระจายอยู่ในปากของเขา และเขาก็รีบปิดปากตนเองทันที ทำให้เลือดหยดลงมาจากช่องว่างระหว่างนิ้วของเขา

ส่วนหวางซีนั้นเดินจากไปนานแล้ว โดยที่ไม่พูดอะไรกับเขาสักคำ

“มันดีแล้ว มันดีแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นเกม จนถึงตอนนี้แล้วผมยังไม่สามารถตรวจพบว่าใครเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง หย่ากันแล้ว พวกคุณจะปลอดภัยกว่า”

เย่เซิ่งเทียนปลอบใจตนเอง

กลอุบายของคนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังนั้นโหดเหี้ยมมาก จนถึงตอนนี้ยังไม่มีเบาะแสใด ๆ ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดล้วนถูกฆ่าปิดปาก และไม่สามารถค้นหาว่าใครเป็นผู้นำในงานบุคคลหัวกะทิคราวนี้ของเมืองโมตู

อีกฝ่ายหลบซ่อนได้ลับมาก

ทันใดนั้น ชื่อของบุคคลหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในสมองของเย่เซิ่งเทียน

ตอนที่เซี่ยหมิงหลี่กำลังจะจัดการตระกูลหลี่ ไอ้อู๋ก็ปรากฏตัวที่ตระกูลหลี่!

บุคคลนี้คบหาสมาคมกับหลี่กั๋วหรงมาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่เธอปกปิดสถานะของตนเองมาโดยตลอด แม้กระทั่งหลี่กั๋วหรงก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิง

ที่แปลกไปกว่านั้นคือหลี่กั๋วหรงไม่รู้สถานะของเธอ

แต่เธอมีบทบาทสำคัญที่ทำให้หลี่กั๋วหรงเจริญรุ่งเรือง

บุคคลนี้มีสถานะอะไรกันแน่? มีประวัติความเป็นมาอย่างไร?

เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้วจนแน่น ไม่ว่าไอ้อู๋จะมีสถานะอื่นอีกหรือไม่ เขาจำเป็นต้องตรวจสอบก่อน

ตอนนี้เย่เซิ่งเทียนไม่เชื่อใคร ถ้าเขาสงสัยใคร เขาจะให้คนตรวจสอบทันที

เย่เซิ่งเทียนให้เวินเฉินทำการสอบสวนอย่างลับ ๆ ว่าคนของตระกูลหลี่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่

ที่เมืองเฉียนถัง เกาเจี๋ยกำลังตรวจสอบ เริ่มจากเหตุการณ์ที่จ้าวเจิ้งรังแกหวางซี และเรื่องทุกอย่างได้รับการยืนยันแล้ว

“เลขา..เลขาเกา ลูกเนรคุณจ้าวเจิ้งถึงตายก็ไม่สาสมกับความผิดที่ทำลงไปได้ พวกเราตระกูลจ้าวกลับตัวกลับใจแล้ว ตอนนี้เจ้าเทพจะลงโทษตระกูลจ้าวเหรอ?”

จ้าวปิง ผู้นำตระกูลจ้าวถามด้วยความหวาดกลัว

จ้าวเจิ้งลูกชายคนสุดท้องของเขา ตอนนั้นเขามีความคิดชั่ว และต้องการจะแตะต้องหวางซี จึงได้ยั่วยุเจ้าเทพ

จนถึงตอนนี้เขายังคงกังวล เพราะเขากลัวว่าในใจของเจ้าเทพจะยังไม่จบเรื่องนี้ เกาเจี๋ยกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “มันไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลจ้าวของคุณ ผมแค่กำลังตรวจสอบสาเหตุของเหตุการณ์นั้น คุณบอกผมสิว่าจ้าวเจิ้งเคยติดต่อใคร ถ้าคุณกล้าปิดบัง ตระกูลจ้าวของคุณจะถูกทำลาย เข้าใจไหม?”

“ครับ ๆ ๆ ผมจะบอกคุณทุกอย่างที่ผมรู้ และผมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”

จ้าวปิงกล่าวด้วยร่างกายสั่น

ขอเพียงแค่ไม่ถามหาความผิดจากตระกูลจ้าว เขาก็จะไม่กังวลแล้ว

หลังจากนั้น ตระกูลเฉินและตระกูลอู๋ก็ถูกสอบสวนเช่นกัน

ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างลับ ๆ

ทางเมืองโมตู เวินเฉินรับผิดชอบวิเคราะห์ทุกเรื่อง

เจ้าเทพถูกใส่ร้าย ทำให้เวินเฉินและเกาเจี๋ยรู้สึกโมโห

นี่เป็นความอัปยศต่อหอมังกรเทพของพวกเขา!