บทที่ 650. Ending (2)

The Novel’s Extra

Chapter 650. Ending (2)

 

ผมวางแผนที่จะใช้ทุกอย่างดัวยพลังที่มีเพื่อคลายเงื่อนสุดท้าย แม้ว่าผมจะตายในขั้นตอนนั้น ผมก็ยังคงมีโอกาสหนึ่งที่จะคืนชีพขึ้นมา

แต่ถึงแม้ว่าจะฟื้นขึ้นมา ….

 

[ทุกอย่างเกือบจบลงแล้ว ดังนั้นเป็นเด็กดีและฟังอาจารย์อาแฮอิน โอเคมั้ย?]

 

หลังจากที่ลังเลอยู่พักหนึ่ง ผมก็เปลี่ยนสิ่งที่จะพูด อีเวนเดล ตอบกลับมาทันทีด้วยน้ำเสียงเหมือนเด็กที่น่ารักคนหนึ่ง

 

“คุณทำอะไรอยู่หัวเราะงั้นหรอ?” ในขณะนั้นบอสเงยหน้าของเธอขึ้นมาจากใต้บันได ผมอยู่บนชั้นสองของฐานที่มั้นขณะที่เธออยู่ในชั้นแรก

หลังจากเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง บอสหรี่ตาของเธอแล้วมองมาที่จดหมายในมือของ ผมรีบคลุมจดหมายด้วยมือของตัวเองทันทีและตอบบอสกลับไป

 

“เตรียมใจให้พร้อมสำหรับสงครามที่กำลังจะเริ่ม”

 

จากภายนอก ผมอาจดูเหมือนว่าผมกำลังทำโง่ๆไปมา แต่ในความเป็นจริง ผมกำลังเฝ้าดูบาอัลผ่านดวงตาพันไมล์ แม้ว่ามันอาจเป็นการยากที่จะฆ่าเขาในการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่สิ่งที่ผมทำได้ก็คือนั่งที่นี่และรอโอกาส

 

****2****

 

“แล้วคุณล่ะบอส คุณเตรียมพร้อมแล้วเหรอครับ?”

 

“…ใช่.”

 

บอสนั่งลงข้างๆผม จากนั้นเธอพึมพำอย่างขมขื่น

 

“ฉันได้รับศพของอียอนจุน ฉันวางแผนที่จะฝังเขาในเพนเดอร์​โมเนียมในภายหลัง”

 

“… เข้าใจแล้ว”

 

ผมยิ้มตอบกลับอย่างขมขื่นและพยักหน้า

ยี่ยอนจุนทำสิ่งที่น่ากลัวให้กับบอส เขาทำลายชีวิตที่มีความสุขของเธอ แต่ผมก็ไม่สามารถโทษเขาได้ด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดี

จากทั้งหมด ผมเป็นคนที่สร้างบอสและอดีตของเธอก็ปรากฏขึ้นจากการเขียนของผม

 

“… ถ้ามันไม่ได้เกิดขึ้นกับเขา ฉันอาจจะมีชีวิตแบบปกติ”

 

บอสพึมพำขณะที่เธอมองออกไปไกลอย่างเหม่อลอย ผมไม่แน่ใจว่าเธอรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่รึเปล่า

ผมไม่ได้พูดอะไร สิ่งที่เธอพูดไม่เป็นความจริง บอสคงไม่อาจใช้ชีวิตแบบปกติ

เพราะผมเป็นคนสร้างเธอ

 

“แต่….”

 

บอสจ้องมองมาที่มือของผม จากนั้น เหมือนหนอนที่ค่อยคลาน มือของเธอขยับเข้ามาอย่างช้าๆ

 

“…แต่….นายรู้ไหม….”

 

แต่เนื่องจากมือของเธอเคลื่อนไหวด้วยความเร็ว 1 มม. ต่อวินาที ผมจึงตัดสินใจทำก่อนด้วยการจับมือเธอเอาไว้ บอสสั่นในตอนแรก แต่ในไม่ช้าก็ยิ้มออกมาเบา ๆ และพูดว่า “ฉันได้พบนายก็เพราะมัน”

 

หัวใจของผมเต้นแรงขึ้น ผมสงสัยว่าบอสจะได้ยินเสียง ตุ้บๆเป็นเอฟเฟกต์ด้วยหรือเปล่ส ผมเงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงงและจ้องมองที่บอส เธอทำแบบเดียวกัน

 

“… .”

 

“… .”

 

ผมรู้สึกถึงความรู้สึกแปลก ๆ ที่เต็มอยู่ภายในตัวเอง ผมไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นความโศกเศร้า ความกตัญญูหรือความรัก

ผมก็คิดเช่นนี้

แม้ว่าอดีตของเธอจะถูกสร้างขึ้นโดยการตั้งค่าของผม ความเป็นจริงแล้วในปัจจุบันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของนวนิยายของผมอีกต่อไป ดังนั้นอาจจะไม่สำคัญอีกแล้ว

เนื่องจากผมไม่สามารถเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่จะเผยออกมาในอนาคต และเนื่องจากผมไม่รู้เกี่ยวกับมันและตัดสินใจอะไรได้เลยในบางที ในที่สุดแล้วผมก็ได้รับอิสรภาพจากพันธนาการของโลกนี้ที่เป็นนวนิยาย

 

“บอส”

 

ผมบีบมือเธอเบาๆ

การแยกความคิดทั้งหมดออกจากกันและพบเจอสิ่งที่ผมอยากทำตอนนี้อย่างชัดเจน

ผมเอนตัวเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ บอสไม่ได้หลีกเลี่ยงผม ในความเป็นจริงเธอดูเหมือนจะรอขณะที่เธอหลับตาลงอย่างช้า….

 

“พวกเราทุกคนลงที่นี่ ~”

 

ทันใดนั้นเสียงของเจนได้แทรกเข้ามา บอสกระโดดอย่างว่องไวและผลักผมออกไป จากนั้นเธอก็มองลงไป

 

“หืมม? คุณสองคนกำลังทำอะไรอยู่? Aak!”

 

บอสขว้างหินเงาใส่เจนก่อนจะเดินเข้ามาหาผมอีกครั้ง จากนั้นเธอก็รีบจัดการอารมณ์ก่อนหน้านี้อย่างเร่งรีบ

 

“…จากนี้ ฮาจิน ฉันควรจะทำอะไรต่อจากนี้ต่อไป?”

 

บอสถามในขณะที่เธอเล่นมือของผมอยู่ ผมรู้ว่าเธอขออะไร แต่ผมก็ยังถามอยู่ดี

 

“คุณหมายถึงอะไร”

 

ด้วยความผิดหวัง บอสหันกลับมาที่ตนเองตามปกติของเธอและพูดด้วยเสียงแหบแห้ง

 

“ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของอียอนจุนในสถานที่ของเขา ปฏิรูปคณะคมีเลียน ฆ่าผู้คนและขโมยสิ่งของ … พวกเขาทั้งหมดเป็นของเขา แต่ตอนนี้ …. “

 

บอสหยุดและหลับตาลงทันที เธอพูดไม่จบไม่ว่าผมจะรอนานแค่ไหน

ผมยิ้มออกมาอย่างขมขื่นและดึงเธอเข้าหาตัว แม้ว่าเราจะไม่ได้จูบ แต่อ้อมกอดก็ยังคงอบอุ่นเช่นกัน

 

“…ทุกอย่างจะดีเอง”

 

ผมชี้ไปที่สมาชิกของคณะคมีเลียนที่กำลังรออยู่ที่ชั้นหนึ่ง พวกเขากำลัง ‘เตรียม’ สิ่งที่ผมขอไปพร้อมกับยูยอนฮา

 

“ คุณมีพวกเขา ถ้าคุณไม่มีเป้าหมายหรือถ้าคุณไม่มีสิ่งที่ต้องการจะทำ คุณสามารถมองหามันพร้อมเพื่อนของคุณ คุณต้องทำ เวลานี้คุณไม่ฆ่าผู้คน ดังนั้นคุณสามารถมีความสุขด้วยกัน … .”

 

แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด แต่เป็นทางออกที่ดีที่สุด คำตอบของหนังสือหรือถ้อยคำที่น่าเบื่อ ถ้าคุณพูดออกมา

 

แต่บอสยิ้มแม้กระทั่งในคำพูดที่ล้าสมัย เธอมองเข้ามาในดวงตาของผมด้วยรอยยิ้มที่ละเอียดอ่อน

 

“… .”

 

เมื่อเห็นรอยยิ้มนี้และรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงของผม ผมก็มั่นใจได้อีกครั้ง

ผมอยากให้ผู้หญิงคนนี้มีความสุข ผมอยากให้เธอหัวเราะ ผม…ผมรักทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ….

 

และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกเศร้าใจมากขึ้น

 

* * * *

 

ด้วยการต่อสู้กับบาอัลกำลังจะจบลง บรรยากาศตึงเครียด ในความเงียบที่เย็นยะเยือกนี้คำพูดที่ค่อนข้างเบาดังออกมา

 

“คุณปู่”.

 

นั่นคือแชนายอน ทุกคนรวมถึงบาอัลหันไปเผชิญหน้ากับเธอ สีหน้าของแชนายอนที่ค่อนข้างน่ากลัว แชจูชึลยืนเฉยอยู่ครู่หนึ่งราวกับว่าเขาไม่รู้วิธีตอบสนอง จากนั้นเขายิ้มอย่างอ่อนโยนเหมือนที่เคยทำมาตลอด

 

“… คุณปู่.”

 

แต่แชนายอนไม่ยิ้ม เธอจ้องไปที่จูชึลย่างไม่พอใจ

 

“เมื่อทุกอย่างจบลง เราต้องคุยกัน”

 

น้ำเสียงของเธอเจือด้วยหนามแหลมคม แชจูชึล ลไม่รู้ว่าทำไมแชนายอนถึงโกรธ แต่เขาพยักหน้าตอบกลับแล้ว

 

“บาอัล.”

 

จากนั้นคิมซูโฮก้าวไปข้างหน้า

 

– …

 

บาอัลมองคิมซูโฮลงมาจากด้านบนและคิดถึงการมีชัยเหนือทุกสิ่งและอุปสรรคที่มีต่อมัน

อย่างไรก็ตาม คิมซูโฮไม่ได้รอให้มันคิดจนจบ

 

-!

 

ฮีโร่หลายคนคำรามออกมาจากใจ พวกเขาวิ่งเข้าไปหาบาอัลโดยไม่ลังเล

 

บาอัลสังเกตการเคลื่อนไหวของพวกเขาด้วยดวงตาที่หรี่แคบและชั่วร้ายของมัน

วิญญาณเหล็กของเฮย์เนคตัดผิวหนังของมัน พายุของแชจูชึลเจาะลงเข้าไปในดวงตาของมัน องค์ประกอบธาตุของเรเชลและสุนทรพจน์วิญญาณของไอลีนรวมกันเพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตที่เหมือนมังกรที่วางอยู่เหนือคอของมัน ดาบของแชนายอนพุ่งตรงไปที่ร่างขนาดมหึมาและเฉือนเข้าที่หน้าอกของมัน

 

อย่างไรก็ตาม บาอัลไม่ได้ตอบสนอง มันรู้ว่าความพยายามใด ๆ ในการตอบโต้จะถูกทำลายด้วยดาบของคิมซูโฮ เขามุ่งเน้นที่การทำให้จิตใจสงบลงเพื่อหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองพลังงาน

บาอัลก็ยังคิดต่อไป บางทีมันก็หมดหวัง บาอัลตรากตรำเหมือนมนุษย์เพื่อค้นหาคำตอบ ในตัวมันเองก็น่าอับอายมากพอ แต่ก็ต้องขอบคุณสิ่งนั้น มันจึงสามารถมาถึงคำตอบที่สมเหตุสมผลได้ในไม่ช้า

 

สาเหตุที่แท้จริงคือมันกำลังตัดทอนกำลังของการยับยั้งของโลก เพื่อที่มันจะได้จุติลงมา มันได้แยกพื้นที่ภายในปราการออกจากแรงยับยั้งของโลก นั่นก็ส่งผลกระทบต่อคิมซูโฮทำให้เขาสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดไปได้

สิ่งนี้เป็นไปได้เพียงเพราะคิมซูโฮเป็นฮีโร่ที่มีอำนาจและเพราะเขาเป็น ‘ตัวละครหลัก’

 

– …

 

ที่เหลืออยู่คือความเงียบท่ามกลางการโจมตี บาอัลทำเพียงค้นหาคนเพียงคนเดียว – คิมฮาจิน

มนุษย์โง่ได้ปฏิเสธข้อเสนอที่มันเสนอให้ แต่มันก็มั่นใจว่าโลกนี้จะจบลงได้ถ้าคิมฮาจินไม่ตาย และเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้นบาอัลก็จะตายเช่นกัน

 

-แกอยู่ที่ไหน….

 

บาอัลหาเขาไม่พบ

มีความเป็นไปได้มากว่า มันจะไม่สามารถหาเขาเจอได้ตลอดกาล นั่นเป็นเพราะคิมฮาจินซ่อนตัวอยู่ในรอยแตกของปราการ

 

– … .Hah?

 

ในขณะนั้น บาอัลส่งเสียงร้องสั้น ๆ Chwaaaack – มันได้ยินอะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจของมันเต้นแรง ดาบยักษ์บุกทะลวงร่างที่แท้จริงของบาอัล

บาอัลจ้องมองดาบที่แทงผิวหนังของมัน และผู้หญิงคนนั้นถือดาบเล่มนี้

 

“Uhahaha เป็นไงบ้าง เจ็บปวดใช่มั้ย?”

 

มนุษย์ต่ำต้อย นักดาบหญิงชื่อแชนายอนกำลังมองเขาด้วยรอยยิ้ม จิตใจของบาอัลหลุดเข้าไปในความโกรธแค้น

 

-…ข้ายอมรับ. ข้าไม่สามารถเอาชนะพวกแกได้ทั้งหมด

 

บาอัลพึมพำด้วยความโกรธอย่างเย็นชา แม้ว่าคำประกาศนี้น่าขายหน้า แต่มันก็ยังมีวิธีเหลืออยู่

 

– แต่แกลืมไป?

 

หากปราการของมันกำลังสร้างเวทีให้กับคิมซูโฮ สิ่งที่มันต้องทำก็เพียงแค่ทำลายมันลงไป แม้ว่ามันจะไม่สามารถรักษาร่างกายที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้ได้ แต่โลกก็ยังมีปีศาจและปีศาจภายใต้การปกครองของมันหลงเหลืออยู่

การยอมรับความช่วยเหลือไม่ใช่สิ่งที่น่ายินดี แต่บาอัลรู้ว่ามันไม่ได้สนใจในความภาคภูมิใจของตัวเอง ลูกน้องของมันจะทำลายโลกเพื่อมัน

 

– ข้าอาจจะตาย แต่ข้าเป็นเทพเจ้าแห่งความชั่วร้ายที่ไม่สามารถทำลายได้

 

บาอัลจ้องมองเข้าไปที่ดวงตาที่ไม่สั่นไหวของคิมซูโฮและประกาศความตั้งใจที่จะทำลายปราการแห่งนี้

ผู้เขียนนวนิยายอาจอธิบายถึงการเคลื่อนไหวนี้ว่า ‘ทำลายตนเอง’

แม้แต่อำนาจของคิมซูโฮก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมันที่พยายามจุดชนวนให้ทำลายปราการ

บาอัลทำลายร่างกายของมันเองด้วยความเชื่อ

 

… ไม่สิ

มันพยายามทำลายตัวเอง