ตอนที่ 330 เหวินหลวนสง

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 330 เหวินหลวนสง โดย Ink Stone_Fantasy

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเยี่ยเทียน จั่วเจียจวิ้นถึงกับยิ้มขึ้นมา พูดว่า “นายดูไม่ออกนั้นถูกแล้ว ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่าการพนันหินเหรอ”

อาศัยเทคนิคการทายกว้าที่แม่นยำ การพนันหินสำหรับจั่วเจียจวิ้นกลับไม่มีความหมายที่พูดออกมาได้ และเทคนิคการเสี่ยงทายพนันหินเป็นการทำลายข้อห้ามของคนบางคน

จั่วเจียจวิ้นเป็นอาจารย์ประเภทไหนนะ หากคุณกล้าที่จะชนะคาสิโนหลายร้อยล้าน เกรงว่าพอออกจากประตู ก็คงถูกเก็บให้ตาย จั่วเจียจวิ้นผู้รอบรู้ในการหลีกเลี่ยงความชั่ว ก็คงไม่ทำเรื่องอย่างนั้นแน่นอน

แต่การพนันหินไม่เหมือนกัน พวกนี้คือหยกชั้นดีที่มีการตั้งจิตวิญญาณแห่งสวรรค์และโลกไว้ในที่เดียว ก่อนที่จะขัดเงาออกมา ล้วนห่อหุ้มด้วยชั้นหิน หากคุณไม่ใช่เทพเซียน ก็อย่าได้คิดเพ้อเจ้อว่า จะเห็นสิ่งที่ซ่อนในหินว่าคืออะไร

ดังนั้นหลังจากการสัมผัสหินหยกดั้งเดิมครั้งแรกมานานกว่าสิบปี จั่วเจียจวิ้นก็หลงใหลการพนันหิน แต่เขาก็มีขอบเขต ภายในสิบกว่าปีหาได้เยอะแต่ก็จ่ายไปน้อย ไม่เหมือนกับนักพนันบางคนที่เล่นจนครอบครัวล่มจม

“ก้อนหินพวกนี้ก็เหมือนกัน จะดูอย่างไรว่าเป็นหยกหรือไม่”

เยี่ยเทียนก็นั่งยองๆ พร้อมกับดูหินที่ข้างเท้าสองสามก้อน ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ของเล่นอย่างนี้ยังต้องพนันกันอีกเหรอ ถ้าในก้อนหินไม่มีหยก ทุกคนไม่ใช่ขาดทุนเหรอ”

พูดความจริงก็คือ เยี่ยเทียนไม่เคยศึกษาพวกหินหยกอะไรพวกนี้เลย เขาแม้กระทั่งหยกกับมรกตก็แยกไม่ออก

แนวคิดเรื่องหยกอ่อนหยกแข็งของเยี่ยเทียนแน่นอนว่าไม่รู้ มรกตเดิมทีก็เป็นแบบนี้ เครื่องประดับมรกตชั้นดีเหล่านั้น ไม่แน่ว่าอาจจะถูกตัดมาจากหินดิบที่น่าเกลียดพวกนี้

“ศิษย์น้อง นั่นนายก็ผิดแล้ว หินดิบพวกนี้ถูกขุดจากหลุมเก่าในพม่า ในสิบก็จะมีแปดหรือเก้าที่เป็นมรกต เพียงแค่คุณภาพของมรกตไม่เหมือนกันเท่านั้น

หลังจากได้ยินคำพูดของเยี่ยเทียน จั่วเจียจวิ้นยิ้มแล้วก็ลากเยี่ยเทียนไปยังหินดิบด้านข้างที่มีน้ำหนักมากกว่า สองร้อยกิโลกรัม ชี้แล้วก็อธิบายทุกอย่างว่า “ศิษย์น้องดูสิ หินดิบก้อนนี้เคยถูกตัดออกมา ถือว่าเป็นการพนันครึ่งหนึ่ง คนที่มีประสบการณ์สามารถตัดสินคุณภาพของหยกได้จากตัดออกแล้วพิจารณาจากคุณภาพภายในได้ จากตรงนี้จะสามารถตัดสินใจได้ว่าจะซื้อหรือไม่…”

ลูกสาวกับลูกเขยกำลังเลือกหินดิบ จั่วเจียจวิ้นกลับพาเยี่ยเทียนไปเดินเล่นข้างใน ตามที่หินดิบที่มีลักษณะที่แตกต่างกัน แนะนำเยี่ยเทียนให้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการพนันหิน

การพนันหินนำมาซึ่งการพนัน ปัจจัยที่ไม่แน่นอนอาจจะมีผลใหญ่เกิดขึ้น

แต่ที่ตรงนี้ก็ได้มีการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว  ผิวของหินดิบพวกนี้ โดยทั่วไปจะมีลายเส้น หลังจากที่มีการผุกร่อนหรือรอยร้าวเรียกว่า “ลายเส้นมังกร” พวกนี้เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินคุณภาพของหินดิบว่าดีหรือไม่

แต่การพนันหินยังมีการพนันแบบทั้งหมดและการพนันแบบครึ่งหนึ่ง การพนันหินดิบ แบบทั้งหมด ก็คือหลังจากที่ขุดออกมาจะไม่มีการเฉาะออกมา นอกจากพิจารณาผิวหินด้านนอก จะไม่มีการพิจารณา ผิวด้านในของหินดิบ

อย่างไรก็ตามความเสี่ยงของการพนันทั้งหมดนั้นสูงมาก ไม่มีใครกล้ายืนยันสิ่งที่จะปรากฏในนั้น อาจจะเป็นชิ้นส่วนของหยกที่ล้ำค่า แต่หลายครั้งกลับไม่มีอะไรอยู่เลย

ส่วนการพนันครึ่งหนึ่ง ก็คือต้องให้อาจารย์ที่เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ในการตัดบางส่วนออก ถ้าพูดแบบธรรมดาคือ การพนันครึ่งหนึ่งจากหินดิบที่ถูกตัดออกแล้ว ต่างก็จะปรากฎร่องรอยของมรกต

และผู้ที่ต้องการซื้อหยกเหล่านั้น จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ตัดหรือเปิดพวกนี้ออกมา เพื่อแยกแยะความแตกต่างของหินดิบว่ามีมรกตเป็นส่วนประกอบมากน้อยเพียงใดและคุณภาพอย่างอื่น

การพนันหินแบบครึ่งหนึ่ง กลับมีจำนวนมากกว่าการพนันทั้งหมด เพราะไม่ว่าจะพูดอย่างไร การเฉาะหรือเปิด ต่างก็พิสูจน์ว่าด้านในมีหยกอยู่จริง ก็พนันแค่คุณภาพหยกและจำนวนก็พอแล้ว

การพนันหินเข้ามาในประเทศจีนในยุค 80 ในปีที่ผ่านมาหยกได้รับความสนใจจากนักอัญมณีมากขึ้นเรื่อย ๆ การพนันหินก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน การค้าขายหินดิบของฮ่องกงมีทุกครั้งที่มีการเสนอราคาหยกของส่วนกลาง ในพม่าก็ค่อยๆกลายเป็นสถานที่สำหรับนักอัญมณีบางคนที่ชอบแข่งขันกันลับๆ

“แปลก ทำไมปีนี้วัตถุการทายแบบครึ่งหนึ่งทำไมน้อยอย่างนี้”

ในขณะที่แนะนำเยี่ยเทียนให้รู้จักกับประวัติศาสตร์การพัฒนาและกฎพื้นฐานของการพนันหิน จั่วเจียจวิ้นก็กำลังเฝ้าสังเกตหินดิบที่ถูกส่งกลับจากพม่าในครั้งนี้ หลังจากดูไปอีกระยะหนึ่งใบหน้าที่ดูงุนงงก็ปรากฏขึ้น

โดยทั่วไปแล้ว วัตถุการพนันทั้งหมดส่วนใหญ่มาจากตลาดพม่า และเมื่อจัดส่งไปยังฮ่องกง ต้องเผชิญหน้ากับร้านค้าอัญมณี วัตถุหลายชิ้นได้ถูกเปิดออกมา

เหตุผลการทำแบบนี้มีสองเหตุ ประการแรกคือนักธุรกิจหินดิบเหล่านั้นสามารถได้รับกำไรมากขึ้นจากการ เจียระไนหยก ประการที่สองนักอัญมณีชอบซื้อวัตถุจาการพนันแบบครึ่งหนึ่ง ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงให้กับพวกเขา

อย่างไรก็ตามในปีนี้มีหินดิบเพียง 50 หรือ 60 ชิ้นที่ถูกเฉาะออกมา อีกหลายพันชิ้นเป็นการพนัน แบบเดิมพันทั้งหมด นี่ก็ทำให้จั่วเจียจวิ้นงงงวย แต่ก็จนปัญญา

เนื่องจากการพนันแบบเดิมพันทั้งหมดค่อนข้างเยอะ เงินทุนของจั่วเจียจวิ้นก็มีจำกัด อยากไปแข่งการพนัน แบบเดิมพันทั้งหมดกับนักล่าอัญมณี กลับไม่มีความสามารถที่จะไปแข่ง

เมื่อจั่วเจียจวิ้นรู้สึกสับสนกับวัตถุหินดิบครั้งนี้ ชายวัยกลางคนวัยสี่สิบกว่าที่มีใบหน้าเหลี่ยมเดินมาใกล้ๆ ยิ้มแล้วถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง อาจารย์จั่ว เห็นวัตถุอะไรดีหรือยัง”

“อาสง นายก็มาร่วมสนุกด้วยกันเหรอ คุณยังมองหาเงินเล็กๆ จากการพนันอีกเหรอ” เมื่อเห็นมีคนมา จั่วเจียจวิ้นหัวเราะเยาะต่อว่า เห็นได้ชัดว่ารู้จักฝ่ายตรงกันเป็นอย่างดี

คนนั้นเมื่อได้ยินก็ยิ้มขึ้นมา พูดแบบไม่สนใจว่า “ที่ผมตามหาไม่ใช่เงินทอง แค่เป็นความตื่นเต้นของการ เดิมพันบนหินเท่านั้น อาจารย์จั่ว ท่านนี้คือน้องชายคุณเหรอ”

คนนี้รู้ว่าจั่วเจียจวิ้นถึงแม้จะดูสงบ แต่ไม่ชอบคบค้าสมาคมกับใคร เขารู้จักจั่วเจียจวิ้นมาเกือบ 20 ปี  ยังไม่เคยเห็นเขาพาใครมาเป็นเพื่อนเลย

“ผมแนะนำให้พวกคุณรู้จักสักหน่อย ท่านนี้คือเยี่ยเทียน เป็นศิษย์น้องสำนักเดียวกันกับผม เยี่ยเทียน เขาชื่อว่าเหวินหลวนสง เห็นเขายังเด็กแบบนี้ แต่เป็นคนที่มีอิทธิพลต่อคนในตลาดหุ้นฮ่องกงที่กำลังประสบปัญหาอยู่!”

เมื่อตอนที่พาเยี่ยเทียนไปดูหินดิบอยู่นั้นก็ได้มีคนมาทักทาย มีคนมาสอบถามเรื่องสถานะของเยี่ยเทียน จั่วเจียจวิ้นก็นำความสุขติดตัวมาตลอด แต่เมื่อเจอคนที่ชื่อเหวินหลวนสง เห็นได้ชัดว่าปฏิบัติกับฝ่ายตรงข้ามไม่เหมือนเดิม

“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นสำนักเดียวกันกับอาจารย์จั่ว ขออภัยที่เสียมารยาท ขออภัยที่เสียมารยาท น้องเยี่ยนี่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังเล็กเลยนะ”

เยี่ยเทียนยิ้ม พูดถ่อมเนื้อถ่อมตัวว่า “ไม่หรอกครับ  อาจารย์ชื่อดังอะไรกัน ชื่อเยี่ยก็คงเหมือนฟ้าแลบแปร๊บเดียว…”

เยี่ยเทียนรู้จักเศรษฐีในฮ่องกงนั้นไม่เยอะเท่าไหร่ นอกจากถังเหวินหย่วนแล้ว ก็เหมือนกับหลี่เชาเหรินเป็นเศรษฐีที่ รู้จักกันผิวเผิน แต่ก็บังเอิญที่เขากลับรู้จักคนที่อยู่ด้านหน้าท่านนี้

ตอนที่อาศัยในบ้านที่หรูหราของถังเหวินหย่วน ก็กลัวเยี่ยเทียนเหงา ถังเหวินหย่วนก็ขอให้อาติงส่งหนังสือพิมพ์ นิตยสารของฮ่องกงให้เขามากมาย และเหวินหลวนสงท่านนี้ก็ปรากฏอยู่หน้าปกหลายครั้ง ซึ่งมีมากกว่าดาราภาพบนตร์อีก

เหตุผลหลักที่เยี่ยเทียนให้ความสนใจเขา ยังคงเป็นประวัติความรักของเหวินหลวนสง มีดาราหญิงหลายคน ที่เยี่ยเทียนชื่นชอบ ต่างก็มีการทะเลาะเบาะแว้งในเรื่องความรักกับเขา นี่ก็เลยทำให้เยี่ยเทียนจำชื่อของเขาได้

แต่เยี่ยเทียนกลับไม่รู้ว่า เหวินหลวนสงอายุไม่ถึงห้าสิบก็จัดอยู่ในหมู่คนร่ำรวยในฮ่องกงแล้ว ไม่ใช่เล่นผู้หญิงไปวันๆ เท่านั้น

ตอนที่เหวินหลวนสงอายุยี่สิบหกยี่สิบเจ็ด ก็เริ่มตั้งแต่ศูนย์ในการเริ่มก่อตั้งบริษัทจดทะเบียนในตลาด ต่อมาหลังจากเข้าสู่ตลาดหุ้นในปี 1980 ก็เริ่มร่ำรวยมากขึ้น ทำให้คนรู้จักอย่างรวดเร็ว

ได้พัฒนาจนมาถึงปัจจุบัน เหวินหลวนสงได้มีบริษัทที่จดทะเบียน 4 บริษัท มีมูลค่าตลาดรวมกัน ขึ้นเป็นเศรษฐีสิบอันดับแรก ก็กลายเป็นกลุ่มมหาเศรษฐีในฮ่องกง มีการขยายธุรกิจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สื่อ การก่อสร้างและการผลิต

เหวินหลวนสงนอกจากจะหาเงินและคบกับดาราสาวแล้ว น้อยคนมากที่จะรู้ว่า สิ่งที่เขาสนใจมากที่สุด ก็คือการพนันก้อนหิน

ครอบครัวของเหวินหลวนสงตอนนี้ ก็คงไม่คำนึงถึงผลกำไรจากการพนัน แต่รู้สึกชื่นมื่นกับหยกอันวิจิตรที่มาจากหิน กลับทำให้เขารู้สึกมีความสุขจนหายเหนื่อย

ราคาของหินดิบในฮ่องกงสองสามปีมานี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ไม่เกี่ยวกับเงินก้อนใหญ่ของเหวินหลวนสง เพียงแต่เขาให้ราคาคนเป็น หลังจากการเดิมพันเพิ่มขึ้นมักไม่เปลี่ยนตามอำเภอใจ บางครั้งก็มีการประเมินหยกที่ขายไว้ ไม่ได้ต่อต้านพื่อนร่วมงานทุกคนในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ

“เอ้อ อาสง ปีนี้หินดิบพวกนี้เกิดอะไรขึ้นทำไมส่วนใหญ่ถึงเป็นวัตถุที่มีการพนันแบบทั้งหมด การพนันแบบครึ่งหนึ่งทำไมถึงน้อยแบบนี้”

หลังจากที่แนะนำเยี่ยเทียนและเหวินหลวนสงให้รู้จักซึ่งกันและกันแล้ว จั่วเจียจวิ้นหันความสนใจของเขาไปที่ หินหยกดั้งเดิมอีกครั้ง เขารู้ว่าเหวินหลวนสงชอบการพนันหินมาก บางครั้งถึงกับไปประมูลที่ตลาดพม่า ถามเขาคงได้ความแม่นยำแน่นอน

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของจั่วเจียจวิ้น เหวินหลวนสงพูดว่า “อาจารย์จั่ว หลายประเทศในพม่ากำลังต่อสู้กันอยู่ นอกจากนี้ยังมีปัญหาในสามเหลี่ยมทองคำที่เจรจากันไม่ได้ ผู้ค้าหินดิบจำนวนมากถูกลักพาตัวไปพม่า การประมูลในปีนี้เกือบจะไม่ได้จัดแล้ว…”

เพราะหยกผลิตในพื้นที่แคบกว่า 100 กิโลเมตรในพม่าเท่านั้น ดังนั้นหากคุณต้องการซื้อหยกคุณต้องเข้าไปลึกในดินแดนพม่า แต่ตอนนี้พม่ากำลังลุกเป็นไฟ ไม่มีใครที่จะมีเวลาไปขุดหยกหรอกนะ

อดีตเจ้าของเหมืองหยกพม่าเจาะหยกมรกตมาเพื่อขาย เพื่อได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล แต่ตอนนี้พวกเขา ไม่สามารถดูแลได้อีกต่อไป ส่วนใหญ่จะขุดออกมาแล้วขายหินดิบโดยตรง

ตอนนี้วัตถุดิบที่ใช้ในการพนันครึ่งหนึ่งที่อยู่ในเหมือง  ส่วนใหญ่ถูกตัดโดยผู้ขายมือสอง เพราะความเสี่ยงของแคลไซต์มากเกินไป ดังนั้นถึงมีวัตุดิบที่ใช้ในการพนันแบบทั้งหมดเป็นส่วนใหญ่ สถานการณ์นี้การพนันครึ่งหนึ่งก็เลยน้อย

ไม่เพียงเท่านี้ ราคาหินดิบซื้อขายในครั้งนี้ ก็เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สาเหตุก็ง่ายมาก ผู้ค้าหินดิบเหล่านี้ต้องเสี่ยงต่อชีวิต ที่จะขนย้ายหินออกมาจากพม่า

“ได้ การทำธุรกิจร้านค้าเล็กๆของผมไม่กี่ร้านในปีหน้าต้องไม่ดีอย่างแน่นอน…”

หลังจากที่ฟังเหวินหลวนสงอธิบาย จั่วเจียจวิ้นยิ้มขึ้นมา แต่เขาก็ไม่ใส่ใจอะไร แม้ว่าสัดส่วนการขาย เครื่องประดับหยกในอุตสาหกรรมเครื่องประดับนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี แต่เมื่อเทียบกับเพชรทองคำยังห่างไกลกันอยู่มาก

“อาจารย์จั่ว ก็แค่หยกไม่กี่ชิ้นนี่ กลับไปผมจะพนันเยอะกว่าเดิม คุณก็ดูว่าชิ้นไหนดีก็หยิบไป”

คำพูดของเหวินหลวนสงทำให้เยี่ยเทียนอดที่จะมองเขาไม่ได้  ไม่น่าล่ะผู้ชายคนนี้ไม่เพียงที่จะยกคฤหาสน์ให้กับดาราหญิง ยังใจกว้างกับผู้ชายด้วยกันเองอีกด้วย

……