บทที่ 543

 

การประชุมปัญญาประดิษฐ์โลกได้ถูกจัดขึ้นตามกําหนดเวลาเดิม ในการประชุมครั้งนี้เองก็ได้มีบริษัทไฮเทค นักวิทยาศาสตร์ และผู้ทํางานในด้านต่างๆจํานวนมากมาเข้าร่วม

 

หากเป็นในอดีต การประชุมในครั้งนี้ของลูชินคงได้รับการตอบรับด้วยดีจากประชาชนจํานวนมาก แต่ในความวุ่นวายทางเศรษฐกิจระดับโลกที่เกิดขึ้นนี้ ทําให้ในปัจจุบันผู้คนจํานวนมากไม่เพียงแต่ไม่มีความยินดีเท่านั้น พวกเขากลับแสดงความกังวลออกมาอย่างไม่ปิดบัง

 

และเมื่อมีข่าวมาว่าการประชุมครั้งนี้ ประธานใหญ่ลูชินที่เป็นถึงผู้ก่อตั้งบริษัทลู่เทคโนโลยีเองก็จะมีส่วนร่วมด้วย มันยิ่งทําให้การประชุมในครั้งนี้นับการจับตามองมากขึ้นเป็นพิเศษ

 

ใกล้จะถึงการประชุมเข้ามาทุกทีแล้ว ในส่วนของที่นั่งนั้นได้เต็มไปตั้งแต่สามนาทีแรกของการเปิดจองดังนั้นผู้ชมจํานวนมากที่พลาดโอกาสในครั้งนี้ จึงทําได้เพียงรอชมผ่านทางการถ่ายทอดสดโดยสื่อกระแสหลักของแต่ประเทศเท่านั้น

 

“ลําดับต่อไปขอเชิญผู้ก่อตั้งกลุ่มลู่เทคโนโลยี ประธาน ได้ขึ้นมากล่าวสุนทรพจน์ก่อนการประชุมในครั้งนี้!” หลังจากพิธีกรได้พูดจบ ก็ได้มีเสียงปรบมือดังขึ้นอย่างอบอุ่นในสถานที่จัดงานทันที่ และนั้นทําให้ตอนนี้ความสนใจของผู้คนต่างก็มุ่งเน้นไปที่ลูชิน

 

เมื่อลูชินได้มาถึงบนเวที เขาก็ได้เริ่มพูดขึ้นทันทีว่า “ผมรู้ว่าการประชุมปัญญาประดิษฐ์โลกที่จัดขึ้นในวันนี้ ต่างก็ได้เกิดความคิดเห็นที่หลากหลายขึ้น คนบางคนคิดว่าที่เป็นแบบนี้ก็เนื่องมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีที่รวดเร็วของเรา หรือไม่ก็บางคนคิดว่าเป็นเพราะการรวบรวมเทคโนโลยีไฮเทคทั้งหมดเอาไว้ด้วยกัน จึงเป็นสาเหตุของความวุ่นวายทางเศรษฐกิจในครั้งนี้”

 

” ดังนั้นที่ผมมาที่นี้: การประชุมนี้! ก็เพื่อจะพูดคุยกับพวกคุณเกี่ยวกับความคิดของผม ซึ่งมันก็เกี่ยวกับปัญหาที่ทุกคนต่างก็กังวลมากที่สุดในตอนนี้ เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศควอนตัม ที่ถูกดําเนินงานโดยปัญญาประดิษฐ์หุ่นยนต์ หรืออื่นๆ เป็นที่ยอมรับมาโดยตลอดเทคโนโลยีไฮเทคสําหรับพวกเรานั้นในท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เรานั้นสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายและสะดวก สบายมากขึ้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ไม่ว่าจะเป็นการว่างงานหรือความวุ่นวายทางเศรษฐกิจทุกคนต่างก็โยนความผิดให้กับเทคโนโลยีพวกนี้ ผมอยากจะถามว่าความผิดนี้เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีจริงๆเหรอ? “

 

“ ผมคงต้องขอพูดอะไรซักเล็กน้อย! การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งไป ไม่ว่าจะเป็นจํานวนการว่างงาน ความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวทางสังคม ซึ่งผมต้องขอพูดเอาไว้ว่านี้ไม่ใช้ครั้งแรกที่มันเกิดขึ้น! เพราะการปฏิวัติอุตสาหกรรมใหม่ทุกครั้ง จะมาพร้อมกับปัญหาเหล่านี้เสมอ!”

 

“ ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรก เครื่องจักรก็เริ่มมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย เหล่านักวิจัยในสมัยก่อนต่างพบว่าเครื่องจักรเหล่านั้นกําลัง “ปล้น” โอกาสในการทํางานของพวกเขาไปแต่พวกเขาก็ไม่สามารถทําการแก้ไขอะไรได้! แม้แต่เครื่องจักรไอน้ําแบบดั้งเดิมที่สุด มันก็ยังประสิทธิภาพการดําเนินงานที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับแรงงานมนุษย์ เช่นเดียวกับวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเอไอหรือหุ่นยนต์ พวกมันก็จะเข้ามาแทนที่พวกเราอยู่ดี ถึงแม้ว่าพวกคุณจะไม่ต้องการมันมากแค่ไหนมันก็ไม่สามารถหลีกเลี้ยงได้ ”

 

“ในช่วงเวลานั้นเองก็ได้มีผู้คนจํานวนมากต่างก็ออกมาแสดงเรียกร้องเช่นกัน ถึงกลับมีคนบางกลุ่มที่ได้ออกมาหยุดงานทันที เพราะพวกเขาเชื่อว่าตราบใดที่เครื่องจักรเหล่านั้นไม่สามารถใช้ งานได้พวกเขาก็ยังสามารถใช้ชีวิตที่มั่นคงต่อไปได้ มันทําให้คนเหล่านั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นําของการต่อต้านอุตสาหกรรมในช่วงเวลานั้นเลยที่เดียว “

 

“แต่ถ้าพูดกันจริงๆแล้วในด้านเศรษฐศาสตร์ นี่คือความผิดพลาดเป็นอย่างมาก เพราะการกระทําแบบนี้มันจะทําให้การพัฒนาเทคโนโลยีเกิดความก้าวหน้ายิ่งขึ้น และมันจะนําไปสู่สภาวะว่างงานมากขึ้นในอนาคต ซึ่งในขณะนี้เองก็ยังมีกลุ่มคนที่ดําเนินการผิดๆแบบนี้อยู่”

 

“ ดังนั้นในวันนี้ผมจึงอยากจะขออธิบายให้ทุกท่านได้เข้าใจว่า จริงๆแล้วการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นไม่ใช่เป็นการทําร้ายพวกท่านแต่อย่างใด แต่มันเป็นการปลดปล่อยผู้คนออกจากการทํางานหนักและทําให้ผู้คนมีเวลาว่างมากขึ้น เมื่อทุกคุณมีเวลามากขึ้น พวกคุณก็สามารถหาความสุขให้กับตัวเองได้มากขึ้นตามไปด้วย เช่น การฟังเพลง ดื่มกาแฟ ดูหนัง เล่นเกม .. การออกกําลัง จนไปถึงสร้างงานใหม่ๆมากขึ้น”

 

” แต่ผู้คนจํานวนมากต่างไม่คิดแบบนั้น พวกเขาต่างก็คิดว่าการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นทุกวันนี้กลับเป็นการทําให้เกิดการว่างงานขึ้น”

 

“ซึ่งผมไม่เห็นด้วยกับมุมมองนี้เป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีไฮเทคอื่นๆขึ้นมา ถึงมันจะค่อยๆทําให้อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมหายไป แต่มันก็ยังได้สร้างงานรูปแบบใหม่ขึ้นมาในเวลาเดียวกัน”

 

” ใช้ครับ! ในปีที่ผ่านมา จะมีใครคิดฝันว่าจะมีธุรกิจอย่างครูฝึกปัญญาประดิษฐ์หรือครู ฝึกพนักงานมืออาชีพในการรักษาปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมาได้? ”

 

ลูชินยังคงพูดต่อไป จนมีนักข่าวสาวคนหนึ่งได้ยกมือขึ้นสูง “หากคุณมีคําถามใดๆโปรดถามออกมาได้ทันที”

 

นักข่าวสาวคนที่ได้รับอนุญาติจากลูชินก็รีบพูดขึ้นว่า “สวัสดีค่ะ! ดิฉันเป็นนักข่าวประจําวันดิฉันอยากจะถามว่าการปรากฏขึ้นของงานรูปแบบใหม่ที่คุณพูดถึงนั้นมันอาจจะมีข้อกําหนดทางเทคนิคที่สูงเกินไป และนั้นอาจจะทําให้บุคคลธรรมดาไม่สามารถเข้าถึง แบบนี้มันจะยังคงทําให้พวกเขาเผชิญกับความเสี่ยงจากการว่างงานอยู่ไหมค่ะ? “

 

” เป็นคําถามที่ดี! “ลูชินได้พยักหน้าเป็นการยกย่อง ” ผมไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆได้นําไปสู่การเปลี่ยนแปลง และมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่อาจจะเกิดกระทบกระทั้งกันเกิดขึ้น”

 

“ แต่นี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องมองโลกในแง่ร้าย! ผู้ชนะรางวัลโนเบลสาขา เศรษฐศาสตร์ลีดาร์สันได้กล่าวว่าความแตกต่างที่สําคัญที่สุดระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรคือมนุษย์สามารถมีส่วนร่วมในสิ่งใหม่ๆได้ตลอดเวลา และพวกเขายังมีความสามารถที่จะทําอะไรที่ซับซ้อนได้ ”

 

“ดังนั้นจากมุมมองของการพัฒนาเทคโนโลยีแล้ว มันเป็นเรื่องปกติที่อาจจะส่งผลกระทบต่ออาชีพในปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามมันก็ถือว่าโอกาสที่ดีสําหรับเราเช่นกัน”

 

“ตัวอย่างเช่น อาชีพทนายความต้องการเรียนรู้ความรู้มากมาย พวกเขาจําเป็นต้องค้นหาข้อมูลจํานวนมากซึ่งเรานั้นมีเวลาและพลังงานจํากัด แต่ถ้าเกิดในเวลานั้นเรามีผู้ช่วยอย่างปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถช่วยเราในการคัดกรองข้อมูลจํานวนมากในช่วงเวลาสั้นๆได้แม้แต่งานที่ต้องใช้เวลานานถึงครึ่งปีกว่าจะเสร็จมันก็สามารถย่นเวลาให้เหลือได้เพียงหนึ่งวัน! “

 

” นี้มันกําลังแสดงให้เราเห็นอะไร? มันกําลังแสดงให้ว่าปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีชั้นสูงอื่นๆนั้นได้นําการเปลี่ยนแปลงมาสู่การใช้ชีวิตของเรา ไม่เพียงแค่นั้นพวกหุ่นยนต์อุตสาหกรรเอง เดียวนี้มันก็มีความฉลาดมากขึ้น มันสามารถรับคําสั่งของเราได้พร้อมๆกันจํานวนมากซึ่งมันก็แสดงให้เราเห็นว่าถึงยังไงเทคโนโลยีเหล่านี้ก็ยังต้องการมนุษย์อย่างเราๆที่ควบคุมมันไม่เพียงแค่นั้น เรายังเป็นคนที่จัดสร้างและออกแบบโปรแกรมหุ่นยนต์ขึ้นมาอีกด้วย ฯลฯ”

 

” พวกคุณอาจคิดว่าสิ่งที่ผมกําลังพูดถึงนั้นเป็นอะไรที่อยู่เหนือความสามารถของพวกคุณหรือมันอาจจะเป็นความรู้ใหม่ๆที่พวกคุณไม่เคยรู้จักมาก่อน”ลูซินได้หยุดอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะพูดขึ้นว่า “ ใช่! มันเป็นความจริงที่ว่าอาชีพใหม่ๆพวกนี้จําเป็นต้องการความรู้ใหม่ๆควบคู่กันไปแต่ความรู้เหล่านี้เองก็เป็นสิ่งที่พวกเรานั้นสามารถเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับมันได้ “

 

“เพราะเมื่อพวกคุณปฏิบัติต่อเหล่าปัญญาประดิษฐ์ในฐานะศัตรู พวกคุณจะพ่ายแพ้ต่อมันทุกครั้งไปที่เป็นแบบนั้นก็เนื่องจากสติปัญญาของคนเพียงหนึ่งคนนั้นเป็นอะไรที่จํากัดเป็นอย่างมากแต่สําหรับปัญญาที่อยู่เบื้องหลังปัญญาประดิษฐ์นั้นคือการตกผลึกของภูมิปัญญาของผู้คนนับไม่ถ้วน! ”

 

” ผมรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มันได้เกิดขึ้นเร็วเกินไป และหลายคนเองก็กําลังตื่นตระหนกและไม่รู้ว่าจะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นี้ยังไง? ผมไม่ได้บอกว่านี้เป็นเพียงปัญหาสําหรับทุกคนเท่านั้น แต่มันยังเป็นปัญหาสําหรับธุรกิจและสังคมของเราอีกด้วย”

 

“ดังนั้นมันจะดีกว่าไหมถ้าเราต่างก็มองว่าเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นผู้ช่วยคนหนึ่ง ที่ค่อยช่วยเหลือเราในการดําเนินชีวิตให้ง่ายขึ้น ไม่ใช้มองพวกมันเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของตัวผมรับรองได้ว่า ถ้าพวกคุณทุกคนได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านี้จริงๆ มันไม่เพียงแต่จะช่วยให้การดําเนินชีวิต ของพวกคุณดีขึ้นเท่านั้น แต่มันยังจะเป็นการทําให้ระบบอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจดีขึ้นเช่นกัน”