บทที่ 268

ท่าสังหารที่สาม

 

หลังจากนั้นไม่นานศิษย์ในสายอีกสองสามคนก็ได้ท้าทายหลี่ฟู่เฉิน แต่ทุกคนก็ยังไม่สามารถบังคับให้เขาใช้ท่าสังหารออกมาได้

“หลี่ฟู่เฉิน มาอีกสักรอบเถอะ” การแสดงออกของเฉิงกวงเจี๋ยดูดุดันมากกว่าตอนเริ่มต้น

 

เขาต้องยอมรับว่าการรับมือกับหลี่ฟู่เฉินไม่ใช่เรื่องง่าย เขาหวังว่าหลี่ฟู่เฉินจะยังไม่มีเวลาพัฒนาท่าสังหารของเขา

 

ภายในค่ายกลยับยั้งข้อจำกัด เฉิงกวงเจี๋ยระเบิดเสียงตะโกนออกมา และโจมตีด้วยท่าสังหารแรกของเขา

 

ชั่วขณะหนึ่ง เจตจำนงแห่งดาบที่ไม่สามารถหลบพ้นได้ ดาบพลังฉีได้พุ่งออกไป

 

ปั๊ง!

 

เฉิงกวงเจี๋ยถูกทำให้ถอยกลับไปตั้งหลัก

 

ท่าสังหารแรกของเขาไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าท่าสังหารที่สองของหลางเทามากนัก เขาเหนือกว่าเล็กน้อยในแง่ของความตระหนักรู้ด้านการต่อสู้และทักษะต่อสู้

 

แต่ก็ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์

 

ภายในค่ายผลยับยั้งข้อจำกัด หลี่ฟู่เฉินไม่คิดว่าเขาจะแพ้ผู้ใดก็ตาม แม้ว่าเขาจะใช้เพียงทักษะต่อสู้ที่อ่อนแอที่สุดของเขาก็ตาม เขาก็ยังคงสามารถใช้มันได้เต็มพลัง

 

การแสดงออกของเฉิงกวงเจี๋ยไม่ได้ดูดีมากเท่าไหรนัก ในขณะที่เขาใช้ท่าสังหารที่สองของเขาอย่างรวดเร็ว

 

ปั๊ง!

 

เฉิงกวงเจี๋ยถูกทำให้ต้องถอยกลับมาตั้งหลักอีกครั้ง

 

ในขณะนี้ การแสดงออกทุกคนเปลี่ยนไป

 

แม้จะเป็นท่าสังหารที่มีพลังใกล้เคียงกัน แต่เมื่อถูกใช้ต่างคน ผลที่ได้ของมันก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

ท่าสังหารที่สองของ เฉิงกวงเจี๋ยไม่เพียงแต่เหนือกว่าทุกคน เขายังมีความตระหนักในด้านการต่อสู้และทักษะต่อสู้ที่เหนือกว่าคนอื่นๆ อีกด้วย แต่เมื่อมาอยู่ตรงหน้าหลี่ฟู่เฉิน เขาก็ยังป้องกันมันได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวและไม่มีโอกาสสำหรับการโต้กลับ

 

“กวาดเงา!”

 

เฉิงกวงเจี๋ยคำรามด้วยความโกรธ ขณะที่ท่าสังหารที่สามของเขาระเบิดพลังออกมา

 

กระบวนท่าครั้งนี้พุ่งออกไปราวกับเงาและรวดเร็วดั่งสายฟ้า

 

นี่เป็นเพียงการพลังที่ใช้ออกในขอบเขตพลังฉี ถ้ามันอยู่ในขอบเขตปฐพี ความเร็วของมันคงเร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

 

“เป็นท่าที่ไม่เลว” มีแสงวาบแปลกๆ ในดวงตาของหลี่ฟู่เฉิน

 

ในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ ไม่มีสิ่งใดที่เอาชนะไม่ได้ ยกเว้นเพียงแค่ความเร็วเท่านั้น

 

การรับรู้ของหลี่ฟู่เฉินนั้นแข็งแกร่งมาก และไม่ว่าทักษะต่อสู้ของเจ้าจะมีความซับซ้อนเพียงใด เขาก็จะสามารถหาจุดอ่อนจนเจอได้ แต่ถ้าทักษะต่อสู้ของเจ้ารวดเร็ว หลี่ฟู่เฉินก็จะสามารถแสดงความตระหนักรู้ของเขาออกมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

น่าเสียดายที่มันไม่เร็วพอ อย่างน้อยมันก็ไม่เกินไปกว่าความเร็วในการตอบสนองของหลี่ฟู่เฉิน

 

เขาตอบโต้ ขณะที่เขาระเบิดพลังโจมตีออกไป ดาบของหลี่ฟู่เฉินกระแทกเข้ากับเงาดาบ

 

วูสสส!

 

เมื่อประกายไฟสาดกระจาย ท่าสังหารของเฉิงกวงเจี๋ยก็ถูกเปลี่ยนทิศทาง

 

ในช่วงเวลาต่อมา ดาบของหลี่ฟูเฉินได้พาดลง และชี้ไปที่ลำคอของเฉิงกวงเจี๋ย

 

“เจ้าแพ้แล้ว” หลี่ฟู่เฉินกล่าวอย่างไม่แยแส

 

พวกเขาต่อสู้กับด้วยขอบเขตพลังที่คล้ายกัน แต่เขากลับไม่จำเป็นต้องใช้ท่าสังหารด้วยซ้ำ

 

ย้อนกลับไปที่งานเลี้ยงน้ำชาฝนใบไม้ หรันเฉียนฉิวและเสี่ยวไบ๋ได้เปรียบเนื่องจากพลังฝึกฝนของพวกเขา หากพวกเขาทุกคนมีระดับการฝึกฝนที่เหมือนกัน หลี่ฟู่เฉินก็จะเอาชนะพวกเขาได้ด้วยดาบเดียว

 

‘ข้าแพ้ทั้งๆ สภาพเช่นนี้?’ เฉิงกวงเจี๋ยรู้สึกงุนงงอยู่ในหัวของเขา

 

เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าความห่างชั้นระหว่างตัวเขากับหลี่ฟู่เฉิน มันเป็นช่องว่างขนาดใหญ่เกินไปจนกระทั่งแม้แต่เขาเองก็ไม่อาจคาดคิดได้

 

จนถึงตอนนี้ เขายังไม่แน่ใจว่าเลยหลี่ฟู่เฉินมีท่าสังหารหรือไม่

 

ถ้าหลี่ฟู่เฉินใช้ท่าสังหาร ความห่างชั้นก็จะไม่กว้างขึ้นอีกหรือ?

 

ศิษย์ในสายที่เหลืออยู่มองไปยังหลี่ฟู่เฉินด้วยการแสดงออกที่แตกต่างไปจากเดิม

 

ไม่น่าแปลกใจที่เขาสามารถเป็นศิษย์ส่วนตัวได้ ความเข้าใจในตัวหลี่ฟู่เฉินของอาจารย์ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ

 

“กลุ่มคนโง่” ในที่พำนัก ชายผู้โดดเด่นส่ายหัวและหัวเราะ

 

เขาไม่ได้ขัดขวางเมื่อศิษย์ในสายของเขาท้าทายหลี่ฟู่เฉิน เขาต้องการใช้โอกาสนี้แสดงให้พวกเขาเห็นถึงความแตกต่างระหว่างพวกเขากับอัจฉริยะที่แท้จริง เขาต้องการให้พวกเขารู้ถึงความต่างชั้น และให้ความจริงบอกพวกเขาว่าไม่ควรเพ้อฝันและมั่นใจมากเกินไป

 

***

 

หลังจากเอาชนะเฉิงกวงเจี๋ยได้ ตำแหน่ง ‘ผู้อาวุโสชิเซียง’ ของหลี่ฟู่เฉินก็ไม่ถูกท้าทายอีกต่อไป หลี่ฟู่เฉินรู้สึกพึงพอใจ ก็ในเมื่อไม่มีใครมารบกวนเขา และเขาก็สามารถใช้เวลาทั้งหมดเพื่อสร้างท่าสังหารที่สามได้

 

“หากข้าต้องการสร้างกท่าสังหารที่สามเจตจำนงโคจรหลั่งไหลของข้า อาจจะต้องเข้าใกล้เจตจำนงแห่งดาบระดับลึกลับขั้นสูงหรือไม่?”

 

ในวันนี้ หลี่ฟู่เฉินกำลังพึมพำกับตัวเอง

 

“เจ้าคิดผิดแล้ว” ชายที่โดดเด่นปรากฏตัวขึ้นด้านหลังหลี่ฟู่เฉิน

 

“ท่านอาจารย์” หลี่ฟู่เฉินหันกลับไปพร้อมกับป้องหมัด

 

ชายผู้โดดเด่นอธิบายว่า “เจตจำนงแห่งดาบเป็นแก่นแท้ของทักษะดาบและกระบวนดาบ แต่ตัวของกระบวนดาบเองก็ต้องยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน หากเจตจำนงแห่งดาบเป็นเหมือนกับจิตวิญญาณของคน เช่นนั้นแล้วกระบวนดาบก็เปรียบเสมือนการเคลื่อนไหวร่างกายของคนผู้นั้น จิตวิญญาณที่ทรงพลังอาจสามารถทำให้คนๆ นั้นกลายเป็นบุคคลพิเศษ แต่ถ้าร่างกายมีพลังใกล้เคียงกัน จะไม่ดีกว่าหรือ?”

 

ชายที่โดดเด่นกล่าวในขณะที่เขากำลังเดิน

 

หลี่ฟู่เฉินไม่ได้กล่าวอะไร คำอธิบายของอาจารย์นั้นตามหลักการแล้วถูกต้องทั้งหมด

 

เช่นเดียวกับทักษะดาบเพลิงปีศาจ แม้ว่ามันจะยังไม่ได้อยู่ในขั้นภวังค์และไม่มีเจตจำนงดาบเพลิงปีศาจ แต่พลังของมันก็แข็งแกร่งกว่าทักษะดาบระดับลึกลับขั้นกลางที่ถูกเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบระดับลึกลับขั้นกลางได้แล้ว นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่ากระบวนดาบของทักษะดาบระดับลึกลับขั้นสูงนั้นทรงพลังอยู่แล้ว

 

“หากเจ้าต้องการที่จะเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบระดับลึกลับขั้นสูงได้เร็วขึ้น เจ้าก็ต้องสร้างกระบวนดาบที่แข็งแกร่งเพียงพอเสียก่อน หากทั้งกระบวนดาบและเจตจำนงแห่งดาบทรงพลัง กระบวนดาบของเจ้าก็จะทรงพลังมากยิ่งขึ้น” ชายผู้โดดเด่นกล่าว

 

“ขอรับท่านอาจารย์” หลี่ฟู่เฉินพยักหน้า

 

***

 

หนึ่งเดือนถัดมา

 

บนยอดเขา

 

หลี่ฟู่เฉินกำลังกวัดแกว่งกิ่งไม้ที่เหี่ยวเฉา มันพุ่งไปในอากาศ

 

ในเสี้ยววินาทีนี้เองมีเงารูปวงกลมจางๆ ปรากฏขึ้น

 

ปั๊ง!

 

กิ่งไม้เหี่ยวเฉาระเบิดออก

 

“ในที่สุดข้าก็มีสัญญาณของความคืบหน้าแล้ว” หลี่ฟู่เฉินอารมณ์ดี ขณะที่เขาฝึกฝนต่อไป

 

เจตจำนงดาบโคจรหลั่งไหล มีเทคนิคที่ทำให้ดาบหมุนได้ แต่ประเด็นสำคัญสำหรับท่าสังหารที่สามก็คือ จะทำให้มันหมุนเร็วขึ้นได้อย่างไร

 

ตามการคาดเดาของหลี่ฟู่เฉิน หากความเร็วในการหมุนเพียงพอ แม้แต่กระทั้งน้ำก็สามารถตัดเหล็กได้

 

อีกครึ่งเดือนผ่านไป

 

หลี่ฟู่เฉินพุ่งไปในอากาศพร้อมกับกิ่งไม้เหี่ยวเฉา

 

ปั๊ง! แคร็ก!

 

คราวนี้กิ่งไม้เหี่ยวเฉายังคงระเบิดออก แต่เศษเสี้ยวของพลังฉีก็เพียงพอที่จะแบ่งก้อนหินขนาดใหญ่ออกเป็นสองซีก

 

“ท่านี้น่ากลัวยิ่งกว่าที่คิด!” ดวงตาของหลี่ฟู่เฉินเป็นประกายขึ้น

 

เขาใช้พลังฉีแค่ขอบเขตพลังฉีเท่านั้น ถ้าเขาใช้ที่พลังที่ขอบเขตปฐพี กระบวนท่านี้อาจจะแยกโลหะระดับลึกลับขั้นต่ำออกจากกันได้

 

หนึ่งวันก่อนการเปิดเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับ

 

หลี่ฟู่เฉินมีสีหน้าเคร่งขรึมและยืนอยู่ที่ยอดของภูเขา กิ่งไม้เหี่ยวเฉาพุ่งออกไปช้าๆ แต่ทว่าจริงๆ แล้วมันนับว่ารวดเร็วยิ่ง

 

ทันใดนั้นเอง เงาของดวงจันทร์เต็มดวงสีแดงเพลิงก็ปรากฏขึ้น

 

แคร็ก!

 

ก้อนหินขนาดใหญ่ถูกแยกออกจากกันพร้อมกับผืนดินถูกแยกออกเป็นสองส่วน และมีความลึกถึงหนึ่งเมตร

 

“ท่าสังหารท่าที่สามในที่สุดก็เสร็จสิ้น”

 

ในตอนนี้ หลี่ฟู่เฉินรู้สึกดีมาก และเจตจำนงแห่งดาบของเขาก็เอ่อล้นออกมาจากร่าง

 

โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเจตจำนงดาบโคจรหลั่งไหลของเขาเพิ่มระดับขึ้นใกล้เคียงกับเจตจำนงดาบระดับลึกลับขั้นสูงแล้ว และจากสิ่งนี้เมื่อใช้ท่าสังหารที่สามของเขาระเบิดออก มันก็ทำให้พลังของท่าสังหารที่สามสูงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้

 

เขาคิดว่าพลังของท่าสังหารที่สามนี้แข็งแกร่งกว่าทักษะดาบเพลิงปีศาจประมาณสองเท่าครึ่ง

 

ในแง่ของพลังที่พุ่งออกไปดูบริสุทธิ์ยิ่ง มันไม่ได้ด้อยไปกว่าทักษะดาบระดับลึกลับขั้นนสูงที่ถูกเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบแล้วเลย

 

ในแง่ของกระบวนดาบ ท่าสังหารที่สามดูเฉียบคมกว่าทักษะดาบเพลิงปีศาจ

 

“ดียิ่ง ท่าสังหารระดับลึกลับขั้นกลางของเจ้าแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาท่าสังหารอื่นๆ ที่ข้าเคยเห็นเสียอีก” ชายผู้โดดเด่นลงมาและยิ้มขณะที่เขากล่าว

 

“ท่านอาจารย์” หลี่ฟู่เฉินหลุดออกจากใจกำลังตื่นเต้น

 

ชายผู้โดดเด่นพยักหน้า “เจ้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็น แต่ทว่าคนเก่งๆ ทุกคนมักมีเส้นทางที่ค่อนคดเคี้ยวและมักเผชิญกับหลุมลึก อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าอยู่ใกล้ตัวข้า ข้าเชื่อว่าจะไม่มีใครกล้าแตะต้องเจ้าในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก แต่สักวันที่ข้าต้องจากไป เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าต้องพึ่งพาตัวเอง!”

 

“อาจารย์ท่านจะจากไป?” หลี่ฟู่เฉินประหลาดใจ

 

ชายผู้โดดเด่นกล่าว “ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ออกไปภายในช่วงเวลานี้ อย่างน้อยก็ก่อนการแข่งขันการจัดอันดับดารา”

 

เขาสามารถอยู่ในเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับได้เพียงไม่กี่ปี และเขารู้ว่าเขาจะต้องจากไปนสักวัน

 

หลี่ฟู่เฉินยังคงเงียบ

 

ครึ่งหนึ่งของเหตุผลที่เขามายังเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับ คือการมาพึ่งใบบุญ แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับจะต้องจากไปในสักวันหนึ่ง

 

แต่มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว มีประวัติเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับไม่มากนัก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะปรากฏในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น และหลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์จากไป อาจเป็นเวลาหลายปีต่อมา ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับจะปรากฏตัวอีกครั้ง

 

‘ดูเหมือนว่าข้าจะต้องพึ่งพาตัวเองในอนาคต’ หลี่ฟู่เฉินคิดกับตัวเอง

 

 

ติดตามก่อนใครได้ที่เพจ indynovels