ตอนที่ 648: พลังของศัตรู

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 648: พลังของศัตรู

เจี้ยนเฉินลืมตามองทันที เขาอยู่ท่ามกลางเปลือกยาและพลังเซียนธาตุแสง ด้วยความนึกคิด พลังเซียนธาตุแสงกระพริบเป็นครั้งคราวก่อนที่จะสลายตัวไปในอากาศ

ในที่สุด เจ้าก็มาถึงพร้อมกับสหาย ! เจี้ยนเฉินพึมพำกับตัวเอง ขณะที่รังสีอำมหิตแผ่ออกจากดวงตาของเขา เขาเก็บยาจิตวิญญาณธาตุแสงที่ยังไม่เสร็จลงไปในขวด ก่อนที่เขาจะพุ่งออกมาจากพระราชวัง

เจี้ยนเฉินดูลึกลับมาก ๆ ขณะที่บินผ่านอากาศ โดยมีธาตุลมห่อหุ้มอยู่รอบตัว ทำให้เกิดแสงเรืองรอบตัวเป็นสีฟ้า

ขณะที่เจี้ยนเฉินบินผ่านพระราชวังและลอยขึ้นไปในอากาศ รัศมีที่ไหลออกจากตัวเขาก็เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้

ในเวลาเดียวกัน การระเบิดของสองพลังงานที่ดังขึ้นอย่างฉับพลันเปิดเผยให้คนทั้งพระราชวังรับรู้ การระเบิดทั้งสอง ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทำให้พื้นที่รอบ ๆ พระราชวังราวกับตกอยู่ในน้ำแข็ง มีเซียนผู้คุมกฎจำนวนมากมาชุมนุมกันที่นี่ กลิ่นอายของพวกเขาได้ปะทะกัน สร้างแรงกดดันที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ด้านล่างรู้สึกหายใจไม่ออก หัวใจของพวกเขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะเต้นต่อไป แต่ปอดของพวกเขาดูเหมือนจะปฏิเสธที่จะทำงาน ไม่ยอมให้พวกเขาหายใจ

เจียเต๋อไท่ซึ่งสวมเสื้อคลุมสีขาวอันสง่างามและนูบิสซึ่งสวมเสื้อคลุมสีทองบินออกมาไม่นาน หลังจากนั้น พวกเขากลายเป็นลำแสง เมื่อพวกเขาติดตามเจี้ยนเฉินเข้าสู่ท้องฟ้า

ผ่านไปไม่กี่วินาที ก่อนที่เจี้ยนเฉิน นูบิสและเจียเต๋อไท่ จะรวมตัวกันอยู่สูงขึ้นไปหลายพันเมตรในอากาศ เคียงบ่าเคียงไหล่กัน แต่ละคนจ้องมองคู่ต่อสู้ของตนอย่างไม่พอใจ

ตรงหน้าพวกเขามีชาย 3คน หนึ่งในนั้นคือ เซียนผู้คุมกฎของนิกายพยัคฆ์มังกร อีกสองคนดูราวกับว่าพวกเขามีอายุมากกว่า 70 ปี แต่สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยแสงอันสุกสว่างซึ่งชวนให้นึกถึงดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน

สองคนนี้ คนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินและมีผมสีขาวที่ดูราวกับว่าไม่เคยใส่ใจกับการแต่งตัวมาก่อน การปรากฎตัวของเขาทำให้เขาดูราวกับว่าเขาเป็นขอทาน มือของเขาประสานอยู่กับทรวงอกของเขาและตาของเขาดูเหมือนจะประเมินสามคนที่อยู่เบื้องหน้าเขา

อีกคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมที่ทำจากสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นกระสอบ ไม่เหมือนเพื่อนของเขา ใบหน้าของเขาดูสงบ ไม่สามารถตรวจพบเจตนาฆ่าได้จากตัวเขา แต่มีกลิ่นอายที่คมชัดซึ่งอาจรู้สึกได้ ด้วยสองปัจจัยนี้เขาคล้ายกับคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางโลก แต่ดวงตาของเขาไม่ธรรมดา เมื่อเปรียบเทียบกับเสื้อผ้าที่เรียบง่ายของเขาแล้ว ชายชรานี้คล้ายกับชายแก่ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตแบบชาวนาในแถบภูเขา

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินแข็งกระด้างขึ้น ขณะที่เขาต้องปะทะกับสามเซียนผู้คุมกฏ สามคนเป็นจำนวนมากเกินพอที่จะทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างมาก มันเป็นเรื่องยากมาก ยามเมื่อต้องปะทะกับเซียนผู้คุมกฎทั้งสาม ด้วยการเพิ่มขึ้นของเซียนผู้คุมกฎอีก 2 คนที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งขึ้นสำหรับเขา

เสียงหัวเราะดังขึ้นจากเซียนผู้คุมกฏจากนิกายพยัคฆ์มังกร เมื่อเขาเห็นใบหน้าแข็งกร้าวของเจี้ยนเฉิน เขากล่าวว่า เจี้ยนเฉิน ข้าเคยพูดเมื่อวันก่อน ความอัปยศอดสูที่ข้าได้รับ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะถูกส่งคืนเป็นสิบเท่าพันทวีแก่เจ้า วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า !

จริง ๆ เจ้าคิดว่า เจ้าจะสามารถฆ่าข้าได้หรือ ? เจี้ยนเฉินถามอย่างไร้อารมณ์ ด้วยพลังบรรพกาลซึ่งเป็นการป้องกันที่ดีที่สุดของเขา เขามั่นใจว่าเซียนผู้คุมกฎคงลำบากไม่น้อยที่จะฆ่าเขา

เจี้ยนเฉิน สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก ข้าไม่สามารถปะทะกับความแข็งแกร่งของอีกสองคนได้ นั่นหมายความว่าอย่างน้อยที่สุดพวกเขาแข็งแกร่งกว่าคนที่มาจากนิกายพยัคฆ์มังกร เจียเต๋อไท่กล่าวกับเจี้ยนเฉิน

แม้กระทั่งนูบิสยังกำหมัดของเขาแน่นขึ้น เจี้ยนเฉิน เรื่องนี้ไม่ง่าย พวกเขาแข็งแกร่งเกินไป ผู้ที่สวมเสื้อสีน้ำเงินคือเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 5 และเสื้อคลุมสีขาวแข็งแกร่งกว่าอยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 6 ความแข็งแกร่งของนูบิสอยู่ในระดับเดียวกับเจียเต๋อไท่ แต่เนื่องด้วยเขาเป็นอสรพิษทองริ้วเงิน เขาครอบครองพลังอสูร เขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความแข็งแกร่งของสองเซียนผู้คุมกฎ

ด้วยความตกตะลึง เจี้ยนเฉินมองไปที่เซียนผู้คุมกฎทั้งสองคน ที่ซึ่งเขาไม่เคยคิดว่าคนระดับนิกายพยัคฆ์มังกรจะเชิญคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาได้

ตอนนี้รู้ความแข็งแกร่งของศัตรูแล้ว เจี้ยนเฉินก็ไม่มั่นใจเท่าเดิม ช่องว่างระหว่างทั้งสองมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะต่อกร เซียนผู้คุมกฎหนึ่งเดียวในชั้นสวรรค์ที่ 5 สามารถจัดการนูบิสและเจียเต๋อไท่ด้วยตัวเอง หากเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 และชั้นสวรรค์ที่ 4 ต่อสู้กับเขา เขาก็ไม่อาจรับมือได้

ไพร่มือขวาของเขาไว้ข้างหลังเขา เจี้ยนเฉินหยิบหินหยกจากแหวนมิติของเขาและบดขยี้โดยไม่ทำเสียงดัง

เจี้ยนเฉิน เราจะทำอย่างไร? เราสู้กับพวกเขาไม่ได้ ! เจียเต๋อไท่กล่าวด้วยความกังวล

ไม่คาดฝันว่าจะได้เจอผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ ทันทีที่ก้าวเข้าสู่โลกมนุษย์ ! นูบิสคำราม ในโลกใบนี้มีพยัคฆ์ซ่อนมังกรหมอบอยู่มากมาย เจี้ยนเฉิน ข้าจะสู้กับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 ส่วนอีก 2 คน พวกเจ้า 2 คนต้องจัดการ

เจ้ารับมือไหวหรือไม่ ? เจี้ยนเฉินถามด้วยความห่วงใย ช่องว่างแต่ละชั้นสวรรค์ของเซียนผู้คุมกฎมีขนาดใหญ่มาก ความตายจะหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับนูบิสที่เป็นเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 ซึ่งจะต่อสู้กับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6

นอกเหนือจากข้าแล้ว เจ้าก็จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ข้าเป็นสัตว์อสูร อย่าลืมว่า ความแข็งแกร่งของข้าเทียบเคียงกับมนุษย์ในระดับเดียวกันไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นข้าเป็นสัตว์อสูรโบราณ ! นูบิสพูด

ดังนั้น ข้าควรจะจัดการเรื่องนั้น การป้องกันของเจ้าแข็งแกร่งแต่เจ้าไม่ใช่เซียนผู้คุมกฎ เจ้าไม่เข้าใจความลึกลับของโลก ซึ่งหมายความว่าเจ้าไม่มีความสามารถในการสู้กับเขาได้

ให้ข้าจัดการกับเซียนผู้คุมกฏจากนิกายพยัคฆ์มังกร เจี้ยนเฉินพูด พลังบรรพกาลในตันเถียนของเขาเริ่มกระเพื่อมทั่วทั้งร่างกาย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถสูงสุดให้กับร่างกาย

ในอีกด้านหนึ่ง เซียนผู้คุมกฎครุ่นคิดก็วางแผนที่จะทำอะไรคล้าย ๆ กัน คือการฆ่าเจี้ยนเฉิน เกอซิ่ว โปรดหยุดอีกสองคนให้ข้า ไป๋ไห่มาช่วยข้าฆ่าเจี้ยนเฉิน

คิ้วของไป๋ไห่ขมวดเข้าหากัน เขาใช้พลังธาตุในโลกเพื่อบิน นั่นหมายความว่าเขาไม่ใช่เซียนผู้คุมกฎ ในการใช้พวกเราสองคน กับคน ๆ หนึ่ง ไม่คิดว่าจะใช้คนมากเกินไปหรือ ?

ไป๋ไห่ อย่าได้ดูแคลนเขา เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ที่บดบังรัศมีของทุกคนในประวัติศาสตร์ แม้แต่เจ้าก็จะต้องประหลาดใจ เราต้องสู้กับเขาและฆ่าเขา ไม่เช่นนั้น เขาจะสร้างปัญหาให้กับเรา เซียนผู้คุมกฎกล่าวก่อนที่จะพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉิน พร้อมกับเกอซิ่วและไป๋ไห่ที่อยู่ด้านหลัง

ฟ่อ ! เสียงแหบขู่ของงูอาจได้ยิน เมื่อร่างของนูบิสเปลี่ยนเป็นสีทอง วินาทีต่อมาร่างทั้งร่างของเขาเปลี่ยนเป็นงูลำตัวหนาประมาณครึ่งเมตร การเปลี่ยนแปลงของเขาทำให้เขากลายเป็นสัตว์อสูรที่ไม่สามารถเปรียบเทียบได้ แม้แต่ความยาวของร่างกายของเขาก็ดูเหมือนจะเป็นหมื่นเมตร โดยวิธีการที่เขาขดตัวขึ้นไปในอากาศ ร่างกายของเขาดูราวกับว่ามันสามารถพันรอบโลกได้ นอกจากนี้ยังมีลายสีทองและเงินกระพริบบนร่างกายของมัน นี่คืออสรพิษทองริ้วเงินที่มีอำนาจที่สุด

ไม่มีการป้องกันสำหรับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 ดังนั้นนูบิสต้องแสดงพลังที่แท้จริงของเขาทั้งหมดในคราวเดียว

การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของเขา ทำให้เซียนผู้คุมกฎฝ่ายตรงข้ามทั้งสามคนไร้ซึ่งคำพูด ในขณะที่ไม่มีใครสามารถพูดหรือทำขณะที่พวกเขาจ้องมองที่งูยักษ์ขดอยู่บนท้องฟ้า

เขาเป็นสัตว์อสูร ! ชิตูซิงอ้าปากค้าง

อสรพิษทองริ้วเงินเป็นสัตว์ที่มีชีวิตอยู่มานานแล้ว พิษของพวกเขาไม่มีใครต่อกรได้ เกอซิ่วร้องออกมาด้วย ดวงตาของเขาหรี่แคบลงเรื่อย ๆ และแม้แต่การแสดงออกที่เป็นมิตรของเขาก่อนหน้านี้ก็แข็งขึ้น พิษของอสรพิษทองริ้วเงินระดับ 7 ก็เพียงพอที่จะคุกคามชีวิตของเซียนผู้คุมกฎ

ไป๋ไห่สวมชุดสีฟ้า จ้องมองที่นูบิสด้วยความหวาดกลัวในแววพลางเอ่ยว่า มันออกมาจากเทือกเขาครอสหรือ ?

อย่างไรก็ตาม นูบิสได้เริ่มเคลื่อนไหวขึ้นมาแล้ว ร่างกายของเขาสั่นเทาเล็กน้อย พร้อมกับแรงพอที่จะทำให้โลกรอบตัวเขาสั่นสะเทือน เหมือนแสงสีทองที่แผ่กระจายออกมาจากร่างกายของเขา จากนั้นด้วยความเร็วที่มองไม่เห็น นูบิสบินไปหาเกอซิ่วเพื่อรัดกายของเขาไว้

ข้าจะจัดการกับคนนี้ อีกสองคนพวกเจ้าจัดการ ! เสียงกระหึ่มที่ไหลผ่านอากาศ เมื่อนูบิสเปลี่ยนไป แม้แต่เสียงของเขาก็เปลี่ยนไป ตอนนี้มันไม่สามารถแยกแยะได้ว่านูบิสเป็นชายหรือหญิง