อันที่จริงแล้วนี่ก็ช่วงเวลาเหมาะสมที่ชิงสุ่ยจะนำตราประทับซวนเทียนออกมาทดสอบ เขาเองก็ไม่แน่ใจถึงผลลัพธ์ของมัน แต่ถ้าหากเกิดอะไรผิดพลาด เขาก็พร้อมที่จะนำเอาภูเขา 9 เทวาออกมาใช้งาน
เมื่อพูดถึงภูเขา9 เทวา นับตั้งแต่ที่มันทะยานขึ้นสู่ระดับขั้นที่ 3 พัฒนาการของมันก็เริ่มเชื่องช้าจนกระทั่งเวลาดำเนินผ่านมานานหลายปี ในที่สุดมันก็บรรลุในระดับพลังขั้นที่ 6
ดินแดนของภูเขา9 เทวามีความสัมพันธ์โดยตรงกับความแข็งแกร่งของชิงสุ่ย ด้วยความแข็งแกร่งรวมของมันจะเป็น 3 เท่าของพลังกายชิงสุ่ย แม้ว่ามันจะอยู่ในระดับที่ 6 แล้วก็ตาม ชิงสุ่ยก็ยังไม่พึงพอใจ
ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของชิงสุ่ยมีค่าเกือบ4 ล้านเต๋า ฉะนั้นความแข็งแกร่งของภูเขา 9 เทวาจึงมีค่าเทียบเท่ากับ 12 ล้านเต๋า ไม่เพียงเท่านี้ ลักษณะภายนอกของภูเขา 9 เทวายังมีพลังเปรียบเสมือนโลปราการยักษ์ทับซ้อนกันหลายชั้น ขอให้เป็นตัวของผู้นำเทวะสูงสุดเอง ก็ไม่มีทางโจมตีทะลวงผ่านโล่ปีศาจชิ้นนี้ไปได้
และเขาจะต้องเจอกับหายนะหากต้องเผชิญหน้ากับมัน
นี่คงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ว่าทำไมชิงสุ่ยถึงได้มั่นใจและกล้าเผชิญหน้ากับผู้นำเทวะสูงสุด
ชิงสุ่ยชื่นชอบเวลาที่ต้องต่อสู้เพราะมันจะช่วยสร้างความมีเสถียรภาพในพลังของตน โดยที่เขาเองก็ไม่ต้องการเปิดเผยแพร่หลายมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงใช้พลังในระดับที่ศัตรูจะไม่มีวันรู้ตัว ตัวอย่างเช่นภูเขา 9 เทวา จริงๆแล้วถ้าหากเขาเปิดใช้งานมัน ระดับพลังของภูเขาเก้าเทวดาก็รุนแรงมากพอจะผลักดันพลังโจมตีคืนสู่ผู้นำเทวะสูงสุด แต่ท้ายที่สุดแล้วพลังของคู่ต่อสู้ก็ยังคงเหนือกว่าภูเขา 9เทวา ฉะนั้นพลังของภูเขา 9 เทวาจึงเหมาะสมต่อการใช้เป็นรูปแบบรูปโล่ห์ปราการสะท้อนกลับ ซึ่งอาการบาดเจ็บของศัตรูจะขึ้นอยู่กับว่าคู่ต่อสู้นั้นควบคุมพลังได้มากน้อยเพียงใด
ตราประทับซวนเทียนระดมยิงฝูงวิญญาณเพลิงส่งผลให้พวกมันสลายหายไปในพริบตา ชิงสุ่ยรู้สึกยินดีที่ได้เห็นภาพที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าตราประทับซวนเทียนแต่ยังคงเป็นทักษะประหลาดที่โดดเด่น
ในขณะเดียวกันผู้นำเทวะสูงสุดก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นวิญญาณเพลิงของเขาถูกทำลาย เขาวิ่งก็ดีอีกครั้งและพุ่งเข้าหาชิงสุ่ย ดูเหมือนว่ามันกำลังจะกลายเป็นการต่อสู้ระยะประชิด
โฮกกกก!!
ผู้นำเทวะสูงสุดตะโกนด้วยเสียงสั้นๆจากนั้นร่างกายของเขาก็เริ่มแปรเปลี่ยนขยายขึ้นไปอีกครึ่งเมตร ทั้งด้านกว้างและความหนาของร่างกายล้วนขยายใหญ่ขึ้นพร้อมกับสีผิวที่เปลี่ยนไปเป็นสีดำเหมือนลิงดำ ราชาวิญญาณวชิระ!!
”โอ้ที่แท้เจ้าก็เป็นราชาวิญญาณวชิระนี่เอง!!!” ภาพรายละเอียดรวมถึงทักษะของราชาวิญญาณวชิระปรากฏขึ้นภายในทะเลแห่งปัญญา ความรู้ทั้งหมดเหล่านี้ส่งตรงมาจากง้าวทองทะลวงศัตรูที่พุ่งทะลวงผ่านจิตใจของเขา
ชิงสุ่ยอยากขอบคุณเทพสงครามทองคำที่มอบมรดกให้กับเขาข้อมูลที่เขาได้รับรู้ทั้งหมดล้วนเป็นข้อมูลที่สำคัญ ซึ่งมันทำให้เขารู้ว่าราชาวิญญาณวชิระเชี่ยวชาญทางด้านใด
”ผู้สืบทอดเทพแห่งสงครามทองคำในที่สุดเราก็ได้มาเจอกันอีกครั้ง วันนี้ทุกอย่างจะต้องจบสิ้น!!” ชายร่างยักษ์ร่างกายสีดำตระกูลเสียงหนักแน่นไม่ต่างอะไรจากเสียงฟ้าผ่า
จากข้อมูลทั้งหมดชิงสุ่ยตีความได้ทันทีว่าร่างกายของชายคนนี้ไม่มีทางทำรายได้ง่ายๆเพราะมันทำขึ้นจากเพชร…..นอกจากนี้ร่างกายของมันยังอุดมไปด้วยพิษที่แตกต่างนานา จนทำให้ร่างกายกลายเป็นแหล่งกักเก็บพิษ
ดวงตาของหญิงสาวทอประกายสดใสขณะฟังเสียงของผู้นำเทวะสูงสุดแต่เธอก็ยังคงนิ่งเงียบๆและมองชิงสุ่ยด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
นอกจากนี้เธอยังรู้อีกว่าผู้สืบทอดเทพสงครามก็เหมือนกับราชาปีศาจและราชาวิญญาณย้อนกลับไปในครั้งอดีตกาล มันเคยมีการต่อสู้ระหว่างเทพสงครามและราชาปีศาจกับราชาวิญญาณ จากนั้นพวกเขาก็ส่งต่อศึกสงครามเหล่านี้ให้กับมนุษย์รุ่นถัดไป แน่นอนว่าทางฝั่งของราชาปีศาจและราชาวิญญาณล้วนกำเนิดขึ้นมาจากผู้คนที่โหดร้าย พวกเขาจึงเน้นไปทางด้านการสังหารหมู่ผู้คน แน่นอนว่าเทพสงครามมีภารกิจสำคัญคือการหยุดยั้งการสังหารหมู่มวลมนุษย์ มันจึงทำให้ทั้งสองกลุ่มกลายเป็นศัตรูกันโดยปริยาย
”วันนี้ต่อให้เจ้าไม่ต้องการหยุดสงครามของพวกเรา ข้าก็จะเป็นคนทำมันเอง”ชิงสุ่ยกล่าวตอบ
”เจ้าหนูน้อยข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ออกมา”
”จะไร้สาระหรือไม่ไร้สาระเดี๋ยวเจ้าก็จะรู้เอง”ชิงสุ่ยปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรง
”เดี๋ยวข้าจะแสดงความต่างชั้นระหว่างเจ้าของข้า”
ทันทีที่ผู้นำเทวะสูงสุดกล่าวจบร่างของเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างน่าเกลียด ถึงแม้จะเป็นความแข็งกระด้างแต่ก็อัดแน่นไปด้วยความแข็งแกร่ง มือทั้งสองของเขาสะบัดกระบี่เพื่อปลดปล่อยพายุไต้ฝุ่น
ทางด้านของชิงสุ่ยเขาสัมผัสได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นจากตัวผู้นำเทวะสูงสุด มันเป็นระดับพลังที่เกือบจะเท่าเดิม มันยิ่งทำให้ชิงสุ่ยไม่อยากจินตนาการเลยว่าความแข็งแกร่งที่ควรจะเป็นตอนนี้มันจะอยู่ในระดับใด หากปราศจากพลังปราณจักรพรรดิและวิธีลดทางอื่นๆ มีความเป็นไปได้สูงมากที่ผู้นำเทวะสูงสุดจะมีพลังมากกว่า 20 ล้านเต๋า
ความเร็วของผู้นำเทวะสูงสุดก็เพิ่มพูนขึ้นเช่นกันชิงสุ่ยไม่อาจประมาทได้อีกต่อไปแล้ว เขาปลดปล่อยพลังสูงสุด จากนั้นก็ฟาดฟันง้าวทองทะลวงศัตรูออกไปด้วยทักษะ9รากฐานบรรพกาลศึก
ปังงงงง!!
เสียงปะทะดังสนั่นส่งผลให้ชิงสุ่ยถูกอัดกระแทกอย่างจัง ในขณะที่เขากำลังถูกโจมตี เขาก็ผลักหญิงสาวให้พ้นจากการโจมตีของผู้นำเทวะสูงสุดเช่นกัน
โชคดีที่พลังป้องกันของชิงสุ่ยยังคงอยู่เหนือศัตรูมันทำให้เขาถูกอัดกระแทกแต่ไม่เกิดความเสียหาย มันไม่ต่างจากมีตัวใหญ่ที่พุ่งชนต้นไม้ยักษ์ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาต้องยอมรับคือศัตรูที่เขากำลังเผชิญหน้าแข็งแกร่งกว่าเขาจริงๆ
ผู้นำเทวะสูงสุดยังคงปลดปล่อยพลังราวกับพายุที่ไม่มีวันจบเขาเหวี่ยงกระบี่ที่อยู่ในมือทั้งสองข้างอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งการเคลื่อนไหวของเขากลายเป็นภาพค้างติดตา
ชิงสุ่ยไม่เคยคิดเลยว่าผู้นำเทวะสูงสุดจะสามารถกู้คืนความเร็วในระดับนี้ได้ตัวของเขาสามารถต้านทานพลังในระดับหนึ่ง แต่เขาก็ต้องดูแลและคอยป้องกันหญิงสาวให้รอดพ้นจากภัยอันตรายไปด้วย เพราะสุดท้ายเขายังคงต้องพึ่งพาเธอในการเอาชนะราชาวิญญาณวชิระ
อดีตผู้นำสูงสุดแม่นางตงฟ่างยังคงถือมีดมังกรพิษเอาไว้ในมือตอนนี้เธอเองกำลังถูกป้องกันโดยชิงสุ่ย เขากำลังดึงตัวเธอหลบไปหลบมา บางครั้งก็ถูกอัดกระแทกปลิวไปพร้อมกับชิงสุ่ย พลังของผู้นำเทวะสูงสุดตามฉันจนเกินไป นอกจากนี้ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าเพชร เธอจึงได้แต่สงสัยว่ามีที่อยู่ในมือจะมีพลังมากพอจะตัดผ่านร่างที่แข็งแกร่งเป็นเพชรได้จริงๆหรือ
และหากเธอไม่สามารถตัดผ่านร่างของศัตรูได้มีดมังกรพิษก็จะกลายเป็นเพียงมีดไร้ประโยชน์ เถาวัลย์อสูรกระหายเลือด!!
ชิงสุ่ยปลดปล่อยเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดเพื่อตรึงร่างของศัตรูตอนแรกเขาวางแผนจะใช้ยาพิษของเขาเอง แต่เขารู้ดีว่าถ้าหากเขาไม่สามารถฉีกร่างของศัตรูได้ พิษก็จะไม่ได้ผล
ราชาวิญญาณวชิระร่างกายค่อยๆถูกห่อหุ้มไปด้วยเถาวัลย์อสูรกระหายเลือด!!
ชิงสุ่ยค่อนข้างมีความสุขที่เถาวัลย์อสูรกระหายเลือดของเขาได้ผล แต่ละเส้นของเถาวัลย์มีความหนาเท่ากับตัวช้าง และมีหนามแหลมคมทิ่มแทงร่างกายของราชาวิญญาณวชิระ!!
โฮกกกก!!
ผู้นำเทวะสูงสุดส่งเสียงเห่าหอนเหมือนเสียงคำรามของสัตว์ป่าดูเหมือนเขาจะไม่สามารถสลัดเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดออกจากร่างกายของตนได้ แรงยึดเหนี่ยวที่อยู่ภายในเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดแข็งแกร่งไม่ต่างจากระดับพลังปัจจุบันของผู้นำเทวะสูงสุดเลย
”หยุดดิ้นรนเสียเถิดเจ้าไม่มีทางสลัดมันพ้น!!”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ
”อย่าคิดดีใจเร็วเกินไป!!”
ทันทีที่ผู้นำเทวะสูงสุดกล่าวจบร่างกายของเขาก็หายไปจากพันธนาการของเถาวัลย์อสูรกระหายเลือด