หลิน ชูจิ่ว เพิ่งจะได้ใช้ประโยชน์จากการหายตัวไปของเสี่ยวเทียนเหยา เธอออกไปข้างนอกเพื่อดูรอบ ๆ แต่เธอก็ได้พบเหตุการณ์สำคัญโดยไม่คาดคิด

20 ปีที่แล้วลูกศิษย์อัจฉริยะผู้ที่ได้หลบหนีจากการทำบาปกรรมของเขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นและกล่าวหาว่าหมอเทวดาโม่ ได้วางแผนใส่ร้ายเขา พยายามฆ่าเขาและยังพาภรรยาของเขาไป

       ลูกศิษย์อัจฉริยะของหมอเทวดาโม่คนนี้เป็นชายชราที่มีผมสีเงิน เขาไม่เพียงแต่ร้องเรียนในศาลยุติธรรมเท่านั้น แต่เขายังเขียนจดหมายด้วยกระดาษแผ่นใหญ่ด้วยเลือด ผู้เข้าชมทั้งหมดสามารถมองเห็นได้ชัดเจน

       ศาลยุติธรรมอยู่ในย่านใจกลางเมือง มีคนไม่มากที่เข้าและออกในช่วงเวลาสงบเช่นนี้ อย่างไรก็ตามในวันนี้ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มีคนจำนวนมากผ่านไปมา ในไม่ช้าชายชราผมเงินก็ถูกรายล้อมไปด้วยผู้คน มีหลายคนที่อยู่ข้างหน้าที่ค่อยจะชี้นิ้วไปที่นั่นบ้าง ที่นี่บ้าง

       ผู้เข้าชมส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดา พวกเขาไม่รู้หนังสือ ดังนั้นพวกเขาจึงถามผู้คนรอบตัวพวกเขาเกี่ยวกับจดหมายฉบับใหญ่ คนที่มีความรู้บางคนช่วยอ่านให้พวกเขาฟัง แต่ …

“เจ้าช่วยอ่านให้มันฟังดูธรรมดาหน่อยได้ไหม ข้าไม่เข้าใจ” ผู้ที่ไม่รู้หนังสือไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูด

“ชายชราผู้นี้พูดว่าคนที่ฆ่าผู้อาวุโสของสำนักเหวินชางเมื่อ 20 ปีที่แล้วไม่ใช่เขา 20 ปีที่แล้วผู้อาวุโสของสำนักเหวินชาง ป่วยหนักและขอให้หมอเทวดาโม่ไปรักษาเขา เขาและหมอเทวดาโม่ไปที่ตระกูลเมิ่ง หลังจากวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยแล้ว พวกเขาทั้งสองก็มีมุมมองที่ต่างกันเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาจะรักษาต่อผู้อาวุโสเมิ่ง เขาเสนอวิธีการรักษาอย่างช้า ๆ เพื่อคืนพลังให้กับผู้อาวุโสเมิ่ง ในขณะที่หมอเทวดาโม่ เสนอให้ใช้อีกวิธีหนึ่ง เพื่อกระตุ้นพลังของ ผู้อาวุโสเมิ่งอย่างรวดเร็ว”

“ข้อถกเถียงระหว่างอาจารย์และศิษย์ไม่ได้สิ้นสุดลงที่นั่น เพื่อพิสูจน์ว่าวิธีการของเขาเป็นไปได้ ชายชราก็ขอให้หมอเทวดาโม่รอเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงไปที่อาณาจักรกลางเพื่อค้นหายารักษาโรค แต่เขาบังเอิญพบจิตวิญญาณมังกร เขาไม่สามารถรอที่จะนำมันกลับมาโดยเร็วที่สุด แต่เมื่อเขามาถึงผู้อาวุโสเมิ่งก็ตายไปแล้วและข่าวลือบอกว่าผู้อาวุโสเมิ่งเสียชีวิตในมือของเขาและเขาก็หนีไปเพราะบาปนี้”

“ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่เชื่อ เขาไม่กล้าที่จะไปพบหมอเทวดาโม่ เขากลับบ้านเพื่อถามภรรยาของเขาเผื่อว่านางจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาไม่รู้ว่าภรรยาของเขาและหมอเทวดาโม่ได้สมรู้ร่วมคิดกันแล้ว ภรรยาของเขาแอบวางยาเขาและบอกหมดเทวดาโม่ถึงการมาถึงของเขา”

“หมอเทวดาโม่ไม่เพียงแต่เอาจิตวิญญาณมังกรของเขาไปเท่านั้น แต่ยังโยนเขาเข้าไปในฝูงหมาป่า หากเขาไม่ได้นำยาช่วยชีวิตที่เขาซื้อมาจากในอาณาจักรกลางเขาก็คงจะต้องตายภายใต้ปากของหมาป่าเหล่านั้นไปแล้ว แต่ในที่สุดแล้ว เขาก็ยังคงกลายเป็นขยะ”

       หลังจากคำอธิบายของบัณฑิต ชายชราก็ยกกางเกงของเขาขึ้นและเผยให้เห็นขาของเขาที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง

       ในเวลาต่อมาผู้ชมต่างก็เข้าใจว่าต้นขาของชายชราถูกทำลาย เขาใช้ไม้เนื้อแข็งสองชิ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นขาของเขา เมื่อชายชรานำไม้เนื้อแข็งทั้งสองออกมา เขาก็ดูเหมือนท่อนไม้ที่นั่งอยู่บนรถเข็น

       ผู้คนมักจะเห็นอกเห็นใจผู้ที่อ่อนแอ และเมื่อมีอายุมากขึ้น พวกเขาก็ยิงจะเห็นอกเห็นใจมากขึ้น ดังนั้นทุกคนจึงเชื่อคำพูดของชายชราทันที

       นอกเหนือจากหนังสือเลือดของเขาแล้ว ชายชราก็หยิบเอาหนังสือเลือดออกมาอีกฉบับหนึ่ง ตัวอักษรเลือดนี้เป็นเลือดสีดำจะเห็นได้ว่ามันถูกเขียนมานานแล้ว

       จดหมายเลือดฉบับนี้ ไม่ได้พูดถึงความบริสุทธิ์ของเขา แต่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายของหมอเทวดาโม่ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

       ศึกษาร่างกายมนุษย์จากบุคคลที่มีชีวิตอยู่ ทดสอบยากับคนที่มีชีวิตอยู่ การใช้เลือดของมนุษย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของยา การฉกฉวยผลงานของลูกศิษย์……ความชั่วร้ายเรียงรายจากหนึ่งไปเรื่อยๆ ถูกเขียนขึ้น แต่มันยากที่จะอ่านมาก

       ทุก ๆ ปี คนธรรมดานับไม่ถ้วนเสียชีวิตภายใต้เนื้อมือของหมอเทวดาโม่ หมอเทวดาโม่ จะรักษาผู้ที่สามารถจ่ายค่ารักษาได้เท่านั้น บางครั้งเขาจะรักษาคนธรรมดา แต่เพียงเพื่อทดลองใช้ยาที่คิดค้นขึ้นใหม่ของเขาเท่านั้น ..