บทที่ 6 บทที่ 54 ไม่ใช่คนเผด็จการ

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง เด็กหรือคนแก่ ขอเพียงเป็นลูกค้า เจ้าของสมาคมก็ชอบที่จะลอบสังเกต

 

ลั่วชิวก็มีความคิดแบบคนธรรมดา ในตอนที่เขาเห็นลูกค้าผู้หญิงเป่าหมากฝรั่งคนนี้แล้วก็คิดไปถึง คอสเพลย์…คงเป็นคอสเพลย์…สินะ…

 

“ได้ยินมาว่าที่นี่ขายทุกอย่าง ใช่ไหม?” ผู้หญิงเป่าหมากฝรั่งคนนั้นถามตรงๆ

 

แต่ก่อนจะถาม เธอก็นั่งลงอย่างองอาจเหมือนผู้ชาย…ดูเท่มาก

 

สองมือของเธอยังล้วงอยู่ในกระเป๋า แต่สองขายาวกลับยื่นออกมาวางบนโต๊ะ หากมองตามมุมมองของสิ่งมีชีวิตทั่วไป ลั่วชิวเพิ่งเคยเห็นขามีเสน่ห์ดึงดูดมากแบบนี้เป็นคู่ที่สอง

 

เรียวขาตรงยาวเหมือนคำนวณและเพาะเลี้ยงมาอย่างดีที่สุด ไม่ทำให้รู้สึกว่ามีส่วนเกิน เพียงรู้สึกว่ามันเต่งตึงมากเท่านั้น

 

ส่วนเจ้าของเรียวขาแบบนี้ที่เจ้าของสมาคมเคยเห็นคนแรกก็คือของลามีอัส ซิสเตอร์ที่เคยพบหน้าเพียงแค่ครั้งเดียวในโรมาเนีย

 

“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ คุณลูกค้าที่เคารพ”

 

นี่ไม่ใช่ลูกค้าหรือคนธรรมดาที่ถูกดึงดูดเข้ามาโดยไม่รู้ตัว…แต่เป็นลูกค้าไม่ธรรมดาที่ตั้งใจมา

 

ลั่วชิวสัมผัสได้ถึงของในกระบอกที่ลูกค้าผู้นี้แบกมา

 

ด้านในบรรจุของที่ดุร้ายมากชิ้นหนึ่ง แม้จะถูกห่อหุ้มไว้และจงใจปกปิดเอาไว้ก็ไม่สามารถปกคลุมเสียงกระซิบราวปีศาจของมันได้หมด

 

น่าจะเป็นมีดเล่มหนึ่ง?

 

เป็นสิ่งที่ซามูไรเห็นเป็นชีวิต บางครั้งนักรบก็เรียกมันว่ากระบี่

 

ผู้หญิงเป่าหมากฝรั่งกวาดตามองรอบด้านแวบหนึ่ง หลังจากคำพูดประโยคแรกแล้วประโยคต่อมาของเธอก็ดูแตกต่างเล็กน้อย “สถานที่แห่งนี้แปลกประหลาดจริงๆ แต่ดูเหมือนจะมีแค่พวกนายสองคน…เอ่อ เธอคนนั้นไม่นับเป็นคนสินะ?”

 

คุณหนูสาวใช้ไม่ได้โกรธ เพราะเธอก็ไม่ใช่คนจริงๆ เธอยังคงเสิร์ฟชาให้ผู้หญิงเป่าหมากฝรั่งคนนี้อย่างมีมารยาท

 

แต่…หลายๆ ครั้งในช่วงนี้มีลูกค้าที่พูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้ค่อนข้างเยอะไปหน่อย?

 

ครั้งก่อนดูเหมือนจะเป็นซูจื่อจวิน? ลั่วชิวยิ้ม เจ้าของสมาคมไม่โกรธ “คนเยอะหรือไม่เยอะนั้นไม่สำคัญ ขอแค่ทำตามคำร้องของลูกค้าสำเร็จได้ก็เพียงพอแล้ว”

 

“ก็ถูก”

 

ผู้หญิงที่เป่าหมากฝรั่งคนนั้นพยักหน้าจากนั้นก็ยิ้มและเอ่ยว่า “ที่จริงก็แค่แปลกใจเท่านั้น…”

 

สายตาของเธอเคลื่อนออกจากเจ้าของสมาคมไปยังร่างของโยวเย่ จากนั้นก็กลับมาที่ร่างของเจ้าของสมาคมอีกครั้ง “แปลกใจว่ามีอะไรที่คู่ควรให้หวาดเกรงกันแน่ ถึงได้ทำให้พวกตายยากในสมาคมเหล่านั้นหวาดกลัวได้”

 

“ลูกค้าเป็นตัวแทนของ…” ลั่วชิวชะงัก “สมาคมไมเคิลเหรอครับ”

 

เขาไม่ได้ซื้อข้อมูลของผู้หญิงคนนี้โดยตรง เพราะยังไม่ได้เริ่มแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการ ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มลั่วชิวก็ไม่ได้รีบเก็บข้อมูลของคนแปลกหน้า

 

เขาพยายามไม่รู้จักก่อนที่จะเริ่มอย่างเป็นทางการ

 

“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้เป็นตัวแทนของใคร”

 

ผู้หญิงคนนั้นยักไหล่และเอ่ยอย่างผ่อนคลายว่า “ฉันเป็นตัวแทนของตนเอง…อีกอย่าง ฉันไม่ชอบคำเรียกว่า ‘ลูกค้า’ เพราะงั้นให้เรียกฉันว่านีโร”

 

“นีโร?” ลั่วชิวยิ่งสนใจมากขึ้น ว่าผู้หญิงก็ตั้งชื่อแบบนี้ได้เหมือนกัน “ทรราชแห่งอาณาจักรโรมันโบราณเหรอครับ” 

 

“ไม่ใช่ ฉันกับคนโบราณคนนั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน” ผู้หญิงที่ชื่อนีโรคนนั้นส่ายหน้า “หากใช้คำพูดของประเทศนี้พูดก็คือ ถึงจะนับบรรพบุรุษขึ้นไปแปดรุ่นก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน”

 

“เอาเถอะครับ คุณนีโร” ลั่วชิวพยักหน้า “ในเมื่อคุณไม่ได้เป็นตัวแทนของสมาคมไมเคิล…แล้วคุณอยากซื้ออะไรครับ?”

 

นีโรล้วงถุงเล็กๆ ออกมาจากเสื้อผ้า นั่นเป็นถุงผ้าคล้ายถุงใส่เครื่องประดับเล็กๆ เธอโยนถุงลงบนโต๊ะ “ซื้อข่าวของคนคนหนึ่ง”

 

นี่ไม่ใช่การกระทำแบบเศรษฐีใหม่ที่โอ้อวดตนเองหรือจงใจยั่วยุ แต่เป็นการกระทำซึ่งดูเป็นธรรมชาติมาก

 

เป็นเหมือนกับนักล่าผู้เพิ่งออกจากเขตอันตรายมาถึงสถานที่แลกเปลี่ยนเป็นเงิน จึงรู้สึกเปี่ยมไปด้วยความห้าวหาญและมีพลัง

 

ด้านในถุงมีแต่วิญญาณ

 

“เป็นยังไง?” นีโรหัวเราะและเอ่ยว่า “นี่เป็นพวกที่ฉันฆ่าระหว่างทาง…ปีศาจของฝั่งตะวันออก ใช่แล้ว ในนี้ยังมีมนุษย์ชั่วร้ายคนหนึ่งด้วย เป็นเพราะเขามาโอ้อวดตัวว่ารวยต่อหน้าฉัน คิดจะชวนฉันขึ้นเตียง ฉันก็เลยฆ่ามันซะ”

 

ใครให้เธอเล่นคอสเพลย์กันล่ะ…ไม่รู้เหรอว่าวงการคอสเพลย์วุ่นวายขนาดไหน…

 

“ชื่อของเป้าหมายคืออะไรครับ?”

 

ลั่วชิวมองจำนวนวิญญาณภายในถุงแวบหนึ่ง ปีศาจเก้าตนกับคนธรรมดาหนึ่งคนก็ถือว่าไม่น้อยเลย

 

“คุก? ชิวหลิน”

 

“ขอบเขตของข้อมูลคือ?”

 

นีโรเอ่ยว่า “เป็นหรือตาย? หากตายแล้วซากศพอยู่ที่ไหน หากยังอยู่ ตัวคนอยู่ที่ไหน…สถานที่ที่ถูกต้องที่สุด”

 

เจ้าของสมาคมนิ่งเงียบครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ล้วงวิญญาณของมนุษย์เพียงดวงเดียวนั้นออกมา “นี่เป็นของแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ ได้ไหมครับ?”

 

“อันเดียวก็พอแล้วเหรอ?” นีโรถามอย่างแปลกใจ

 

ลั่วชิวยิ้มและเอ่ยว่า “ผมก็อยากได้เยอะกว่านี้ แต่พอแล้วก็คือพอครับ”

 

“พูดแบบนี้ก็หมายความว่าที่นี่ยึดถือความยุติธรรมงั้นสินะ?”

 

ลั่วชิวไม่ได้ตอบกลับไป เพียงแต่วางวิญญาณของมนุษย์ไว้บนถาดรองที่คุณหนูสาวใช้ไปหยิบมาและค่อยๆ เอ่ยว่า “คุกที่คุณนีโรพูดถึงนั้นยังไม่ตาย ตอนนี้อาศัยอยู่ที่ร้านขายเต้าหู้ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งแม่น้ำจากเมืองนี้ไหลผ่าน”

 

“ร้านขายเต้าหู้?” นีโรชะงัก เธอคิดไม่ถึงว่าจะเป็นที่แบบนั้น

 

เธอสงสัยและถามอย่างไม่ค่อยเชื่อนัก “ถึงวิญญาณชั่วของมนุษย์ดวงนี้จะไม่มีค่าอะไรมาก…แต่นายคงไม่ได้พูดส่งๆ ใช่ไหม?”

 

“นี่เป็นข่าวจริง ส่วนคุณนีโรจะหาคนพบที่นั่นหรือไม่ พวกเราไม่รับรองนะครับ” ลั่วชิวพูดขึ้นในทันใด

 

“พวกนายหาเงินง่ายเกินไปหน่อยแล้ว?” ทันใดนั้นนีโรก็ยิ้มเยาะขึ้นมา

 

เธอพลิกมือเอากระบอกที่แบกไว้ด้านหลังมาวางลงบนพื้น…กระบอกสั่นเบาๆ ดูเหมือนมีของบางอย่างคิดจะปะทุออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงกรีดร้องดังออกมาเป็นช่วงๆ

 

เจ้าของสมาคมลั่วมองดูน้ำชาบนโต๊ะที่เกิดคลื่นเล็กๆ แล้วก็ยิ้ม พูดว่า “คุณนีโร ของที่บรรจุอยู่ด้านใน..เรียกว่า ‘ยามะ*’ ใช่ไหมครับ”

 

“อา…” นีโรหรี่ตาลง

 

ลั่วชิวพูดเบาๆ ว่า “ผมว่าเรียกคุณว่าลูกค้าดีกว่า หรือจะเรียกชื่อจริงของคุณดีกว่าไหมครับ…คุณคิดแบบนั้นไหม? คุณหนูชเวยุนอา”

 

สายตาของนีโรแหลมคมขึ้น แต่กลับยิ้มกว้างกว่าเดิมเล็กน้อย

 

ลั่วชิวหยิบชาขึ้นมาจิบ ในตอนที่เขาวางลงก็พูดขึ้นว่า “อีกอย่าง คุณลูกค้า ที่นี่เป็นเพียงสถานที่คุยธุรกิจ อะไรอื่น…ที่ไม่ควรเกิดขึ้นก็อย่าให้เกิดขึ้นเลยครับ”

 

แก้วชาและจานรองส่งเสียงกระทบกันดังออกมาอย่างชัดเจน ส่วนเสียงกรีดร้องนั้นก็หายไปพร้อมกัน

 

สิ่งที่เรียกว่า ‘ยามะ’ หยุดสั่นและสงบลง

 

ลูกโป่งหมากฝรั่งที่นีโร…หรือชเวยุนอา…เป่าออกมาก็แตกเช่นกัน

 

*ยามะ ชื่อเทพแห่งความตายตามหลักศาสนาฮินดู