แดนนิรมิตเทพ บทที่ 1024
เฉินกั๋วจงพบว่าตัวเองพลั้งปากพูด จึงรีบพูดว่า “น้องรองไม่จำเป็นต้องกังวล ตอนนี้ตงซุ่นเป็นหัวหน้าระดับมณฑลแล้วไม่ใช่เหรอ แค่ขยันอีกหน่อย ถ้าก้าวหน้าขึ้นอีก ต่อไปต้องรับผิดชอบตระกูลเฉินได้แน่นอน!”

เฉินกั๋วเหลียงไม่พูดอะไร ตอนนี้คนเดียวในตระกูลเฉินที่พอมีความสามารถ ก็คงมีแค่พี่ใหญ่ของตระกูล แต่ตำแหน่งหัวหน้าระดับมณฑลของพี่ใหญ่ ส่วนใหญ่ก็อาศัยชื่อเสียงของเขา ถ้าวันหนึ่งเขาไม่อยู่……

เฉินกั๋วเหลียงถอนหายใจ ไม่กล้าคิดต่อ อีกทั้งเรื่องพวกนี้เขาก็พูดออกมาไม่ได้ ตระกูลเฉินตกต่ำอยู่ ถ้ามีเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นมาอีก เกรงว่าจะทำให้คนตระกูลเฉินหลายคนสูญเสียความเชื่อใจต่อตระกูล

เมื่อจิตใจคนไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตระกูลเฉินก็จะตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว

ไม่รู้ทำไมจู่ๆ เฉินกั๋วเหลียงคิดถึงลูกคนที่สามของตัวเองขึ้นมา เฉินจิงเย่ที่อยู่มณฑลฮ่านหยางแสนห่างไกล

“ไม่รู้ตอนนี้เจ้าสามเป็นยังไงบ้าง ใช่สิ ปีนี้เสี่ยวโม่ลูกของเจ้าสามน่าจะอายุ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว เขาน่าจะกลับมาร่วมงานประชุมประจำปีนี้นะ!”

“นับดูแล้วก็ไม่ได้เจอเด็กคนนั้นหลายปีแล้ว ไม่รู้ตอนนี้เด็กคนนั้นโตแค่ไหนแล้ว”

อันที่จริงไม่มีใครรู้ คนที่เฉินกั๋วเหลียงถูกใจที่สุด ไม่ใช่ลูกชายคนโตที่เป็นหัวหน้าระดับมณฑล แต่เป็นลูกชายคนที่สาม ที่พยายามด้วยตัวเอง ออกจากบ้านเกิดตัวคนเดียว ค่อยๆ ก้าวจากระดับต่ำขึ้นไป โดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากตระกูล

“แต่น่าเสียดายที่เจ้าสามนิสัยดื้อรั้น ถ้าเขาอยู่ช่วยเหลือข้างกายฉันได้ บางทีตอนนี้ตระกูลเฉินอาจดีกว่านี้ก็ได้” เฉินกั๋วเหลียงทอดถอนใจ

เฉินเข่อเอ๋อร์ยืนหน้าโต๊ะสองโต๊ะ ที่พ่อแม่เตรียมให้เธอ ข้างๆ มีเพื่อนนักเรียนที่ค่อนข้างสนิทสองสามคน มาอวยพรวันเกิดเธอ

แม้เฉินเข่อเอ๋อร์อยากฝืนยิ้มต้อนรับเพื่อนสองสามคนนี้ แต่เห็นเฉินเข่อซินที่โดดเด่นสะดุดตา ไม่ว่าจะทำยังไงเธอก็ยิ้มไม่ออก

มองพี่สาว แล้วหันมามองฝั่งตัวเอง เหมือนลูกเป็ดขี้เหร่กับหงส์ขาวในโลกความจริง

“เข่อเอ๋อร์ ทำไมงานวันเกิดเธอปีนี้ จัดพร้อมกับพี่สาวเธอล่ะ!” เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งถามเสียงเบา เห็นได้ชัดว่าเพื่อนนักเรียนคนนี้เห็นความกระอักกระอ่วนของเฉินเข่อเอ๋อร์

เฉินเข่อเอ๋อร์ยิ้มแหยอย่างเหนื่อยใจ แล้วพูดว่า “แม่ฉันเอาแต่จะจัดพร้อมกับพี่สาว ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ”

ในน้ำเสียงของเฉินเข่อเอ๋อร์ เต็มไปด้วยความน้อยใจและเหนื่อยใจ ถ้าเป็นไปได้เธอไม่มีทางจัดงานวันเกิดพร้อมกับพี่สาวหรอก

“อย่างนี้นี่เอง! ดูเหมือนคุณป้าเฉินลำเอียงนิดหน่อยนะเนี่ย!” เพื่อนนักเรียนคนนี้รู้สึกไม่ยุติธรรมแทนเฉินเข่อเอ๋อร์ จัดงานวันเกิดของเฉินเข่อเอ๋อร์กับเฉินเข่อซินพร้อมกัน ไม่เหมาะสมเลยสักนิด

เห็นชัดเลยว่าในตระกูล เฉินเข่อเอ๋อร์ไม่ได้รับความสำคัญ

ขนาดคนนอกยังมองออกว่าพ่อแม่ตัวเองลำเอียง จิตใจเฉินเข่อเอ๋อร์รับไม่ได้เข้าไปอีก

ขณะนั้นเฉินเข่อซินทักทายแขกเสร็จเรียบร้อย เดินมาทางเฉินเข่อเอ๋อร์พอดี มองเฉินเข่อเอ๋อร์ที่ยืนเหม่ออยู่ตรงนั้น ขมวดคิ้วเบาๆ แล้วเดินเข้ามา

จนเฉินเข่อซินเดินมาถึงข้างตัวแล้ว เฉินเข่อเอ๋อร์ก็ยังไม่เห็น

“เข่อเอ๋อร์ เหม่ออะไรอยู่ ทำไมไม่ทักทายเพื่อนเธอล่ะ” น้ำเสียงเฉินเข่อซินดูตำหนิเล็กน้อย

เฉินเข่อเอ๋อร์หลุดจากภวังค์ มองพี่สาวที่งดงามจนใครๆ ก็มองเห็น หันมามองตัวเองก็ยิ่งหดหู่ขึ้นไปอีก

แต่เฉินเข่อซินเข้าใจผิดเล็กน้อย เธอคิดว่าเฉินเข่อเอ๋อร์เหม่อเพราะคนคนหนึ่ง

เฉินเข่อซินพูดเสียงเบาว่า “เธอยังรอไอ้เด็กเฉินโม่อยู่อีกเหรอ อย่าโง่ไปหน่อยเลย เขาแค่ล้อเธอเล่นเท่านั้น เธอคิดว่าเขาจะมาจริงๆ เหรอ”

เฉินเข่อซินกวาดตามองห้องโถงใหญ่ ที่มีแขกผู้มีเกียรติมากันมากมายจนเต็มงาน พูดยิ้มเยาะเสียงเบาว่า “เธอดูคนที่มาวันนี้สิ ไม่ว่าใครเด็กคนนั้นก็ทำได้แค่มองดูอยู่ข้างหลัง เขาจะกล้ามาเหรอ”