ฟ่านเจี้ยนออกแรงพยักหน้า : “ครับ! คุณหยาง ฉันจะปฏิบัติหน้าที่ให้ดี จะไม่ทำให้คุณต้องเสียหน้าอย่างแน่นอน!”

ได้ยินเช่นนั้น

หยางเฟิงก็ไม่ได้พูดอะไรไร้สาระเกินไป และพาเสือขาวออกไป

แม่งเอ้ย!

กล้าไม่ให้เกียรติตนเองเหรอ?

กล้ากลั่นแกล้งกูใช่ไหม?

วันนี้กูจะต้องทำให้มึงเห็นว่า ทำไมดอกไม้ถึงเป็นสีแดง?

เสือขาวเอ่ยถามว่า : “ท่านแม่ทัพ ต้องการให้ฉันระดมกำลังองครักษ์มังกรไหม?”

หยางเฟิงส่ายหัวและกล่าวว่า : “ไม่จำเป็น! จัดการหัวหน้าแผนกตัวเล็กๆ เพียงคนเดียว จำเป็นจะต้องใช้องครักษ์มังกรเลยเหรอ? คุณโทรหามังกรเขียวด้วย กระแสนิยมของต้าเซี่ยนี้จำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงแล้วจริงๆ”

“พวกที่ครองตำแหน่งแต่ไม่ยอมทำงาน ครองส้วมแต่ไม่ขี้พวกนี้ หากไม่ยอมทำงานเพื่อประชาชน ก็ให้ไสหัวออกไปให้หมด!”

“ครับ!”

ได้ยินเช่นนั้น เสือขาวก็มีสีหน้าตื่นเต้นดีใจ

อยากเจอสหายมังกรเขียวแล้ว!

ดีใจจัง!

ต้องทราบว่า มังกรเขียวมีอำนาจและตำแหน่งสูงส่งในต้าเซี่ย

เพียงแค่เขาพูดประโยคเดียว

หัวหน้าแผนกของสำนักงานอะไรนั่น รับรองว่าจะต้องทำให้เขาตกใจกลัวจนฉี่ราดทันที!

อย่างไรเสียมังกรเขียวไม่ได้เหมือนกับพวกเขา

เสือขาวและคนอื่นๆ เป็นทูตทหาร

แต่มังกรเขียวเป็นข้าราชการ

เป็นการเหมาะสมที่สุดที่เขาจะมาจัดการกับหัวหน้าแผนกสำนักงาน

ถึงเวลานั้น ก็ไม่สามารถถูกคู่ต่อสู้เหล่านั้นจับจุดอ่อนของท่านแม่ทัพได้!

ต้องบอกเลยว่า

ทุกขั้นตอนของท่านแม่ทัพ ได้ไตร่ตรองไว้อย่างรอบคอบแล้ว

เวลานี้ ที่สำนักงาน

ใกล้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว แต่หลัวตงยังคงฟังงิ้วอยู่

เอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะราวกับภูเขา เขาไม่ได้ขยับเขยื้อนมันแม้แต่น้อย

ทำงานเหรอมันเป็นไปไม่ได้

ชั่วชีวิตนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะทำงาน

ขอเพียงแค่กาน้ำชา หนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับ เวลาของวันทั้งวันก็ผ่านไปแล้ว

มีงานใด ที่จะผ่อนคลายสบายใจมากกว่านี้อีกเหรอ?

ส่วนประชาชนเหล่านั้น……

ก็ปล่อยให้พวกเขาไปตายซะ!

กล้ามาหาเรื่องกับตนเอง ง่ายๆ ก็แค่ปล่อยให้พวกเขาตายไป

ปัง!

เมื่อหลัวตงเตรียมที่จะเลิกงาน

จู่ๆ ประตูใหญ่ห้องทำงานของเขาก็ถูกถีบจนเปิดออก!

หลัวตงตกใจ จนน้ำชาร้อนๆ ในมือเทราดลงบนมือของเขา

โอ๊ย!

ตัวทั้งตัวของหลัวตงกระโดดลักขึ้นมา ร้องออกมาอย่างน่าเวทนาราวกับฆ่าหมู

เขาเงยหน้าขึ้นมาอย่างโกรธจัด และพบว่าเป็นแปลกหน้าสองคนเดินเข้ามา ก็มีสีหน้าบึ้งตึงด้วยความโกรธทันที

“พวกมึงเป็นใคร?”

“ไอ้เหี้ย ไม่รู้เหรอว่าจะเข้ามาจะต้องเคาะประตูก่อน?”

“กล้ามาถีบประตูกู พวกมึงใจกล้ามากเลยนะ!”

หยางเฟิงเหลือบมองหลัวตง

หลัวตงคนนี้ขี้เกียจสันหลังยาวจริงๆ

มองก็รู้เลย ว่าไม่ใช่คนดี

ก็ไม่รู้ว่ากินเลือกเนื้อของประชาชนไปเท่าไหร่แล้ว

แต่มันไม่สำคัญหรอก

วันนี้ไม่ว่าหลัวตงจะกินเข้าไปเท่าไหร่

หยางเฟิงจะทำให้เขาอ้วกออกมาให้หมด!

หยางเฟิงไม่ตอบคำถามขอวหลัวตง

เดินตรงเข้าไป ดึงเก้าอี้ออกมา จากนั้นก็นั่งลงอย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย

หยางเฟิงเงยหน้าขึ้นมองหลัวตง และเอ่ยถามอย่างเย็นชา : “คุณคือหลัวตงใช่ไหม?”

หลัวตงพูดอย่างเดือดดาล : “แกคิดว่าแกเป็นใคร? คาดไม่ถึงว่าจะกล้าเรียกชื่อฉันตรงๆ?”

“แกรีบไสหัวออกไปเลย ที่นี่ไม่ต้อนรับแก!”

เวลานื้หลัวตงโมโหมากจริงๆ

คนที่เข้ามาห้องทำงานของตนเอง ไหนเลยจะมีใครไม่ระมัดระวัง ต่างเรียกตนเองว่า”หัวหน้าหลัว”อย่างสุภาพทั้งนั้น

ไอ้เวรนี่มาตะโกนโห่ร้องอยู่ตรงหน้า

ไม่เพียงแต่ถีบประตูห้องทำงานของตนเอง ยังเรียกชื่อเขาตรงๆ อีกด้วย!

ชื่อจริงของตนเอง ประชาชนชั้นต่ำตัวเล็กๆ คนหนึ่งกล้าที่จะเรียกมันด้วยเหรอ?

หยางเฟิงกล่าวอย่างดูถูก : “อำนาจบาตรใหญ่แค่ไหน แม้กระทั่งชื่อก็ไม่สามารถให้คนเรียกได้เลยเหรอ?”