บทที่ 651 คุณตายแน

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

เมื่อตระหนักรู้ถึงความร้ายกาจของเย่เทียน ปาซ่งก็บีบขวดยาในกระเป๋ากางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไม่ถึงวินาทีสุดท้าย เขาก็ไม่อยากใช้ไพ่ตายใบสุดท้าย

เขาไม่ได้โง่ เขารู้ดีว่าเย่เทียนไม่ได้ลงมือในทันที ทั้งหมดก็เพราะกังวลเรื่องความเป็นความตายของตัวเอง

ยังไง เขาก็เป็นถึงระดับดำ ถึงจะสู้ตายแต่ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่าย!

ปาซ่งยิ่งเข้าใจด้วยว่า ถ้าเขาต้องการเอาชนะเย่เทียน เว้นซะแต่ว่าเขาต้องใช้ไพ่ตายใบสุดท้ายของเขา

แต่ พอนึกถึงผลข้างเคียงที่ตามมาจากการใช้ไพ่ใบนี้ เขาก็ไม่กล้าที่จะประมาทใช้ง่ายๆ

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ถ้าหากยังยืดเยื้อแบบนี้ต่อไป รอพลังกาย และกำลังภายในถดถอย เกรงว่าคิดจะหนีก็คงจะยากแล้ว!

“เจ้าหนุ่มน้อย นายไม่ต้องได้ใจ วันนี้ฉันร่วมสนุกกับนายแค่นี้ ช้าเร็วฉันจะให้นายตายอย่างไร้ที่ฝังแน่ ! ”

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ปาซ่งสีหน้าเคร่งขรึมตะโกนบอกไปทางเย่เทียนเย่เทียน แล้วขยับเท้าพยายามทำท่าจะหลบหนี

“อยากไปเหรอ? ฝันไปเถอะ!”

เมื่อเห็นปาซ่งมีใจคิดที่จะล่าถอย ดวงตาสีเข้มของเย่เทียนฉายแสงอันเยือกเย็น และในชั่วพริบตาเขาก็มาอยู่ตรงหน้าของ ปาซ่ง ฟาดขาที่ดุเดือดเตะไปที่อกของปาซ่ง อย่างแรง

สีหน้าปาซ่งตกตะลึง และเขาก็กระแทกหมัดออกไปอย่างแรงตามอำเภอใจ

บูม!

หมัดและเท้าปะทะกัน ปาซ่งก็ขยับไปด้านข้าง บังคับฝืนร่างกายให้ยืนมั่นคง แต่อาการชาและความเจ็บปวดที่แขนของเขาบอกเขาอย่างไม่ต้องสงสัยว่า การไล่ล่าก่อนหน้านี้ได้ใช้พลังร่างกายและกำลังภายในมากเกินไป ขณะนี้เขาเผชิญหน้ากับเย่เทียนอีกครั้ง เขามีความรู้สึกว่าไม่สามารถที่จะรับมือไหว! แต่ ปาซ่งไม่มีความคิดที่จะหลบหนีในทันที และตอนนี้ในที่สุดเย่เทียนก็ยอมที่จะเผชิญหน้ากับเขา ขอเพียงแค่มีโอกาส ใครจะตายในน้ำมือใครก็ยังไม่แน่!

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เย่เทียนรักษาตำแหน่งประตูไว้อย่างมั่นคง ถึงแม้ปาซ่ง ต้องการจะหลบหนีเขาก็ต้องบังคับให้เย่เทียนออกไปก่อน!

พรึ่บ!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ปาซ่งจึงเริ่มโจมตี จู่ๆ ทันใดนั้นก็กระโดดขึ้นไปกลางอากาศและพุ่งเข้าหาเย่เทียน

มุมปากของเย่เทียนเผยรอยยิ้มที่ดูถูก แต่ณ.เวลานี้เขาก็ไม่ต้องการสิ้นเปลืองกับปาซ่งแบบนี้ต่อไป

ในเมื่อ ความเคลื่อนไหวระหว่างทั้งสองคนนั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก เกรงว่าคงจะรบกวนคนอื่นๆนานแล้ว บางทีคนในบาร์อาจจะเริ่มสอบสวนแล้วก็ได้ และหากยังคงพัวพันยืดเยื้อแบบนี้ต่อไป ต้องถูกคนค้นพบอย่างแน่นอน !

“ไอ้หนอนไร้ฝีมือ!”

เย่เทียนตะโกนเสียงดัง เหยียดมือทั้งคู่ออกราวกับสายฟ้า รับขาสองข้างของปาซ่ง อย่างแม่นยำ

เดิมทีปาซ่งผู้ซึ่งเตะไปทางเย่เทียน ตะโกนคำว่าแย่แล้วในใจ เมื่อเขาคิดอยากทำอะไรสักอย่าง แต่ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว!

เห็นเพียงเย่เทียนร่างที่ผอมบางทันใดนั้นมือทั้งสองระเบิดพลังที่ทรงพลังคว้าขาของปาซ่งทุบลงไปที่พื้นอย่างแรง

ปาซ่งตกใจจนหน้าซีด รีบเอามือกุมศีรษะไว้ แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมของการถูกฟาดลงกับพื้นได้

บูม!

มีเสียงดังกึกก้อง และแผ่นหลังของปาซ่งกระแทกกับพื้นคอนกรีตแข็งอย่างแรง อดไม่ได้ที่จะร้องเสียงลั่นและกระอักเลือดออกมาเต็มปากด้วยความเจ็บปวด

รอยยิ้มประชดประชันปรากฏขึ้นที่มุมปากของเย่เทียน และเขากล่าวว่า “ปาซ่ง คุณก็ยอมรับชะตากรรมเถอะ! พรุ่งนี้ของวันนี้ถูกกำหนดแล้วว่าเป็นวันตายของนาย!”

“ถุ้ย!”

ปาซ่งลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว และถ่มน้ำลายเลือดลงที่ด้านข้าง รู้ว่าถ้าเขาไม่ใช้ไพ่ตายใบสุดท้าย เกรงว่าชั่วชีวิตนี้เขาคงไม่มีโอกาสได้ใช้แล้ว และคำรามใส่เย่เทียนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ไอ้สารเลว นี่เป็นเพราะนายบังคับฉันทำเช่นนี้ แม้ว่าต่อไปจะกลายเป็นคนพิการ วันนี้ฉันก็จะต้องฆ่านายให้ตาย!”

พูดจบ ปาซ่งก็รีบหยิบขวดยาออกจากกระเป๋าและฉีดตรงไปที่ต้นขาของเขา

“นี่มันอะไรกัน?”

เย่เทียนตกตะลึง มองไปที่ปาซ่งด้วยสีหน้าสงสัย แทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาฉีดยาอะไรลงไป และมีผลอะไรบ้าง

“ว้าก!”

ใช้เวลาไม่นาน ตาของปาซ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขาคำรามเหมือนสัตว์ร้าย ร่างกายที่แข็งแกรงอยู่แล้ว กลายเป็นขยายใหญ่ขึ้นสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทำให้เสื้อของเขาฉีกขาดละเอียด!

“แม่ง นี่ยาบ้าบออะไรกัน?”

สีหน้าของเย่เทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก สถานการณ์นี้เกินจริงไปแล้วมั้ง?

แทบไม่ให้เวลาเย่เทียนคิดนาน ปาซ่งราวกับหมาป่าพุ่งไปทางเย่เทียนเ หมัดเหล็กคู่หนึ่งดูเหมือนจะสามารถเจาะความว่างเปล่า ทำให้เกิดเสียงหวีดหวิว กระแทกไปที่ใบหน้าของเย่เทีบนอย่างไร้ความปราณี

เย่เทียนตั้งสติตอบโต้อย่างรวดเร็ว แต่แทนที่จะถอย กลับก้าวไปข้างหน้า คงความระมัดระวังไว้เป็นแสนๆเท่าเพื่อเดินหน้ารับมือปาซ่ง

ทั้งสองปะทะต่อสู้กันอีกครั้ง แต่คราวนี้สถานการณ์เกินความคาดหมายของเย่เทียน

แต่ปาซ่งเพิกเฉยต่อหมัดของเย่เทียนอย่างสิ้นเชิง ปล่อยให้เย่เทียนต่อยหมัดที่ตัวเขา แต่แค่คันๆ แทบไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย!

แต่เย่เทียนในทางกลับกัน ภายใต้หมัดหนักของปาซ่งรู้สึกเหมือนถูกรถบรรทุกใหญ่ชนทับ ทำให้ร่างของเขาก็ถอยหลังไปสองสามก้าวโดยควบคุมไม่ได้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะเย่เทียนไหวตัวทัน เอากลยุทธ์ระดับดินออกมาใช้ในนาทีสุดท้าย แม้ว่าคราวนี้จะไม่ตาย ก็คงจะบาดเจ็บสาหัสล้มลงกับพื้นแน่นอน!

“นี่เป็นไปได้ยังไง?”

สีหน้าของเย่เทียนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า นี่เวลาผ่านไปไม่เท่าไหร่ ปาซ่งก็กลายเป็นคนที่เก่งกาจขนาดนี้แล้ว

สีหน้าของเย่เทียนเคร่งขรึม ปาซ่งไม่เพียงแต่มีวิธีการต่อสู้โจมตี แม้แต่ความเร็ว และพลังก็แข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า เห็นได้ชัดว่าเป็นผลจากการฉีดยาเมื่อกี้นี้!

คิดอยู่ในใจ ปฏิกิริยาของเย่เทียนก็ไม่ได้ช้า เมื่อเห็นว่าฝ่าเท้าที่เตะมาของปาซ่งราวกับจะทำให้ตายอย่างไร้ผู้สืบสกุลเตะเขารีบขยับฝีเท้า แล้วถอยหลังหลบไป

“ยังคิดจะหลบเหรอ? ฉันจะดูว่านายจะหลบได้นานแค่ไหน!”

ปาซ่งหึอย่างเย็นชา ร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาราวกับเนินเขา ถีบแล้วพุ่งเข้าหาเย่เทียนด้วยหมัดที่ดุร้าย และมุ่งฆ่าเย่เทียนอย่างรุนแรง

เย่เทียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่เขาไม่กล้าที่จะรับมือโดยตรง ในตอนนี้เขาไม่สนเรื่องความน่าละอายเลย และกลิ้งไปที่พื้นเพื่อหลบเลี่ยง

“อ้าก!”

เพียงแต่ก่อนที่เย่เทียนจะลุกขึ้นยืน ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัวสองเสียงดังออกมาจากห้องวีไอพี!

ที่แท้ตำแหน่งที่เย่เทียนยืนอยู่เมื่อกี้นี้ บังเอิญอยู่ต่อหน้าหญิงเด็กดริ้งสองคนที่ดื่มไวน์อยู่ ก่อนหน้านี้มีเย่เทียนขวางอยู่ก็ไม่มีอะไร แต่ตอนนี้เย่เทียนหลีกเลี่ยงแล้ว และสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของพวกเธอก็คือปาซ่งผู้อาฆาต!

บูม!

ปาซ่งไม่มีความคิดที่จะรามือ และชกไปที่ศีรษะของเด็กดริ้งจนสมองทะลุ สมองและเลือดสีแดงสดสาดบนใบหน้าของเขา ยิ่งเพิ่มความน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น!

“กรี้ด!”

สิ่งนี้ทำให้เด็กดริ้งที่เหลือกรีดร้องด้วยความสยดสยองอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่สามารถระงับความกลัวอันใหญ่หลวงที่ผุดขึ้นในใจ

“หนวกหูจะตาย!”

ปาซ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย ขยับมือใหญ่อีกครั้ง และผลักเด็กดริ้งปลิวออกไปโดยตรง แล้วกระแทกผนังด้านข้างอย่างแรง มองดูอาการที่หายใจออกมากกว่าหายใจเข้า เห็นได้ชัดว่าคงไม่รอดแน่!

“ถ้าวันนี้ฉันจัดการนายไม่ได้ กูจะไม่ใช้นามสกุลเย่!”

ดวงตาของเย่เทียนราวกับเสือและจ้องเขม็งอย่างโกรธจัด เขาคิดไม่ถึงว่าปาซ่ง จะโหดร้ายขนาดนี้ ณ ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว

คัมภีร์หวงในร่างกายใช้ความเร็วเต็มที่หมุนเวียนไปรอบๆ รัศมีทั้งร่างกายระเบิดออกอย่างสมบูรณ์!

รู้สึกได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ออกมาจากร่างกายของเย่เทียน ปาซ่งอดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึกๆ และพูดด้วยเสียงสั่น “นาย นายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับดินเหรอ?”

เย่เทียนยิ้มอย่างเย็นชา “ถือว่านายยังตาถึงอยู่บ้าง!”

หลังจากได้คำตอบที่แน่ชัด สีหน้าของปาซ่งก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าเย่เทียนอายุยังน้อย จะสามารถไปถึงจุดสูงสุด ที่คนหลายคนไม่สามารถทำได้ในตลอดชีวิตนี้..