ตอนที่ 326 นักฆ่า (3)

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 326 นักฆ่า (3) โดย Ink Stone_Fantasy

“เหล่าถัง มีความตั้งใจจริงนะ เยี่ยเทียน อาหารฝรั่งของโรงแรงฟูราม่ารสชาติไม่เลว”

จั่วเจียจวิ้นตั้งแต่ติดตามเยี่ยเทียนมาพักที่บ้านของถังเหวินหย่วน เขากินอาหารชื่อดังของทุกโรงแรมในฮ่องกง จนเกือบทั้งหมด ถึงแม้เขาไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่ถ้าดูจากความละเอียดต่างๆ ก็ดูออกว่าถังเหวินหย่วนให้ความสำคัญ กับเยี่ยเทียนแค่ไหน

ในสมัยก่อนโรงแรมฟูราม่าเป็นธุรกิจราชาการพนันฟู่เหล่าหรง ครั้งหนึ่งเคยเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงบนเกาะฮ่องกง และมีร้านอาหารที่หมุนได้ที่ชั้นบนสุดของโรงแรม เป็นแห่งแรกในฮ่องกง แต่ปีนี้โรงแรมเพิ่งถูกลี่ซินกรุ๊ปซื้อหุ้นส่วนไป

นอกจากชายามเช้าสไตล์จีนที่มีชื่อเสียงแล้วห้องอาหารของโรงแรมฟูราม่ายังมีชื่อเสียงในด้านอาหารตะวันตกซึ่ง บริหารงานโดยพ่อครัวชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียงในฮ่องกงอีกด้วย

เยี่ยเทียนเบ้ปากแล้วเบ้ปากอีก หลังจากได้ยินคำพูดของจั่วเจียจวิ้น และพูดต่อว่า “เหล่าถังหน่ะ กลัวว่าผมจะไม่ช่วยเขา”

จั่วเจียจวิ้นได้ยินถึงกับอึ้งไปสักครู่ มองไปที่เยี่ยเทียนถามกลับว่า “ศิษย์น้อง นายก็เห็นความหายนะ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าของเหล่าถังแล้วเหรอ?แล้ว นายเคยช่วยเขาปรับความสมดุลของร่างกายด้วยใช่มั้ย?”

วิชาการทำนายดวงชะตาของจั่วเจียจวิ้น สืบทอดจากหลี่ซั่นหยวนอย่างน้อยก็แปดส่วน เมื่อสามปีก่อนเขาพูดคำขาด ไว้ว่าถังเหวินหย่วนจะป่วยครั้งใหญ่ในปีนี้ ถ้าผ่านมันไปไม่ได้ชะตาชีวิตของเขาอาจจะจบลงเพียงเท่านี้

แต่พอเจอถังเหวินหย่วนในครั้งนี้ ทำให้จั่วเจียจวิ้นพบว่าเส้นดำบนใบหน้าของถังเหวินหย่วนจางลงเยอะแล้ว หลายปีต่อจากนี้คงจะไม่เจ็บไม่ป่วย และอุปสรรคอันนั้นก็ได้เลื่อนออกไปเป็นเวลาสามปีเต็มๆ

เยี่ยเทียนหัวเราะกับท่าทางที่สงสัยของจั่วเจียจวิ้นและพูดว่า “ผมตั้งค่ายกลรวมพลังหยินไว้ที่ปักกิ่งถิ่นชาววัง ถือว่าเป็นความโชคดีของเหล่าถัง แต่ถ้าเขาเกิดอะไรขึ้นในครั้งหน้า เขาอาจจะไม่สามารถผ่านไปได้ง่ายเหมือนครั้งนี้ เมื่อเวลานั้นมาถึงผมจะช่วยเขาเท่าที่ผมช่วยได้!”

เยี่ยเทียนประทับใจถังเหวินหย่วนไม่น้อย เงินก้อนแรกก็ได้มาจากเขานั่นแหละ และตอนนี้ก็เอาคฤหาสน์ใหม่ ของคนอื่นมาทำให้เป็นสนามรบ ความสัมพันธ์นี้ถือว่าเป็นหนี้ไปแล้ว

“เหรอ?ผลลัพธ์ของค่ายรวมพลังหยินดีขนาดนี้เชียว? ฉันจะกลับไปกับนายเพื่อไปดูสักหน่อย……””

หลังจากฟังคำอธิบายของเยี่ยเทียนเสร็จ จั่วเจียจวิ้นแสดงความปรารถนาอยากดูและพูดต่อว่า “ศิษย์น้อง กลับไปครั้งนี้ นายพาฉันไปสุสานของอาจารย์หน่อยนะ ฉันจะไปจุดธูปให้อาจารย์…”

“ได้ครับ ผมก็จะไปเยี่ยมอาจารย์เหมือนกัน”

พอพูดถึงหลี่ซั่นหยวน ทั้งเยี่ยเทียนและจั่วเจียจวิ้นก็เงียบลง ทั้งสองคนนี้ได้รับความเมตตาจากอาจารย์มากมาย ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งคิดถึงอาจารย์ผู้เฒ่า

เยี่ยเทียนส่ายหัวไปมา ยืนขึ้นพูดว่า “คนตายได้ตายไปแล้ว แต่คนมีชีวิตยังต้องอยู่ต่อไป ถ้าอาจารย์รู้ว่า พวกเราสองคนได้พบกันอีกครั้ง ท่านคงดีใจมาก ศิษย์พี่ อย่าคิดมากเลยนะ ฉันจะขึ้นไปดูเหมาโถวข้างบนหน่อย ว่าเป็นอย่างไรบ้าง!”

ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะกินแมลงพิษของชาญ ทองทวนเยอะเกินหรือเปล่า หลังจากที่กินงูเห่าตัวนั้น จู่ๆเหมาโถวก็นอนหลับไปจนถึงวันนี้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะเยี่ยเทียนสัมผัสได้ว่าลมหายใจของเหมาโถวยังคงที่อยู่ เขาคงพาเจ้าตัวน้อยไปหาสัตวแพทย์แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เยี่ยเทียนก็ส่งพลังชี่แห่งชีวิตเข้าสู่ร่างกายของมันทุกวัน เพราะกลัวว่าเจ้าตัวน้อยนี้จะเป็นอะไรไป

เยี่ยเทียนขึ้นไปชั้นบนไม่นานเท่าไหร่ กระดิ่งของประตูที่อยู่ด้านนอกห้องรับแขกก็ดังขึ้น จั่วเจียจวิ้นมองดูนาฬิกา ที่แขวนไว้ที่ห้องรับแขก ขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าเวลาของการส่งอาหารในวันนี้ช้ากว่าปกติยี่สิบนาที

แต่จั่วเจียจวิ้นไม่ได้คิดมาก ลุกขึ้นออกจากห้องรับแขกเดินมาถึงหน้าประตู หลังจากเปิดตูออกพบว่ารถบัสขนาดกลาง ที่ติดป้ายของโรงแรมฟูราม่าจอดอยู่หน้าประตูหนึ่งคัน

ด้านข้างของรถบัสขนาดกลางมีรถเข็นอาหารอยู่หนึ่งอัน รถเข็นอาหารแบ่งออกเป็นห้าชั้น ชั้นบนถูกวางเต็มไปด้วย จานสีเงินต่างๆ ทุกๆจานมีฝาขนาดที่พอดีครอบเอาไว้ นอกจากนั้นยังมีไวน์หนึ่งขวดที่วางไว้ในถังเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ด้านข้างของรถเข็นอาหารมีเชฟหน้าฝรั่งใส่หมวกทรงสูงยืนอยู่หนึ่งคน หลังจากที่เห็นจั่วเจียจวิ้นออกมา เขาโค้งคำนับอย่างสุภาพบุรุษ และพูดด้วยภาษาอังกฤษกับเขาว่า “คุณครับ ผมคือเชฟ “ชาร์ดสัน” ของโรงแรมฟูราม่าครับ และนี่คืออาหารมื้อค่ำที่คุณถังสั่งไว้ครับ!”

“เชฟ?แล้วพนักงานคนอื่นๆล่ะ? มาส่งอาหารถึงกับต้องให้พ่อครัวใหญ่มาส่งเลยหรือ?”

มองดูฝรั่งหน้าตาไม่ดีเท่าไหร่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า จั่วเจียจวิ้นขมวดคิ้ว เพราะปกติคนที่ส่งอาหารส่วนใหญ่ จะเป็นพนักงานของโรงแรม ยังไม่เคยมีเหตุการณ์ให้พ่อครัวมาส่งด้วยตัวเอง

“อ๋อ คุณครับ คืออย่างนี้ครับ ท่านเซอร์ รัสท์ ที่พักอยู่ด้านล่าง วันนี้เขาก็สั่งอาหารจากทางโรงแรมเช่นกัน บังเอิญท่านมาสั่งช้าไปหน่อย ดังนั้นพนักงานคนอื่นๆ จึงต้องอยู่เตรียมอาหารมื้อค่ำให้กับ ท่านเซอร์ รัสท์ เป็นเหตุให้ต้องมาส่งอาหารให้คุณช้า ในฐานะเชฟผมจึงต้องมาขอโทษด้วยตัวเองครับ”

ฝรั่งวัยกลางคนแสดงความเสียใจออกมาในเวลาที่เหมาะสม และเซอร์ รัสท์ ที่เขาพูดถึงทำให้จั่วเจียจวิ้น คลายสีหน้าที่ไม่พอใจลง เพราะเขารู้จักคนอังกฤษที่เพิ่งย้ายมาถึงไม่กี่วันคนนั้น

รัสท์เป็นนักธุรกิจไวน์องุ่นที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ ตั้งแต่บรรพบุรุษของเขาและสืบทอดไปจนถึงตำแหน่งเซอร์ รัสท์ชอบวัฒนธรรมตะวันออกมาก ในทุกๆปีเขาจะเดินทางมาพักผ่อนที่ฮ่องกงและพักเป็นระยะเวลาหนึ่ง

ทุกครั้งที่รัสท์เดินทางมาที่ฮ่องกง เขาจะจัดงานเลี้ยงในวิลล่าของเขาและเชิญคนมีชื่อเสียง จากทุกสาขาอาชีพในฮ่องกงมาร่วมงาน จั่วเจียจวิ้นเคยไปร่วมงานอยู่หลายครั้ง ถือว่ารู้จักสนิทพอสมควร และรู้จักลักษณะนิสัยขอเขาเป็นอย่างดี

หลังจากทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว จั่วเจียจวิ้นเปิดทางและพูดว่า “โอเค เข้ามาสิ คำขอโทษคงไม่ต้อง เดี๋ยวช่วยแนะนำอาหารเหล่านี้ให้แขกของฉันหน่อยก็แล้วกัน!”

ในร้านอาหารต่างประเทศหลายแห่งหากลูกค้าชื่นชมหรือรู้สึกไม่พอใจกับอาหารจานใด เชฟจะต้องออกมา แสดงความขอบคุณและอธิบาย

ถ้าเป็นงานเลี้ยงส่วนตัวเชฟยิ่งออกมายอมรับความขอบคุณและการยกย่องจากแขก จั่วเจียจวิ้นที่คุ้นเคยกับประเพณี ของชาวต่างชาติเป็นอย่างดี ทำให้เขาไม่มีข้อสงสัยใดๆเพิ่ม

“ขอบคุณที่เข้าใจครับ คุณครับ อาหารมื้อค่ำในวันนี้จะทำให้คุณประทับใจแน่นอนครับ”

หลังจากได้ยินคำพูดของจั่วเจียจวิ้น จอร์จี้ คาร์เตอร์ก็รู้สึกโล่งอก ชีวิตนักฆ่ายี่สิบปี ทำให้เขามีความรู้สึกถึงอันตรายเป็นพิเศษ

จากชายชราข้างหน้า เขาพบความรู้สึกที่อันตราย หากไม่ได้รับการฝึกฝนและมีประสบการณ์มาหลายปี จอร์จี้ คาร์เตอร์ เมื่อครู่คงจะเลือดไหลเวียนเร็วมากเกินไป จนอาจจะถูกคนที่อยู่ด้านข้างหน้าดูออก

ถึงแม้ว่าจอร์จี้ คาร์เตอร์มีความมั่นใจที่จะจัดการคนนี้ แต่นักฆ่าระดับต้นของโลก จอร์จี้ คาร์เตอร์ จะทำก็ต่อเมื่อสถานการณ์บังคับเท่านั้น เขาถึงจะฆ่าเป้าหมายที่ไม่มีใครจ่ายเงิน

นอกจากนี้ จอร์จี้ คาร์เตอร์คิดว่าการลอบฆ่าคืองานทางเทคนิคอย่างหนึ่ง การฆ่าคนและจากไปโดยไม่ทิ้งร่องรอย นั่นคือการลอบฆ่าที่ประสบความสำเร็จ และสมควรที่จะได้รับตำแหน่งนักฆ่าคนที่สามของโลก

ถ้าฆ่าชายชราข้างหน้า บางทีอาจทำให้ไก่ตื่นตัว และปล่อยให้เป้าหมายซ่อนตัวทัน ต้องรู้ว่าคฤหาสน์ แบบนี้จะต้องมีชั้นใต้ดินเพื่อหลบซ่อนอันตราย ถ้าทำอย่างนั้นทุกสิ่งจะล้มเหลวทันที

เพื่อรอโอกาสครั้งนี้ จอร์จี้ คาร์เตอร์ใช้เวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ในการวางแผน

หลังจากติดตามรถส่งอาหารของโรงแรมไปที่คฤหาสน์เป็นเวลาสองวัน จอร์จี้ คาร์เตอร์คิดวิธีลอบฆ่า เยี่ยเทียนออกหนึ่งวิธี เขาใช้เวลาสองวัน ดักฟังเบอร์โทรศัพท์การจัดส่งอาหารของร้านอาหารที่มีชื่อเสียงเก้าแห่งในฮ่องกง

หลักจากทราบว่าโรงแรมฟูราม่าจะส่งอาหารไปให้เยี่ยเทียน จอร์จี้ คาร์เตอร์สร้างฉากอุบัติเหตุเล็กๆ บริเวณเปลี่ยวแห่งหนึ่ง ที่ออกจากโรงแรมมุ่งหน้าไปสู่ภูเขาไท่ผิง พนักงานโรงแรมที่อยู่ในรถกำลังสลบอยู่ตอนนี้

“ศิษย์พี่ ข้าวเย็นมาส่งแล้วเหรอ?”

รถเข็นอาหารถูกเข็นเข้าไปที่ห้องรับแขกเสร็จแล้ว เยี่ยเทียนก็เดินลงมาพอดี ถึงเม้เหมาโถวยังไม่ได้สติ แต่ลมหายใจมั่นคงทำให้เขารู้สึกโล่งใจ

“ฮือ วันนี้ทำไมมาส่งคนเดียว?”

มองดูรถเข็นอาหารและเชฟที่ใส่หมวกอย่างจอร์จี้ คาร์เตอร์ เยี่ยเทียนอึ้งไปสักครู่ ต้องรู้ว่าปริมาณอาหารที่เขา กับจั่วเจียจวิ้นกินนั้นเยอะมาก โดยปกติจะมีปริมาณอาหารสำหรับเจ็ดแปดคนด้วยซ้ำ คนส่งอาหารอย่างน้อยก็มีสามสี่คน

“คนอื่นๆอยู่ที่บ้านเซอร์รัสท์ เชฟของพวกเขาส่งอาหารขึ้นมาก่อน” จั่วเจียจวิ้นอธิบายให้เยี่ยเทียนฟังคร่าวๆ แต่ไม่ทันเห็นว่าตาของเยี่ยเทียนเริ่มหรี่ลงเล็กน้อย

ในฐานะนักฆ่าคนหนึ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทักษะ จะต้องเรียนรู้การซ่อนเจตนาฆ่าของตนเอง แต่จอร์จี้ คาร์เตอร์เป็นมืออาชีพของหนึ่งในนักฆ่าพวกนั้น เขาสนุกกับการดูเป้าหมายของตนเองที่มีรอยยิ้มและความงุนงง และเสียชีวิตในมือของเขาเอง

ตอนนี้จอร์จี้ คาร์เตอร์ทำตัวเป็นเชฟของโรงแรมฟูราม่าจริงๆ เพียงแต่ว่าจอร์จี้ คาร์เตอร์ไม่รู้ว่า กลิ่นอายพิฆาตบนตัวของเขากำลังทรยศต่อตัวเขาแล้ว

ตั้งแต่ได้สืบทอดวิชาของสำนักพยากรณ์เสื้อป่านอย่างไม่ได้ตั้งใจ ถึงแม้ว่าเยี่ยเทียนจะไม่ใช้วิชา แต่เขาสามารถมองเห็นหยินหยางที่กำลังพันอยู่ภายในตัวของจอร์จี้ คาร์เตอร์ ซึ่งเป็นชี่ที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ แล้วจะรอดสายตาของเขาไปได้ยังไง?

“คุณผู้ชายครับ นี่คือคาเวียร์ที่ทำจากไข่วาฬเบลูกา มันจะทำให้คุณรู้สึกถึงรสชาติที่อร่อยที่สุด…”

จอร์จี้ คาร์เตอร์ไม่รู้ตัวว่าตัวตนของเขาถูกดูออกแล้ว ในเวลานี้เขากำลังนำคาเวียร์ที่วางไว้ใต้จานที่มีน้ำแข็งอยู่หนึ่งชั้น วางไว้ที่โต๊ะอาหาร

หลังจากเปิดฝา จานนั้นเต็มไปคาร์เวียที่กลม แน่น เงา โปร่งใส มันวาวสีทองเล็กน้อย ปรากฏอยู่ข้างหน้าเยี่ยเทียน

จอร์จี้ คาร์เตอร์หยิบถ้วยเล็กที่อยู่ในน้ำแข็งขึ้นมาสองถ้วย ตักคาร์เวียประมาณครึ่งหนึ่งแบ่งส่วนและวางไว้ ด้านหน้าของเยี่ยเทียนกับจั่วเจียจวิ้น พูดว่า “คุณผู้ชายทั้งสองครับ คาร์เวียนี้ตั้งแต่แปรรูปออกมายังไม่เกิน 20 นาทีครับ ขอให้คุณทั้งสองเพลิดเพลินกับมันทันที มิฉะนั้นรสชาติความอร่อยของมันจะลดลงอย่างมาก”

ในฐานะนักฆ่าระดับโลกอย่างจาร์จี้ คาร์เตอร์ไม่เพียงแต่ฆ่าคนเป็นเท่านั้น สำหรับการเพลิดเพลินกับอาหารการกิน สามารถเรียกเขาว่าผู้เชี่ยวชาญ และในเวลานี้การแนะนำยังคงดำเนินต่อ และไม่มีความผิดพลาดใดใด

“โอ้ งั้นต้องลองชิมแล้วหละ…”

เยี่ยเทียนได้ยินจึงหัวเราะ เขาเห็นศิษย์พี่ใช้มือซ้ายที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหยิบช้อนขึ้นมา จึงรีบพูดต่อว่า “ศิษย์พี่ มีอาหารอร่อยขนาดนี้ ไม่มีไวน์ได้ยังไงหละ คุณช่วยเปิดไวน์แดงขวดนั้นให้ทีครับ”

“เห้ ศิษย์น้อง ไม่ต้องรีบดื่ม นายไม่รู้ละสิ คาร์เวียนี้วางทิ้งไว้นานไม่ได้ กินให้หมดแล้วค่อยดื่ม!”

สิ่งที่ทำให้เยี่ยเทียนคิดไม่ถึง สำหรับจั่วเจียจวิ้นนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือคาร์เวียคำนี้ แล้วเขาจะอยากดื่มไวน์แดงไปทำไมกันเล่า?

……