ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

บทที่265: พยัคฆ์กินเหยื่อ

หลังจากที่สาวกของสำนักเสวียนเทียนได้ใช้ทุกอย่างที่มี เสาหมื่นมังกรนิทราเริ่มสั่นไหว ปรากฏมังกรที่ดุร้ายความยาวกว่าพันฟุตและลำตัวหนาร้อยฟุตขึ้น พวกมันทั้งหมดพุ่งเป้าหมายไปที่เรือมังกรทองคำ

แม้ว่าเรือมังกรทองคำจะมีความแข็งแกร่งอย่างมาก แต่มันก็ไม่อาจทนการโจมตีของเหล่ามังกรยักษ์เหล่านี้ได้ ปราการชั้นนอกของเรือเริ่มสั่นไหว เมฆสีต่างๆเริ่มหดหายไป ลำแสงสีทองที่ปกคลุมเรือจางลงไปอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากพวกเขาต้องการทำลายการป้องกันของเรือมังกรทองคำ แน่นอนว่ามันจะต้องใช้เวลา สำหรับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ด้านบนหัวของเรือมังกรทองคำ กำลังปลดปล่อยเจตจำนงของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์อันน่าเกรงขามออกมาอย่างช้าๆ จิตสังหารที่น่ากลัวแผ่ออกมาจากหัวเรืออย่างบ้าคลั่ง

เพียงแค่ลูกบอลสายฟ้านี้ก่อตัวขึ้น ดวงตาของมังกรยิงแสงสีม่วงออกมาด้วยเช่นกัน จากนั้นแสงสีม่วงนับไม่ถ้วนได้เข้าไปหลอมรวมกับลูกบอลสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์พร้อมเปลี่ยนสีทันที พลังแห่งการฆ่าฟันแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ

เมื่อครั้งที่ผู้ฝึกตนระดับเลือนจื่อสร้างเรือมังกรทองคำ เขาค้นพบโดยบังเอิญว่าถ้าหากรวมสายฟ้าสีม่วงเข้ากับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์จะสามารถเพิ่มพลังของลูกบอลสายฟ้าได้ เช่นนั้นเขาจึงปรับแต่งมันให้กลายเป็นหวงหลงสายฟ้าสีม่วงดังเช่นตอนนี้ แต่การสร้างมันในแต่ละครั้งนั้นกินทรัพยากรมากเกินไป ความมั่งคั่งของเขาในตอนนั้นทำได้แค่เพิ่มดวงตาให้กับมังกรที่หัวเรือเพียงเท่านั้น ถ้าไม่ใช่นั้นหอคอยสายฟ้าทุกต้นบนเรือก็คงจะมีดวงตาสีม่วงนี้ด้วยเช่นกัน!

แต่ในตอนนี้หวงหลงสายฟ้าสีม่วงเพียงอันเดียวก็เพียงพอ แม้ว่ามันจะยังไม่ได้ถูกยิงออกไป นักบวชฮัวอวิ๋นและเหล่าสาวกก็ได้สูญเสียพลังใจในการต่อสู้ไปมากโข ทั้งหมดเป็นบุคคลที่มีฝีมือและรู้ว่าสิ่งใดเป็นอันตรายและไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว ในขณะที่ปืนใหญ่กำลังจะยิงออกมาทั้งหมดทำได้เพียงยืนมองอย่างเสียขวัญ

นักบวชฮัวอวิ๋นตะโกนออกมา “หนี!!!” ในขณะที่เขากล่าว เขาออกไปจากเสาหมื่นนิทราเป็นคนแรก คุณชายใหญ่และคุณชายรองก็ไม่ช้าไปกว่ากันนัก ทั้งหมดหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ฝึกตนระดับจินตันทั้งหมดได้แต่อยู่ในสภาวะตื่นกลัว พอได้สติทั้งหมดแตกตื่นราวกับฝูงนก

ช่างน่าเสียดายที่ผู้ฝึกตนระดับจินตันรู้ตัวช้าเกินไป ทันทีที่ทั้งหมดคิดได้ว่าต้องหลบหนี หวงหลงสายฟ้าสีม่วงได้ปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังออกมาแล้ว ลูกบอลสายฟ้ารัศมีหนึ่งร้อยฟุตได้ถูกปลดปล่อยออกมา มันปะทะเข้ากับใจกลางเสาหมื่นนิทราอย่างรุนแรง

ตามด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น เสาหมื่นนิทราได้อยู่ต่อไม่ถึงหนึ่งวินาทีก่อนที่จะถูกทำลายอย่างรวดเร็ว เสาหินมากมายพังทลายลงจากการปะทะกับคลื่นพลังงานอันบ้าคลั่ง ตอนนี้พลังงานทั้งหมดที่อยู่ในเสาหมื่นนิทราได้ไหลผ่านหอคอยลอยฟ้าอย่างรวดเร็ว

ถ้าหากมองจากที่ไกลในตอนนี้หอคอยลอยฟ้าของสำนักเสวียนเทียนราวกับมีเมฆปกคลุม การระเบิดที่น่ากลัวเมื่อครู่นี้ทำให้เกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ รัศมีหลายพันลี้ถูกทำลายโดยสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็นภูเขาหรืออาคารต่างๆได้ถูกบดขยี้กลายเป็นผุยผง

ท่ามกลางการระเบิดที่ควันปกปิดทุกสิ่ง เรือมังกรทองคำได้ลอยขึ้นมาจากกลุ่มควัน ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากการระเบิด หลังจากที่มันออกมาจากรัศมีการระเบิดแล้ว มันบินอยู่บนฟ้าราวกับกำลังภูมิใจในผลงานของตนเอง

เมื่อฝุ่นค่อยๆจางหายไป ปรากฏพื้นดินให้เห็นอีกครั้ง ในเวลานี้สำนักเสวียนเทียนนั้นไม่ได้ดูยิ่งใหญ่เหมือนเคยอีกแล้ว อาคารนับร้อย หอคอยลอยฟ้า ป่าที่สวยงามพร้อมกับทะเลสาบที่กว้างไกล ทั้งหมดได้หายไปในพริบตา

มันถูกแทนที่ด้วยหลุมขนาดใหญ่รัศมีกว่าพันลี้ ทั้งหมดไหม้เกรียมและมีควันพวยพุ่งขึ้นจากดิน ภาพที่ปรากฏช่างน่าสมเพชอย่างยิ่ง ในขณะที่หนึ่งวินาทีที่แล้วมันยังคงสวยงามอยู่

ซ่งจงได้เห็นภาพทั้งหมดหลังจากเรือมังกรทองคำลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ในตอนนี้เขารู้สึกกังวลกับการกระทำของตนเองเป็นครั้งแรก เขาเติบโตมาในสถานที่แห่งนี้ ตอนนี้เขาต้องทิ้งความทรงจำทั้งหมดไว้เบื้องหลัง เสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ของเหล่าพี่น้องพ้องเพื่อนทั้งแต่วัยเยาว์ ตอนนี้เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวและหดหู่อย่างมาก

ซ่งจงฟื้นคืนความรู้สึกกลับมาอยู่กับความจริงอย่างรวดเร็ว จะเป็นยังไงกับสำนักเสวียนเทียนหรือหอคอยลอยฟ้าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ? ข้าซ่งจงจะทำให้มันแหลกเป็นผุยผงให้หมด!

 

 

อีกด้านหนึ่ง นักบวชฮัวอวิ๋น คุณชายใหญ่และคุณชายรองต่างตกตะลึงโดยสมบูรณ์ มีผู้ฝึกตนระดับจินตันสองถึงสามคนที่ไม่สามารถหลบหนีพร้อมทั้งถูกสังหารในจุดเกิดเหตุทันที ทั้งหมดเหลือเพียงเถ้าถ่านกลายเป็นบุคคลที่ไร้ศพ

ซ่งจงไม่เพียงแต่ทำลายเสามังกรหมื่นนิทราเท่านั้น เขายังทำลายหอคอยลอยฟ้าและทิ้งฉากที่น่ากลัวไว้ เป็นไปได้อย่างไรที่ทั้งหมดจะไม่ตกใจ? ถ้าหากไม่ใช่ว่าทั้งสามคนได้หนีออกไปอย่างรวดเร็วในตอนนั้น ทั้งหมดอาจจะต้องตายตกไปทันทีเช่นกัน! และผลงานนี้เป็นการกระทำของไขมันบัดซบที่อยู่ในระดับจินตันเท่านั้น! ถ้าหากในอนาคตเขาพัฒนาไปมากกว่านี้ ความยิ่งใหญ่ของเขาแน่นอนว่าไม่อาจจินตนาการได้!

เมื่อนักบวชฮัวอวิ๋นคิดถึงเรื่องราวที่ทำให้เขากับซ่งจงต้องกลายเป็นศัตรูกัน เขารู้สึกอยากจะบีบคอตัวเองให้ตายอยู่ตรงนี้ทันที!

ตอนนี้ซ่งจงมองเห็นนักบวชฮัวอวิ๋นแล้ว เรียกว่าซ่งจงนั้นเป็นพยัคฆ์ที่ออกจากกรงโดยสมบูรณ์ เมื่อมองเห็นศัตรูที่อยู่ตรงหน้าดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง จิตสังหารที่แรงกล้าพุ่งออกมาทันที!

“นักบวชฮัวอวิ๋น! ชราบัดซบ! จงไปขอโทษครอบครัวของข้าซะ!” ตามเสียงคำรามของเขา ซ่งจงบังคับหัวเรือให้หันไปหานักบวชฮัวอวิ๋นทันที

ระหว่างทางที่จะไป ซ่งจงได้ปล่อยลูกบอลสายฟ้านับพันลูกออกไปรอบๆเรือมังกรทองคำ

ภายใต้การควบคุมผ่านจิตวิญญารของซ่งจง สายฟ้าทั้งหมดล่วงหล่นราวกับดาวตก มันพุ่งเข้าหานักบวชฮัวอวิ๋น ไม่ว่าพวกเขาจะมีความมั่นใจมากเพียงใด ทั้งหมดไม่กล้าประมาทที่จะรับการโจมตีนี้โดยปราศจากการช่วยเหลือจากเสาหมื่นมังกรนิทรา

ดังนั้นทั้งหมดตะโกนออกมา “หนี!!!” ทั้งหมดเปิดใช้งานดาบบินของตนเองทันที พร้อมกับบินเข้าไปในสำนักเสวียนเทียนทันที ภายในสำนักชั้นในมีค่ายกลสำหรับการป้องกันการโจมตี แม้ว่าลูกบอลสายฟ้าจะพุ่งชนกับค่ายกล แต่มันก็จะไม่สามารถถูกทำลายได้โดยง่าย ลูกบอลสายฟ้าทำได้เพียงสร้างคลื่นบนกำแพงป้องกันเท่านั้น ระเบิดถูกส่งกระเด็นไปรอบนอกทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นหลุมเป็นบ่ออย่างน่ากลัว

ซ่งจงไม่หยุดมือแค่นั้น เขาปล่อยเรือมังกรทองคำให้หยุดอยู่ด้านหน้าของค่ายกลและเปิดใช้งานเต็มกำลัง เขาโบกมือสร้างคลื่นลูกบอลสายฟ้าขนาดใหญ่นับพันลูกให้พุ่งเข้าปะทะกับกำแพงป้องกันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการป้องกันจะสูงมากเพียงใด แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีมากมายเช่นนี้ แน่นอนว่าค่ายกลเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง

ในขณะที่ซ่งจงโจมตีค่ายกล เขาตะโกนออกมา “จิ้งจอกเฒ่า ทุกคนในครอบครัวเจ้าล้วนแต่เป็นคนหลอกลวง พี่สาวของท่านก็เป็นอีตัวโดยสมบูรณ์อีกทั้งยังมีลูกนอกสมรสไว้เชยชมนั่นก็คือฮัวเฉียนหวู่ แต่นางกลับไม่มีความกล้าหาญที่จะดูแลฮัวเฉียนหวู่พร้อมกับยกลูกคนนี้ให้กับท่าน นอกจากนั้นฮัวเฉียนหวู่ยังเจริญรอยตามมารดาของตนเองด้วยการเป็นอีตัว ใช้ร่างกายตนเองเป็นค่าเหนื่อยให้กับตาเฒ่าเฟิงเพื่อสังหารครอบครัวของข้า! ทั้งมารดาและบุตรสาวต่างก็ใช้สามีร่วมกัน อีกทั้งท่านที่เป็นน้องชายยังช่วยนางปิดปากข้า! เพื่อให้แผนนี้สำเร็จพวกท่านเลยปล่อยข่าวว่าข้าเป็นสายลับให้กับอสูรกาย นี่เป็นสายสัมพันธ์ของครอบครัวแบบไหนกัน?”

เมื่อนักบวชฮัวอวิ๋นได้ยินเช่นนั้น เขาโกรธจัดจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงแทบจะกระอักเลือดออกมา เขาคิดกับตนเอง ‘จบแล้ว ข้าจบสิ้นแล้ว!’

ถ้าหากเขาปิดปากซ่งจงในก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าผู้ฝึกตนระดับจินตันรอบๆก็ยังรับรู้เรื่องนี้เช่นกัน แต่ตราบใดที่นักบวชฮัวอวิ๋นมอบผลประโยชน์ให้กับพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่เปิดปากของตนเอง

แต่ในตอนนี้ซ่งจงได้ประกาศเรื่องเหล่านี้ให้กับทุกคนที่อยู่ในสำนักเสวียนเทียนรับรู้แล้ว เขาเปิดโปงเรื่องราวที่น่าขยะแขยงของตระกูลฮัว ในขณะที่ซ่งจงตะโกนสาปแช่ง เขาเปิดใช้ปราณจิตวิญญาณเพื่อให้เสียงนี้ดังไปไกลหลายพันลี้ แน่นอนว่าผู้ฝึกตนที่อยู่ใกล้เคียงจะได้ยินทั้งหมด!

ผู้คนมากมายต่างรับรู้เรื่องนี้แล้วและเป็นไปไม่ได้เลยที่นักบวชฮัวอวิ๋นจะสามารถปกปิดมันไว้ได้อีกต่อไป

นอกจากนั้นสิ่งที่แย่ที่สุดคือซ่งจงยังไม่ตาย วันนี้เขาประกาศเรื่องนี้ในสำนักเสวียนเทียน วันพรุ่งนี้เขาจะสามารถประกาศเรื่องนี้ที่หอเฉวียนจี้ได้ เวลาเพียงชั่วพริบตาทั่วทั้งภูเขาใหญ่จะรับรู้เรื่องเหล่านี้อย่างแน่นอน

ในขณะที่เรื่องราวเหล่านี้ถูกปกปิด ทุกอย่างยังคงมั่นคง! แน่นอนว่ามันง่ายที่จะหลอกลวงคนรับใช้ของตนเอง แต่ถ้าหากเหล่าอาวุโสระดับสูงได้รู้เรื่องราวแน่นอนว่าทั้งหมดจะต้องตรวจสอบทุกอย่าง! ในเวลานั้นทั้งคู่จะสูญเสียชื่อเสียงของตนเองจนหมดสิ้น! นอกจากนี้ทั้งสองอาจจะไม่สามารถรักษาชีวิตของตนเองไว้ได้! ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวมันเลวร้ายเกินกว่าที่สำนักจะแสดงความเมตตาต่อพวกเขา

 

 

ในเวลานี้นักบวชฮัวอวิ๋นเต็มไปด้วยความสำนักผิดและสับสน ในขณะที่เขากำลังมึนงง คุณชายใหญ่และคุณชายรองไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น ทั้งคู่เต็มไปด้วยความเสียใจ! ถ้าหากเขารู้ว่าซ่งจงจะดื้อรั้นมากเพียงนี้ เขาจะไม่เข้าข้างนักบวชฮัวอวิ๋นตั้งแต่ต้น!

ถ้าหากเป็นความผิดพลาดโดยทั่วไป แน่นอนว่าไม่มีอะไรต้องคิดมาก แต่นี่เป็นความผิดร้ายแรง ทั้งหมดยั่วยุบุคคลที่มีพลังไร้ขีดจำกัด เห็นได้ชัดว่าช่วงเวลาที่ซ่งจงฉีกค่ายกลของสำนัก ทั้งคู่ก็ไม่อาจมีชีวิตรอดได้เช่นกันถ้าหากพบเจอกับการโจมตีเช่นนี้ จะมีเรื่องไหนทำให้พวกเขาเสียใจได้มากเท่านี้อีก? ถ้าหากทั้งสองได้รู้ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น แน่นอนว่าจะไม่ยอมให้นักบวชฮัวอวิ๋นทำตามอำเภอใจ อีกทั้งเวลานั้นทั้งสองจะได้รับตำแหน่งจ้าวสำนักโดยไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้

ไม่ว่าจะเจ็บปวดมากเพียงใด มันก็สายเกินไปแล้วที่จะเปลี่ยนใจ สิ่งเดียวที่ทั้งสองสามารถทำได้ในตอนนี้ ในขณะที่นักบวชฮัวอวิ๋นอยู่ในความสับสน ทั้งสองทำได้เพียงเปิดการใช้งานค่ายกลเพื่อปกป้องสำนักชั้นในอย่างรวดเร็ว

เดิมทีพวกเขาคิดว่าการสร้างค่ายกลจะสามารถหยุดการโจมตีของซ่งจงได้ แต่ในไม่ช้าพวกเขาจะได้รู้ว่าพวกเขาคิดผิดอย่างไร!