บทที่ 443 สืบค้นต้นตอปัญหา

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

บทที่ 443 สืบค้นต้นตอปัญหา

หลังจากเหยียนฮ่าหัวพาผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญคนอื่น ๆ จากไป หยูเจิ้งหมิงก็รู้สึกมืดมนไปหมด

เมื่อนึกถึงแผนการครอบครองทะเลชางหมางที่เขาเคยวางไว้มาเป็นเวลาหลายปี แต่ในตอนนี้ผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกลับตกไปอยู่ในมือของอาณาจักรจันทราทั้งหมดแล้วซะอย่างนั้น ซึ่งมันทำให้หัวใจของเขานั้นแทบจะแตกสลาย

ด้วยการอาศัยความช่วยเหลือของเผ่ามังกร หลังจากที่พวกเขาเข้าสู่ทะเลชางหมางพวกเขาก็สามารถยึดเกาะน้ำเต้า ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของทะเลชางหมางมาได้พร้อมกับได้รับผลประโยชน์และค้นพบบางสิ่งที่พวกเขาเข้าใจว่าน่าจะเป็นหนึ่งในเศษเสี้ยวของความลับของทะเลชางหมางที่อยู่ในเกาะน้ำเต้า

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าสุดท้ายแล้วความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทะเลชางหมางจะไปปรากฏขึ้นที่เกาะเล็ก ๆ อันห่างไกลเช่นเกาะเทียนหยวน แถมตอนนี้ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกลับถูกครอบครองไปแล้วอีกต่างหาก!

“ท่านพี่ ตอนนี้เราควรทำยังไงกันดี?” หยูเฉิงฮุยถามขึ้นพลางคร่ำครวญในใจ

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานทะเลปราณที่ถือสุดยอดสมบัติที่สามารถจัดการกับผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญได้มากกว่า 100 คน ทำไมสมบัติดังกล่าวถึงไม่ตกอยู่ในมือของพวกเขา?

ถ้าเขารู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เขาคงจะใช้ความพยายามให้มากขึ้นเพื่อหลอกล่อเด็กสาวของตระกูลหลิง หรือบางทีเขาคงจะจับผู้หญิงคนนั้นกลับมาแล้วค่อย ๆ รีดเค้นเอาข้อมูลต่าง ๆ มาจากนาง

แต่น่าเสียดายที่ในเวลานั้นเขาไม่รู้อะไรเลย ข้อมูลที่เขารู้ก็มีเพียงแค่ทางฝั่งของอาณาจักรจันทรามีหญิงสาวที่ครอบครองร่างกายแก่นแท้ปฐพีและดอกไม้ฟื้นชีพก็แค่เท่านั้น

ซึ่งมันทำให้ในใจของเขาตอนนี้ก็ไม่ยินยอมรับความจริงเช่นกัน

หยูเจิ้งหมิงครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนที่เขาจะพูดด้วยรอยยิ้มที่บูดเบี้ยว “เราจะไปทำอะไรได้อีก? ในเมื่อคนเหล่านั้นได้ครอบครองไปทั้งหมดแบบนี้แล้ว พวกเราจะไปทำอะไรได้อีก!?”

หยูเฉิงฮุยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดว่า “ท่านพี่ พวกเราเองก็มีสมบัติอยู่ตั้งมากมาย ทำไมพวกเราไม่ลองติดต่อไปหาคนเหล่านั้นเพื่อทำการแลกเปลี่ยนกับพวกมันดู?”

หยูเจิ้งหมิงพูดด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ข้าเกรงว่าพวกมันคงจะไม่ยินยอมหรอก เอาล่ะข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง ส่วนตัวเจ้า นับจากนี้ไปมันจะดีที่สุดถ้าเจ้าจะหลบหน้าไปก่อน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยูเฉิงฮุยพูดขึ้นด้วยสีหน้างุนงง “ท่านพี่ ข้าไม่เข้าใจทำไมท่านต้องให้ข้าหลบหน้าไปด้วย? แม้ว่าข้าจะเคยพยายามล่อลวงผู้หญิงของตระกูลหลิง แต่ข้าก็ยังไม่ได้ทำอะไรนางเลยด้วยซ้ำ! ในทางกลับกันผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญของข้าสองคนถูกพวกมันฆ่าตาย และแม้กระทั่งกองทัพของเราหลายล้านคนถูกพวกมันสังหาร”

หยูเจิ้งหมิงส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ว่าจะยังไงข้าจะให้เจ้าไปปรากฎตัวให้พวกมันเห็นไม่ได้ ไม่เช่นนั้นข้าเกรงว่ามันจะยิ่งเกิดปัญหามากขึ้น เมื่อถึงเวลาข้าจะไปต่อรองกับพวกมันด้วยตัวเอง”

ในความคิดของเขา อาณาจักรหลงซานและอาณาจักรจันทราไม่ได้เป็นศัตรูที่มีความแค้นต่อกันจนถึงขนาดที่จะคุยกันไม่ได้

เนื่องจากถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนเริ่มก่อนโดยการวางแผนล่อลวงเหล่าสาว ๆ ของอาณาจักรจันทรา ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็ไม่สำเร็จและยังไม่ก่อให้เกิดความเสียหายอะไรแก่ฝั่งตรงข้าม มันจึงมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะขอเจรจา

ส่วนเรื่องที่อาณาจักรหลงซานของพวกเขาส่งกองทัพนับล้านบุกเข้าไป ตอนนี้พวกเขาก็ได้จ่ายหนี้เลือดไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาคือกลุ่มคนที่มาจากภูเขาเอ้อหลง ซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังของอาณาจักรมังกรทะยานที่มีตำหนักมังกรคอยหนุนหลังพวกเขาอยู่ ดังนั้นแม้ว่าการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายจะไม่ประสบความสำเร็จ อาณาจักรจันทราก็คงไม่กล้าสังหารเขาได้ง่าย ๆ

ยิ่งไปกว่านั้นอาณาจักรหลงซานของพวกเขายังมีกองทัพที่แข็งแกร่งอยู่อีกเป็นล้านคนและยังมีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญอีกมากกว่า 200 คนที่ยังเหลืออยู่!

แต่แน่นอนว่าน้องชายของเขาไม่สามารถปรากฏตัวได้ มิฉะนั้นสิ่งที่สามารถเจรจาได้อาจจะไม่สำเร็จ เพราะถึงแม้หยูเฉิงฮุยจะยังไม่ได้ทำอะไรกับหญิงสาวของอาณาจักรจันทรา แต่อย่างน้อย ๆ เขาก็ได้ทำร้ายจิตใจนางไปบ้างแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าญาติ ๆ ของหญิงสาวผู้นั้นคงไม่สบอารมณ์แน่ ๆ หากเห็นหน้าหยูเฉิงฮุยปรากฎขึ้น

“ถ้างั้นท่านพี่ต้องระวังตัวด้วย ส่วนข้าจะอยู่เฉย ๆ ตามคำของท่าน!” หยูเฉิงฮุยพูดขึ้น

หยูเจิ้งหมิงพยักหน้าและพูดว่า “อืม หลังจากข้าเตรียมพร้อมเสร็จเมื่อไหร่ ข้าจะไปคุยกับพวกมันเอง!”

ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่หลิงตู้ฉิงได้สวดส่งวิญญาณทั้งหมดในสนามรบแล้วเขาก็สั่งโม่หยูถังว่า “พ่อบ้านโม่ เจ้าจงไปนำตัวปัญหาผู้นั้นมาให้ข้าที”

โม่หยูถังพยักหน้าอย่างเข้าใจ จากนั้นเขาจึงเดินไปนำตัวจางหมิง มาหาหลิงตู้ฉิงทันที

หลิงตู้ฉิงมองไปที่จางหมิง และพูดว่า “เจ้าคิดว่าการที่ข้าไม่สังหารพวกเจ้าให้หมดทุกคน เจ้าเลยได้ใจกระโดดออกมาสร้างปัญหาให้กับครอบครัวของข้าได้ตลอดหยั่งงั้นเหรอ? ข้าให้โอกาสเจ้ามากมายทำไมเจ้าไม่สำนึก?”

จางหมิงตะโกนขึ้นด้วยสายตาเคียดแค้น “กบฏอย่างพวกแกต้องถูกสังหาร!”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวเล็กน้อยและคว้าตัวจางหมิงมา หลังจากนั้นเขาก็ปิดผนึกระดับการบ่มเพาะของจางหมิง และใช้วิชาห้วงนิทราแห่งราชันเพื่อเข้าสู่ความฝันของจางหมิงเพื่ออ่านความทรงจำของเขาเกี่ยวกับหยูเฉิงฮุย

จากนั้นเขาก็ได้ ‘เห็น’ จางหมิงไปที่อาณาจักรหลงซานและเล่าให้คนของอาณาจักรหลงซานฟังเกี่ยวกับข้อมูลของครอบครัวเขา จากนั้นเขาก็ ‘เห็น’ จางหมิงติดตามหยูเฉิงฮุยมายังอาณาจักรจันทราอีกครั้ง และสร้างโอกาสให้หยูเฉิงฮุยได้พบกับหลิงว่านถิงและคนอื่น ๆ

เมื่อเห็นทุกอย่างครบทั้งหมด หลิงตู้ฉิงก็ปล่อยจางหมิงโดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมาและพูดกับหลิงยี่เทียนว่า “มันเป็นคนที่ทำให้ข้อมูลของครอบครัวเรารั่วไหล และเป็นคนที่วางแผนการระหว่างหยูเฉิงฮุยและพี่สองของเจ้า พ่อจะปล่อยให้เจ้าเป็นคนจัดการกับมันก็แล้วกัน”

หลิงยี่เทียนยิ้มและพูดว่า “ท่านพ่อไม่ต้องกังวล ข้าจะทรมานมัน และปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่เป็นร้อยปีก่อนที่จะส่งมันไปหาความตาย!”

หลังจากที่พูดจบ หลิงยี่เทียนก็สั่งให้ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญของเขาให้พาจางหมิงไป

แน่นอนเขาจะทำให้คนอื่นเห็นว่าผลของการทรยศเขานั้นจะเป็นเช่นไร

หลังจากรอให้คนของหลิงยี่เทียนพาจางหมิงออกไป หลิงตู้ฉิงก็พูดขึ้นว่า “เจ้าจงไปถามพี่สี่ของเจ้าทีว่าพวกเขายังพอเดินทางต่อได้หรือไม่ ถ้าพวกเขายังพอมีแรงอยู่ เราจะได้ไปอาณาจักรหลงซานกันในทันที”

คนอื่น ๆ มองไปที่หลิงตู้ฉิง แต่เดิมพวกเขาวางแผนที่จะพักเอาแรงกันเป็นเวลา 2 วัน แต่นี่เพียง 1 วันเท่านั้นเอง?

แต่เมื่อนึกถึงจางหมิง ทุกคนก็พอจะเดาได้ว่าหลิงตู้ฉิงต้องเห็นอะไรบางอย่างจากความทรงจำของจางหมิงแน่นอน ไม่งั้นหลิงตู้ฉิงคงไม่ต้องการที่จะไปอาณาจักรหลงซานในทันทีแบบนี้

จากนั้นไม่นาน หลิงว่านจุนก็เข้ามาและพูดว่า “ท่านพ่อ พวกข้าพร้อมที่จะไปต่อได้ทันที ทหารของข้ามีความอดทนพอที่จะสู้รบได้ต่อและข้ายังมีธงรบโลหิตจักรพรรดิ ซึ่งสามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บให้กับพวกเขาได้ ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่ใด ๆ”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นเราก็ออกเดินทางกันต่อเลย!”

เมื่อได้ยินคำสั่ง หลิงว่านจุนก็กลับไปนำกองทัพมังกรของเขาให้เริ่มออกเดินทาง ส่วนคนอื่น ๆ ทั้งหมด หลิงตู้ฉิงก็ได้ให้พวกเขาเข้าไปในรถม้าและให้หลงเฉินลากรถม้าบินไปยังอาณาจักรหลงซานทันที

ในเวลานี้ท่าทีของหลงเฉินดูมีความเคารพมากขึ้น เขาไม่ได้มีสีหน้าบึ้งตึงอีกต่อไปเมื่อเขาลากรถม้า

แม้ว่าการลากรถม้าจะเป็นหน้าที่ที่ดูอัปยศอดสูสำหรับมังกรอย่างเขา แต่หลังจากที่เขาได้เห็นความแข็งแกร่งอันเหนือมนุษย์ทั่วไปอย่างหลิงตู้ฉิง มันก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมากกว่าในตอนแรกที่เขายังไม่รู้ว่าหลิงตู้ฉิงนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน

จากนั้นพวกเขาทุกคนก็บินผ่านหมู่เกาะมากมายโดยไม่สนใจว่าเกาะเหล่านี้เป็นอาณาเขตของอาณาจักรหลงซานไปแล้ว

แน่นอนว่าด้วยจำนวนผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญมากกว่าร้อยคนบินเกาะกลุ่มกันไป บรรดาทหารของอาณาจักรหลงซานที่อยู่ด้านล่างบนพื้นดินนั้นไม่มีใครกล้าหยุดพวกเขาแม้แต่คนเดียว

สำหรับหลิงยี่เทียน เขายังคงออกคำสั่งให้อู่หยุนจี๋ นำเหล่ากองทหารศักดิ์สิทธิ์ และกองทัพอื่น ๆ กวาดล้างไปตลอดทางไปยังอาณาจักรหลงซานเพื่อยึดคืนดินแดนที่แต่เดิมเป็นของอาณาจักรจันทรา

หลังจากที่ทุกคนเดินทางไปได้ 3 วัน ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญคนหนึ่งก็บินเข้ามาและตะโกนเสียงดังว่า “ข้ามาจากอาณาจักรหลงซาน ข้ามาตามคำสั่งของจักรพรรดิของเราเพื่อส่งสาสน์ถึงจักรพรรดิแห่งอาณาจักรจันทรา!”