หลังจากมือกรรไกรแต่งตัวแล้ว เฉินเกอก็มองเขาและไม่รู้สึกอะไร แต่ว่าจางจิงจิ่วถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว
“ชุดนี้เข้ากับนายมากเลย” เสื้อคลุมปิดบังใบหน้า และกรรไกรเปื้อนเลือดก็เห็นวับแวมเมื่อแขนเสื้อขยับ จากที่ไกล ๆ มันทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาด เขายืนอยู่ไกล ๆ แต่เหมือนเขากำลังขยับใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ และจะกระโจนใส่คนอื่น ๆ เมื่อไหร่ก็ได้
“ฉันจะหารองเท้าให้นายเปลี่ยนสักคู่หนึ่งหลังจากนี้ ไอ้ที่นายสวมอยู่มันไม่ค่อยเข้ากับเครื่องแต่งกายที่เหลือ”
โดยรวมแล้ว เฉินเกอพอใจกับชุดของมือกรรไกร ไม่เหมือนเสี่ยวกู่ มือกรรไกรนั้นฝึกฝนที่บ้านมาเป็นอย่างดี ดูวิดีโอและละครถึงวิธีการเล่นเป็นคนบ้าคลั่ง เขายังมีประสบการณ์มาก่อนที่เมืองหลี่ว่าน ตอนนี้ ในด้านรูปลักษณ์และท่าทาง เขาก็คล้ายกับคนบ้าคลั่งจริง ๆ มากทีเดียว
มันยากที่จะอธิบายรายละเอียด แต่ว่ามีความกลัวที่ก่อตัวขึ้นในตัวตนของเขา หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ซูว่านกับเสี่ยวกู่ก็มาถึง
ในห้องแต่งตัว เฉินเกอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ “พวกเราจะเป็นเพื่อนร่วมงานกันในอนาคต ดังนั้นก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซูว่านเป็นพนักงานที่มีประสบการณ์ที่สุดของฉัน ดังนั้นถ้ามีคำถามอะไร ก็ถามเธอได้”
หลังจากแต่งหน้าให้เสี่ยวกู่กับซูว่านแล้ว เฉินเกอก็ให้พวกเขาเข้าไปในฉากของตัวเองเพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะไปยังห้องควบคุมหลักเพื่อหาวิทยุติดตามตัวและหูฟังกับไมโครโฟนส่งให้จางจิงจิ่วและมือกรรไกร
“มีกล้องวงจรปิดในห้องควบคุม ดับนั้นถ้าเกิดอุบัติเหตุอะไร ฉันจะสั่งนายผ่านอุปกรณ์พวกนี้ ตอนนี้ พวกนายตามฉันเข้าไปในฉาก” เฉินเกอนำพวกเขาเข้าไปในเมืองหลี่ว่าน เดินไปตามถนน มือกรรไกรและจางจิงจิ่วก็รู้สึกเหนือจริง แต่ด้วยความเชื่อมั่นในตัวเฉินเกอของพวกเขา พวกเขาก็ไม่ถามคำถามอะไรมากมาย
“จิงจิ่ว ฉันต้องการให้นายอยู่ในโรงแรมเล่นเป็นบอสก่อนตอนนี้ นายยังต้องฝึกหลอกลูกค้าให้มากกว่านี้ก่อน ดังนั้นอย่าได้เข้าไปพัวพันกับพวกเขาถ้าไม่จำเป็น” เฉินเกอมั่นใจในบ้านผีสิงของเขา ดังนั้นเขารู้ว่าคนที่สามารถผ่านฉากระดับสามดาวมาได้นั้นไม่กลัวอะไรง่าย ๆ แน่นอน พวกเขามีประสบการณ์มากกว่าพนักงานใหม่ของเขา
“งั้นผมควรจะทำอะไร?” จางจิงจิ่วถูมือเข้าด้วยกัน มันเป็นการทำงานวันแรก และเขาก็รู้สึกอยากจะทำอะไรสักอย่าง เขาค่อนข้างตื่นเต้น
“แค่ฟังคำสั่งของฉัน ฉันจะมอบหมายหน้าที่ให้นายทำ” เฉินเกอพูดและหันไปมองมือกรรไกร “นายอยู่รอบ ๆ เขตที่พักอาศัยไปก่อนชั่วคราว เดินไปมาได้อิสระ แต่ว่าระวังไว้สามอย่าง หนึ่ง อย่าสัมผัสถูกตัวผู้เข้าชม สอง ความปลอดภัยของผู้เข้าชมสำคัญที่สุด สาม อย่าลืมป้องกันตัวเอง”
“ป้องกันตัวเอง?” มือกรรไกรมีความรู้สึกไม่ค่อยดีก่อตัวขึ้นในใจ
หลังจากมอบหมายบทบาทให้พวกเขาแล้ว เฉินเกอก็ออกไปจากฉากใต้ดิน เขาตั้งใจจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ เขาดูสะอาดและเฉียบแหลม เหมือนพี่ชายข้างห้องผู้สดใส
“ลุงซู ลุงมาเช้าเชียวนะวันนี้!” เฉินเกอออกจากบ้านผีสิงวิ่งเข้ามาหาลุงซูที่ด้านนอก เขาทักทายพนักงานสูงวัยอย่างกระตือรือร้น
“ผู้อำนวยการลั่วบอกว่าแกอาจจะมีความคิดอะไรใหม่ ๆ ดังนั้นก็เลยให้ฉันมาที่นี่เพื่อช่วยแกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” ลุงซูมองเฉินเกอที่แต่งตัวใหม่และเพราะอะไรไม่รู้ เขารู้สึกกระวนกระวายอย่างประหลาด “ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของการแข่งขันระหว่างพวกเรากับสวนสนุกแห่งอนาคต ดังนั้นทางที่ดีแกอย่าทำอะไรที่เกินเลยไปนักนะ!”
“ไม่ต้องห่วงครับ” นั่นคือทั้งหมดที่เฉินเกอรับปากลุงซู จากนั้นเขาก็ดึงไม้กระดานที่วางเอาไว้ในห้องโถงรอพัก เขาใช้กระดานแผ่นเดิมที่เคยใช้ประกาศเปิดหมู่บ้านโลงศพ และครั้งนี้ เขาก็กำลังจะใช้มันอีกครั้ง “เรียกฉากเมืองหลี่ว่านคนท้องถิ่นอาจจะไม่เห็นด้วยนัก บางทีฉันควรจะปล่อยให้มันไร้ชื่อ นั่นก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน”
เฉินเกอเรียกฉากใหม่ว่าเมืองเล็กและวางป้ายเอาไว้ที่หน้าซุ้มขายตั๋ว มันเรียบง่ายและชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่เฉินเกอรู้ดี
“แกกำลังวางแผนจะเปิดฉากใหม่?” ลุงซูมองสองคำที่บนป้ายและขมวดคิ้ว เฉินเกอปล่อยฉากใหม่เร็วเกินกว่าทีมสนับสนุนจะตามทัน
“ใช่ มันไม่น่ากลัวเท่าไหร่ ลุงก็เห็น มันเป็นเหมือนฉากคั่นน่ะครับ– ระดับความยากแค่สามดาวครึ่ง จุดประสงค์หลักก็คือวางรากฐานสำหรับฉากระดับสี่ดาวที่จะตามมาทีหลัง” เฉินเกอดึงโทรศัพท์เข้ามาแล้วล็อกอินเข้าไปในแอพพลิเคชั่นของผู้อำนวยการลั่วในฐานะผู้ดูแลและปล่อยประกาศใหม่
“เปิดให้บริการฉากใหม่! เมื่อความหวาดกลัวชุ่มโชกเข้าไปถึงกระดูกของคุณและฝันร้ายกลายเป็นความจริง คุณเพิ่งรู้ว่าคุณไม่สามารถหาทางออกจากเมืองเล็กนี้ได้”
เพียงแค่ไม่กี่นาทีหลังจากเฉินเกอปล่อยประกาศ ก็มีการคลิกเข้ามาดูมากกว่าสามพันครั้ง ลูกค้าผู้ภักดีบางคนยังแชร์ประกาศออกไปยังเวบอื่น ๆ และความคิดเห็นต่าง ๆ ก็ทะยอยเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ละครั้งที่กดเริ่มหน้าใหม่ หน้านั้นก็เต็มไปด้วยความคิดเห็นใหม่ ๆ
“เดี๋ยวก่อนนะ! ไม่ใช่ว่าฉากใหม่เพิ่งปล่อยเมื่อไม่กี่วันก่อนนี่เองเหรอ? ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนเพิ่งกลับมาจากที่นั่นเองนะ? อย่าโกหกฉันนะ!”
“พวกคุณผลิตฉากใหม่ออกมาเหมือนเป็นบ้าอ่ะ! ไม่มีเวลาให้เสียแล้ว เลขาลิ่ว ซื้อตั๋วกลับไปที่นั่นให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
“คำแนะนำนี่ค่อนข้างเรียบง่าย! ฉันอยากรู้ว่าฉากใหม่จะเป็นธีมเกี่ยวข้องกับอะไร”
“ฉันจะสนุกกับความซวยของพวกคุณอย่างปลอดภัยอยู่ที่บ้านนะ”
“นี่คือการโฆษณาชวนเชื่อ: ชายหนุ่มและหญิงสาวที่ชื่นชอบการไปบ้านผีสิง บางทีวิทยาลัยแพทย์จิ่วเจียงอาจจะเป็นสถานที่ที่อนาคตของพวกเธอจะสว่างไสว!”
สวนสนุกเปิดตามปกติตอนเก้าโมงเช้า เมื่อประตูเปิด วัยรุ่นหลายคนก็พุ่งมาทางบ้านผีสิง
“เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันเห็นความหลงใหลบนใบหน้าของผู้เข้าชม ฉันก็รู้สึกโชคดีที่ได้อยู่ในธุรกิจนี้” เฉินเกอช่วยลุงซูขายตั๋วอยู่ที่ทางเข้า ผู้เข้าชมส่วนใหญ่ที่รีบร้อนมานั้นเป็นผู้เข้าชมที่มาครั้งแรก และพวกเขาก็ขอเข้าชมฉากระดับต่ำ พวกเขาตื่นเต้นเพราะว่านี่เป็นครั้งแรกของตน
เป้าหมายของเฉินเกอก็คือผู้เช้าชม ‘รุ่นพี่’ ที่สามารถผ่านฉากระดับสามดาวได้แล้ว คนพวกนี้นั้นได้รับการฝึกฝนเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าจะมาเร็ว พวกเขาก็ไม่มาต่อแถวเร็วขนาดนั้น พวกเขาจะตรงเข้าไปยังห้องโถงพักรอเพื่อสังเกตสถานการณ์
ถึงแม้ว่าเฉินเกอจะไม่ได้ไลฟ์อีกเลยระยะหลังมานี้ และครั้งสุดท้ายที่อัพโหลดวิดีโอก็นานพอสมควรแล้ว คนที่เคยอ่านข้อมูลเกี่ยวกับบ้านผีสิงก็ยังรู้ว่าเขาคือใคร
อย่างไรเสีย ในการโหวตออนไลน์ ตัวละครที่ผู้เข้าชมไม่ปรารถนาจะเจอตอนที่อยู่ในบ้านผีสิง ผู้ชนะอันดับหนึ่งก็ไม่ใช่วิญญาณที่ไหน แต่เป็นเฉินเกอ แต่นี่ก็อาจจะเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น
ตอนที่พวกเขาเห็นเฉินเกอกำลังขายตั๋วอยู่ที่ด้านนอกบ้านผีสิง พวกเขาก็เข้าไปดูใกล้ ๆ พวกเขาพบว่าเฉินเกอที่พวกตนจินตนาการเอาไว้นั้นต่างไปจากเฉินเกอตัวจริงอย่างสิ้นเชิง ชายหนุ่มคนนี้ที่มีรอยยิ้มสบาย ๆ จะเป็นตัวละครที่คนไม่อยากจะเจอที่สุดในบ้านผีสิงได้อย่างไร?
“อย่าผลักกันครับ มีหลายฉากให้เยี่ยมชม กรุณาเข้าแถวให้เป็นระเบียบ” ตั้งแต่บ้านผีสิงกลายเป็นที่นิยมขึ้นมา ผู้อำนวยการลั่วก็ทำอะไร ๆ ให้เฉินเกอมากมาย เขากระทั่งสร้าง QR code ให้เฉินเกอหลายอัน แค่สแกน เขาก็จะบอกระดับฉากที่พวกผู้เข้าชมสามารถเข้าชมได้ได้ มันสะดวกมาก
สิบโมงเช้า ผู้เข้าชมกลุ่มแรกก็เยี่ยมชมเสร็จเรียบร้อย ผู้เข้าชม ‘รุ่นพี่’ ที่ยังสังเกตสถานการณ์อยู่นั้นกำลังจะเคลื่อนไหวแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว พวกเขาเดินออกมาจากห้องโถงรอพักและเข้าต่อแถว
“มีใบหน้าเดิม ๆ เยอะเลยวันนี้ นี่เป็นเพราะการเปิดฉากใหม่หรือเปล่า?” ไม่มีอะไรหลุดรอดไปจากสายตาเฉินเกอ เขายังรักษารอยยิ้มเอาไว้บนใบหน้า หวังว่าฉากใหม่ของเขาจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าชม