บทที่ 659 พวกคุณจะรับผิดชอบ

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 659 พวกคุณจะรับผิดชอบ?
หลี่กั๋วเฉียงกล่าวเยาะเย้ยว่า “พี่ใหญ่ พี่แก่แล้ว และพี่ไม่สามารถเข้าใจหลายสิ่งหลายอย่างได้ ความโกรธของตระกูลซ่ง สามารถระงับได้ด้วยการส่งตัวหวางซีไปเท่านั้น นี่ยังจะต้องรับผิดชอบอะไรอีก?”

“หุบปากซะ ไอ้คนโง่เขลา!”

หลี่กั๋วหรงรู้สึกโกรธ มองหลี่กั๋วเหว่ยและหลี่เซิ่งจิ้งจอกเฒ่าทั้งสองคนแล้วกล่าวว่า “พวกแกสามารถรับผิดชอบเรื่องนี้ได้ไหม? ถ้าพวกแกมั่นใจว่าจะสามารถรับผิดชอบปัญหาที่เกิดจากเรื่องนี้ได้ ถ้าเช่นนั้นผมก็ไม่ยุ่งทุกการตัดสินใจของพวกแกในวันนี้”

“ฮ่า ๆ”

หลี่เซิ่งยิ้มด้วยความอึดอัดและกล่าวว่า “ผมเป็นตัวแทนของญาติสายย่อยเท่านั้น ญาติสายย่อยอย่างพวกเราไม่มีอำนาจมาโดยตลอด ถ้าตระกูลตัดสินใจอย่างไร พวกเราจะสนับสนุนการตัดสินใจทุกอย่าง ถ้าตระกูลไม่ต้องการส่งคนไป แล้วจะต่อสู้กับตระกูลซ่งจนถึงที่สุด ผมก็สนับสนุนด้วยเช่นกัน”

จิ้งจอกเฒ่าคนนี้ เท่ากับไม่พูดอะไรเลย เขาแค่ต้องการคว้าผลประโยชน์เท่านั้น แต่ไม่ต้องการรับผิดชอบอะไร

“กั๋วเหว่ย แล้วแกล่ะ?”

หลี่กั๋วหรงเป็นผู้นำตระกูลหลี่มาหลายสิบปีแล้ว และส่วนใหญ่แล้วเขาเป็นคนที่พัฒนาตระกูลหลี่จนรุ่งเรือง ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะเกษียณอายุแล้ว แต่ความน่าเกรงขามที่สะสมมาหลายสิบปีนั้น ทำให้ท่าทางของหลี่กั๋วเหว่ยไม่ธรรมชาติเล็กน้อย

“พี่ใหญ่ พี่พูดจาหนักเกินไปแล้ว พวกเราแค่ว่ากันไปตามสถานการณ์เท่านั้น จะยังมีความรับผิดชอบอะไรได้ล่ะ? หรือว่าหวางซีและเย่เซิ่งเทียนจะสามารถพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินได้”

หลี่กั๋วเหว่ยกล่าวด้วยความเหยียดหยามว่า “พี่ใหญ่ คงจะไม่รู้ใช่ไหม? พวกเราได้ติดต่อตระกูลซ่งแล้ว และตระกูลซ่งได้ยกเลิกแบล็คลิสหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว ถ้าพวกเราไม่ส่งตัวหวางซีออกไป ตระกูลหลี่ของเรามีจุดจบที่ไม่ดีอย่างแน่นอน ไม่ใช่ว่าพวกเราอยากส่งตัวหวางซีออกไป แต่สถานการณ์มันบีบบังคับให้พวกเราจำเป็นต้องส่งคนออกไป”

พวกเขายังปัดความรับผิดชอบ เพราะไม่อยากจะรับผิดชอบ

หลี่กั๋วหรงจ้องพวกเขาสามคนและกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “บอกผมมาสิว่าพวกคุณสามคนจะรับผิดชอบเรื่องนี้ใช่ไหม?!”

“คุณพ่อ ท่าน……”

หลี่เฟิงยังไม่ทันได้พูดออกมา หลี่กั๋วหรงก็ตบหน้าเขาและดุด่าว่า “หุบปาก ไอ้คนโง่เขลา!”

หลี่เฟิงหน้าแดงก่ำ เขาอายุสี่สิบกว่าปีแล้ว และถูกพ่อตบหน้าต่อหน้าผู้คนมากมาย ซึ่งทำให้เขาทั้งอับอายและโกรธ

“บอกผมมาสิว่าพวกแกสามคนตัดสินใจที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้ใช่หรือไม่?!”

หลี่กั๋วหรงถามด้วยความโกรธ

“ถึงแม้ว่าจะรับผิดชอบเรื่องนี้ แล้วยังไงล่ะ? พี่ใหญ่ พี่แก่แล้ว และไม่สามารถมองเห็นหลายสิ่งอย่างได้ชัดเจน ถ้าพี่ไม่รู้เห็นเป็นใจกับหวางซีและเย่เซิ่งเทียน ตระกูลหลี่ของพวกเราจะมาถึงจะที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เหรอ? ถ้าจะรับผิดชอบ งั้นพี่ต้องรับผิดชอบก่อนใช่ไหม? ”
หลี่กั๋วเฉียงกล่าวอย่างเย็นชา เขาเป็นคนที่ละโมบและใจคอคับแคบ และไม่ได้มีสติปัญญาฉลาดหลักแหลม ตอนที่เขาเป็นหนุ่มนั้นเป็นเพย์บอย ถ้าไม่ใช่เพราะหลี่กั๋วหรงคอยปกป้องคุ้มครอง เขาคงจะถูกคนอื่นฆ่าตายไปนานแล้ว
“พี่ใหญ่ ถึงแม้ว่าคำพูดของกั๋วเฉียงจะรุนแรง แต่ก็มีเหตุผล”
หลี่กั๋วเหว่ยกล่าวด้วยความสงบ
หลี่เซิ่งหัวเราะและกล่าวว่า “ผมสนับสนุนการตัดสินใจของตระกูล”
“โอเค ผมจะรับผิดชอบเรื่องก่อนหน้านั้น ผมจะมอบหุ้นของผมออกมา แล้วออกไปจากตระกูลหลี่ นี่คือทัศนคติของผม!”
หลี่กั๋วหรงกล่าวอย่างดุดัน “ผมรับผิดชอบในเรื่องที่ผมควรจะรับผิดชอบแล้ว แล้วพวกแกก็ควรจะรับผิดชอบ ผลที่ตามมาจากการตัดสินใจในวันนี้ของพวกแกใช่ไหม?”
หลี่กั๋วเฉียงกล่าวด้วยความโมโหว่า “พี่ใหญ่ พี่จะทำให้มันเหี้ยมขนาดนั้นเชียวเหรอ”
หลี่กั๋วเหว่ยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และรู้ว่าตอนนี้เป็นเวลายึดอำนาจอย่างแท้จริง เมื่อหลี่กั๋วหรงรับผิดชอบเรื่องนี้ มอบหุ้นออกมาและออกจากตระกูลหลี่ จากนั้นพลังอำนาจที่แท้จริงของตระกูลหลี่ก็จะอยู่ในมือของพวกเขา
เขาระงับความตื่นเต้นภายในใจและกล่าวว่า “ในเมื่อพี่ใหญ่จะรับผิดชอบเรื่องนี้ และแน่นอนว่าพวกเราควรจะความรับผิดชอบ การตัดสินใจทั้งหมดในวันนี้เช่นกัน”
หลี่เซิ่งกล่าวไกล่เกลี่ยสะเปะสะปะว่า “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก พี่ใหญ่กล่าวหนักเกินไปแล้ว แต่ในเมื่อพี่ใหญ่ตัดสินใจแล้ว ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ควรจะรับผิดชอบด้วย เพราะทุกคนล้วนทำเพื่อตระกูล”
หลี่กั๋วหรงกล่าวเยาะเย้ย หยิบซองเอกสารมาจากมือหลี่หลาน โยนลงบนพื้นแล้วกล่าวถากถางว่า “นี่เป็นหุ้นของผม ต่อไปถ้าตระกูลหลี่มีเรื่องอะไรก็อย่ารบกวนผม และผมก็จะไม่กลับมาตระกูลหลี่อีก”