ครืน….. มังกรน้อยโจมตีออกด้วยทุกส่วนของร่างกาย มือกวัดแกว่งทอนฟา หางกวาดพื้น ปากพ่นไฟ เรียกได้ว่ามันงัดเอาทุกส่วนของร่างกายออกมาใช้แล้ว แม้กลุ่มทหารจะสวมใส่อุปกรณ์เวทมนตร์ กระนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ไม่ได้มากมายอะไร นั่นทำให้พวกเขาเกิดการสูญเสียอย่างหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าเหตุใดเผ่าพันธุ์มังกรจึงอยู่ในจุดสูงสุดของยอดปีรามิด นั่นก็เพราะมังกรนั้นแข็งแกร่งทั้งทางกายภาพและเวทมนตร์ ขณะเดียวกัน ทหารบางส่วนก็อ้อมเข้ามาโจมตีพวกเซียวอวี๋ แต่แน่นอนว่าทั้งกรอม อิลิดันและคาร์นล้วนแต่ไม่ใช่ลูกพลับนิ่มที่ใครจะมาบีบคลึงก็ได้ เซียวอวี๋เองก็ไม่อยู่เฉย เขาพุ่งตัวออกไปพร้อมด้วยพรากวิญญาณในมือ สายตาสาดส่องมองหาร่างของมิรันด้าตามห้องต่างๆ “โฮ่ ไม่คิดว่าจะได้พบเจ้าที่นี่ วันนี้เจ้าหนีไม่พ้นหรอก!” ทันใดนั้น เสียงที่คุ้นเคยก็ดังเข้ามาในหูของเซียวอวี๋ “หืม?….โอ้ หยินเค่อ ภรรยาที่รักของข้า ใยจึงกล่าวเช่นนั้นกับสามีเล่า? อืม พวกเราเป็นคนรักกัน และเจ้ายังเป็นผู้หญิงคนแรกของข้า เจ้าปฏิบัติต่อสามีเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ไม่สู้เจ้ายอมแพ้และติดตามสามีกลับไป สามีผู้นี้สัญญาว่าจะดูแลอย่างดี ว่าอย่างไร?” เซียวอวี๋หันกลับมองด้านหลัง ผู้ที่อยู่ตรงนั้นไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นขุนโจรเคราแดง หยินเค่อ อาจกล่าวได้ว่าทั้งคู่นั้นอยู่ในสถานะศัตรู แต่เซียวอวี๋ไม่ต้องการสังหารนาง อย่างไรเสียนางก็เป็นผู้หญิงของเขา เขาคงต้องหาวิธีนำนางกลับไปด้วยเสียแล้ว “ไร้ยางอาย!” หยินเค่อกรีดร้องพลางพุ่งโถมเข้าหาเซียวอวี๋ เซียวอวี๋ส่ายหัวอย่างจนใจ เขาเรียกใช้ทักษะย่างก้าวเงาก่อนที่ร่างกายของเขาจะกระพริบวูบและหลบหลีกการโจมตีได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาเพิ่งหลบการโจมตีของหยินหยินเค่อสำเร็จนั้นเอง เซียวอวี๋ก็พลันสัมผัสได้ถึงการโจมตีที่พุ่งเข้ามาจากทางแผ่นหลัง หืม? เซียวอวี๋รีบใช้เทเลพอตหลบออกไปทันที เป็นฝีมือขององค์รักษ์นักฆ่าขั้นที่หกของมิรันด้า มอร์เดล มอร์เดลจ้องมองเซียวอวี่ที่ปรากฏตัวห่างไปไม่ไกลนัก ประกายแสงปรากฏขึ้นวูบในแววตาของเขา ครั้งก่อน การที่เขาไม่อาจทำอย่างไรต่อเซียวอวี๋ได้นั้นกลายเป็นเงามืดในใจของเขาไป เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของนักฆ่าขั้นที่หกเอาไว้ เขาจะต้องสังหารเซียวอวี๋ด้วยมือตนเองให้จงได้ “ท่านย่ามันเถอะ! คิดว่าเจ้าแน่นักหรือ? เมอีฟ อิลิดัน เจ้าสองคนไปเล่นกับมันหน่อย” เซียวอวี๋โบกมือสั่งการ เซียวอวี๋รู้ว่าตนเองไม่อาจเป็นคู่มือของอีกฝ่าย ทว่าเมอีฟและอิลิดันนั้นต่างก็มีความคล่องแคล่วว่องไว ทั้งยังแข็งแกร่งมาก ต่อให้ทั้งคู่สังหารอีกฝ่ายไม่ได้ พวกเขาก็สมควรสกัดอีกฝ่ายได้ไม่ยาก ขณะที่ทางด้านของโล้นมหากาฬนั้นมีกรอมและคาร์นคอยรับมือ คาร์นนั้นเป็นฮีโร่สายพละกำลัง แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ได้อยู่ในขั้นที่หก แต่พละกำลังอันมหาศาลของเขาก็เพียงพอจะสกัดอีกฝ่ายแล้ว เซียวอวี๋หันไปยิ้มให้เคราแดงที่ตอนนี้กำลังจ้องมายังเขาอย่างเครียดแค้น “อา ภรรยาที่น่ารักของข้า ครั้งนั้นเป็นความผิดของสามีเอง ข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างหยาบคายนัก ครั้งต่อไปข้าสัญญาว่าจะกระทำอย่างนุ่มนวล” เซียวอวี๋ยังคงหยอกเย้าหยินเค่อด้วยรอยยิ้ม นี่เป็นการทำสงครามจิตวิทยาในการบั่นทอนความแข็งแกร่งของศัตรู เดิมทีนางก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียวอวี๋อยู่แล้ว และในสภาพที่ถูกปั่นหัวเช่นนี้ นางก็ยิ่งไม่ใช่คู่ต่อสุ้ของเขา ปกตินั้น หยินเค่อนับว่าเก่งฉกาจพอตัว ไม่มีผู้ใดสามารถทำให้นางสติหลุดได้ กระนั้นบุรุษที่อยู่ตรงหน้าของนางกลับเป็นข้อยกเว้น การหยอกเย้าของเซียวอวี๋ทำให้นางขบฟันแน่น และยิ่งนางมองท่าทียียวนของคนตรงหน้า นางก็ไม่อาจรักษาความสงบไว้ได้อีก “หุบปาก!” หยินเค่อตะโกนพลางพุ่งเข้าหาเซียวอวี๋ เซียวอวี๋ฉีกยิ้มและถลันหลบออกไป เขาไม่ได้ต้องการทำร้ายนาง ดังนั้นเซียวอวี๋จึงหยอกเย้านางก่อนจะหลบหลีกไปมา เวลานี้ความแข็งแกร่งของเซียวอวี๋นับว่าสูงแล้ว ภายในขั้นที่ห้านั้น เขานับว่าไร้คู่เปรียบ เว้นเสียแต่จะเจอกับตัวตนขั้นที่หก ไม่เช่นนั้นก็ยากที่จะมีผู้ใดรุกไล่เขาได้ บางทักษะของเหล่าฮีโร่ เซียวอวี๋ก็เรียนรู้จนระดับเต็มแล้ว เซียวอวี๋ตอนนี้นับว่าแทบจะไร้เทียมทาน ตัวอย่างเช่น ตอนนี้เซียวอวี๋สามารถใช้ทักษะแยกร่างของกรอม และร่างแยกทั้งสี่นั้นเหมือนกับตัวจริงไม่มีผิดเพี้ยน ทุกร่างพุ่งวนรอบหยินเค่อไม่กี่รอบ หยินเค่อก็บอกไม่ได้แล้วว่าร่างไหนคือเซียวอวี๋ตัวจริง ขณะที่เซียวอวี๋หยอกล้ออยู่กับหยินเค่อ ทางด้านอื่นๆของเมืองก็เกิดความวุ่นวายไปทั่ว เสียงกรีดร้องดังขึ้นให้ได้ยินจากแทบทุกมุมเมือง เซียวอวี๋ตระหนักดีว่าฝ่ายตนนั้นมีคนน้อยกว่า หากว่าพวกเขาต้องการยึดเมือง เช่นนั้นก็ต้องใช้การวางเพลิง ด้วยเหตุนี้เปลวเพลิงจึงลุกขึ้นทั่วทั้งเมือง ทำให้เมืองเต็มไปด้วยความปั่นป่วนวุ่นวาย คาสโซ่พาคนของเขาไปด้วยกันอลอนโซ่ พวกเขามุ่งหน้าไปที่กำแพงเมืองเพื่อยึดครอง พวกปืนใหญ่เวทของศัตรูบนกำแพงเมืองนั้นสร้างความอิจฉาให้กับเซียวอวี๋เกินไป นอกจากนั้น อีกฝ่ายยังมีกำลังพลอยู่นอกเมืองที่กำลังเดินทางกลับมา พวกเขาจะต้องสกัดเอาไว้ให้ได้ เหล่าสมาชิกของกลุ่มอาชาเหล็กที่สวมเกราะจนเผยให้เห็นเพียงดวงตานั้นสร้างความหวาดผวาให้กับทหารรักษาเมืองมาก เมื่อรวมกับพลังต่อสู้ที่โดดเด่นของพวกเขาด้วยแล้ว การบุกโจมตีกำแพงเมืองก็คืบหน้าอย่างรวดเร็ว ทางด้านท้องฟ้า เซียวอวี๋ยังได้ส่งหน่วยอัศวินกริฟฟ่อนและกลุ่มอสูรเขาไปช่วยพวกคาสโซ่ยึดกำแพงเมืองอีกแรง อีกด้านหนึ่ง เซียวอวี๋ได้ส่งดรูอิดขี่แรฟเตอร์ไปวางเพลิง เวทพายุของพวกเขานั้นเหมาะในการเพิ่มกำลังไฟที่สุด ผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วโมงเศษ ทั้งเมืองก็สูญเสียการควบคุม ทุกหัวระแหงเต็มไปด้วยความโกลาหล โฮก…… ตอนนั้นเอง มังกรน้อยที่จัดการพวกทหารจนหมดแล้วก็เงยหน้าคำรามประกาศชัยชนะ เซียวอวี๋ที่เห็นดังนั้นจึงสั่งให้มันไปตามหามิรันด้า ทว่าหลังจากหาอยู่นานสองนาน มังกรน้อยก็หาอีกฝ่ายไม่พบ เซียวอวี๋จึงให้มังกรน้อยไปช่วยทางด้านกรอมและคาร์นจัดการกับโล้นมหากาฬ โล้นมหากาฬไม่ได้อ่อนแอ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกรอมและคาร์นพร้อมกัน เขาก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ พละกำลังของคาร์นนั้นอยู่เหนือความคาดหมาย เห็นชัดๆว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงตัวตนขั้นที่ห้า กระนั้นพละกำลังของอีกฝ่ายกลับไม่ด้อยไปกว่าเขาซึ่งอยู่ในขั้นที่หกเลย อีกทั้งการโจมตีจากกรอมก็ยากจะรับมือ มีหลายดาบที่กรอมได้ทิ้งแผลไว้บนร่างของเขา และเมื่อมีมังกรน้อยมาร่วมด้วย โล้นมหากาฬก็อับจนหนทาง เขารู้ว่าป่านนี้มิรันด้าคงหลบหนีไปอย่างปลอดภัยแล้ว ภารกิจของเขาถือว่าสำเร็จเสร็จสิ้น ดังนั้นโล้นมหากาฬจึงคิดจะปลีกตัวจากไปบ้าง แต่มีหรือที่คาร์นจะยอมปล่อยเขาไป กับคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อเช่นนี้ คาร์นไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือไปโดยเด็ดขาด มังกรน้อยเองก็เช่นกัน มันหยิบเอาทอนฟาออกมาโจมตีออกพร้อมส่วนอื่นๆของร่างกายดังเช่นที่ใช้จัดการกับพวกทหาร บางครั้งมันยังส่งเสียงร้องเหมือนบรูซลีอย่างสนุกสนานด้วย โล้นมหากาฬหงุดหงิด เขารู้ว่าตอนนี้คงไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ในฐานะนักรบ เขาจะยอมถอดใจได้อย่างไร? ดังนั้นโล้นมหากาฬจึงล้วงหยิบเอาเข็มสีดำขนาดเล็กออกมาก่อนจะปักไปที่หลังคอของของตนเอง ปึด! มีพลังอันรุนแรงปะทุขึ้นภายในร่างของโล้นมหากาฬ ดวงตาของโล้นมหากาฬเปลี่ยนเป็นสีแดงดุจโลหิต ที่ศีรษะของเขาพลันมีเขาแหลมสองเขาผุดขึ้นมา ร่างกายทั้งหมดของเขาเริ่มเปลี่ยนไปราวกับว่ามีอะไรบางอย่างปะทุอยู่ภายใน ผิวหนังของเขาไม่ใช่สีผิวของมนุษย์อีกต่อไป หากแต่แทนที่ด้วยสีเทาดำ จากนั้นเกล็ดก็เริ่มผุดขึ้นมาปกคลุมผิวหนัง “มารดามันเถอะ ตัวอะไรล่ะนั่น สยองแท้” มังกรน้อยสบถออกมาเมื่อได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของโล้นมหากาฬ “พวกแกทั้งหมด…ตาย!” โล้นมหากาฬที่กลายร่างเป็นปีศาจกระทืบพื้นจนแผ่นดินเกิดการสะเทือน “อิลิดัน งานถนัดของเจ้าแล้ว ไปจัดการมันเสีย” กรอมหันไปตะโกนใส่อิลิดัน จากนั้นจึงวิ่งไปโจมตีมอร์เดลแทนที่ตำแหน่งของอิลิดัน อิลิดันที่ได้ยินดังนั้นก็ไม่พูดอะไร ก่อนจะผละจากมอร์เดลไปหาปีศาจโล้นมหากาฬ ในเวลานั้นเอง ร่างกายของโล้นมหากาฬก็มีเปลวเพลิงลุกโชน สภาพของเขาตอนนี้เรียกได้ว่ากลายเป็นปีศาจเต็มตัวแล้ว อิลิดันไม่สนใจ เมื่อมาถึงก็ตวัดดาบคู่เล็งฟันไปยังศีรษะของปีศาจทันที….